Skip to main content

การลดช่องว่าง ด้วยการใช้อำนาจทางการเมืองมาจัดการเศรษฐกิจ

รัฐสวัสดิการ สร้างความมั่นคง

ขจัดความขัดแย้งด้วยแนวทางเจือจานบนพื้นฐานของภราดรภาพป้องกันการลุกฮือของมวลชน

 

หากมองไปถึงรากของมาร์กซ ในมุมของวิทยาศาสตร์สังคม และการวิเคราะห์ปรัชญาวัตถุนิยม เห็นจะเป็นยุโรปเหนือสแกนดิเนเวียนที่ใช้กรอบคิดนี้เป็นแนวทางและพัฒนาโครงสร้างรัฐไปสู่การสังคมอุดมคติผ่านเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ทั้งหลาย   พรรคแรงงาน พรรคสังคมนิยมประชาธิปไตย และรัฐสภารัฐ ไปจนถึงการสร้างแนวร่วมในสภายุโรป ผ่านแนวร่วมสหภาพและองค์กรประชาสังคมต่างๆ   ร่วมกันคิดร่วมกันแก้

แต่กระแสที่มาแรงในตอนนี้ คือ ยุโรปใต้ที่เริ่มย้อนกลับไปถอดบทเรียนของลาตินอเมริกา ที่ใช้แนวทางโรแมนติคเกี่ยวกับการปลุกระดมมวลชนที่ถูกระบบตลาดทุนนิยมโลกเบียดขับขูดรีดจนรู้สึกแปลกแยกกับตัวเอง รู้สึกได้ถึงความไม่เป็นธรรม แล้วเกิดความรู้สึกรุนแรงในการลุกฮือขึ้นยึดอำนาจรัฐเพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจ    เริ่มจากการเดินขบวน การยึด ไปจนถึงการจัดตั้งองค์กรนำแนวพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายเพื่อไปยึดอำนาจในสภา และมีแนวโน้มในการขัดแย้งกับชนชั้นนำทางการเมืองในระดับยุโรป เทคโนแครตในองค์การระหว่างประเทศ และระบบราชการในประเทศ   แต่มีแนวร่วมเป็นขบวนการเคลื่อนไหวในประเทศและข้ามไปถึงประเทศอื่นๆในโลก    มีความรักและเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์

 

สิ่งที่ต้องทำก่อน คือ การก้าวข้ามกับดักทางความคิด เชิงตัวเลขเศรษฐกิจของนักคิดฝ่ายขวา หรือเศรษฐศาสตร์กระแสหลัก

 

อย่างไรก็ดี ฝ่ายซ้ายเหล่านี้ที่ประสบความสำเร็จ ก็เพราะชี้ให้เห็นปัญหาของโครงสร้างปัจจุบันอย่างชัดเจน มีแนวทางแก้ไขเป็นรูปธรรม และสร้างความเชื่อมั่นให้คนในสังคมว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์รุกฮือบานปลายเป็นการใช้กำลังปล้นสะดมใดๆ แต่จะใช้แนวทางเปลี่ยนแปลงเชิงสันติวิธี ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนทั้งหลายเข้ามามีส่วนร่วมได้ตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตย และเคารพสิทธิมนุษยชนขันพื้นฐานของคนทั้งสังคม

 

นั่นคือ ใช้ภราดรภาพเป็นธงนำ

 

