Skip to main content

ข่าวต่างๆทางด้าน ICT ที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในปัจจุบัน ชี้ให้เห็นผลกระทบของ “การโลกาภิวัฒน์ (Globalisation)” ที่มีต่อมนุษย์ทุกคน เนื่องจากอิทธิพลของการมีโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีแบบเดียวทั่วโลก จะลดทอนความหลากหลายของวิถีชีวิตมนุษยชาติ ก่อให้เกิดตลาดขนาดใหญ่ ซึ่งเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มทุนข้ามชาติ แต่ในขนะเดียวกัน ปัญหาลักษณะเดียวกัน จะเกิดขึ้นในหลายประเทศ เป็นวงกว้าง หากแต่จะเกิดผลกระทบแตกต่างกันไป ตามบริบทของสังคมนั้น


ข่าวแรกที่อยากนำเสนอ คือการเกิดขึ้นของ “ปฏิญญากรุงเทพ” ซึ่งถูกจัดทำขึ้นระหว่างการประชุมรัฐมนตรีกลุ่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิค หรือ APEC (Asia-Pacific Economic Cooperation) ทางด้านโทรคมนาคมและสารสนเทศ โดยมีสาระสำคัญคือ การผลักดันให้ทุกประเทศสมาชิก พัฒนา ICT เพื่อใช้เป็นกลจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ


ที่ประชุมชี้ชัดว่า เงื่อนไขความสำเร็จดังกล่าว อยู่ที่การผลักดันให้บริการ Broadband internet เข้าถึงทุกครัวเรือนในทุกประเทศสมาชิก (เป้าหมายภายในปี 2558) และพัฒนาอุตสาหกรรม ICT โดยเน้นไปที่ 5 ประเด็นหลักคือ การสร้างขีดความสามารถด้าน ICT, การส่งเสริมให้มีบริการอย่างทั่วถึง, กรอบการกำกับดูแลที่สนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด, การสร้างความมั่นคงและความเชื่อมั่นด้านไอซีที, และการยกระดับกิจกรรมด้านความมั่นคงปลอดภัยบนโลก Cyber


เมื่อมองที่ 5 ประเด็นหลักข้างต้น จะเห็นได้ชัดเจนว่า APEC เร่งสร้างความเชื่อมั่น ให้กับประชาชนในประเทศสมาชิก ว่าความปลอดภัยของตลาดบนโลก Cyber อยู่ในระดับที่ไว้วางใจได้ เพื่อมุ่งขยายตลาดบนโลก Cyber


ข่าวดังกล่าวตอกย้ำ แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจโลก ที่ยังคงมุ่งสู่การโลกาภิวัฒน์ โดย ICT กลายเป็นกลจักรสำคัญ ที่ช่วยเร่งให้เกิดการพัฒนาในทิศทางดังกล่าว อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นว่า วิสัยทัศน์ของผู้บริหารระดับประเทศ ทางด้านโทรคมนาคมและสารสนเทศ ยังมอง ICT จากมุมของการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่เพียงด้านเดียว


ท่านผู้อ่านอาจแย้งว่า แนวนโยบายดังกล่าว ออกมาจากการประชุมด้านเศรษฐกิจ จึงมีสาระสำคัญเช่นนั้น แต่ประเด็นที่อยากจะชี้ให้เห็นคือ ผู้ที่กำหนดแนวนโยบายดังกล่าว คือผู้นำทางด้านโทรคมนาคมและสารสนเทศ ซึ่งจักต้องคำนึงถึง ประโยชน์และผลกระทบของ ICT ที่มีต่อทั้งภาคเศรษฐกิจและสังคม ทั้งนี้เพื่อให้กลุ่มสังคมหนึ่ง สามารถเจิรญก้าวหน้าอย่างมั่นคง


