Skip to main content

ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยกล

ไม่ได้ด้วยประชาชน ก็ต้องเอาด้วยศาล

ทั้งยังมีม็อบเส้นดันอันธพาล

หลายสิบนักวิชาการภิบาลพร้อม

 

นักธุรกิจคิดกันลงขันด้วย

ประสานอวยช่วยให้ชื่อไทยหอม

มารุมทุบ ยุบ ๓ พรรค หักจนยอม

ทุกอย่างพร้อมเพื่อสวนสนามดูงามดี

 

ก้มไปเถอะ ก้มหน้าไป ไทยทั้งชาติ

เมืองประหลาดอนาถสิ้นวิ่นศักดิ์ศรี

เหลืออะไรให้ภูมิใจว่าไทยดี

สิทธิ์ เสรี ที่มีมา ถูกคร่าลง

 

จากวันนี้ คงจะมีมาตรฐานใหม่

ไม่ถูกใจรัฐบาลไหนก็ไล่ส่ง

คนเลือกตั้งฟังแล้วอึ้งตะลึงงง

เดินดิ่งปลงลงเข้าคลอง ๒ ธันวา

 

ต้นจั่น

๒ ธ.. ๕๑

หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรครัฐบาลและพรรคร่วมฯ

 

บล็อกของ กวีประชาไท

กวีประชาไท
 
กวีประชาไท
    พฤศจิกาห่าถล่ม เมืองก็จมใต้บาดาล หรือคนมันสามานย์ ที่สั่งฟ้าถล่มเมือง  
กวีประชาไท
    ท้องทุ่งระบัดเขียวขึ้นในบัดดล หลังเม็ดฝนทะลุรอยเมฆรั่วลงมาได้ เด็กน้อยติดปีกถลาลิ่วออกสู่ลาน สวนทางกับฝูงนก… ที่ร่อนคว้างสู่ชายคาดั่งนักรบแตกพ่าย ไม่ใช่สายฝนทำร้ายเจ้าใช่ไหม? เปล่าเลย..สายฝนฉ่ำเย็นอยู่เช่นนั้น กระสุนสังหารต่างหากซุ่มยิงเราหมายครองฟ้า  
กวีประชาไท
  *หัวใจแม่ แหลกสลาย ในวันนั้น วันลูกฉัน ถูกเข่นฆ่า ล่าสังหาร ภาพที่เห็น เป็นที่รู้ กู่ประจาน เมื่อมีการ ยิงสลาย ฝ่ายชุมนุม
กวีประชาไท
ลมผ่าวพัดบ่ายแล้ง            เคลื่อนไหวไม้พุ่มดอกบางใบ              ร่วงแล้วลมแล้งเคลื่อนรอยไหน      เผยผ่านไม้มิ่งฝุ่นเมืองแก้ว             ไม่รู้อยู่ไหน  ฯลฯ
กวีประชาไท
   
กวีประชาไท
โลกทัศน์ของข้ามืดบอดอยู่ในปากท้องและศักดิ์ศรีเหมือนว่าหนักอึ้งในทุก ๆ วลีที่จะเอื้อนเอ่ยถึง...ลมรำเพยก็เคลื่อนห่าง..ไกลออกไปแต่ข้างในนี้สิ – มีรอยรุ่มร้าวลึกก่ายทับซับซ้อน
กวีประชาไท
 
กวีประชาไท
คลี่กระดาษประเทศนี้              เป็นไฉน คนแต่ละคนไย                      ซ่านซ้อน เหมือนล้อเล่นซ่อนไย             จับจ่อ จรดฤๅ โครง เก่า กร่อน ผุ ย้อน          ยิ่งล้ำหยั่งเหลือ ฯลฯ
กวีประชาไท
เธอตายในเดือนกุมภาเวลาตะแบกบานเต็มต้นลมหวนระรานกลีบบางร้าวรนที่สุดร่วงหล่นบนวิถีเดินทาง
กวีประชาไท
แด่...ทรัพย์สินเจ็ดหมื่นหกพันล้านของพณฯ ท่าน