Skip to main content


จากนั้นเขาจะกลับลำเรือ
กลางน้ำที่เชี่ยวจัด ช่วงนี้สำคัญ ต้องอาศัยความชำนาญ ให้กระแสน้ำปะทะข้างกราบเรือ โดยให้สัมพันธ์กับมุมเรือเลี้ยวกลับ รวมทั้งความเร็วการใช้พายบังคับเรือให้กลับตัว ไม่อย่างนั้นแล้วเรือจะพลิกคว่ำได้ จากนั้นล่องเรือตามกระป๋องล่าปลาที่ตัวโตและราคาดีที่สุดของแม่น้ำนี้ กระป๋องใดจมๆโผล่ๆ นั่นปลากินเบ็ดแล้ว รีบพายเรือไปคว้าขึ้นมา ปลาเต๊าะตัวโตเนื้อหนุ่มจะติดขึ้นมา ปลานี้แกงส้มผักบุ้งอร่อยมาก ได้มาก็นำมากินมาขาย ให้พ่อค้าแม่ค้าตลาดต้นลำไยข้างลำน้ำแม่ปิงนั่นเอง บางทีเขาก็มาซื้อที่บ้านพรานนักล่าปลา บางคนก็ทอดแหยามน้ำแห้ง บางคนใช้เศษไม้กิ่งไม้ มากองรวมกันในน้ำริมตลิ่ง


ใช้ลำไม้ไผ่เล็กๆ ปักเป็นเสาสี่ด้านล้อมรอบเศษไม้นั้น ทิ้งไว้สักพัก นานพอที่คาดว่ามีปลาหลงกลมาอาศัยอยู่ พอได้ที่แล้ว เขาจะพากันใช้ตาข่ายล้อมรอบ นำเศษไม้กิ่งไม้ออกจนหมด ปลาใหญ่น้อยจะอยู่ในนั้น ที่นี้ก็สบาย ลงมือจับโดยใช้แหลง ปลาก็กลายเป็นอาหารของเราชาวลูกน้ำแม่ปิงต่อไป และถ้ามองลงไปเลียบตามริมตลิ่ง จะเห็นเศษไม้ใบไม้ที่กองสุมในน้ำ ล่อปลาให้มาอยู่อาศัย มีกระจายเป็นจุดๆ มีเจ้าของหลายเจ้าทีเดียว แม่ปิงมีปลาหลายชนิด เช่น ปลากด ปลาเต๊าะ (ปลาเทโพ) ปลาปักเป้า ฯลฯ ตรงข้ามวัดศรีโขง ตรงข้ามเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝั่งแม่น้ำทิศตะวันออก มีทางลงสู่หาดทรายข้างตลิ่ง รถยนต์หกล้อบรรทุกทราย จะไต่ลงไปหาหาดทราย จอดตามหาด 2-3 คัน ลูกจ้างใช้พลั่วตักทรายโยนขึ้นหลังรถ เมื่อเต็มแล้ว รถจะเคลื่อนที่ไต่ขึ้นตลิ่งที่ชันเล็กน้อย ได้ยินเสียงเร่งเครื่องดังก้องลำน้ำ กวาดตาไปตามริมหาดทรายด้านตะวันตก มีเรือจอดอยู่ ผู้ชายถอดเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นบ้าง นุ่งผ้าขาวม้าบ้าง จำนวน 2-3 ลำ ผู้ชายผิวดำแดงด้วยแดด ใช้ตะแกรงร่อนทรายหากรวด เขาจะขยับตะแกร่งไปมา ให้ทรายลอดลงไปเหลือเพียงกรวด เมื่อได้ก็โยนลงท้องเรือ เมื่อไม่คอยมีกรวดตรงนั้นแล้ว เขาก็จะย้ายไปอีกที่ ทำอย่างนี้จนได้กรวดมากพอก็ขึ้นฝั่ง กองกรวดจากท้องเรือในที่ของตน กรวดก็สะสมมากขึ้นทุกวัน รอการซื้อขายต่อไป


