Skip to main content

ในชีวิตผมถือว่า สองปีที่ผ่านมา ผมโชคดีไม่น้อยที่มีโอกาสได้ไปยังสถานที่ที่ตัวเองไม่คาดคิดว่าจะได้ไป สถานที่ที่ว่านั่นคือ ‘สันเขื่อน’ และจุดสำรวจที่จะมีการสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขงในตอนล่าง ไล่ตั้งแต่ปากแบ่ง หลวงพระบาง ไซยะบุรี ปากลาย ปากชม และบ้านกุ่ม จำนวนพื้นที่ที่กล่าวมาทั้งหมดแถบทุกพื้นที่ได้มีการสำรวจศึกษาความเป็นไปได้ของพื้นที่ในการก่อสร้างเขื่อนหมดแล้ว


การไปในแต่ละครั้ง บางทีก็ต้องทำตัวให้กลมกลืนกับพื้นที่โดยการปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวผู้อยากรู้อยากเห็น และที่สำคัญต้องตีสนิทกับคนท้องถิ่น เพื่อจะได้เดินทางไปสู่เป้าหมายง่ายขึ้น ในจำนวนพื้นที่ที่กล่าวมาทั้งหมด หากไม่นับรวมปากชมแล้ว ก็คงมีปากแบ่ง กับหลวงพระบางเท่านั้นที่ผ่านมาผ่านไป ๓-๔ ครั้ง


ในการเดินทางไปปากแบ่งครั้งล่าสุด ผมถือว่าเป็นเรื่องอันน่าอัศจรรย์ใจอย่างยิ่ง เพราะหลังจากที่เรือเราจอดพักค้างแรมที่หาดเครื่อง เมื่อกางเต็นท์เสร็จสายตาของผมก็พลันสบตากับเจ้าแผ่นปูนสี่เหลี่ยมตรงพื้นดิน ผมค่อยๆ ย่องเข้าไปหามันอย่างช้าๆ ประหนึ่งนายพรานกำลังเฝ้าซุ่มยิ่งสัตว์ป่า จากแผ่นปูนแผ่นแรก ผมเดินเป็นแนวตรงไปข้างหน้า และผมก็ได้พบแผ่นปูนมากขึ้นจนในที่สุดบนแก่งหินชุดสุดท้ายเมื่อสบสายตากับภูเขา ผมก็พบว่าตรงนั้นมีอุโมงค์สีขาวเด่นเป็นสง่าตระหง่านอยู่ ทันทีที่เห็นผมก็ป่ายหน้าจากสิ่งอื่นมุ่งหน้าไปหาอุโมงค์บนภูเขาอย่างเร่งรีบ


ขณะย่ำเท้าไปบนทรายและหิน แสงตะวันคล้อยต่ำจนลับหาย ความมืดเดินทางเข้ามาเรื่อยๆ ขณะจะก้าวลงจากแก่งหินกลุ่มสุดท้าย ผมพบว่าตัวเองเดินออกมาไกลจากที่พักพอสมควร เมื่อตั้งสติได้ ผมลองสำรวจตัวเอง แลสำรวจดูหนังสือเดินทาง และกล้องถ่ายรูป ทุกอย่างอยู่ในที่ตั้งอย่างเตรียมพร้อม หากมีอะไรไม่ชอบมาพากล สองสิ่งนี้ และเสียงแหบแห้งคงช่วยให้คนกว่าเจ็ดสิบชีวิตบนดอนเครื่องเดินทางมาหาผมสักคน


ดอยลูกนั้นใกล้เข้ามาทุกขณะ ผมตัดสินใจยุติการเดินลงอย่างฉับพลัน และเอากล้องออกมาจากกระเป๋าเปลี่ยนใส่เลนส์ซูม หลังปรับระยะโพกัส และรูรับแสงได้ที่ เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นราว ๒๐ ครั้ง