SenseMaker
เชื่อว่า ภาคเศรษฐกิจ ไม่สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน หากภาคสังคม ไม่สามารถคงอยู่ได้อย่างผาสุข นั่นหมายถึง ภายใต้แนวนโยบาย ซึ่งเน้นไปที่การเติบโต ทางภาคเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบ จากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ที่มีต่อภาคสังคม ย่อมไม่ก่อให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจ อย่างมั่นคง


ประเด็นข้างต้น สามารถวิพากษ์อย่างเป็นรูปธรรม โดยอาศัยสองข่าว ที่เกี่ยวกับ “เว็บเครือข่ายสังคม (Social Network)” ซึ่งข่าวแรกเกี่ยวกับ ผลสำรวจจากสหรัฐและแคนาดา เกี่ยวกับการจัดหางานชี้ ผู้บริหารระดับสูง มองเว็บเครือข่าย และเว็บชุมชนออนไลน์ (เช่น Hi5, MySpace, และ Facebook) จะถูกใช้เป็นแหล่งจัดหางาน ในระดับคุณภาพในอีก 3 ปีข้างหน้า และข่าวที่สองซึ่งนำเสนอ กระแสการใช้เว็บ Hi5 ในทางลามกอนาจาร เช่น ใช้เป็นแหล่งเผยแพร่ภายโป๊ หรือเป็นแหล่งติดต่อกลาง สำหรับผู้ที่ชอบสับเปลี่ยนคู่นอน (swinging sex)


เว็บเครือข่ายสังคม คือตัวอย่าง ICT ที่สามารถถูกใช้ประโยชน์ ในการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังเช่นการถูกใช้เป็นแหล่งหางาน ซึ่งทำให้ประชาชนได้รับการว่าจ้าง ทำให้มีรายได้ใช้จ่าย องค์กรต่างๆได้บุคคลากร ที่มีคุณภาพตามต้องการไปใช้งาน ทำให้องค์กรทางเศรษฐกิจเติบโต


ขณะเดียวกันก็สามารถก่อให้เกิด ผลกระทบเชิงลบทางสังคม ดังเช่นการถูกใช้ไปในทางลามกอนาจาร ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาสังคม เช่นความตกต่ำด้านศีลธรรมในสังคม และการแพร่กระจายของโรคติดต่อร้ายแรงทางเพศ

จากข่าวข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่า ในขณะที่เศรษฐกิจกำลังก้าวไปข้างหน้า สังคมอาจกำลังถูกคุกคาม ถูกทำให้เสื่อม ตกต่ำ หรือถูกทำลาย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลจากเทคโนโลยีเดียวกัน


ความพยายามผลักดัน ให้เทคโนโลยี ICT เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นอกจากจะก่อปัญหาดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังก่อให้เกิดภาวะปัญหาที่เรียกว่า “ภัยคุกคามทางเทคโนโลยี” ซึ่งหมายถึง สถานการณ์ซึ่งความไม่เท่าทันเทคโนโลยี ของประชาชนหรือผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นผู้ใช้ปลายทางของเทคโนโลยี ถูกใช้ประโยชน์โดยอาชญากร ในการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่างๆ


ไม่เพียงเท่านั้น อาชญากรยังใช้ประโยชน์จากความไม่เท่าทันเทคโนโลยี ของผู้ที่มีหน้าที่ออกกฎหมาย หรือของผู้มีหน้าที่ดูแลผลกระทบ ที่มีต่อภาคเศรษฐกิจและสังคม จากการนำเทคโนโลยีมาใช้งาน ทำให้ภาคสังคมขาดซึ่งกฎหมาย และกระบวนการป้องปรามอาชญากรทางเทคโนโลยี ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญ ที่จะถูกใช้ควบคุมและป้องปราม ภัยคุกคามทางเทคโนโลยี


ผลที่ตามมา ทำให้ผู้มีหน้าที่ออกกฎหมาย และ ผู้มีหน้าที่ดูแลผลกระทบ จากการนำเทคโนโลยีมาใช้งาน ไม่สามารถควบคุมดูแลภาคสังคม ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที และก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง

