Skip to main content

บล็อกกาซีน ประชาไท

ปรเมศวร์ กาแก้ว
ผมเริ่มรับพฤติกรรมหล่อนไม่ได้เสียแล้ว ยิ่งนานวันเข้า รากฝอยของความเกียจคร้านก็ชอนไชแตกงามไปทั่วฝ่ามือและฝ่าเท้าบอบบางของหล่อน การงานทุกอย่างจึงต้องตกเป็นหน้าที่ของผมไปโดยปริยาย ทั้งที่ก่อนนั้นหล่อนเองต่างหากที่เป็นฝ่ายคิดเสนอโปรเจ็กยั่วใจเหล่านั้นขึ้นมาเพื่อหวังพัฒนาหน้าที่การงานที่หล่อนรับผิดชอบอยู่ ผมเริ่มสงสัยถึงเรื่องการมีจิตสาธารณะ จิตอาสาหรือการมีหัวใจ ความเป็นมนุษย์ของตัวเองว่ามันบกพร่อง หรือสั่นคลอนไปแล้วหรือไร ถึงได้คิดประหวั่นพรั่นพรึงกับพฤติกรรมของหล่อนได้ถึงเพียงนี้ หรืออีกนัยหนึ่ง ความละเอียดอ่อนต่อมิติทางสังคมบางอย่างของผมอาจหล่นหายไประหว่างการร่วมงานกับหล่อนเสียบ้างแล้ว
SenseMaker
  หลังจากหลายบทความในคอลัมน์แห่งนี้ ข้าพเจ้าได้ใช้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ที่นับวันดูเหมือนว่า "เป็นการยากสำหรับประชาชน ที่จะทำความเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เพื่อการดำรงชีวิตอย่างเท่าทัน" บทความวันนี้ จึงถูกเขียนขึ้นเพื่อแสดงทัศนะเกี่ยวกับกลไกทางสังคม ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน เพื่อทำหน้าที่คุ้มกันและช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบหรือถูกกระทำ จากความเปลี่ยนแปลงทางสังคมเหล่านี้ โดยไม่อาจป้องกันตนเองได้อย่างเท่าทัน หากขาดไปซึ่งกลไกทางสังคมที่จะขอกล่าวถึงในวันนี้เรามาเริ่มทบทวนกันก่อนว่าความเปลี่ยนแปลงทางสังคม ซึ่งถูกกล่าวถึงในคอลัมน์แห่งนี้ ซึ่งมีอยู่ด้วยกันในหลายเรื่อง มีอะไรบ้าง
กวีประชาไท
   Photo by : phu_chiangdao  ลมโลมไล้เลื่อนร้าง            ยะเยือกหนาวล่วงระยิบเดือนดาว             จากฟ้าแดดเช้าส่องงามพราว         คายตื่นเหมือนหยดน้ำค้างหล้า        ร่วงไว้วันวัย ฯลฯเชิญหัวใจรับสัมผัส             จัดแย้มผลิละอองไหวเหมือนเผยดอกหมู่ไม้         ในเนื้อดินอันอาทร ฯเชิญโคลงกลอนร้อยรับ       ขับให้โลกหมองหม่นร้อนหนาวโลกใจแรมรอน          สะท้านว้างนึกจัดวาง ฯร้อนโลกอย่างไรหนอ         ย่ำใจท้อย้ำลุกค้างคลี่ขุ่นเคลื่อนคลุมพราง       ม่านดวงใจไหวเช้าคืน ฯเห่..หาอารมณ์หนึ่ง             โลกให้พึ่งให้ผลัดฟื้นยามย่ำก้าวค้ำยืน               ได้นึกกล่อมน้อมอารมณ์ ฯลมเลื่อนโลมลูบไล้            ว้างแว่วในไว้ล่วงถมโลกพราวประกายชม          เชิญชีพใช้ประกายวัน ฯพา..ขวัญดวงใจนี้              ด้วยโลกมีที่รองชั้นนำความรู้สึกอัน                ว้างวุ่นไหนไว้กลั่นกรอง.                                      ณรงค์ยุทธ โคตรคำ 
