Skip to main content

ย่างเข้าเดือนห้า น้ำท่าก็เริ่มขอดแล้งคนแก่บางคนว่าอย่างนั้น (ถ้าผมจำไม่ผิด) คำพูดนี้ได้สะท้อนบางอย่างออกมาด้วย นั่นคือสิ่งที่ผู้คนในยุคสมัยก่อนเห็น พอถึงเดือนห้า น้ำที่เคยมีอยู่ก็แห้งขอดลงเป็นลำดับ ผู้คนในสมัยก่อนที่จะก้าวเข้าสู่สังคมเกษตรอุตสาหกรรมเช่นทุกวันนี้ทำอะไรบ้าง ในสังคมภาคกลางยุคที่ทำการเกษตรไม่ใช่อุตสาหกรรม หน้าแล้งไม่มีใครทำนา เพราะทุกคนต่างรู้ว่า หน้าแล้งแล้วนะ น้ำท่าจะมาจากไหน แต่พอยุคอุตสาหกรรมเกษตรเรืองอำนาจ หน้าแล้งผู้คนก็ยังคงทำนา เพื่อตอบสนองอุตสาหกรรมการเกษตรกันอยู่


เมื่อยุคอุตสาหกรรมการเกษตรเจริญรุ่งเรือง น้ำท่าที่ไม่มีก็มีตามมา ด้วยการทำเขื่อน ทำคลองในการกระจายน้ำออกสู่ภาคเกษตร ยุคสมัยใหม่ไม่ได้สนใจในธรรมชาติ แต่เรียนรู้ที่จะเอาชนะธรรมชาติด้วยการพัฒนาระบบการชลประทานต่างๆ เข้ามา


คลองส่งน้ำจึงกระจายผ่านไปทุกหนทุกแห่งที่อำนาจของผู้แทนในจังหวัดนั้นๆ จะนำไปสู่การปูทางเพื่อการเข้าไปเป็นสมาชิกสภาอีกสมัย


วาทกรรมที่ว่าด้วยความแห้งแล้งคือภัยธรรมชาติก็เดินทางมาพร้อมกับนักการเมืองเหล่านั้น เดินทางมาพร้อมกับการตอดเล็กตอดน้อยจิกเอางบประมาณที่มีอยู่จำกัดในการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง หากมองในเรื่องของการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง แทบทุกปีเมื่อถึงฤดูกาลหลังปลายหนาว เราจะได้เห็นนโยบายต่างๆ ที่มุ่งไปเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างมากมาย แต่บางครั้งงบประมาณเหล่านั้นกลับสูญเปล่า เพราะการแก้ไขปัญหาไม่ถูกจุด


หากเราเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง เราจะพบว่า ในแต่ละช่วงเวลา ธรรมชาติได้บอกเราแล้วว่า ในช่วงเวลาไหน เราน่าจะทำเกษตรแบบไหน ในช่วงหน้าแล้ง การปลูกพืชผักที่ใช้น้ำจำนวนมากจึงเป็นสิ่งที่คนในยุคสมัยก่อนเกษตรอุตสาหกรรมเรืองอำนาจไม่นิยมนำมาใช้


ในสภาวการณ์ผู้มีอำนาจหรือแม้แต่ผู้คนในสังคมมองเรื่องความแห้งแล้งคือการขาดน้ำเพียงอย่างเดียว การมองเช่นนี้เป็นการปิดกั้นการมองเห็นในภาคส่วนอื่นๆ ด้วย แต่ถ้าหากเราลองเปิดใจ เปิดตามองอย่างรอบด้าน เราจะพบว่า น้ำแห้ง ไม่ได้มาจากฝนขาดฟ้าเพียงอย่างเดียว บางทีการทำเกษตรแบบอุตสาหกรรมที่เน้นการปลูกพืชเชิงเดี่ยวไว้เพื่อขายให้ได้เงินมาเร็วๆ ก็มีส่วน เพราะบางครั้งการปลูกพืชเชิงเดี่ยวบนที่ลาดเอียงของภูเขา เราต้องตัดไม้ และทำลายดินที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุโดยการใช้สารเคมี


เมื่อธรรมชาติถูกทำลายลงทีละน้อย ความเปลี่ยนแปลงต่อระบบนิเวศที่เคยเป็นมาย่อมถูกทำลายลงด้วย


ภายใต้สายตาที่มองว่า ความแห้งแล้งคือภัยธรรมชาติ สิ่งที่เห็นต่อมาคือการหาน้ำเพื่อมาบรรเทาความแห้งแล้ง การหาน้ำที่ง่ายที่สุดคือการสร้างเขื่อน สร้างฝาย แต่ในความเป็นจริงการสร้างเขื่อน สร้างฝายกลับกลายเป็นสร้างความแห้งแล้งเสียเอง กรณีชัดเจนมากเกี่ยวกับเรื่องเขื่อนบนแม่น้ำโขง เพราะยิ่งมีเขื่อนมากน้ำยิ่งแห้ง เขื่อนไม่ได้มีไว้เพื่อการแก้ไขปัญหาภัยแล้งเลย แต่กลับกลายเป็นตัวสร้างปัญหาภัยแล้งเสียเอง


