Skip to main content

 

ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง

 

แผ่นดินไหว
เกิดจากอะไร ตั้งแต่สมัยโบราณ บ้างเชื่อว่าแผ่นดินไหวเกิดจากความพิโรธของเทพแห่งแผ่นดิน เทพแห่งผืนน้ำและมหาสมุทร ชาวตะวันออกเชื่อว่า เกิดจากพญามังกรที่อาศัยอยู่ใต้ดินเคลื่อนตัว หรือปลายักษ์สะบัดหางอยู่ในมหาสมุทร หรือไม่ก็อสูรในทะเลบิดพลิกตัว คนไทยโบราณเชื่อกันว่า เกิดจาก“ปลาอานนท์”ที่หนุนโลกไว้ขยับตัวไปมา เรื่องปลาอานนท์นี้ ย่าเคยเล่าให้ผมฟัง ทำให้เห็นปลาตัวใหญ่ในจินตนาการ รูปร่างคงเหมือนวาฬยักษ์มหึมากำลังขยับตัวไปมา

ความรู้เรื่องแผ่นดินไหว
ที่เป็นแนวทางในการศึกษาคนยอมรับ ไล่จากจุดเริ่มต้นแล้วพัฒนาจนปัจจุบันคือ
             1.ทฤษฎีเกี่ยวกับรอยเลื่อน(Faults) โดยขาวอเมริกันชื่อ โกรฟ คาร์ล กิลเบริ์ด เป็นผู้เสนอทฤษฎี
             2.ทฤษฎียืดและหดกลับ(Elastic Rebound Theory) โดย แฮร์รี ฟิลดิง เรด เป็นเจ้าของทฤษฎี
             3.ทฤษฎีทวีปเลื่อน(Continental Drift Theory) เสนอโดย อัลเฟรด เวเกเนอร์
             4. ทฤษฎีการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก(Plate Tectonics Theory)
สาเหตุแผ่นดินไหว
ส่วนใหญ่เกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกแผ่นต่างๆ แล้วชนกัน หรือเสียดสีกัน มุดตัวหรือแทรกตัวเข้าทับซ้อนกัน ก็จะเกิดอาการสั่นสะเทือน นอกนั้นเกิดจากสาเหตุ ภูเขาไฟระเบิด การทดลองระเบิดปรมาณู รอยเลื่อนเป็นรอยแยกหรือรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก เมื่อแผ่นเปลือกโลกขยับตัวตรงรอยเลื่อน ก็จะเกิดการปะทะกันของแผ่นเปลือกโลก เป็นเหตุเกิดแผ่นดินไหว เมื่อรอยเลื่อนหยุดเคลื่อนไหว แต่จะมีการขยับตัวให้เข้าที่ในตำแหน่งใหม่ จึงเกิด After Shock ตามมา

ผิวโลกของเรา
ประกอบด้วยแผ่นเปลือกโลกมากกว่า 50 แผ่น มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ เรียงติดกันคล้ายภาพต่อหรือจิกซอว์(Jigsaw) ประกอบกันเป็นทรงกลม และแผ่นเปลือกโลกต่างๆเหล่านี้ ลอยอยู่บนชั้นของเหลวหลอมละลาย ที่อยู่ใต้ผิวโลกลึกลงไป ของเหลวนี้มีความร้อนสูง จึงมีพลังงานผลักดันตัวเองให้เคลื่อนไหว ไปตามทิศทางต่างๆได้ตลอดเวลา และของเหลวเหล่านี้เป็นตัวทำให้เกิดแรงผลักดันเปลือกโลกแผ่นต่างๆ เคลื่อนไปตามทิศทางที่ถูกแรงผลักดัน แผ่นเปลือกโลกจึงคล้ายลอยอยู่บนของเหลวร้อน เปลือกโลกชั้นนอกมีความลึกจากผิวนอกลงไปถึงเปลือกโลกชั้นในราว 32-60 กิโลเมตร เป็นชั้นดิน หิน โลหะ แร่ธาตุต่างๆ ถัดจากเปลือกโลกชั้นนอกลงไปเรียกว่าเปลือกโลกชั้นใน ชั้นนี้ลึกลงไปถึงศูนย์กลางประมาณ 2,900 กิโลเมตร ประกอบด้วยหินและโลหะหลอมละลาย ถัดลงไปเป็นชั้นแกนโลกชั้นนอก มีความลึกลงไปถึงศูนย์กลาง 2,200 กิโลเมตร ประกอบด้วยโลหะหลอมละลายและกำมถัน มีอุณหภูมิ 2,200 เซลเซียส ชั้นสุดท้ายเรียกว่า แกนโลกชั้นใน ประกอบด้วยโลหะหลอมละลาย อุณหภูมิ 4,500 เซลเซียส

