การงานของชีวิตที่ตกค้าง
ฝนเทลงมาอีกวันแล้ว...
เสียงสังกะสีดังราวกับมีก้อนหินนับล้านร่วงลงมาใส่ เย็นวันนี้มีเรื่องราวให้ขบคิดมากมาย กลับมาจากการประชุมที่เคร่งเครียด อันนับว่าเป็นการงานส่วนหนึ่งของชีวิต เล่นเอาเหนื่อยสายตัวแทบขาด แล้วยังมีงานอะไรที่ยังไม่ได้ทำอีกไหมนี่
\\/--break--\>
ผมเปิดสมุดจดงานขึ้นมาดู เผื่อว่าจะพบงานนัดหมายสำคัญหรือมีงานที่ต้องส่งไปที่ไหนบ้าง หรือเขียนสรุปรายงานการประชุมที่ยังไม่ได้ทำ แต่พบว่าทุกอย่างผ่านพ้นไปแล้ว โล่งอกไปอีกอีกวัน
ชีวิตเป็นอย่างนี้มานานเท่าไหร่กันแล้ว อย่างน้อยก็ร่วมสิบปีเข้าไปแล้ว สิบปีที่ผ่านมา เราผ่านจุดไหนมาบ้าง จะมีสักครั้งไหมที่เรานั่งลงทบทวนกับตัวเองด้วยการผ่อนลมหายใจลงช้าๆ แล้วหลับตาย้อนนึกถึงเรื่องราวในวันวาน พร้อมย้อนกลับมาพิจารณาถึงวันนี้ ยิ่งนึก ยิ่งพบว่า ชีวิตยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ และจะต้องรีบทำก่อนจะไม่ได้ทำ
การงานของชีวิตที่ตกค้างก็เหมือนคนหาปลาวางเบ็ดโดยไม่ได้เก็บกู้ในวันเดียว แต่มันคือภาระที่ต้องกลับมาทำให้เสร็จในวันหลัง งานที่ตกค้างอยู่จึงไม่ได้ต่างจากสนิมที่เกาะกุมเสาเหล็กกลางสายฝน
ไต่สายตาขึ้นสู่ภูสูงที่นั่นข้าวโพดเพิ่งถูกปลูกลง ต้นยางก็เพิ่งแตกใบ ผลไม้บางชนิดเริ่มต้นในฤดูฝน รวมทั้งข้าวในนา เรื่องราวล้วนแต่เป็นการงานที่ตกค้างแทบทั้งสิ้น ข้าวโพดเป็นการงานอันตกค้างของชาวไร่ ผู้มีลมหายใจส่วนหนึ่งเพื่อการอยู่รอดของตัวเองและครอบครัว แน่ละอีกส่วนหนึ่งก็หมายถึงการอยู่รอดของเจ้าหนี้รายใหญ่ด้วยเช่นกัน
ต้นยางพาราที่เพิ่งถูกปลูกลงสู่พื้นดินแทนที่ไร่ข้าวโพด ล้วนเป็นการงานของชีวิตที่ตกค้างทั้งสิ้น สิ่งใหม่ที่ถูกแทนที่สิ่งเก่า การงานของชีวิตอันตกค้างนี้จะมีอายุไม่น้อยกว่า ๑๐ ปี เมื่อลองถามคนปลูกยางพาราว่า สิ่งที่เขากำลังทำอยู่นี้เป็นการงานอันตกค้างที่เป็นภาระหรือไม่ คำตอบคือไม่ เพราะเมื่อยางพาราพร้อมกรีด ชีวิตที่เคยเป็นอยู่คงดีขึ้น และดีขึ้นเป็นลำดับ แต่นี่ก็เป็นเพียงการงานอันตกค้างของความคิดเท่านั้น เพราะไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าอีก ๑๐ ปีข้างหน้าราคายางจะอยู่ที่เท่าไหร่
กลุ่มคนที่มีการงานของชีวิตที่ตกค้างมากที่สุดคือ ชาวนา เพราะแม้ชาวนาจะเป็นกลุ่มคนที่ทำงานตามแบบแผนที่วางไว้ทุกประการ แต่การวางแผนก็ล้วนแต่อยู่บนการรอ รอน้ำจากฟ้า รอกล้าเติบโต รอข้าวออกรวง รอเก็บเกี่ยว รอขายข้าวในช่วงราคาดี เพื่อนำไปใช้หนี้อันจะนำไปสู่การปลดปล่อยการงานอันตกค้างของชีวิตบ้างด้าน
ถ้าไม่เรียกการงานอันตกค้างของคนทำไร่ ทำนา ทำสวนว่า การงานอันตกค้างด้วยความหวังของชีวิตจะมีคำอื่นมาแทนที่หรือไม่...
ในขณะที่เราเฝ้ามองการงานอันตกค้างของชีวิตคนอื่น เราเคยนึกถึงการงานที่ตกค้างของชีวิตเราบ้างไหม ในห้วงนึกนั้น เราจะเริ่มทำสิ่งใดก่อน และจะทำสิ่งใดหลัง เราได้ออกแบบการใช้ชีวิตอย่างนี้กันหรือไม่
คำตอบสำหรับผมคือไม่...ถ้าไม่ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า ชีวิตเราจะต้องทำอะไรบ้างในแต่ละวัน แปลกแต่จริงว่า เราเห็นการงานของชีวิตที่ตกค้างของคนอื่นมากกว่าของตนเอง
ฝนหยุดแล้ว เวลาผ่านไปเกือบสามทุ่ม ความหิวเริ่มครอบงำจิตใจ ความหิวก็คงเป็นการงานที่ตกค้างของชีวิตเช่นกัน เพราะเราหิวทุกวัน กินทุกวัน ถ้าเราไม่หิว ไม่กิน เราจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร หรือกระทั่งแม้ว่าเมื่อเราหิว เราล้วนแต่ตามใจความรู้สึกว่าเราอยากกินอาหารรสชาติแบบไหน หากว่าในวันที่เราหิว เราไม่เลือกกินอาหารที่เราชอบในรสชาติ ชีวิตเราจะเป็นอย่างไร เราจะอยู่ได้ไหม ยิ่งคิดก็ยิ่งชวนให้มึนงง การงานของชีวิตที่ตกค้างตกลงเป็นงานชนิดไหนกันแน่...
บันทึกชิ้นนี้แปลกๆ ไม่ได้กล่าวถึงคนอื่นมากนัก แต่มันก็คงพอทำให้เราได้ระลึกนึกถึงอยู่บ้างว่า เราล้วนมีการงานของชีวิตที่ตกค้างมากจากวันเวลาหลายอย่างๆ หลายๆ เหตุผล เอาละถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมาเริ่มจัดการงานของชีวิตที่ตกค้างกันได้แล้ว...ลุกขึ้นมาทำเสียเถอะก่อนพรุ่งนี้จะมาเยือน และเราจะได้ไม่ต้องบอกตัวเองว่า ไม่น่าปล่อยมาถึงวันนี้เลย น่าจะทำตั้งแต่เมื่อวาน...
โรงเรียนบ้านคกเว้า,ปากชม,
ฤดูหนาว, ๕๒