Skip to main content

20080604


จงผลิบานในดวงใจข้า มิปรารถนาการเป็นอื่น
แสนสั้นหรือยาวยืน เราจะหลอมกันและกัน

เพราะรักแดดเมษา รักฝนพฤษภาที่เมฆกลั่น
รักมิถุนาฟ้าฉายจันทร์ รักวันเดือนปีที่พบพาน

พำนักในดวงใจข้า หยาบมาขัดเกลาให้อ่อนหวาน
คงเสียงเยาว์วัยไว้เนิ่นนาน เบิกบานเหมือนนกรุ่งอรุณ

วันและคืนข้ากับเจ้า สนทนาเขลาเขลากับเถ้าฝุ่น
ดอกไม้ละไมละมุน อ่อนหวานนักอ่อนหวานนัก

เป็นช่วงลมวูบไหว ก่อนเลยไปเราได้สลัก
ร่องรอยของความรัก ริมหน้าต่างฤดูหนาว

เจ้าเป็นบทกวี จากดนตรีของหมู่ดาว
จากธารสายสีขาว ไหลรินสู่ห้วงดวงใจ

เนิ่นนานหรือแสนสั้น ข้าได้ฝันเจ้าได้ใฝ่
คืนจึงมีวอมไฟ จากหิ่งห้อยผู้มาเยือน

เราผ่านเราผ่านพ้น น้ำตาหล่นและหยาดเปื้อน
เราผ่านเราผ่านเรือน- พักแรมของนักเดินทาง

ครั้งหนึ่งเราได้อยู่ ดูสีทองของกองฟาง
แดดแรกเมื่อฟ้าสาง หอมเพียงนั้นอุ่นเพียงนี้

ข้าอยู่กับเจ้า หลอมเป็นเราทุกทุกที่
เจ้าคือบทกวี ถ่ายเทอยู่ในความเป็น



กวิสรา ชนะพูล
พะเยา



บล็อกของ กวีประชาไท

กวีประชาไท
 
กวีประชาไท
    พฤศจิกาห่าถล่ม เมืองก็จมใต้บาดาล หรือคนมันสามานย์ ที่สั่งฟ้าถล่มเมือง  
กวีประชาไท
    ท้องทุ่งระบัดเขียวขึ้นในบัดดล หลังเม็ดฝนทะลุรอยเมฆรั่วลงมาได้ เด็กน้อยติดปีกถลาลิ่วออกสู่ลาน สวนทางกับฝูงนก… ที่ร่อนคว้างสู่ชายคาดั่งนักรบแตกพ่าย ไม่ใช่สายฝนทำร้ายเจ้าใช่ไหม? เปล่าเลย..สายฝนฉ่ำเย็นอยู่เช่นนั้น กระสุนสังหารต่างหากซุ่มยิงเราหมายครองฟ้า  
กวีประชาไท
  *หัวใจแม่ แหลกสลาย ในวันนั้น วันลูกฉัน ถูกเข่นฆ่า ล่าสังหาร ภาพที่เห็น เป็นที่รู้ กู่ประจาน เมื่อมีการ ยิงสลาย ฝ่ายชุมนุม
กวีประชาไท
ลมผ่าวพัดบ่ายแล้ง            เคลื่อนไหวไม้พุ่มดอกบางใบ              ร่วงแล้วลมแล้งเคลื่อนรอยไหน      เผยผ่านไม้มิ่งฝุ่นเมืองแก้ว             ไม่รู้อยู่ไหน  ฯลฯ
กวีประชาไท
   
กวีประชาไท
โลกทัศน์ของข้ามืดบอดอยู่ในปากท้องและศักดิ์ศรีเหมือนว่าหนักอึ้งในทุก ๆ วลีที่จะเอื้อนเอ่ยถึง...ลมรำเพยก็เคลื่อนห่าง..ไกลออกไปแต่ข้างในนี้สิ – มีรอยรุ่มร้าวลึกก่ายทับซับซ้อน
กวีประชาไท
 
กวีประชาไท
คลี่กระดาษประเทศนี้              เป็นไฉน คนแต่ละคนไย                      ซ่านซ้อน เหมือนล้อเล่นซ่อนไย             จับจ่อ จรดฤๅ โครง เก่า กร่อน ผุ ย้อน          ยิ่งล้ำหยั่งเหลือ ฯลฯ
กวีประชาไท
เธอตายในเดือนกุมภาเวลาตะแบกบานเต็มต้นลมหวนระรานกลีบบางร้าวรนที่สุดร่วงหล่นบนวิถีเดินทาง
กวีประชาไท
แด่...ทรัพย์สินเจ็ดหมื่นหกพันล้านของพณฯ ท่าน