5 พฤษภาคม พ.ศ.2557
เวลาราว 18.08 นาฬิกา กำลังนั่งกินข้าว ณ หัวบันไดบ้าน รู้สึกอะไรสั่นไหว มองเห็นราวบันไดส่วนที่ใช่จับเวลาเดินขึ้นลงโยกซ้ายขวา ต่อมาด้านหน้าตัวบ้านชั้นบนขยับตัวซ้ายขวาบ้าง คล้ายอะไรที่ทรงพลังแต่มองไม่เห็นจับบิดไปมา เหมือนฉากในละครพื้นบ้านทางโทรทัศน์ เฉาก๊วยสุนัขคู่กายวิ่งลงบันได ได้ยินเสียงคนใกล้บ้านตะโกนบอกกัน ทันใดนั้นโทรทัศน์แจ้งข่าวแผ่นดินไหวแทรกรายการรวดเร็วว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริกเตอร์ ศูนย์กลางที่อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่เวลา 18.08 น. เกิดนานราว 15 วินาที อาคารเรียนเสียหาย บ้านพังกว่าพันหลัง ถนนแยกเป็นร่องลึก โบสถ์ วิหาร โรงพยาบาล ได้รับความเสียหาย เกิดอุบัติเหตุทางถนน รุ่งขึ้นรายงานว่าเกิด After Shock ตลอดคืนจำนวน 90 ครั้ง ประชาชนกางเต็นท์นอนนอกบ้าน ไม่ได้หรับได้นอนเพราะมี After Shock มาเรื่อยๆ ทั้งระดับรุนแรงมากบ้างน้อยบ้าง...จนถึงวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2557 นับได้ 843 ครั้ง น่าเห็นใจประชาชนในอำเภอพานและใกล้เคียงที่ประสบเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดของประเทศไทย.