ตาของผม

ชื่อ “อุ๊ยดำ” บ้านอยู่ริมแม่น้ำปิง ใกล้ประตูวัดเกตุ มีอุปกรณ์การล่าปลาหลายอย่าง ได้ถ่ายทอดวิชาล่าปลาให้กับลุงกับแม่ผม ลุงรับวิชาทำขอเบ็ด ทำอุปกรณ์ตกปลาอื่นๆขาย พอแม่แต่งงานกับพ่อผม แม่จึงย้ายมาอยู่บ้านแม่ข่า ซึ่งอยู่ก้นซอย 3 ถนนราชวงศ์ แม่ฟังสัญญาณธรรมชาติบอกเหตุได้ ค่ำวันใดได้ยินเสียงนกชนิดหนึ่งร้อง ส่งเสียงล่องไปตามลำน้ำ ต้องรีบไป “ตกจ๋ำ” (ยกยอ)ตอนเช้ามืด ผมตามแม่ไปก็ได้ปลามากกว่าวันปรกติจริงๆ บางคนบอกว่า แม่คงได้คาถาเรียกปลาจากตา ผมจะถามแม่ทีไรลืมไปทุกที

 

ยามเทศกาล

ลอยกระทง ชาวเชียงใหม่หรือเรียกอีกอย่างว่า “ คนเมือง” (คนในล้านนาเรียกตัวเองว่า “คนเมือง”) จะร่วมพิธีลอยกระทงในน้ำแม่ปิง บริเวณหน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ และในช่วงสงกรานต์ จะใช้บนขัวเหล็ก (สะพานนวรัฐ) จนถึงหน้าพุทธสถาน ต่อเนื่องตลอดถนนท่าแพ เล่นสาดน้ำรดน้ำสงกรานต์ โดยลงไปตักน้ำแม่ปิงสาดกัน พอวันที่ 14 เมษายน หลังเล่นน้ำแล้ว คนเมืองจะพากันไปตักทรายในน้ำแม่ปิงนำไปเข้าวัด นำไปกองหน้าวิหาร เพื่อทำพิธีต่อในวันถัดไป น้ำแม่ปิงจึงผูกพันจิตใจใกล้ชิดกับคนเมืองมาก เป็นภาพของอดีตในวันนั้น

 

วันนี้

น้ำแม่ปิงอาบไม่ได้ ไม่มีใครนำผ้าไปซัก คนยืนตกปลาในน้ำหายไป มีบ้างยืนตกปลาบนตลิ่ง เป็นการตกปลาเพื่อผักผ่อนมากกว่าตกปลาเพื่อยังชีพดังอดีต มีการบุกรุกน้ำแม่ปิงเพิ่มขึ้น และอาจมีเรือพานักท่องเที่ยวชมสองฝั่งน้ำอย่างขาดการรักษาสิ่งแวดล้อม หรือมีอื่นใดอีก.

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  อ่านกวีนิพนธ์ ของโอมาร์ คัยยัม กวีชาวเปอร์เซียหรืออิหร่าน โดยแคน สังคีต แปลเป็นภาษาไทย ได้เนื้อหาเกี่ยวกับความรักว่า                                                     อันความรัก คืออะไร          ควรใคร่คิด          …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เนาวรัตน์กวาดสายตา เข้าไปในตัวบ้านไม้ชั้นเดียว พื้นบ้านต่ำกว่าระดับถนนคอนกรีตเล็กน้อย   ข้างฝามีปฏิทิน มีรูปคณะซอ   มีรูปแม่จันทร์สม สายธารา   นั่งคู่กับผู้ชายวัยใกล้เคียงกัน   เนาวรัตน์คาดคะเนว่า คงเป็นครูคำผาย นุปิง ทั้งคู่อยู่ในชุดคนเมือง   ข้างหลังนั่งล้อมวง   สวมเสื้อหม้อฮ่อม ปี่ 3 คน ซึง 1 คน เนาวรัตน์มองดูที่หน้าบ้านริมถนน มีสิ่งก่อสร้าง คล้ายโรงครัวเล็กๆ   มีป้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าติดข้างฝา   บอกชื่อแม่จันทร์สม สายธารา   ที่อยู่  …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เสียงปี่ผสมเสียงซึงดังขึ้น  รับกับเสียงผู้ขับซอ   เสียงปีและซึงผสมกลมกลืนมีทั้งหวานแหลมและนุ่มนวล   ก่อเกิดบรรยากาศความเป็นชาวเหนือขึ้นมาทันที   ผู้ขับซอชายนั่งขัดสมาธิ มือถือไมโครโฟนไร้สาย ผู้หญิงนั่งพับเพียบเคียงกัน หันหน้าอวดผู้ชม   ยามผู้ชายขับซอ   ผู้หญิงเอียงตัวไปมา มือไม้ขยับรับเสียงดนตรี   ทำนองดนตรีนั้นเนาวรัตน์ฟังไม่ออก เป็นเพลงอะไร สมัยเด็กๆเขาเข้าใจว่า คนเป่าปี่และคนดีดซึง คงเล่นเพลงเดียวตลอดงาน เพราะฟังทีไรก็เหมือนเดิมทุกที …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เนารัตน์ข้าราชการบำนาญ นั่งเก้าอี้พลาสติกของวัด   ดูซอที่ตั้งเวทีข้างประตูวัด สถานที่ซอเป็นยกพื้นขึ้นสูงราวคอผู้ใหญ่ ปูพื้นด้วยไม้กระดาน ล้อมสามด้านด้วยไม้ไผ่ลำโตขนาดข้อมือเด็ก ด้านละ 2 ต้น คล้ายเชือกกั้นเวทีมวย อีกด้านมีบันไดพาด สำหรับให้คณะซอปีนขึ้นไป สถานที่ขับซอเรียกว่า “ผามซอ” พื้นจะปูด้วยเสื่อ ความจริงเนาวรัตน์ไม่อยากมาชมเท่าไร   อยากได้เรื่องราวเกี่ยวกับด้านบันเทิงของชาวเหนือ นำไปเขียนลงเวบเพื่อเผยแพร่ หรือส่งไปยังหนังสือที่เขาต้องการ...ในวัยเด็กย่าบอกว่า ซอสนุกมาก …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ผู้ใหญ่บ้านได้พูดเสริมต่อจากเจ้าอาวาส “กรรมการวัด ได้มีการประชุมหารือกันก่อนแล้วแล้วรอบหนึ่ง มีเจ้าอาวาสเป็นประธาน คณะกรรมการวัด มีข้อคิดความเห็นว่า จะขอความร่วมมือร่วมใจจากศรัทธาญาติโยมทุกคน ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อจัดงานบวช ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2553 โดยจะขอเก็บหลังคาละ 140 บาท เงิน 40 บาทจะเป็นค่าจัดทำอาหารกลางวัน  เลี้ยงศรัทธาทั้งหมู่บ้าน ส่วนอีก 100 บาท จะเป็นค่าทำบุญและค่าจ้างซอมาเล่นเฉลิมฉลอง จึงอยากถามหมู่เฮาชาวบ้านว่า  จะเห็นด้วยไหม ?” มีเสียงพึมพำอึงในวิหาร …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เสียงเคาะลำโพงปลายเสาไฟฟ้า   ในหมู่บ้านทุ่งแป้ง   ดังขึ้น 3 ครั้ง แล้วมีเสียงพูด “ ฮัลโหล !   ฮัลโหล !   ครับ !   ขอประชาสัมพันธ์ วันนี้กินข้าวแลงแล้ว   เวลาประมาณ 1 ทุ่มเศษ   ขอเชิญทุกบ้านทุกหลังคาเรือน   มาประชุมพร้อมกันที่วัดทุ่งแป้งนะครับ มีหลายเรื่องที่จะประชุมหารือกัน   อย่าได้ขาดกันเน้อ   บอกต่อๆกันไปด้วยเน้อครับ...ขอขอบคุณครับ”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
   
