อย่าเพิ่งไปกดประชาชนที่ถูกกดจนไม่ไปใช้สิทธิ ว่าเขา 'นอนหลับทับสิทธิ' อย่าเพิ่งไปสร้างความชอบธรรมให้ประชามติแบบเผด็จการของไทย โดยการยกเอาประชามติของอังกฤษมาเทียบ
ผมขออนุญาตทำ 'ความเห็นแย้ง' ท่านที่ยกเอาประชามติของอังกฤษมาเทียบกับไทย รวมทั้งยกวาทกรรม 'นอนหลับทับสิทธิ' มาลงโทษซ้ำประชาชนที่ 'เลือก' ไม่ไปใช้สิทธิ (เบื้องต้น) ดังนี้
1. กระบวนการประชามติของอังกฤษกับของไทย แตกต่างกันมาก อีกทั้งตัวประยุทธ์เองยังไม่ได้เครมเอาของอังกฤษมาฉาบความชอบธรรมให้กับประชามติแบบเผด็จการของตนเอง ประยุทธ์พูดในทำนองว่าบ้านเมืองเขาไม่เหมือนหรือไม่มีปัญหาเหมือบ้านเมืองเราด้วยซ้ำ ดังนั้นเราไม่ควรไปยกมาเทียบกับประชามติของไทยจนทำให้ประชามติไทยดูชอบธรรมเลย
2. ถ้าเราเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย เชื่อมั่นตามคำขวัญหรือคำที่มักยกมาเวลาพูดถึงประชาชนกันว่า "ประชาชนมีดุลยพินิจ" "เสียงประชาชนเป็นเสียงสวรรค์" การที่ประชาชนเลือกที่จะไม่ไปใช้สิทธิก็มีนัยยะต่อวาระทางการเมืองนั้นๆ แม้ฝ่ายเผด็จการจะพยายาม "ไม่นับ" และทำให้รูปแบบการเลือกไม่ไปใช้สิทธิของประชาชนเป็นสิ่งที่ไม่มีนัยทางการเมือง แต่ผู้ที่สนับสนุนประชาธิปไตย ผู้ที่เชื่อว่า "ประชาชนมีดุลยพินิจ" ในการเลือก ก็ควรช่วยกันชี้ให้เห็นว่าเสียงเหล่านั้นมีความหมายทางการเมือง ไม่ใช่ทำให้เสียของ ด้วยการตราหน้าว่าเป็นพวก "นอนหลับทับสิทธิ" หรือพวกเฉื่อยชาทางการเมือง
3. ผมไม่ได้เหมารวมว่าคนไม่ไปใช้สิทธิเป็นพวกจงใจบอยคอตทั้งหมด แต่ยืนยันว่ามีความหมายแน่นอน ไม่ว่าจะไม่ไปโดยจงใจ ไม่ว่าจะไม่ไปเพราะกระบวนการจัดประชามติครั้งนี้มันไม่แฟร์ไม่ฟรี หรือสร้างบรรยากาศแห่งความกลัวโดยรัฐและผู้จัดประชามติ หรือไม่ไปเพราะไม่อยากยุ่งเอง แต่เมื่อเขารับรู้ถึงวาระทางการเมืองและเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เท่ากับว่าเขาส่งเสียงหรือแสดงมติออกมาแล้ว คนรับผิดชอบไม่ควรเป็นประชาชน ว่าเป็นพวกขี้เกียจหรือไม่สนใจการเมือง แต่คนรับผิดชอบควรเป็นผู้จัดหรือผู้อำนวยประชามติครั้งนี้ ที่มันห่วยแตก ไม่ก็เผด็จการนั่นล่ะครับ
4. รัฐธรรมนูญในฐานะที่เป็นกติกาสูงสุดของประเทศ ความชอบธรรมของมันควรได้รับเสียงรับรองมากกว่า 50% ของผู้มีสิทธิออกเสียงด้วยซ้ำ ความไม่ชอบธรรมของประชามติครั้งนี้อีกอย่างคือเรื่องการ เปลี่ยนมาใช้ "เสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิ" แทน "เสียงข้างมากของผู้มีสิทธิ" เพราะนี่เรากำลังทำสัญญาประชาคมต่อกติกาใหญ่ที่สุดของประชาคมนั้นๆ ไม่ใช่เลือกตัวแทนที่มันมีวาระ ดังนั้นถ้าคนมาโหวตรับรองไม่ถึง 50% หรือคนโหวตไม่รับหรือไม่มาโหวตรับเกิน 50% รัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ไม่ควรมีความชอบธรรม ถ้าจะใช้ก็ต้องเรียกว่า "ฉบับชั่วคราว" และเตรียมกระบวนการร่างและแสวงหามติใหม่ ขนาดองค์กรอย่าสหภาพแรงงานหรือองค์กรอื่นๆ เวลาจะเปลี่ยนแปลงธรรมนูญองค์กรยังต้องใช้เสียงข้างมากของสมาชิกรับรองเลย