โอ ไม้จัตวา
 เพลงนี้ชื่อเพลง You've got a friend. ขับร้องโดย Carole King เธอเล่นเปียโนด้วย เป็นเวอร์ชั่นที่ฟังครั้งแรกก็รู้สึกชอบ เสียงร้องกับเสียงเปียโนไปด้วยกัน แต่ฟังไปสักสิบรอบจะรู้สึกว่าเสียงเธอแข็ง เหมือนตะโกนยังไงไม่รู้
สวนหนังสือ
นายยืนยง ชื่อหนังสือ : เพลงกล่อมผี ผู้เขียน : นากิบ มาห์ฟูซ ผู้แปล : แคน สังคีต จาก Wedding Song ภาษาอังกฤษโดย โอลีฟ อี เคนนี ประเภท : นวนิยาย พิมพ์ครั้งแรก มิถุนายน 2534 จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์รวมทรรศน์ หนาวลมเหมันต์แห่งพุทธศักราช 2552 เยียบเย็นยิ่งกว่า ผ้าผวยดูไร้ตัวตนไปเลยเมื่อเจอะเข้ากับลมหนาวขณะมกราคมสั่นเทิ้มด้วยคน ฉันขดตัวอยู่ในห้องหลบลมลอดช่องตึกอันทารุณ อ่านหนังสือเก่า ๆ ที่อุดม ไรฝุ่นยั่วอาการภูมิแพ้ โรคประจำศตวรรษที่ใครก็มีประสบการณ์ร่วม อ่านเพลงกล่อมผีของนากิบ มาห์ฟูซ ที่แคน สังคีต ฝากสำนวนแปลไว้อย่างเฟื่องฟุ้งเลยทีเดียว ถือว่าหนังสือเล่มนี้เป็นแรงบันดาลใจใหญ่หลวงเลยก็ว่าได้ สำหรับนักเขียนหรือนักปรารถนาจะเขียนเช่นเดียวกัน ฉันลงความเห็นกับตัวเองว่า เพลงกล่อมผี เล่มนี้เป็นอาจารย์ของนักเขียนในหลายวิชา ทั้งวิชาว่าด้วยเทคนิคการประพันธ์ วิชาปรัชญา ศาสนาเปรียบเทียบ อาจรวมถึงวิชาโลกียชนด้วย
หัวไม้ story
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ ‘นิวส์ออฟเดอะเวิลด์' ของอังกฤษ มีผู้เข้าชมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากที่เคยมีคนแค่ ‘หลักพัน' คลิกเข้ามาอ่านข่าวประเภทสีสันบันเทิงซุบซิบดารา แต่ทันทีที่สื่อกระแสหลักอย่างสำนักข่าวบีบีซี เอพี รอยเตอร์ หรือไทม์ของอังกฤษ รายงานว่าเว็บนิวส์ออฟเดอะเวิลด์ มีการเผยแพร่ ‘คลิปหลุด' ของ ‘เจ้าชายแฮรี่' รัชทายาทลำดับที่ 3 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ยอดผู้เข้าชมก็พุ่งแตะหลัก 50,000 คนภายในเวลาไม่กี่วัน สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือการถกเถียงอย่างจริงจังในชุมชนพลเมืองอินเตอร์เน็ต ว่าด้วยเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ, สิทธิส่วนบุคคล, เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และประเด็นทางการเมืองระหว่างประเทศสาเหตุสืบเนื่องมาจากเจ้าชายแฮรี่ทรงบันทึกวิดีโอประจำวันไว้ขณะทรงเข้ารับการฝึกอบรมภาคสนามที่อัฟกานิสถานในฐานะนักเรียนนายร้อยแห่งโรงเรียนแซนด์เฮิร์สต์เมื่อปี 