Skip to main content

มีเสื้อเหลืองไม่อยากใส่เสื้อสีเหลือง

กลัวย่างเยื้องไปไหนใครก็ถาม

พันธมิตรหรืออย่างไร ใครก็ตาม

แบ่งนิยามความหมายท้าทายกัน

 

มีเสื้อแดงก็ไม่อยากใส่สีแดง

เดี๋ยวว่าแฝงความหมายคล้ายเยาะหยัน

เป็นแนวร่วมนปก.ขอยืนยัน

โอ้แสบสันต์ลูกกะตาข้าเหลือทน

ใส่สีส้มก็อมความถูกถามไถ่

จะเอาไงพวกเป็นกลางอ้างเหตุผล

ไม่เลือกข้างความถูกต้องของมวลชน

โถอ้ายคนไม่เลือกข้าง พวกกลาง-กลวง

 

เขาบอกว่ามาเร็วไวใส่เสื้อขาว

เพื่อบอกกล่าวไม่เลือกสีเป็นทีท่วง

ไม่เลือกฝ่ายเลือกข้างทางทั้งปวง

ไปสู่ห้วงการรู้รักสามัคคี

 

โอ ฉันมีสีเสื้อมากเหลือหลาย

ทั้งลวดลายสีสันฉัพรรณรังสี

จะเลือกสวมเลือกใส่ตัวใดดี

เป็นสิทธิเสรีและจีรัง

 

จะใส่เสื้อสีใดทำไมหรือ

จึงยึดถืออัตตาเป็นบ้าเป็นหลัง...

จู พเนจร

 

** ภาพประกอบจาก http://www.nanotech.sc.mahidol.ac.th

 

บล็อกของ กวีประชาไท

กวีประชาไท
 
กวีประชาไท
    พฤศจิกาห่าถล่ม เมืองก็จมใต้บาดาล หรือคนมันสามานย์ ที่สั่งฟ้าถล่มเมือง  
กวีประชาไท
    ท้องทุ่งระบัดเขียวขึ้นในบัดดล หลังเม็ดฝนทะลุรอยเมฆรั่วลงมาได้ เด็กน้อยติดปีกถลาลิ่วออกสู่ลาน สวนทางกับฝูงนก… ที่ร่อนคว้างสู่ชายคาดั่งนักรบแตกพ่าย ไม่ใช่สายฝนทำร้ายเจ้าใช่ไหม? เปล่าเลย..สายฝนฉ่ำเย็นอยู่เช่นนั้น กระสุนสังหารต่างหากซุ่มยิงเราหมายครองฟ้า  
กวีประชาไท
  *หัวใจแม่ แหลกสลาย ในวันนั้น วันลูกฉัน ถูกเข่นฆ่า ล่าสังหาร ภาพที่เห็น เป็นที่รู้ กู่ประจาน เมื่อมีการ ยิงสลาย ฝ่ายชุมนุม
กวีประชาไท
ลมผ่าวพัดบ่ายแล้ง            เคลื่อนไหวไม้พุ่มดอกบางใบ              ร่วงแล้วลมแล้งเคลื่อนรอยไหน      เผยผ่านไม้มิ่งฝุ่นเมืองแก้ว             ไม่รู้อยู่ไหน  ฯลฯ
กวีประชาไท
   
กวีประชาไท
โลกทัศน์ของข้ามืดบอดอยู่ในปากท้องและศักดิ์ศรีเหมือนว่าหนักอึ้งในทุก ๆ วลีที่จะเอื้อนเอ่ยถึง...ลมรำเพยก็เคลื่อนห่าง..ไกลออกไปแต่ข้างในนี้สิ – มีรอยรุ่มร้าวลึกก่ายทับซับซ้อน
กวีประชาไท
 
กวีประชาไท
คลี่กระดาษประเทศนี้              เป็นไฉน คนแต่ละคนไย                      ซ่านซ้อน เหมือนล้อเล่นซ่อนไย             จับจ่อ จรดฤๅ โครง เก่า กร่อน ผุ ย้อน          ยิ่งล้ำหยั่งเหลือ ฯลฯ
กวีประชาไท
เธอตายในเดือนกุมภาเวลาตะแบกบานเต็มต้นลมหวนระรานกลีบบางร้าวรนที่สุดร่วงหล่นบนวิถีเดินทาง
กวีประชาไท
แด่...ทรัพย์สินเจ็ดหมื่นหกพันล้านของพณฯ ท่าน