ภาพของแสงไฟจากเรือเหนือสาน้ำโขง กองไฟ และเงาคน


แสงของทิวาวารหายไปแล้ว บรรยากาศรอบตัว รัตติกาลกำลังคลี่ม่านสีดำผืนใหญ่โอบคลุมทุกทิศทุกทางเอาไว้ ผมตัดสินใจหันหลังให้อุโมงค์บนภูเขาแล้วเดินกับสู่ที่พัก เมื่อไปถึงที่พัก ผมจึงได้มีโอกาศลองไล่ดูภาพแต่ละภาพ หลังดูเสร็จ ผมได้นำไปให้คนอื่นๆ ในคณะร่วมเดินทางดู หลายคนต่างงุนงง และสงสัยว่าบางภาพผมถ่ายมาจากมุมไหน เพราะมีเต็นท์หลายหลังติดอยู่ในภาพ เมื่อผมพาคนสงสัยเดินไปดู ทุกคนก็กระจ่างแจ้งว่า แท้จริงแล้วแผ่นปูนที่กำลังจะพัฒนาใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นแท่งหินคอนกรีตกั้นแม่น้ำ มันอยู่เบื้องหลังเต็นท์ที่เราจะนอนนี่เอง และจุดที่เราจะพักนอนก่อนเดินทางออกจากลาวสู่เชียงของในคืนนี้ก็จะกลายเป็นสันเขื่อนปากแบ่ง ซึ่งภายหลังที่เขื่อนสร้างเสร็จน้ำจากอ่างเก็บน้ำของเขื่อนจะท่วมยาวมาถึงเชียงของ และมีบ้านหลายหลังต้องถูกโยกย้าย


หากคิดไป เรื่องราวเช่นนี้ไม่ได้ต่างอะไรจากละครเรื่องเดิมที่ถูกนำกลับมาฉายซ้ำ หรือบางทีถูกนำมาสร้างใหม่ทั้งโดยคนสร้างกลุ่มเดิม และกลุ่มใหม่


ละครของชีวิตผู้คน และธรรมชาติ อันเกิดขึ้นหลังการสร้างเขื่อนมีให้เห็นมานักต่อนัก แม้บางเรื่องจะม้วนฉากจบการแสดงไปแล้ว แต่บางเรื่องกำลังเริ่มลงมือถ่ายทำ แน่ละในละครของชีวิต ผู้คน และธรรมชาติ ซึ่งกำลังจะถูกสร้างให้เป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการทำละครเรื่องนี้ ชาวบ้านผู้เป็นทั้งนักแสดงนำ และนักแสดงสมทบ พวกเขาแทบไม่มีโอกาสได้ถามบริษัทผู้สร้างละครของชีวิตเรื่องนี้เลยว่า ทำไมตัดสินใจเลือกพวกเขามาเป็นนักแสดง ทั้งที่พวกเขาไม่อยากเป็น แม้ว่าจะได้รับค่าตัวแพงเท่าใดก็ตามที ข้อสำคัญในการแสดงละคร เมื่อถ่ายทำไม่ดีก็มีการถ่ายทำใหม่ได้ แต่หากว่าละครแห่งชีวิตที่กำลังจะเกิดขึ้นกับคน และทรัพยากรธรรมชาติ เรามีโอกาสในการสั่งถ่ายทำใหม่ได้กี่ครั้งเมื่อถ่ายทำไม่ดี


บรรยากาศในค่ำคืนแรม ๒ ค่ำ พระจันทร์กลมโตกว่าไข่ห่านตระหง่านอยู่เบื้องบูรพทิศ วงข้าวอันมีการพูดคุยถึงเรื่องทัรพยากรธรรมชาติในแม่น้ำโขง รวมทั้งเรื่องราวผลกระทบต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นหลังจากสร้างเขื่อนเริ่มตั้งขึ้น หลายคนก็ได้แสดงทัศนะอันเป็นห่วงเป็นใยต่อแม่น้ำสายนี้ รวมทั้งแสดงความห่วงใยต่อทรัพยากรในแม่น้ำสายนี้เมื่อได้ทราบว่าจุดที่เราพักนอนในคืนนี้คือจุดที่จะเป็นสันเขื่อน และแน่ละคนที่แสดงทัศนะ และกล่าวถึงความหม่นช้ำที่จะได้รับมากกว่าคนอื่นๆ คือ คนที่มาจากหมู่บ้านที่จะถูกน้ำท่วมภายหลังการสร้างเขื่อนนั่นเอง...