ผู้เขียน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทศพล ทรรศนกุลพันธ์
 

บล็อกของ ทศพล ทรรศนพรรณ

ทศพล ทรรศนพรรณ
หากสังคมไทยมีแนวโน้มจะเป็น สังคมทุนนิยม องค์กร สถาบัน จารีต ต่างๆ เสื่อมลง คนสัมพันธ์ผ่านระบบตลาด แคร์คนอื่นน้อยลง ขาดสำนึกร่วมในความอยุติธรรมทางสังคม หรือ มีสำนึกเชิง “ปัจเจก” มากขึ้นเรื่อยๆ
ทศพล ทรรศนพรรณ
อาจจะดูแปลกประหลาดไปสักหน่อยสำหรับบางท่านเมื่อพูดว่ากฎหมายได้รับรอง “สิทธิที่จะพักผ่อน” ไว้เป็นสิทธิมนุษยชนประการหนึ่ง เพราะคนไทยถือว่าการขยันตั้งใจทำมาหากินหามรุ่งหามค่ำเป็นศีลธรรมอันดีงามประเภทหนึ่งที่ต้องยึดถือปฏิบัติ หรือต้องแสดงออกให้สังคมเห็นเป็นประจักษ์ และสังคมก็ยกย่องบุคคลสำคัญโดยพิจารณา
ทศพล ทรรศนพรรณ
การลดช่องว่าง ด้วยการใช้อำนาจทางการเมืองมาจัดการเศรษฐกิจรัฐสวัสดิการ สร้างความมั่นคงขจัดความขัดแย้งด้วยแนวทางเจือจานบนพื้นฐานของภราดรภาพป้องกันการลุกฮือของมวลชน 
ทศพล ทรรศนพรรณ
มหกรรมฟุตบอลโลกจบลงไปแล้วด้วยชัยชนะของกองเชียร์ฝ่ายสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะกลุ่มสนับสนุนสิทธิของผู้อพยพ เนื่องทีมแชมป์โลกเป็นการรวมตัวของนักฟุตบอลที่มิได้มีพื้นเพเป็นคนฝรั่งเศส (พูดอย่างถึงที่สุด คือ มิได้มีบุพการีที่เกิดในดินแดนฝรั่งเศส)
ทศพล ทรรศนพรรณ
พอมาอยู่ที่ยุโรป ถึงได้รู้ว่า อิตาลี กับ สเปน มันไม่แคร์เรื่อง ขาดดุลตัวเลขเลย เพราะมันเอาไปลงทุนไว้กับคน รอถอนทุนคืน
ทศพล ทรรศนพรรณ
การเลือกตั้งท้องถิ่นในแคว้นคาตาลุนญ่า ราชอาณาจักรสเปน จะเกิดขึ้นในวันที่ 27 กันยายน 2015 ก่อนหน้าการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศสเปนประมาณ 2 เดือน ความตื่นตัวของประชาชนสูงเพราะอยู่ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่ประชาชนได้รับผลกระทบกันไปทั่ว
ทศพล ทรรศนพรรณ
เกษตรพันธสัญญาที่ดี มีการสร้างความร่ำรวยให้กับเกษตรกรจำนวนมาก ลดความไม่แน่นอนในการผลิตและประกันว่ามีตลาดขายสินค้าแน่นอน หากมีปัญหาระหว่างการเพาะปลูก/เลี้ยงสัตว์จะมีการแบ่งรับความเสียหายกับบรรษัท นั้นมีจริง
ทศพล ทรรศนพรรณ
ผลิตบนหลักการอย่างหนึ่ง เช่น ทำกำไรจากกิจการอะไรที่ให้เงินเยอะ ไม่คำนึงถึงชีวิตเพื่อนมนุษย์หรือสิ่งแวดล้อมบริโภคบนหลักการอีกอย่างหนึ่ง เช่น การอุดหนุนสินค้าที่โฆษณาว่าห่วงใยสังคม หรือแสดงออกว่าเสพกิจกรรมการกุศลอาการ พร่องความดี
ทศพล ทรรศนพรรณ
การพัฒนาชนบทถือเป็นภารกิจของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่ยุคต้านภัยคอมมิวนิสต์ที่ต้องการขจัดภัยคุกคาม ด้วยการเปลี่ยนพื้นที่กันดารให้มี น้ำไหล ไฟสว่าง ทางสะดวก เพื่อขับไล่พวกที่ปลุกระดมโดยอาศัยความแร้นแค้นเป็นข้ออ้างให้ฝ่อไปเพราะเชื่อว่าเมื่อ “การพัฒนา” มาถึง คอมมิวนิสต์ก็จะแทรกซึมไม่ได้
ทศพล ทรรศนพรรณ
กาลครั้งหนึ่งไม่นานมานี้ ผมได้ตกเป็นเหยื่อ "ความมักง่าย" เข้าแล้วครับท่านผู้อ่าน
ทศพล ทรรศนพรรณ
            ความสัตย์ซื่อและยึดถือกฎหมายด้วยศรัทธาอย่างแรงกล้า            มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสำนักกฎหมายบ้านเมือง ว่า คำสั่งทั้งหลายของรัฐาธิปัตย์ถือเป็นกฎหมายอย่างเด็ดขาด