ปัญหาดังกล่าว ถูกสะท้อนผ่านข่าวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ข่าวการสร้างหน้าเว็บไซท์ ธนาคารพาณิชย์ปลอม เพื่อดักข้อมูลชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน ที่ใช้ทำธุรกรรมออนไลน์ ของผู้เคราะห์ร้าย เพื่อใช้ในการก่ออาชญากรรมออนไลน์ กับบัญชีของเหยื่อต่อไป หรือเป็นการทำทีว่าติดต่อมาจาก ศูนย์บัตรเครดิตของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเหยื่อมีบัญชีอยู่ แจ้งให้เหยื่อทราบว่า เกิดความผิดปกติด้านความปลอดภัย ของระบบบัตรเครดิต จึงขอให้เหยื่อ แจ้งยืนยันข้อมูลต่างๆ ที่สำคัญ พร้อมทั้งรหัสผ่านเดิม เพื่อยืนยันว่าเป็นเจ้าของบัตรตัวจริง เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลด้านความปลอดภัยใหม่ ซึ่งภายหลังอาชญากร ก็จะนำข้อมูลเหล่านั้น ไปปลอมแปลงบัตร และนำไปใช้งาน เนื่องจากได้รหัสผ่านจากเหยื่อแล้ว


สภาพปัญหาที่เกิดขึ้น สามารถสะท้อนให้เห็นว่า การนำเทคโนโลยี ICT มาใช้ประโยชน์ ไม่อาจเกิดขึ้น เพียงเพราะความต้องการจากภาคเศรษฐกิจแต่เพียงเท่านั้น หากแต่ภาคสังคมจะต้องถูกปกป้อง ด้วยการตระหนักถึงผลกระทบต่อภาคสังคมไปพร้อมกับการคำนึงถึงผลประโยชน์ที่มีต่อภาคเศรษฐกิจ โดยการสร้างและกระจายความรู้เท่าทันเทคโนโลยีอย่างเพียงพอและทันท่วงทีให้กับผู้ที่มีหน้าที่ออกและบังคับใช้กฎหมายให้กับผู้ที่ดูแลผลกระทบที่มีต่อภาคเศรษฐกิจและสังคม และให้กับประชาชนซึ่งเป็นผู้ใช้งานเทคโนโลยี


SenseMaker
เอาใจช่วย ขอให้ภาคเศรษฐกิจและภาคสังคม ของประเทศไทย เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการใช้ประโยชน์และรู้เท่าทันเทคโนโลยี ICT ไปพร้อมๆกัน

บล็อกของ SenseMaker

SenseMaker
น้ำมาถึงไหนแล้วหว่า...บ้านฉันน้ำจะท่วมมั้ยเนี่ย...จะหาข้อมูลที่จำเป็นได้จากที่ไหนบ้างหว่า...เวลาเดือดร้อนจะต้องแจ้งใคร...ทำไมโทรไป 1111 กด 5 แล้วถามอะไรไปก็ตอบไม่ได้... ........ใครก็ได้ช่วยบอกทีเหอะว่าฉันกับครอบครัวต้องทำยังไงบ้าง.......ข้อมูลประกอบการตัดสินใจอะไรๆก็ไม่มี ที่มีก็ไม่รู้จะเชื่อได้มากขนาดไหน เชื่อได้รึเปล่า.........
SenseMaker
ขอสวัสดีปีใหม่แด่ท่านผู้อ่านทุกท่าน ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยจงอวยพรให้ทุกท่าน สุขกาย สบายใจมีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ และมีสติในการดำเนินชีวิตอยู่เสมอ
SenseMaker
  จากที่สัญญาว่าในบทความนี้ ข้าพเจ้าจะมาต่อยอดบทความจากครั้งที่แล้วในหัวข้อ “ความร่ำรวยข้อมูล” ด้วยการวิเคราะห์ความจำเป็น ที่เราจักต้องพัฒนาทั้ง 3 ส่วนประกอบสำคัญ อันได้แก่ ความอุดมทางด้านข้อมูล ความยากง่ายในการเข้าถึงข้อมูล และมุมมองที่มีในการวางแผนโครงสร้างข้อมูลบนเว็บ ไปพร้อมๆกัน เพื่อทำให้ทุกท่านเข้าใจประเด็นดังกล่าวนี้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
SenseMaker
เป็นอีกครั้งที่ข้าพเจ้าไม่สามารถส่งบทความเข้ามาได้ตามกำหนด โดยคราวนี้ทิ้งระยะไปนานมาก จนทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกผิดต่อผู้อ่านและผู้บริหาร blogazine เป็นอย่างยิ่ง ข้าพเจ้าต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
SenseMaker
ต่อเนื่องจากบทความที่แล้วในหัวข้อ ความเป็นส่วนตัวของคุณราคาเท่าไหร่ ข้าพเจ้าอยากชวนท่านผู้อ่านคิดต่อไปอีกนิดว่า ท่านจะรู้ได้อย่างไรว่า ข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ที่ท่านเปิดเผยไว้บนพื้นที่ออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเครือข่ายสังคมออนไลน์ (social network sites) ต่างๆ เช่น Facebook และ MySpace จะไม่ทำให้ท่านสูญเสียอะไร หรือเสียใจในอนาคต
SenseMaker
จากบทความที่แล้วในหัวข้อ การจัดระเบียบโลกใหม่ การเมืองไทย และICT ข้าพเจ้าได้ชี้ให้เห็นว่า เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ICT ในปัจจุบัน ทำให้ความสามารถของมนุษย์ ในการจัดการและจัดเก็บข้อมูล ซึ่งหากอาศัยเพียงประสาทสัมผัสของมนุษย์ จะไม่สามารถเข้าถึงและจัดการได้ และความด้วยความก้าวหน้านี้ ทำให้มนุษย์สามารถเห็นและรับรู้ ในข้อมูลที่เคยยากที่จะเห็นและรับรู้ อีกทั้งยังทำให้เข้าใจในสิ่งที่เคยยากต่อการวิเคราะห์
SenseMaker
ความก้าวหน้าทาง ICT ในปัจจุบัน ช่วยให้เราๆท่านๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ซึ่งยากที่จะเข้าถึงในอดีต ได้ง่ายขึ้น เช่น ข้อมูลของบุคคลหรือข้อมูลขององค์กรที่เราสนใจ ข้อมูลทางเศรษฐกิจและสังคม ของประเทศใดประเทศหนึ่ง รวมถึงองค์ความรู้ในด้านต่างๆ เป็นต้น
SenseMaker
หลังจากบทความที่เรียกได้ว่า บทบรรณาธิการแรก ได้ชี้แจงเป้าหมายการดำรงอยู่ ของพื้นที่ทางความคิดแห่งนี้ บัดนี้เวลาล่วงเลยมาครึ่งปี โอกาสแห่งการพูดคุย กับท่านผู้อ่านอีกครั้ง ก็มาถึงทุกๆ12 บทความ ที่ได้ทำหน้าที่ของมันผ่านพ้นไป ถือเป็นช่วงเวลาที่ดี ที่ผู้เขียนกับผู้อ่านจะได้แลกเปลี่ยนความคิดกัน เพื่อทำให้พื้นที่แห่งนี้ เป็นประโยชน์กับทุกๆคน อย่างแท้จริงในทัศนะของข้าพเจ้าแล้ว ICT เข้ามามีบทบาท ต่อชีวิตของเราทุกคน ในทุกวันนี้มากขึ้นทุกที แต่ละคนได้รับประโยชน์ ผลกระทบ และผลลัพธ์ ที่แตกต่างกันไป จากการเปลี่ยนแปลงรอบตัว ซึ่งมี ICT เป็นปัจจัยต้นเหตุ