 

 





 ภาพของจุดสำรวจในการสร้างเขื่อนปากแบ่งที่ดอนเครื่อง บ้านปากเงย แขวงไซยะบุรี



บล็อกของ สุมาตร ภูลายยาว

สุมาตร ภูลายยาว
    ...เสียงปืนดังลั่นเปรี้ยง-คล้ายเสียงชะนีหวน
สุมาตร ภูลายยาว
สายลมเริ่มพัดเปลี่ยนทิศจากเหนือลงใต้ ฤดูฝนใกล้พ้นผ่านแล้ว ฤดูหนาวกำลังเดินทางมาแทน ขณะอาทิตย์ใกล้ลับฟ้าถัดจากกระท่อมหลังสุดท้ายตรงหาดทรายไปไม่ไกล คนจำนวนมากกำลังวุ่นวายอยู่กับการเก็บเครื่องมือทำงาน หากนับตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ก็ล่วงเข้าไป ๔ วันแล้วที่ช่างในหมู่บ้านถูกไหว้วานให้มาช่วยกันทำเรือไฟ เพื่อให้ทันใช้ในวันออกพรรษา หลังจมอยู่กับงานมาทั้งวัน เมื่อโรงงานต่อเรือไฟปิดประตูลงในตอนเย็น โรงมหรสพริมฝั่งน้ำก็เข้ามาแทน
สุมาตร ภูลายยาว
แม่น้ำนิ่งงันลงชั่วการกระพริบตาของพญามังกร ชาวบ้านริมฝั่งน้ำไม่มีใครรู้ว่า พญามังกรกระพริบตากี่ครั้ง หรือด้วยอำนาจใดของพญามังกร แม่น้ำจึงหยุดไหล ทั้งที่แม่น้ำเคยไหลมาชั่วนาตาปี วันที่แม่น้ำหยุดไหล คนหาปลาร้องไห้ปานจะขาดใจ เพราะปลาจำนวนมากได้หนีหายไปจากแม่น้ำ
สุมาตร ภูลายยาว
แดดร้อนของเดือนมีนาคมแผดเผาหญ้าแห้งกรัง หน้าร้อนปีนี้ร้อนกว่าทุกปี เพราะฝนไม่ตก ยอดมะม่วงอ่อนจึงไม่ยอมแตกช่อ มะม่วงป่าเริ่มออกดอกรอฝนพรำ เพื่อให้ผลได้เติบโต ความร้อนมาพร้อมกับความแห้งแล้ง ในความแห้งแล้ง ดอกไม้ป่าหลากสีกำลังผลิบาน มีทั้งดอกสีส้ม แดง ม่วง ความแห้งแล้งดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง
สุมาตร ภูลายยาว
‘ย่างเข้าเดือนห้า น้ำท่าก็เริ่มขอดแล้ง’ คนแก่บางคนว่าอย่างนั้น (ถ้าผมจำไม่ผิด) คำพูดนี้ได้สะท้อนบางอย่างออกมาด้วย นั่นคือสิ่งที่ผู้คนในยุคสมัยก่อนเห็น พอถึงเดือนห้า น้ำที่เคยมีอยู่ก็แห้งขอดลงเป็นลำดับ ผู้คนในสมัยก่อนที่จะก้าวเข้าสู่สังคมเกษตรอุตสาหกรรมเช่นทุกวันนี้ทำอะไรบ้าง ในสังคมภาคกลางยุคที่ทำการเกษตรไม่ใช่อุตสาหกรรม หน้าแล้งไม่มีใครทำนา เพราะทุกคนต่างรู้ว่า หน้าแล้งแล้วนะ น้ำท่าจะมาจากไหน แต่พอยุคอุตสาหกรรมเกษตรเรืองอำนาจ หน้าแล้งผู้คนก็ยังคงทำนา เพื่อตอบสนองอุตสาหกรรมการเกษตรกันอยู่
สุมาตร ภูลายยาว
ผู้ดีตีนแดง-ขอ โทษ เท้าแดง ตะแคงเท้าเดิน เวลาเหยียบปุ่มปมของพรมผืนนุ่มนิ่มราวกับปุยเมฆ นั่นแหละเท้าของผู้ดี และโลกของผู้ดีมีแต่น้ำครำ –น้ำคำ แห่งการหลอกลวง ทั้งผู้ดีจริง และผู้ดีกลวง ขณะเดินย่ำไปบนเส้นทางสู่ร้านอาหารเลิศหรู เมนูไข่คาเวียกับบรั่นดีแก้วทรงสูงดัดจริตวางรอ ผู้ดีน้ำครำละเลียดเมรัยรสคมผ่านลำคอ และละเลียดไข่คาเวียที่มีอยู่นับจำนวนได้บนจานราคาแพงกว่าการขึ้นห้องกับปอง ของโฉน ไพรำ ผู้ดี น้ำครำมองออกไปนอกหน้าต่างสูงลิบของห้องอาหารโรงแรมเสียดฟ้า เบื้องล่างแม่น้ำไหลเอื่อยเหนื่อยปานจะขาดใจตาย ผู้ดีน้ำครำละเลียดไข่คาเวียราคาแพง เพื่อเลิศหรูมีหน้ามีตา…
