แม่น้ำนิ่งงันลงชั่วการกระพริบตาของพญามังกร ชาวบ้านริมฝั่งน้ำไม่มีใครรู้ว่า พญามังกรกระพริบตากี่ครั้ง หรือด้วยอำนาจใดของพญามังกร แม่น้ำจึงหยุดไหล ทั้งที่แม่น้ำเคยไหลมาชั่วนาตาปี วันที่แม่น้ำหยุดไหล คนหาปลาร้องไห้ปานจะขาดใจ เพราะปลาจำนวนมากได้หนีหายไปจากแม่น้ำ
การเล่าเรื่องของแม่น้ำยามนี้จึงเป็นการเล่าถึงอดีตอันแสนหวาน...
นานนับ ๑๐ กว่าปีที่ผู้คนริมฝั่งน้ำได้รู้ว่า แม่น้ำหยุดไหลเพราะเหตุผลใด ข่าวการเสกหินปูนก้อนแรกลงสู่แม่น้ำจนกลายเป็นเขื่อนใหญ่กั้นแม่น้ำของพญามังกร เป็นเหตุผลที่ทำให้แม่น้ำหยุดไหลลง คนหาปลาว่าอย่างนั้น
เพราะเหตุผลใดพญามังกรผู้อาศัยอยู่เหนือแม่น้ำใหญ่จึงได้ทำเช่นนั้น ไม่มีใครให้เหตุผลได้อย่างแท้จริง ทุกคนรู้เพียงข่าวที่แว่วมากับสายลม และสายฝนว่า พญามังกรต้องการกลืนกินไฟเป็นภักษาหารจึงตัดสินใจเสกหินปูนก้อนแล้วก้อนเล่าปิดกั้นแม่น้ำ และทันทีที่การเสกหินปิดกั้นแม่น้ำของพญามังกรเสร็จสิ้นลง ไฟก้อนแรกก็ถูกพญามังกรกลืนกินอย่างหิวกระหาย
ร่างกายของพญามังกรเริ่มอ้วนพลีขึ้นเป็นลำดับ เพราะการกลืนกินไฟจากการเสกหินปูนทิ้งลงปิดกั้นแม่น้ำ ร่างกายที่ผอมเพรียวของพญามังกรเริ่มอ้วนถ้วนสมบูรณ์ขึ้นเป็นลำดับ เกล็ดของพญามังกรเริ่มมันวาวยามต้องแสงแดด—มันวาวจนดูน่ากลัว
นานนับ ๑๐ กว่าปี ไฟที่พญามังกรกลืนกินจากแม่น้ำเริ่มน้อยลง เพราะการกินอย่างไม่ลืมหูลืมตา เมื่อไฟน้อยลง พญามังกรเริ่มผอมโซลงอีกครั้ง การเลื้อยเพื่ออวดท่วงท่าอันงดงามเริ่มเชื่องช้าลง ในที่สุดพญามังกรก็เริ่มเลื้อยคดเคี้ยวลงมาตามแม่น้ำ เพื่อแสวงหาแหล่งอาหารแห่งใหม่ เมื่อมาถึงหุบเขาแห่งหนึ่งที่ขนาบอยู่สองข้างแม่น้ำ สัมผัสบางอย่างของพญามังกรได้รับรู้ถึงไฟที่คุกรุ่นอยู่ในแม่น้ำอีกครั้ง แล้วพญามังกรก็ตัดสินใจเสกภูเขาทั้งลูกให้กลายเป็นก้อนหินชิ้นเล็กชิ้นน้อย ก่อนจะให้ส่วนลำตัวไปจนถึงปลายหางตวัดเอาก้อนหินลงสู่แม่น้ำ เพื่อปิดกั้นแม่น้ำดั่งที่เคยทำมา จากก้อนหินก้อนแล้วก้อนเล่าที่พญามังกรทิ้งลงแม่น้ำก็กลายเป็นกองหินกองใหญ่ปิดขวางทางน้ำอีกครั้ง
ในวันที่แม่น้ำถูกปิดกั้น พญามังกรไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ และการบอกลาของแม่น้ำ แต่พญามังกรสนใจแต่ไฟอันเป็นอาหารอันโอชะของตัวเอง และพญามังกรก็เริ่มใช้ปากอันมหึมาดูดกลืนไฟให้หายเข้าไปในปากดั่งเช่นที่เคยทำมา...
นานนับปีที่พญามังกรกลืนกินไฟวันแล้ววันเล่า ไฟที่เคยมีอยู่จำนวนมากก็น้อยลง แม่น้ำที่เคยให้ไฟไม่สามารถให้ไฟได้อีกต่อไป พญามังกรเริ่มหงุดหงิด และงุ่นง่านสะบัดหางฟาดไปทั่วแม่น้ำจนแม่น้ำขุ่นข้น ในวันที่แม่น้ำขุ่นข้น พญามังกรไม่เคยรู้เลยว่า ความตายได้เดินทางมาถึงแม่น้ำแล้ว
แม่น้ำหายใจรวยริน เพราะไม่อาจไหลได้อย่างที่เคยเป็นมา การระเหยหายของแม่น้ำมีมากขึ้น ฤดูน้ำหลาก น้ำไม่หลากแต่กลับลดลง แม่น้ำร้องไห้เงียบงันในสายฝน บางทีนี่อาจเป็นวันสุดท้าย แม่น้ำว่าอย่างนั้นก่อนจะค่อยๆ ไหลอย่างเชื่องช้าไปสู่การหยุดนิ่ง
พญามังกรไม่เคยรับรู้หรือบางทีอาจไม่อยากรับรู้ถึงความเหนื่อยล้า และลมหายใจรวยรินของแม่น้ำ พญามังกรยังคงกลืนกินไฟจากแม่น้ำ เพื่อขยายร่างกายของตัวเองให้อวบอ้วน...
เมื่อไฟน้อยลง พญามังกรก็เลื้อยไปหาไฟจากแหล่งใหม่บนแม่น้ำ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะการขยับเคลื่อนไหวของพญามังกร แม่น้ำหายใจรวยริน และสิ้นใจตายก่อนวัยอันควร