Skip to main content

ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง

 

 

 

เช้านี้

ต้นลำไยช่อเหลืองจางในสวน รวมทั้งต้นไม้อื่นๆยืนต้นแข็งทื่อ เสียงนกร้องบางเบา ท้องฟ้าสีตะกั่ว ไม่เห็นแสงแดดเช่นทุกวัน อากาศอึดอัดชวนตะครั่นตะครอ...ฟังข่าวตอนเช้า น่าประหลาดใจทีเดียว ชายชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียอายุ 101 ปี วิ่งมาราธอนระดับโลก ตามปูมหลัง เมื่อเขาอายุได้ 89 ปี ภรรยาเสียชีวิต ยังไม่พอลูกสาวคนโตก็มาเสียชีวิตจากการคลอดลูกอีก ทำให้เขาเศร้าเสียใจมาก เขาถามตนเองว่าชีวิตที่เหลือจะทำอะไร คงคิดอยู่นาน เขาพยายามเรียกกำลังใจกลับมา ได้ตั้งเป้าหมายใหม่ขึ้นมาในชีวิต เขาเลือกการวิ่ง เลือกทำให้ชีวิตมีความสุขด้วยการวิ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เขารักสมัยเป็นเด็ก ได้ทั้งสุขภาพและประโยชน์ต่อสังคม

นักวิ่งมาราธอน

ผู้มีอายุ 101 ปี ชื่อ คุณปู่อูจา ซิงห์ เจ้าของฉายา “ทอร์นาโด โพกผ้า”(Turbaned Tornado) ก่อนการแข่งขันที่ลอนดอน ปี 2000 คุณปู่ได้ติดต่อโค้ชฮาร์แมนเดอร์  ซิงห์ (Harmander Singh)ให้มาช่วยดูแล ใช้เวลาซ้อม 10 สัปดาห์ ขณะวิ่งมาราธอน คุณปู่มีเพื่อนรุ่นน้องอายุ 80 ปี จำนวน 3 คน ร่วมออกวิ่งด้วย เคล็ดลับการกินอาหารของคุณปู่อูจาคือ ท่านกินผักสด ผลไม้สด และจำกัดปริมาณ ทำให้ท่านมีรูปร่างผอมสูง 172 เซนติเมตร น้ำหนักแค่ 52 กิโลกรัม ไม่โกรธเกลียดผู้อื่น คงมาในแนวมองโลกในแง่ดี มีข่าวล่าสุดว่า คุณปู่อูจา จะเข้าร่วมแข่งขันวิ่งมาราธอน รายการ “ ฮ่องกง สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ มาราธอน” ที่กำลังจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2013 เป็นรายการสุดท้าย

หลังเลิกการแข่งขัน

วิ่งมาราธอนแล้ว คุณปู่อูจา ตั้งใจจะวิ่งวันละอย่างน้อย 4 ชั่วโมง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนอื่นๆ อ่านประวัติท่านมาถึงบรรทัดนี้ ผมชักกระดากอาย วันหนึ่งๆผมเดินได้แค่ 25 นาที่ เดินต่อชักเวียนหัว เดินโคลงเคลง เดิน 1 วันแล้วหายไปตั้งหลายวันไป.... การวิ่งนอกจากได้สุขภาพแล้ว คุณปู่ยังได้ระดมเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือคนด้อยโอกาส ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่น่าปรบมือยิ่ง คงมาในรูปแบบการขี่จักรยานรอบโลกเพื่อการกุศล

วันเกิด

กลางเดือนกุมภาพันธ์ ผมได้ไปเยี่ยมครอบครัวนักเขียนดัง ที่บ้านทุ่งเสี้ยวอำเภอสันป่าตอง ผมมักแวะเวียนไปหาเสมอ ไปถามทุกข์สุข คุยกันหลายเรื่องแบบคนกันเอง นักเขียนผู้เป็นภรรยา มีผลงานรวมเล่มหลายเล่ม ท่านคุยเก่งคุยสนุก ส่วนนักเขียนสามีนั้น ท่านมีฝีมือทางดนตรี มือฉมังด้านบทกวีและเรื่องสั้น มีผลงานปรากฏตามหน้าหนังสือต่างๆมากมาย บรรยากาศเรียบง่าย ไม่มีพิธีรีตองอะไร เจ้าของบ้านนำของขบเคี้ยวมาเลี้ยงแขก กระซิบว่า อีกสักครู่หนึ่ง จะมีนักร้องหญิงสาวสวย รูปร่างดี มาร้องเพลงเสียงนุ่มๆหวานๆคลอกีตาร์ให้ฟัง โปรยคำพูดแบบนี้ ทำให้ผมที่เตรียมตัวกลับต้องทิ้งตัวลงนั่งตามเดิม.