SenseMaker
Peer Review อาจไม่ใช่คำในภาษาอังกฤษ ที่คนส่วนใหญ่ในสังคมคุ้นเคย แต่เป็นคำคุ้นเคยเป็นอย่างดีในสังคมนักวิชาการ อาจารย์ หรือ นักวิจัย เนื่องจากสังคมดังกล่าว มีวัฒนธรรมและกิจกรรมหลัก ในการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ด้วยการต่อยอดองค์ความรู้ที่มีอยู่เดิม ผ่านการพัฒนาผลงานวิจัยใหม่ ซึ่งการยอมรับจากสมาชิกในสังคมเดียวกัน มีความสำคัญกับผลงานวิจัยแต่ละชิ้นมาก เนื่องจากไม่ว่าผลงานดังกล่าว จะมีคุณภาพในสายตาผู้พัฒนาเพียงใด แต่หากไม่ได้รับการตอบรับจากสมาชิกในสังคม ผลงานนั้นก็ถือได้ว่า ไม่ได้สร้างคุณค่าให้กับสังคมมากนัก
SenseMaker
ในอดีต การเกิดขึ้นของสังคม มักจะถูกจำกัดด้วยเส้นขอบเขตของเวลาและสถานที่ การเป็นส่วนหนึ่งในสังคม เกิดจากการมีส่วนร่วมอยู่ในเวลาและสถานที่เดียวกัน เช่น การอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน การไปโรงเรียนหรือสถานศึกษาเดียวกัน การทำงานในบริษัทหรือสถานที่ทำงานเดียวกัน หรือ การอยู่ในกลุ่มทำกิจกรรมเดียวกัน เป็นต้นแต่ด้วยความก้าวหน้าของ ICT และการขยายตัวของอินเตอร์เนต ทำให้ในปัจจุบัน การมีและเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ของเราแต่ละคน ไม่ถูกจำกัดโดยสองข้อจำกัดข้างต้น อีกต่อไป และทำให้ในปัจจุบันนั้น เราแต่ละคน มีและเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ที่ถูกสร้างขึ้นบนอินเตอร์เนต เพิ่มมากขึ้นๆทุกที
SenseMaker
  หลังจากหลายบทความในคอลัมน์แห่งนี้ ข้าพเจ้าได้ใช้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ที่นับวันดูเหมือนว่า "เป็นการยากสำหรับประชาชน ที่จะทำความเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เพื่อการดำรงชีวิตอย่างเท่าทัน" บทความวันนี้ จึงถูกเขียนขึ้นเพื่อแสดงทัศนะเกี่ยวกับกลไกทางสังคม ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน เพื่อทำหน้าที่คุ้มกันและช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบหรือถูกกระทำ จากความเปลี่ยนแปลงทางสังคมเหล่านี้ โดยไม่อาจป้องกันตนเองได้อย่างเท่าทัน หากขาดไปซึ่งกลไกทางสังคมที่จะขอกล่าวถึงในวันนี้เรามาเริ่มทบทวนกันก่อนว่าความเปลี่ยนแปลงทางสังคม ซึ่งถูกกล่าวถึงในคอลัมน์แห่งนี้…
SenseMaker
สุขสันต์ปีใหม่แด่ทุกท่าน ผู้ซึ่งให้เกียรติแวะเวียนเข้ามาอ่านบทความในคอลัมน์แห่งนี้ ทั้งขาประจำและขาจร ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก จงอำนวยอวยพรให้ทุกท่านมีความสุขกาย สบายใจ และสามารถดำรงชีวิตอย่างมีสติ (และมีสตางค์ใช้อย่างพอเพียง) ข้าพเจ้าขอเริ่มต้นปีใหม่ ด้วยอีกหนึ่งงานเขียนที่มุ่งสื่อสารให้ผู้คนในวงกว้าง ตระหนักถึงผลกระทบที่ ICT มีต่อการดำเนินชีวิตในทุกระดับ เพื่อให้ทุกท่านสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้อย่างเท่าทัน อีกทั้งสามารถประยุกต์ใช้มันอย่างมีประโยชน์