ความแห้งแล้งตามฤดูกาลจะไม่เป็นภัยพิบัติอีกต่อไป หากเราเข้าใจในธรรมชาติ และเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง ปล่อยให้ใบไม้ได้แห้ง ปล่อยให้น้ำแล้ง ปล่อยให้ไฟป่าได้จัดการกับใบไม้แห้งเสียเอง แล้วเราได้แต่มองดู และเข้าใจว่านี่คือสิ่งที่ธรรมชาติสร้างมาเพื่อปรับความสมดุลยให้กับตัวเอง เข้าใจธรรมชาติ และเข้าใจกับตัวเอง แล้วเราจะเห็นความงามของความแห้งแล้งอย่างแท้จริง

บล็อกของ สุมาตร ภูลายยาว

สุมาตร ภูลายยาว
    ...เสียงปืนดังลั่นเปรี้ยง-คล้ายเสียงชะนีหวน
สุมาตร ภูลายยาว
สายลมเริ่มพัดเปลี่ยนทิศจากเหนือลงใต้ ฤดูฝนใกล้พ้นผ่านแล้ว ฤดูหนาวกำลังเดินทางมาแทน ขณะอาทิตย์ใกล้ลับฟ้าถัดจากกระท่อมหลังสุดท้ายตรงหาดทรายไปไม่ไกล คนจำนวนมากกำลังวุ่นวายอยู่กับการเก็บเครื่องมือทำงาน หากนับตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ก็ล่วงเข้าไป ๔ วันแล้วที่ช่างในหมู่บ้านถูกไหว้วานให้มาช่วยกันทำเรือไฟ เพื่อให้ทันใช้ในวันออกพรรษา หลังจมอยู่กับงานมาทั้งวัน เมื่อโรงงานต่อเรือไฟปิดประตูลงในตอนเย็น โรงมหรสพริมฝั่งน้ำก็เข้ามาแทน
สุมาตร ภูลายยาว
แม่น้ำนิ่งงันลงชั่วการกระพริบตาของพญามังกร ชาวบ้านริมฝั่งน้ำไม่มีใครรู้ว่า พญามังกรกระพริบตากี่ครั้ง หรือด้วยอำนาจใดของพญามังกร แม่น้ำจึงหยุดไหล ทั้งที่แม่น้ำเคยไหลมาชั่วนาตาปี วันที่แม่น้ำหยุดไหล คนหาปลาร้องไห้ปานจะขาดใจ เพราะปลาจำนวนมากได้หนีหายไปจากแม่น้ำ
สุมาตร ภูลายยาว
แดดร้อนของเดือนมีนาคมแผดเผาหญ้าแห้งกรัง หน้าร้อนปีนี้ร้อนกว่าทุกปี เพราะฝนไม่ตก ยอดมะม่วงอ่อนจึงไม่ยอมแตกช่อ มะม่วงป่าเริ่มออกดอกรอฝนพรำ เพื่อให้ผลได้เติบโต ความร้อนมาพร้อมกับความแห้งแล้ง ในความแห้งแล้ง ดอกไม้ป่าหลากสีกำลังผลิบาน มีทั้งดอกสีส้ม แดง ม่วง ความแห้งแล้งดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง
สุมาตร ภูลายยาว
‘ย่างเข้าเดือนห้า น้ำท่าก็เริ่มขอดแล้ง’ คนแก่บางคนว่าอย่างนั้น (ถ้าผมจำไม่ผิด) คำพูดนี้ได้สะท้อนบางอย่างออกมาด้วย นั่นคือสิ่งที่ผู้คนในยุคสมัยก่อนเห็น พอถึงเดือนห้า น้ำที่เคยมีอยู่ก็แห้งขอดลงเป็นลำดับ ผู้คนในสมัยก่อนที่จะก้าวเข้าสู่สังคมเกษตรอุตสาหกรรมเช่นทุกวันนี้ทำอะไรบ้าง ในสังคมภาคกลางยุคที่ทำการเกษตรไม่ใช่อุตสาหกรรม หน้าแล้งไม่มีใครทำนา เพราะทุกคนต่างรู้ว่า หน้าแล้งแล้วนะ น้ำท่าจะมาจากไหน แต่พอยุคอุตสาหกรรมเกษตรเรืองอำนาจ หน้าแล้งผู้คนก็ยังคงทำนา เพื่อตอบสนองอุตสาหกรรมการเกษตรกันอยู่
สุมาตร ภูลายยาว
ผู้ดีตีนแดง-ขอ โทษ เท้าแดง ตะแคงเท้าเดิน เวลาเหยียบปุ่มปมของพรมผืนนุ่มนิ่มราวกับปุยเมฆ นั่นแหละเท้าของผู้ดี และโลกของผู้ดีมีแต่น้ำครำ –น้ำคำ แห่งการหลอกลวง ทั้งผู้ดีจริง และผู้ดีกลวง ขณะเดินย่ำไปบนเส้นทางสู่ร้านอาหารเลิศหรู เมนูไข่คาเวียกับบรั่นดีแก้วทรงสูงดัดจริตวางรอ ผู้ดีน้ำครำละเลียดเมรัยรสคมผ่านลำคอ และละเลียดไข่คาเวียที่มีอยู่นับจำนวนได้บนจานราคาแพงกว่าการขึ้นห้องกับปอง ของโฉน ไพรำ ผู้ดี น้ำครำมองออกไปนอกหน้าต่างสูงลิบของห้องอาหารโรงแรมเสียดฟ้า เบื้องล่างแม่น้ำไหลเอื่อยเหนื่อยปานจะขาดใจตาย ผู้ดีน้ำครำละเลียดไข่คาเวียราคาแพง เพื่อเลิศหรูมีหน้ามีตา…
สุมาตร ภูลายยาว
สายลมหนาวพัดมาพร้อมกับสายฝนที่โปรยสายลงมา ว่ากันว่านี่คือฝนหลงฤดู! กาแฟแก้วของวันเป็นคาปูชิโน่ร้อนสองแก้ว แต่ไม่ใช่ของผมเป็นของลูกค้าต่างชาติ รสชาติของกาแฟเป็นอย่างไรในเช้านี้ ผมไม่อาจรู้ เพราะไม่ได้ชิม หลังสตรีมนมสดจนร้อนได้ที่ กลิ่นกาแฟสดหอมกรุ่นโชยออกมา และพร้อมแล้วสำหรับการดื่ม-กิน
สุมาตร ภูลายยาว
เนิ่นนานหลายปีแล้วที่ผมพเนจรจากบ้านเกิด แต่หลายๆ ความรู้สึกเกี่ยวกับบ้าน ผมไม่มีทางลืมได้เด็ดขาด บางค่ำคืนที่มีโอกาสอยู่กับตัวเองเพียงลำพัง ด้วยความสงบเงียบ ภาพบ้านเกิดจะย้อนกลับมาสู่ความทรงจำ-ความทรงจำในวัยเยาว์เกี่ยวกับบ้านเกิด
สุมาตร ภูลายยาว
เวลาผ่านไปเร็ว ยามที่เราโตขึ้น เราเชื่อเช่นนั้น เพราะเราโหยหาเวลาของวัยเยาว์ เมื่อเราเติบโตขึ้นเป็นลำดับมีหลายความรู้สึกของวัยเยาว์ที่หล่นหายไปอย่างไม่อาจเรียกคืนกลับมา ราวกับสายน้ำที่ไหลไกลออกไปทุกทีๆ มิอาจหวนกลับมาเป็นสายน้ำได้เช่นเดิม แต่กลายเป็นสายฝนพรำลงมาแทน หากพูดถึงอดีตแล้ว บางด้านที่เลวร้าย เราอยากผ่านเลย แต่กลับจำได้ฝังใจ...
สุมาตร ภูลายยาว
บุนทะนอง ซมไซผล แปลโดย สุมาตร ภูลายยาว    ๑.ผลน้ำเต้าบุ่ง และวรรณคดีพื้นเมือง ถ้าจะให้พูดถึงความสัมพันธ์ไทย-ลาว ความเชื่อมโยงด้านวรรณคดีของชนชาติเผ่าพันธุ์ต่างๆ ในประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำของ สิ่งแรกที่ข้าพเจ้าคิดถึงคือ น้ำเต้าบุ่ง
สุมาตร ภูลายยาว
ดอกเกดเป็นดอกไม้ชนิดหนึ่งที่ลำต้นมีลักษณะเหมือนต้นปาล์ม เวลาออกดอก ดอกจะส่งกลิ่นหอม คนเฒ่าคนแก่จะนิยมนำไปบูชาพระและนำมาทัดหู ผมไม่รู้เหมือนกันว่าดอกไม้ชนิดนี้จะมีอยู่ทั่วไปในประเทศไทยหรือมีเฉพาะที่ภาคอีสานและประเทศลาว
สุมาตร ภูลายยาว
จากใบไม้ใบสุดท้ายถึงซิ่นไหมผืนเก่าๆ: ๒ เรื่องสั้นซีไรต์บนแผ่นดินเบื้องซ้ายแม่น้ำของ (โขง) เมื่อพูดถึงวรรณกรรมบนแผ่นดินฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงแล้ว หลายคนคงอดที่จะพูดถึงวรรณกรรมชิ้นคลาสสิกเช่น ‘สังสินไซ’ ไม่ได้ เพราะสังสินไซเป็นวรรณกรรมพื้นบ้านที่คนทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขงรู้จักมากที่สุดชิ้นหนึ่ง นอกจากสังสินไซแล้ว ผลงานของนักเขียนลาวหลายคนในความรับรู้ของคนไทยคงหนีไม่พ้นผลงานเขียนของท่านมหาสีลา วีระวงค์ ผู้รจนางานมหากาพย์อันยิ่งใหญ่ในนาม ‘ท้าวฮุ่งและขุนเจือง’