                                                       ………………………………..

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  อ่านกวีนิพนธ์ ของโอมาร์ คัยยัม กวีชาวเปอร์เซียหรืออิหร่าน โดยแคน สังคีต แปลเป็นภาษาไทย ได้เนื้อหาเกี่ยวกับความรักว่า                                                     อันความรัก คืออะไร          ควรใคร่คิด          …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เนาวรัตน์กวาดสายตา เข้าไปในตัวบ้านไม้ชั้นเดียว พื้นบ้านต่ำกว่าระดับถนนคอนกรีตเล็กน้อย   ข้างฝามีปฏิทิน มีรูปคณะซอ   มีรูปแม่จันทร์สม สายธารา   นั่งคู่กับผู้ชายวัยใกล้เคียงกัน   เนาวรัตน์คาดคะเนว่า คงเป็นครูคำผาย นุปิง ทั้งคู่อยู่ในชุดคนเมือง   ข้างหลังนั่งล้อมวง   สวมเสื้อหม้อฮ่อม ปี่ 3 คน ซึง 1 คน เนาวรัตน์มองดูที่หน้าบ้านริมถนน มีสิ่งก่อสร้าง คล้ายโรงครัวเล็กๆ   มีป้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าติดข้างฝา   บอกชื่อแม่จันทร์สม สายธารา   ที่อยู่  …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เสียงปี่ผสมเสียงซึงดังขึ้น  รับกับเสียงผู้ขับซอ   เสียงปีและซึงผสมกลมกลืนมีทั้งหวานแหลมและนุ่มนวล   ก่อเกิดบรรยากาศความเป็นชาวเหนือขึ้นมาทันที   ผู้ขับซอชายนั่งขัดสมาธิ มือถือไมโครโฟนไร้สาย ผู้หญิงนั่งพับเพียบเคียงกัน หันหน้าอวดผู้ชม   ยามผู้ชายขับซอ   ผู้หญิงเอียงตัวไปมา มือไม้ขยับรับเสียงดนตรี   ทำนองดนตรีนั้นเนาวรัตน์ฟังไม่ออก เป็นเพลงอะไร สมัยเด็กๆเขาเข้าใจว่า คนเป่าปี่และคนดีดซึง คงเล่นเพลงเดียวตลอดงาน เพราะฟังทีไรก็เหมือนเดิมทุกที …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เนารัตน์ข้าราชการบำนาญ นั่งเก้าอี้พลาสติกของวัด   ดูซอที่ตั้งเวทีข้างประตูวัด สถานที่ซอเป็นยกพื้นขึ้นสูงราวคอผู้ใหญ่ ปูพื้นด้วยไม้กระดาน ล้อมสามด้านด้วยไม้ไผ่ลำโตขนาดข้อมือเด็ก ด้านละ 2 ต้น คล้ายเชือกกั้นเวทีมวย อีกด้านมีบันไดพาด สำหรับให้คณะซอปีนขึ้นไป สถานที่ขับซอเรียกว่า “ผามซอ” พื้นจะปูด้วยเสื่อ ความจริงเนาวรัตน์ไม่อยากมาชมเท่าไร   อยากได้เรื่องราวเกี่ยวกับด้านบันเทิงของชาวเหนือ นำไปเขียนลงเวบเพื่อเผยแพร่ หรือส่งไปยังหนังสือที่เขาต้องการ...ในวัยเด็กย่าบอกว่า ซอสนุกมาก …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ผู้ใหญ่บ้านได้พูดเสริมต่อจากเจ้าอาวาส “กรรมการวัด ได้มีการประชุมหารือกันก่อนแล้วแล้วรอบหนึ่ง มีเจ้าอาวาสเป็นประธาน คณะกรรมการวัด มีข้อคิดความเห็นว่า จะขอความร่วมมือร่วมใจจากศรัทธาญาติโยมทุกคน ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อจัดงานบวช ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2553 โดยจะขอเก็บหลังคาละ 140 บาท เงิน 40 บาทจะเป็นค่าจัดทำอาหารกลางวัน  เลี้ยงศรัทธาทั้งหมู่บ้าน ส่วนอีก 100 บาท จะเป็นค่าทำบุญและค่าจ้างซอมาเล่นเฉลิมฉลอง จึงอยากถามหมู่เฮาชาวบ้านว่า  จะเห็นด้วยไหม ?” มีเสียงพึมพำอึงในวิหาร …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เสียงเคาะลำโพงปลายเสาไฟฟ้า   ในหมู่บ้านทุ่งแป้ง   ดังขึ้น 3 ครั้ง แล้วมีเสียงพูด “ ฮัลโหล !   ฮัลโหล !   ครับ !   ขอประชาสัมพันธ์ วันนี้กินข้าวแลงแล้ว   เวลาประมาณ 1 ทุ่มเศษ   ขอเชิญทุกบ้านทุกหลังคาเรือน   มาประชุมพร้อมกันที่วัดทุ่งแป้งนะครับ มีหลายเรื่องที่จะประชุมหารือกัน   อย่าได้ขาดกันเน้อ   บอกต่อๆกันไปด้วยเน้อครับ...ขอขอบคุณครับ”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
   