                                    ............................................................................
 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  อ่านกวีนิพนธ์ ของโอมาร์ คัยยัม กวีชาวเปอร์เซียหรืออิหร่าน โดยแคน สังคีต แปลเป็นภาษาไทย ได้เนื้อหาเกี่ยวกับความรักว่า                                                     อันความรัก คืออะไร          ควรใคร่คิด          …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เนาวรัตน์กวาดสายตา เข้าไปในตัวบ้านไม้ชั้นเดียว พื้นบ้านต่ำกว่าระดับถนนคอนกรีตเล็กน้อย   ข้างฝามีปฏิทิน มีรูปคณะซอ   มีรูปแม่จันทร์สม สายธารา   นั่งคู่กับผู้ชายวัยใกล้เคียงกัน   เนาวรัตน์คาดคะเนว่า คงเป็นครูคำผาย นุปิง ทั้งคู่อยู่ในชุดคนเมือง   ข้างหลังนั่งล้อมวง   สวมเสื้อหม้อฮ่อม ปี่ 3 คน ซึง 1 คน เนาวรัตน์มองดูที่หน้าบ้านริมถนน มีสิ่งก่อสร้าง คล้ายโรงครัวเล็กๆ   มีป้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าติดข้างฝา   บอกชื่อแม่จันทร์สม สายธารา   ที่อยู่  …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เสียงปี่ผสมเสียงซึงดังขึ้น  รับกับเสียงผู้ขับซอ   เสียงปีและซึงผสมกลมกลืนมีทั้งหวานแหลมและนุ่มนวล   ก่อเกิดบรรยากาศความเป็นชาวเหนือขึ้นมาทันที   ผู้ขับซอชายนั่งขัดสมาธิ มือถือไมโครโฟนไร้สาย ผู้หญิงนั่งพับเพียบเคียงกัน หันหน้าอวดผู้ชม   ยามผู้ชายขับซอ   ผู้หญิงเอียงตัวไปมา มือไม้ขยับรับเสียงดนตรี   ทำนองดนตรีนั้นเนาวรัตน์ฟังไม่ออก เป็นเพลงอะไร สมัยเด็กๆเขาเข้าใจว่า คนเป่าปี่และคนดีดซึง คงเล่นเพลงเดียวตลอดงาน เพราะฟังทีไรก็เหมือนเดิมทุกที …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เนารัตน์ข้าราชการบำนาญ นั่งเก้าอี้พลาสติกของวัด   ดูซอที่ตั้งเวทีข้างประตูวัด สถานที่ซอเป็นยกพื้นขึ้นสูงราวคอผู้ใหญ่ ปูพื้นด้วยไม้กระดาน ล้อมสามด้านด้วยไม้ไผ่ลำโตขนาดข้อมือเด็ก ด้านละ 2 ต้น คล้ายเชือกกั้นเวทีมวย อีกด้านมีบันไดพาด สำหรับให้คณะซอปีนขึ้นไป สถานที่ขับซอเรียกว่า “ผามซอ” พื้นจะปูด้วยเสื่อ ความจริงเนาวรัตน์ไม่อยากมาชมเท่าไร   อยากได้เรื่องราวเกี่ยวกับด้านบันเทิงของชาวเหนือ นำไปเขียนลงเวบเพื่อเผยแพร่ หรือส่งไปยังหนังสือที่เขาต้องการ...ในวัยเด็กย่าบอกว่า ซอสนุกมาก …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ผู้ใหญ่บ้านได้พูดเสริมต่อจากเจ้าอาวาส “กรรมการวัด ได้มีการประชุมหารือกันก่อนแล้วแล้วรอบหนึ่ง มีเจ้าอาวาสเป็นประธาน คณะกรรมการวัด มีข้อคิดความเห็นว่า จะขอความร่วมมือร่วมใจจากศรัทธาญาติโยมทุกคน ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อจัดงานบวช ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2553 โดยจะขอเก็บหลังคาละ 140 บาท เงิน 40 บาทจะเป็นค่าจัดทำอาหารกลางวัน  เลี้ยงศรัทธาทั้งหมู่บ้าน ส่วนอีก 100 บาท จะเป็นค่าทำบุญและค่าจ้างซอมาเล่นเฉลิมฉลอง จึงอยากถามหมู่เฮาชาวบ้านว่า  จะเห็นด้วยไหม ?” มีเสียงพึมพำอึงในวิหาร …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เสียงเคาะลำโพงปลายเสาไฟฟ้า   ในหมู่บ้านทุ่งแป้ง   ดังขึ้น 3 ครั้ง แล้วมีเสียงพูด “ ฮัลโหล !   ฮัลโหล !   ครับ !   ขอประชาสัมพันธ์ วันนี้กินข้าวแลงแล้ว   เวลาประมาณ 1 ทุ่มเศษ   ขอเชิญทุกบ้านทุกหลังคาเรือน   มาประชุมพร้อมกันที่วัดทุ่งแป้งนะครับ มีหลายเรื่องที่จะประชุมหารือกัน   อย่าได้ขาดกันเน้อ   บอกต่อๆกันไปด้วยเน้อครับ...ขอขอบคุณครับ”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
   