สุมาตร ภูลายยาว
สายลมหนาวพัดมาพร้อมกับสายฝนที่โปรยสายลงมา ว่ากันว่านี่คือฝนหลงฤดู! กาแฟแก้วของวันเป็นคาปูชิโน่ร้อนสองแก้ว แต่ไม่ใช่ของผมเป็นของลูกค้าต่างชาติ รสชาติของกาแฟเป็นอย่างไรในเช้านี้ ผมไม่อาจรู้ เพราะไม่ได้ชิม หลังสตรีมนมสดจนร้อนได้ที่ กลิ่นกาแฟสดหอมกรุ่นโชยออกมา และพร้อมแล้วสำหรับการดื่ม-กิน
สุมาตร ภูลายยาว
เนิ่นนานหลายปีแล้วที่ผมพเนจรจากบ้านเกิด แต่หลายๆ ความรู้สึกเกี่ยวกับบ้าน ผมไม่มีทางลืมได้เด็ดขาด บางค่ำคืนที่มีโอกาสอยู่กับตัวเองเพียงลำพัง ด้วยความสงบเงียบ ภาพบ้านเกิดจะย้อนกลับมาสู่ความทรงจำ-ความทรงจำในวัยเยาว์เกี่ยวกับบ้านเกิด
สุมาตร ภูลายยาว
เวลาผ่านไปเร็ว ยามที่เราโตขึ้น เราเชื่อเช่นนั้น เพราะเราโหยหาเวลาของวัยเยาว์ เมื่อเราเติบโตขึ้นเป็นลำดับมีหลายความรู้สึกของวัยเยาว์ที่หล่นหายไปอย่างไม่อาจเรียกคืนกลับมา ราวกับสายน้ำที่ไหลไกลออกไปทุกทีๆ มิอาจหวนกลับมาเป็นสายน้ำได้เช่นเดิม แต่กลายเป็นสายฝนพรำลงมาแทน หากพูดถึงอดีตแล้ว บางด้านที่เลวร้าย เราอยากผ่านเลย แต่กลับจำได้ฝังใจ...
สุมาตร ภูลายยาว
บุนทะนอง ซมไซผล แปลโดย สุมาตร ภูลายยาว    ๑.ผลน้ำเต้าบุ่ง และวรรณคดีพื้นเมือง ถ้าจะให้พูดถึงความสัมพันธ์ไทย-ลาว ความเชื่อมโยงด้านวรรณคดีของชนชาติเผ่าพันธุ์ต่างๆ ในประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำของ สิ่งแรกที่ข้าพเจ้าคิดถึงคือ น้ำเต้าบุ่ง
สุมาตร ภูลายยาว
ดอกเกดเป็นดอกไม้ชนิดหนึ่งที่ลำต้นมีลักษณะเหมือนต้นปาล์ม เวลาออกดอก ดอกจะส่งกลิ่นหอม คนเฒ่าคนแก่จะนิยมนำไปบูชาพระและนำมาทัดหู ผมไม่รู้เหมือนกันว่าดอกไม้ชนิดนี้จะมีอยู่ทั่วไปในประเทศไทยหรือมีเฉพาะที่ภาคอีสานและประเทศลาว
สุมาตร ภูลายยาว
จากใบไม้ใบสุดท้ายถึงซิ่นไหมผืนเก่าๆ: ๒ เรื่องสั้นซีไรต์บนแผ่นดินเบื้องซ้ายแม่น้ำของ (โขง) เมื่อพูดถึงวรรณกรรมบนแผ่นดินฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงแล้ว หลายคนคงอดที่จะพูดถึงวรรณกรรมชิ้นคลาสสิกเช่น ‘สังสินไซ’ ไม่ได้ เพราะสังสินไซเป็นวรรณกรรมพื้นบ้านที่คนทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขงรู้จักมากที่สุดชิ้นหนึ่ง นอกจากสังสินไซแล้ว ผลงานของนักเขียนลาวหลายคนในความรับรู้ของคนไทยคงหนีไม่พ้นผลงานเขียนของท่านมหาสีลา วีระวงค์ ผู้รจนางานมหากาพย์อันยิ่งใหญ่ในนาม ‘ท้าวฮุ่งและขุนเจือง’