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ได้ยินเสียงหมอเรียก เราทั้งคู่รีบเข้าไป เห็นเจ้าเหมียวนอนตะแคงนิ่งเหมือนท่อนไม้ ลิ้นแดงเล็กห้อยคาปาก หมอบอกว่า เอาลิ้นมันคาปากไว้ หากลิ้นค้างในปากขณะมันสลบ ลิ้นอาจจุกปากหายใจไม่ออกอาจตายได้ มันจะสลบสัก 1 ชั่วโมง ลุงกับป้าช่วยกันอุ้มมันขึ้นรถ   วางมันบนเบาะหลังที่มีผ้าขนหนูรอง พอถึงบ้านอุ้มมันไปวางราบบนม้ายาวที่มีหมอนรอง ลิ้นยังคาปากเหมือนเดิม อดนึกไม่ได้ว่าตอนแมว
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผมมองผ่านทางเดิน ไปห้องครัว เห็นแมวต่างบ้าน เดินย่องเงียบกริบออกมา เจ้าตัวนี้มาขโมยอะไรกินบ่อยๆ ผมหมายตาจะเล่นงานมันหลายครั้ง แต่มันรอดปลอดภัยทุกที ไม่ทำร้ายอะไรมากมายหรอก จะหาไม้เล็กๆไม่ทันแล้ว เราก็นักฟุตบอล ใช้เท้าเคลื่อนไหวประจำ เตะได้ทั้งซ้ายขวา ไม่รู้จักศูนย์หน้าทีมโรงเรียนดังซะแล้ว จะหลบซ้ายขวาเจอหมด  ฮะฮ่า !..เสร็จแน่เจ้าเหมียว แมวขาวดอกลายเดินกลับออกมาใกล้ถึงมุมห้องแล้ว ผมโผล่พรวดออกไป มันตกใจยืนตลึง ผมส่งเสียงข่มขวัญ มันตั้งหลักได้ขยับวิ่งไปทางขวาแล้วแวบมาทางซ้าย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
      พออากาศเริ่มเย็น เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว นกเอี้ยงที่เคยหายไป เริ่มกลับมาส่งเสียงแก๋ๆ ตามยอดต้นโพธิ์ข้างวัด ส่วนนกเขาอยู่ประจำถิ่นในหมู่บ้าน ฤดูไหนผมก็ยังเห็นนกเขาเสมอ เดินไปมาตามถนนบ้าง เกาะสายไฟบ้าง บ้านนี้นกเขามากจริงๆ คนแปลกหน้าเข้ามา จะได้ยินเสียงนกเขาคูระงมหมู่บ้าน คงนึกว่าหมู่บ้านนี้เลี้ยงนกเขา ความจริงไม่เห็นใครเลี้ยงนกเขาเลย มันเป็นนกที่หากินเอง ว่างจากหาอาหาร มันจะคูเสียงขับกล่อมผู้คนชาวทุ่งแป้ง ขณะผมพิมพ์หนังสือ ยังได้ยินเสียงคูทุ้มๆ มาจากทิศเหนือ ละแวกบ้านน้าบุญแว่วมา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  แปรงฟันล้างหน้าเสร็จเรียบร้อย ผมกลับมายืนดูที่หน้าต่างดังเดิม ฝูงนกยางยังคงบินตามกันเต็มท้องฟ้า ไม่รู้จักหมดสิ้น อากาศเริ่มเย็น ลมเย็นพัดมาจากทุ่งหน้าบ้านเอื่อยๆ บอกสัญญาณย่างเข้าสู่ฤดูหนาว นกมากมายไม่รู้มันมาจากไหน มาไกลแค่ไหน บ้างว่ามันมาจากไซบีเรีย จีน มองโกล หิมาลัย มันเป็นนกปากห่าง  นกยาง ฯลฯ จำนวนเป็นแสนตัวทีเดียว สิ่งที่ตามมาคือโรคติดต่อ ต้องระวังไข้หวัดนก ที่มันนำมาฝากเจ้าของบ้าน