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ได้ยินเสียงหมอเรียก เราทั้งคู่รีบเข้าไป เห็นเจ้าเหมียวนอนตะแคงนิ่งเหมือนท่อนไม้ ลิ้นแดงเล็กห้อยคาปาก หมอบอกว่า เอาลิ้นมันคาปากไว้ หากลิ้นค้างในปากขณะมันสลบ ลิ้นอาจจุกปากหายใจไม่ออกอาจตายได้ มันจะสลบสัก 1 ชั่วโมง ลุงกับป้าช่วยกันอุ้มมันขึ้นรถ   วางมันบนเบาะหลังที่มีผ้าขนหนูรอง พอถึงบ้านอุ้มมันไปวางราบบนม้ายาวที่มีหมอนรอง ลิ้นยังคาปากเหมือนเดิม อดนึกไม่ได้ว่าตอนแมว
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผมมองผ่านทางเดิน ไปห้องครัว เห็นแมวต่างบ้าน เดินย่องเงียบกริบออกมา เจ้าตัวนี้มาขโมยอะไรกินบ่อยๆ ผมหมายตาจะเล่นงานมันหลายครั้ง แต่มันรอดปลอดภัยทุกที ไม่ทำร้ายอะไรมากมายหรอก จะหาไม้เล็กๆไม่ทันแล้ว เราก็นักฟุตบอล ใช้เท้าเคลื่อนไหวประจำ เตะได้ทั้งซ้ายขวา ไม่รู้จักศูนย์หน้าทีมโรงเรียนดังซะแล้ว จะหลบซ้ายขวาเจอหมด  ฮะฮ่า !..เสร็จแน่เจ้าเหมียว แมวขาวดอกลายเดินกลับออกมาใกล้ถึงมุมห้องแล้ว ผมโผล่พรวดออกไป มันตกใจยืนตลึง ผมส่งเสียงข่มขวัญ มันตั้งหลักได้ขยับวิ่งไปทางขวาแล้วแวบมาทางซ้าย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
      พออากาศเริ่มเย็น เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว นกเอี้ยงที่เคยหายไป เริ่มกลับมาส่งเสียงแก๋ๆ ตามยอดต้นโพธิ์ข้างวัด ส่วนนกเขาอยู่ประจำถิ่นในหมู่บ้าน ฤดูไหนผมก็ยังเห็นนกเขาเสมอ เดินไปมาตามถนนบ้าง เกาะสายไฟบ้าง บ้านนี้นกเขามากจริงๆ คนแปลกหน้าเข้ามา จะได้ยินเสียงนกเขาคูระงมหมู่บ้าน คงนึกว่าหมู่บ้านนี้เลี้ยงนกเขา ความจริงไม่เห็นใครเลี้ยงนกเขาเลย มันเป็นนกที่หากินเอง ว่างจากหาอาหาร มันจะคูเสียงขับกล่อมผู้คนชาวทุ่งแป้ง ขณะผมพิมพ์หนังสือ ยังได้ยินเสียงคูทุ้มๆ มาจากทิศเหนือ ละแวกบ้านน้าบุญแว่วมา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  แปรงฟันล้างหน้าเสร็จเรียบร้อย ผมกลับมายืนดูที่หน้าต่างดังเดิม ฝูงนกยางยังคงบินตามกันเต็มท้องฟ้า ไม่รู้จักหมดสิ้น อากาศเริ่มเย็น ลมเย็นพัดมาจากทุ่งหน้าบ้านเอื่อยๆ บอกสัญญาณย่างเข้าสู่ฤดูหนาว นกมากมายไม่รู้มันมาจากไหน มาไกลแค่ไหน บ้างว่ามันมาจากไซบีเรีย จีน มองโกล หิมาลัย มันเป็นนกปากห่าง  นกยาง ฯลฯ จำนวนเป็นแสนตัวทีเดียว สิ่งที่ตามมาคือโรคติดต่อ ต้องระวังไข้หวัดนก ที่มันนำมาฝากเจ้าของบ้าน