5. มีตัวเลขบางอยากที่แสดงให้เห็นว่าประชาชนเลือกและเปลี่ยนใจเมื่อสถานการณ์เปลี่ยน อย่างที่ผมเขียนไว้ใน
บรรยากาศความกลัวทำคน ตอบ 'ยังไม่ตัดสินใจ' โหวตมากขึ้น ในนิด้าโพล? ความน่าสนใจคือตัวเลขจกนิด้าโพลคนตอบ "ไปใช้สิทธิแต่ไม่มีมติไปทางใดทางหนึ่งอยางชัดเจน" ที่แปรผกผันกับตัวเลขคนตอบ "ยังไม่ตัดสินใจ" หลังสถานการณ์การปราบปรามผู้เคลื่อนไหวเกี่ยวกับประชามติอย่างหนักช่วงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา (ดูรูปประกอบด้านล่าง) มันมีความเป็นไปได้ว่าคนเปลี่ยนจากเลือกตอบในทำนองว่า ไปแน่ๆ แต่ไม่บอกว่าจะโหวตอะไร มาเปลี่ยนเป็นตอบว่ายังไม่ตัดสินใจแทน ส่วนกรณียกว่ายิ่งสถานการณ์ปราบหนัก คนจะไม่กล้าตอบว่าไปโหวตโน แต่เขาก็ก็สามารถตอบว่า "ไปใช้สิทธิแต่ไม่มีมติไปทางใดทางหนึ่งอยางชัดเจน" ได้อยู่แล้ว แต่ผลโพลนี้หลังสถานการณ์ปราบหนังคนตอบว่าไปใช้สิทธิดังกล่าวกลับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่กลับไปเพิ่มที่ "ยังไม่ตัดสินใจ" ดังกล่าว
ทั้งหมดผมขอแย้งเบื้องต้นต่อการนำเอาประชามติของอังกฤษมาเทียบกับของไทย และการใช้วาทกรรมนอนหลับทับสิทธิสำหรับผู้ที่เห็นความสำคัญของกระบวนการประชามติและเชื่อมั่นว่าประชาชนมีดุลพินิจหรือเสียงประชาชนคือเสียงสวรรค์ ก็ไม่ควรเอามาเทียบหรือผลิตซ้ำวาทกรรมนี้
ไม่เช่นนั้นจะยิ่งกลายเป็นช่วยกดทับประชาชน ทั้งที่เขาโดน คสช.หรือผู้จัดประชามติกดทับมาแล้วด้านหนึ่ง จนเขาอาจเลือกไม่ยุ่งไม่เอาด้วยกับการประชามติครั้งนี้ แต่พอเขาไม่ไปใช้สิทธิกลับถูกกดซ้ำอีกว่าเป็นพวกเฉื่อยชาหรือนอนหลับทับสิทธิอีก
แน่นอนผมยอมรับนับถือประชาชนที่กล้าหาญมุ่งมั่นออกไปใช้สิทธิ แต่สำหรับผู้ที่ฝักใฝ่ประชาธิปไตยก็ไม่ควรไปลดทอนประชาชนที่เขาถูกกดหรือถูกกระบวนการประชามติกระทำจนไม่อำนวยให้เขาไปเลือกไปใช้สิทธิ ผมจึงอยากชวนผู้ที่เชื่อว่าเสียงประชาชนคือเสียงสวรรค์หรือประชาชนมีดุลยพินิจน่าจะช่วยกันชี้ให้เห็นความหมายของสิ่งที่ประชาชนถูกกดจนเลือกไม่ไปใช้สิทธิดีกว่าครับ
มันไม่ยิ่งน่าน้อยใจหรอกหรือ? ถ้าจะเป็นประชาชนในประเทศนี้ถูกเผด็จการกดทับด้วยความกลัวแล้ว ยังต้องถูกฝ่ายประชาธิปไตยชี้หน้าว่าเป็นพวกนอนหลับทับสิทธิอีก
#เราคือเพื่อนกัน