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ได้ยินเสียงหมอเรียก เราทั้งคู่รีบเข้าไป เห็นเจ้าเหมียวนอนตะแคงนิ่งเหมือนท่อนไม้ ลิ้นแดงเล็กห้อยคาปาก หมอบอกว่า เอาลิ้นมันคาปากไว้ หากลิ้นค้างในปากขณะมันสลบ ลิ้นอาจจุกปากหายใจไม่ออกอาจตายได้ มันจะสลบสัก 1 ชั่วโมง ลุงกับป้าช่วยกันอุ้มมันขึ้นรถ   วางมันบนเบาะหลังที่มีผ้าขนหนูรอง พอถึงบ้านอุ้มมันไปวางราบบนม้ายาวที่มีหมอนรอง ลิ้นยังคาปากเหมือนเดิม อดนึกไม่ได้ว่าตอนแมว
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผมมองผ่านทางเดิน ไปห้องครัว เห็นแมวต่างบ้าน เดินย่องเงียบกริบออกมา เจ้าตัวนี้มาขโมยอะไรกินบ่อยๆ ผมหมายตาจะเล่นงานมันหลายครั้ง แต่มันรอดปลอดภัยทุกที ไม่ทำร้ายอะไรมากมายหรอก จะหาไม้เล็กๆไม่ทันแล้ว เราก็นักฟุตบอล ใช้เท้าเคลื่อนไหวประจำ เตะได้ทั้งซ้ายขวา ไม่รู้จักศูนย์หน้าทีมโรงเรียนดังซะแล้ว จะหลบซ้ายขวาเจอหมด  ฮะฮ่า !..เสร็จแน่เจ้าเหมียว แมวขาวดอกลายเดินกลับออกมาใกล้ถึงมุมห้องแล้ว ผมโผล่พรวดออกไป มันตกใจยืนตลึง ผมส่งเสียงข่มขวัญ มันตั้งหลักได้ขยับวิ่งไปทางขวาแล้วแวบมาทางซ้าย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
      พออากาศเริ่มเย็น เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว นกเอี้ยงที่เคยหายไป เริ่มกลับมาส่งเสียงแก๋ๆ ตามยอดต้นโพธิ์ข้างวัด ส่วนนกเขาอยู่ประจำถิ่นในหมู่บ้าน ฤดูไหนผมก็ยังเห็นนกเขาเสมอ เดินไปมาตามถนนบ้าง เกาะสายไฟบ้าง บ้านนี้นกเขามากจริงๆ คนแปลกหน้าเข้ามา จะได้ยินเสียงนกเขาคูระงมหมู่บ้าน คงนึกว่าหมู่บ้านนี้เลี้ยงนกเขา ความจริงไม่เห็นใครเลี้ยงนกเขาเลย มันเป็นนกที่หากินเอง ว่างจากหาอาหาร มันจะคูเสียงขับกล่อมผู้คนชาวทุ่งแป้ง ขณะผมพิมพ์หนังสือ ยังได้ยินเสียงคูทุ้มๆ มาจากทิศเหนือ ละแวกบ้านน้าบุญแว่วมา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  แปรงฟันล้างหน้าเสร็จเรียบร้อย ผมกลับมายืนดูที่หน้าต่างดังเดิม ฝูงนกยางยังคงบินตามกันเต็มท้องฟ้า ไม่รู้จักหมดสิ้น อากาศเริ่มเย็น ลมเย็นพัดมาจากทุ่งหน้าบ้านเอื่อยๆ บอกสัญญาณย่างเข้าสู่ฤดูหนาว นกมากมายไม่รู้มันมาจากไหน มาไกลแค่ไหน บ้างว่ามันมาจากไซบีเรีย จีน มองโกล หิมาลัย มันเป็นนกปากห่าง  นกยาง ฯลฯ จำนวนเป็นแสนตัวทีเดียว สิ่งที่ตามมาคือโรคติดต่อ ต้องระวังไข้หวัดนก ที่มันนำมาฝากเจ้าของบ้าน