ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยร่วมสมัย ไม่เคยมีครั้งใดที่ผู้ชุมนุมทางการเมืองจะถูกจับกุมคุมขัง มีคดีติดตัวต่อเนื่องจากการแสดงออกทางการเมือง เป็นระยะเวลานานเท่าครั้งนี้
แน่นอนว่า ณ วันนี้ ความขัดแย้งทางการเมืองยังคงมีอยู่ และอาจจะยังคงดำรงอยู่ต่ออีกยาวนาน
ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งระหว่างสองพรรคการเมืองใหญ่
ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งระหว่างสองขั้วความคิด
แต่ความขัดแย้งเช่นว่า เป็นคนละเรื่องกันกับการนำคนไปขัง
บุคคลที่ถูกจับกุมคุมขัง บุคคลที่มีคดีติดตัว นับตั้งแต่รัฐประหาร ๑๙ กันยา ๔๙ ไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะสังกัดจะสีใด จะมีความเชื่อทางการเมืองแบบใด พวกเขาไม่ใช่อาชญากรโดยสันดาน การกระทำที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นความผิดเหล่านี้ ล้วนเกิดจากแรงผลักดัน-มูลเหตุจูงใจทางการเมือง ทำให้เขากระทำการเหล่านั้นลงไป
สังคมไทยจะไม่สามารถพูดคุย เจรจา หาหนทางแก้ไขปัญหาวิกฤตความขัดแย้งครั้งนี้ได้ ตราบใดที่ยังมีคนถูกจับกุมคุมขังและมีคดีติดตัวมากมายขนาดนี้
การนิรโทษกรรมพวกเขา เป็นก้าวแรกของเส้นทาง "ปรองดอง"
หากเริ่มการปรองดองด้วยการที่หัวหน้าใหญ่ทั้งสองข้างเจรจากันลับๆ ทำข้อตกลงลับๆ นั่นไม่ใช่การปรองดองในความหมายที่ถูกต้อง แต่เป็นการเกี๊ยะเซียะในหมู่ชนชั้นนำ
นิรโทษกรรมจะเกิดผลสำเร็จได้ จำเป็นต้องมีฉันทามติร่วมกันของสังคมระดับหนึ่ง ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน อาจเป็นการยากที่จะหาฉันทามติเช่นว่านั้น แต่การนั่งนับวันรอเจรจา หรือการรอวันปะทะแตกหัก โดยที่ยังมีคนคาคุก คนคาคดีแบบนี้ ก็เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง
การรณรงค์ให้มีการนิรโทษกรรมแก่ผู้ชุมนุมทางการเมือง -ไม่ว่าจะโดยกลุ่มใด ไม่ว่าจะเสนอรูปแบบใด โมเดลของใคร- เป็นก้าวแรกที่ดีที่จะหาฉันทามติให้ได้
การรณรงค์อย่างหนักแน่นว่า นี่เป็นการนิรโทษกรรมผู้ชุมนุมเท่านั้น ย่อมบีบให้กลุ่มคนที่มีนิสัย "ขวาง" ทุกเรื่อง เพราะคิดแต่ "การเมืองเอาชนะคะคานกัน" ให้พวกเขาต้องยอมรับ
หากพวกเขาปฏิเสธ ก็จะแสดงให้เห็นถึงความอำมหิต
...
อาจารย์หวาน - สุดา รังกุพันธุ์ ทำกิจกรรมรณรงค์เรื่อง "นักโทษการเมือง" มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
อาจมีผู้เห็นด้วย อาจมีผู้เห็นต่าง
อามีผู้ชมชอบ อาจมีผู้ชิงชัง
สำหรับผม ผมเห็นว่า อาจารย์หวาน และกลุ่มปฏิญญาหน้าศาล ทำเรื่องนี้โดยไม่มีประโยชน์ส่วนตัวแอบแฝง ด้วยสถานะแบบอาจารย์หวาน แกสอนหนังสืออย่างเดียวก็น่าจะสบายกว่าที่จะมาทำเรื่องพวกนี้
การทุ่มเทกายใจทำเรื่องพวกนี้ ไม่ได้ทำให้สบายขึ้น มีแต่ต้องรับแรงปะทะมากขึ้นๆ ทั้งจากฝ่ายตรงข้าม และฝ่ายเดียวกันเอง
"แนวร่วม ๒๙ มกรา หมื่นปลดปล่อยนักโทษการเมือง" ในวันพรุ่งนี้
ไม่ใช่กิจกรรมที่ "ล้มรัฐบาล"
ไม่ใช่กิจกรรมที่ "แย่งมวลชน"
ไม่ใช่กิจกรรมที่ "ชิงการนำ"
ไม่ใช่กิจกรรมที่ "ป่วนบ้านเมือง"
แต่เป็นกิจกรรมของ "มนุษยธรรม"
โปรดช่วยกัน ออกไปแสดงพลัง เพื่อปลดปล่อยนักโทษการเมืองทุกกลุ่ม ทุกสี