2549 พระองค์ทรงหลุดปากเรียกนักเรียนนายร้อยเชื้อสายเอเชียที่เป็นพระสหายร่วมชั้นว่า ‘ปากี' และบอกกับพระสหายอีกคนหนึ่งซึ่งแต่งชุดพรางและมีผ้าโพกหัวว่า ดูเหมือน ‘พวกหัวผ้าขี้ริ้ว' หรือ ‘raghead'ทั้ง 2 คำที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของเจ้าชายเป็นประเด็นอ่อนไหวในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างอังกฤษ (ซึ่งเป็นต้นตำรับแห่งการล่าอาณานิคม) รวมถึงสังคมอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากคำเรียกที่แฝงนัยเชิงเหมารวม ถึงขั้นที่หลายคนมองว่าเป็น ‘การเหยียดเชื้อชาติ' ที่ไม่อาจยอมรับได้วิดีโอดังกล่าวหลุดมาถึงมือกอง บ.ก.หนังสือพิมพ์นิวส์ออฟเดอะเวิลด์ได้อย่างไรไม่มีใครรู้ แต่ที่สำคัญคือเจ้าชายแฮรี่ทรงตกเป็นเป้าแห่งการวิพากษ์วิจารณ์เรื่อง ‘ความไม่เหมาะสม' และกลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองระหว่างประเทศไปเรียบร้อยแล้วเป็นแค่เรื่องล้อเล่น?วันเดียวกับที่คลิปวิดีโอของเจ้าชายแฮรี่เผยแพร่ออกสู่สาธารณชน ทางสำนักพระราชวังของอังกฤษก็ออกแถลงการณ์ ‘แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง' ต่อประชาชนผู้อาจได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ อันสืบเนื่องมาจาก ‘พระดำรัสที่ไม่เหมาะสม' ของเจ้าชาย แต่เนื้อหาที่ทิ้งท้ายในแถลงการณ์ระบุว่า วิดีโอที่หลุดออกมาถูกถ่ายไว้ตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน และอันที่จริง...เจ้าชายทรงใช้ถ้อยคำที่ว่าเรียกพระสหายที่สนิทสนมกับในกองทัพเท่านั้น หาได้เป็นการ ‘เหยียดเชื้อชาติ' อย่างใดไม่ ผู้ออกความเห็นท้ายข่าวในเว็บไซต์นิวส์ออฟเดอะเวิลด์จำนวนมากเห็นด้วยกับคำแถลงการณ์ของสำนักพระราชวัง และยืนยันว่า ‘ปากี' ไม่ใช่คำที่เลวร้ายอะไร และแทบจะไม่ต่างอะไรจากการตั้งฉายาไว้เรียกหยอกล้อกันในหมู่เพื่อนฝูง ซึ่งจะว่าไปคำว่า ‘ปากี' อาจไม่ต่างจากคำว่า ‘ลาว' ที่คนไทยบางคนชอบใช้เป็นคำวิเศษณ์ในความหมายเชิงกดทับว่าไม่ดี ไม่สวย ไม่เด่น ไม่ทันสมัย ฯลฯ แต่ถ้าคิดถึงใจ ‘คนเชื้อชาติลาว' ที่ได้ยินได้ฟังคำนี้บ่อยๆ ในสังคมที่นิยมความเป็น ‘ไทย' คงเป็นคำที่ไม่ทำให้รู้สึกดีสักเท่าไหร่มิหนำซ้ำคำว่า ‘ปากี' ของเจ้าชายแฮรี่อาจยิ่งเลวร้ายกว่า เพราะกลุ่มขวาจัดที่สนับสนุนแนวคิดว่าคนผิวขาวคือเผ่าพันธุ์สูงส่งกว่าชนชาติอื่นๆ ในอังกฤษยุคทศวรรษที่ 70 เป็นผู้เริ่มต้นใช้คำว่า ‘ปากี' เพื่อเรียกทั้งชาวปากีสถานและชาวอินเดียที่อพยพมาตั้งรกรากในอังกฤษ ทั้งยังมีการก่อเหตุทำร้ายร่างกายชาวปากีสถาน หลายคดี จนเป็นที่เรียกว่า Paki Bashing (1) ส่วนคนที่ ‘จริงจัง' กับคำ ‘ปากี' ของเจ้าชายก็มีอยู่จริงๆ เขาคือ ‘อิฟทิการ์ ราจา' พลเมืองอังกฤษ เชื้อสายปากีสถาน ผู้เป็นลุงของ ‘อาเหม็ด ราซา ข่าน' นักเรียนนายร้อยที่เจ้าชายทรงเรียกว่า ‘เพื่อนชาวปากีของเรา' ออกมาบอกเล่าความรู้สึกของคนที่ถูกตั้งฉายาเหมารวมว่า"พวกเราต่างคาดหวังสิ่งที่ดีกว่านี้จากสมาชิกราชวงศ์ของเรา ซึ่งพวกเราต้องจ่ายเงินเป็นล้านล้านปอนด์สำหรับการฝึกอบรมและการศึกษา" (2)แม้แต่นายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ ยังออกมากล่าวว่า การใช้คำ ‘ปากี' เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ และกองทัพอังกฤษก็พยายามแบ่งรับแบ่งสู้ด้วยการประกาศว่าการเหยียดเชื้อชาตในกองทัพจะต้องถูกกำจัดให้หมดไป และจะทำเรื่องสอบสวนข้อเท็จจริงในคลิปวิดีโอฉาวของเจ้าชายโดยเร็วที่สุด (3)ลึกแต่ไม่ลับกับเจ้าชายด้านนิตยสารไทม์ของสหรัฐฯ ได้เรียงลำดับเหตุการณ์เกี่ยวกับเจ้าชายแฮรี่ตั้งแต่ครั้งยังทรงพระเยาว์จนถึงปัจจุบัน เพื่อแสดงให้เห็นว่า ‘นี่ไม่ใช่ครั้งแรก' ที่การปฏิบัติพระองค์ของเจ้าชายกลายเป็นประเด็นถกเถียงของคนหมู่มากว่า ‘เหมาะสม' หรือ ‘ไม่เหมาะสม' อย่างไร- เริ่มจากปี 2545 ครูในโรงเรียนอีตัน (โรงเรียนสำหรับ ‘ชนชั้นนำของอังกฤษ' และเป็นโรงเรียนที่นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นศิษย์เก่าด้วย) รายหนึ่งกล่าวหาว่าเจ้าชายแฮรี่ ‘ลอกข้อสอบ' แต่ผลการสืบสวนชี้ว่าเจ้าชายทรงปราศจากความผิดในทุกข้อกล่าวหา และครูคนนั้นก็ถูกไล่ออกไปในที่สุด- เจ้าชายแฮรี่ทรงทดลองสูบกัญชาเมื่อทรงมีพระชนมายุ 16 ชันษา แต่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระบิดา ทรงจับได้ จึงถูกส่งไปบำบัดกับจิตแพทย์โดยใช้เวลายาวนานตลอดยามบ่ายวันหนึ่ง- ในปี 2548 ทรงเสด็จไปงานเลี้ยงของพระสหายซึ่งตั้งเงื่อนไขว่าผู้มาร่วมงานต้องสวมชุดในยุคอาณานิคมหรือชุดชนพื้นเมือง แต่เจ้าชายแฮรี่กลับทรงชุดทหารพร้อมปลอกแขนที่มีสัญลักษณ์สวัสดิกะของนาซีเยอรมัน และหนังสือพิมพ์เดอะซันของอังกฤษนำภาพมาเผยแพร่ลงหน้าหนึ่ง กลายเป็นที่โจษจันไปทั่วโลก เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่ลืมความโหดร้ายของฮิตเลอร์และกองทัพนาซี ผลก็คือสำนักราชวังออกแถลงการณ์ในนามเจ้าชาย เพื่อแสดงความเสียพระทัยต่อความรู้เท่าไม่ถึงการณ์- ต่อจากเหตุการณ์ชุดนาซีไม่นาน เจ้าชายทรงเมามายและชกต่อยกับช่างภาพปาปาราซซี่ที่ตามถ่ายภาพพระองค์ขณะรายล้อมด้วยสาวๆ ในไนท์คลับ ผลก็คือช่างภาพกลายเป็นข่าวเสียเอง ส่วนเจ้าชายโดนกล้องทุบจนพระโอษฐ์แตกอย่างไรก็ตาม สื่อหลายสำนักยืนยันตรงกันว่านับตั้งแต่จบการศึกษาจากแซนด์เฮิร์ส เจ้าชายแฮรี่ทรงมุงานด้านการกุศลอย่างจริงจังร่วมกับเจ้าชายวิลเลี่ยม พระเชษฐา รัชทายาทลำดับที่ 2 ของราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งทั้งสองพระองค์ทรงริเริ่มโครงการช่วยเหลือเด็กกำพร้าในเลโซโทและประเทศในแถบแอฟริการ่วมกัน ที่สำคัญ ช่วงท้ายๆ ของวิดีโอที่นิวส์ออฟเดอะเวิลด์นำมาเผยแพร่ แสดงให้เห็นภาพเจ้าชายแฮรี่ทรงใช้พระชิวหาเลียใบหน้าของนายทหารนายหนึ่ง ทำให้เกย์ชาวอเมริกันออกมาชื่นชมในความเปิดเผยของพระองค์ พร้อมระบุว่าถ้าชายแท้ในสังคมเปิดใจให้กว้างและรู้สึกสบายๆ กับการล้อเล่นกับเพื่อนเพศเดียวกัน จะช่วยให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ!! (4)‘สื่อ' เสี้ยม? ในบรรดาความเห็นของผู้ชมวิดีโอเจ้าชายแฮรี่พร้อมกับอ่านรายงานในนิวส์ออฟเดอะเวิลด์ หลายคนตำหนิว่าหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ที่เป็นต้นตอเผยแพร่ต่างหากที่มีพฤติกรรม ‘น่ารังเกียจ' เพราะนำเรื่องส่วนตัวของเจ้าชายมาขายเป็นข่าวเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ โดยหยิบเอาประเด็นเรื่องเชื้อชาติมาใช้เป็นข้ออ้างในการนำเสนอ ทั้งที่เจตนาของเจ้าชายเพียงแค่ต้องการล้อเล่นเท่านั้นกระแสโจมตีสื่อที่นำเสนอวิดีโอเจ้าชายกลายเป็นหมัดสวนกลับมาให้ ‘สื่อมวลชน' หลายฝ่ายหนาวๆ ร้อนๆ เพราะนอกจากจะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลแล้ว ยังหนีไม่พ้นข้อหา ‘เสี้ยม' หรือปลุกปั่นยุยงให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ เพราะชาวปากีสถาน (ที่อยู่ประเทศปากีสถานจริง) ได้ยินข่าวก็ออกมาเดินขบวนประท้วงด้วยความไม่พอใจ เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกองทัพที่รับผิดชอบเรื่องการจัดหาบุคลากรก็ออกปากว่าคลิปวิดีโอของเจ้าชายไม่เป็นผลดีต่อกองทัพ เพราะอาจทำให้ชาวอังกฤษเชื้อสายเอเชียไม่อยากเข้าร่วมกองทัพ และยังมีการตำหนิสื่อมวลชนที่เสนอข่าวโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่ตามมาด้วย (5)หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ที่เล่นแต่ข่าวเบาๆ ฉาวๆ และบันเทิง ต้นกำเนิดวัฒนธรรมกัด-จิก-ทึ้ง-และปาปาราซซี่จึงถูกชี้นิ้วกล่าวโทษว่าคำนึงถึงการขายข่าวมากเกินไป แต่ ‘ไบรอัน รีด' คอลัมนิสต์ของ ‘เดอะ มิเรอร์' หนึ่งในบรรดาหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ของอังกฤษ ได้เขียนบทความชื่อ "Just no excuse for aristro-brat Prince Harry" ตอบโต้ข้อกล่าวหาว่าสื่อยุยง (6)เนื้อหาในบทความของรีดเท้าความถึงกรณีพิพาทระหว่างประเทศอันสืบเนื่องจากคำพูดของ ‘เจด กู๊ดดี้' นักแสดงสาวชาวอังกฤษที่เข้าร่วมแข่งขันในรายการบิ๊กบราเธอร์เมื่อประมาณ 2-3 ปีก่อน ซึ่งหลุดปากใช้คำว่า ‘โรตี' หรือ ‘Poppadom' เรียกผู้แข่งขันอีกรายหนึ่งซึ่งมาจากอินเดียกระแสต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและกระแสต่อต้านกู๊ดดี้ในขณะนั้นรุนแรงถึงขนาดที่กอร์ดอน บราวน์ ต้องออกมาขอโทษชาวอินเดีย ขณะที่สังคมอังกฤษเองก็พากันประณามการกระทำของกู๊ดดี้และแปะฉลากเป็นการถาวรว่าเธอเป็นพวกจิตใจคับแคบเหยียดเชื้อชาติ พร้อมกันนี้ รีดได้เตือนความจำของผู้ที่ออกมาแก้ต่างให้เจ้าชายว่าคำเรียกพระสหายว่า ‘ปากี' อาจเป็นแค่เรื่องขำๆ แต่คำว่า ‘หัวผ้าขี้ริ้ว' หรือ raghead ซึ่งสำนักพระราชวังออกมาแก้ต่างว่าเจ้าชายทรงใช้คำนี้เพื่อสื่อความหมายถึง ‘นักรบของกองกำลังตาลีบัน' ซึ่งถือเป็นกลุ่มก่อการร้าย แต่ raghead เป็นคำที่มีนัยยะเชิงดูหมิ่นชาวอาหรับทุกชาติที่โพกหัวตามความเชื่อทางศาสนา รีดจึงตั้งคำถามว่าเหตุไฉนคนอังกฤษจึงเดือดร้อนจะเป็นจะตายกับการกระทำของกู๊ดดี้ แต่พร้อมที่จะให้อภัยต่อการกระทำของเจ้าชายอย่างง่ายดาย และสรุปตบท้ายว่า ‘อภิสิทธิ์เหนือระดับของชนชั้นสูงยังคงอยู่ในสังคมอังกฤษเสมอ'‘เสรีภาพ' ในพรมแดนทดลองวิวาทะเรื่องเจ้าชายอังกฤษและการใช้ถ้อยคำเหยียดเชื้อชาติ กลายเป็นประเด็นที่ประชาชนอังกฤษ รวมถึงพลเมืองในประเทศที่ถูกพาดพิง และพลเมืองในโลกไซเบอร์หลากหลายสัญชาติ สามารถร่วมถกเถียงกันได้อย่างดุเดือดผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ผู้ร่วมถกเถียงบางส่วนต้องการปกป้องเจ้าชายที่พวกเขานิยมชมชอบ โดยให้เหตุผลว่าพระองค์ทรงมีเลือดเนื้อเช่นปุถุชนทั่วไป จึงเห็นต่างจากคนอีกจำนวนหนึ่งซึ่งคาดหวังให้เจ้าชายของพวกเขาเป็นตัวแทนและเป็นหน้าเป็นตาของราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งควรจะต้องดำรงไว้ซึ่งความเหมาะสมและสง่างามในทุกเวลา ส่วนคนอีกบางกลุ่มมองว่า ‘การเหยียดเชื้อชาติ' ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในที่ลับหรือที่แจ้ง การใช้ถ้อยคำในการเรียกผู้คนที่แตกต่างจึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและต้องระมัดระวัง ในระยะเวลาไล่เลี่ยกันที่บ้านเมืองไทยของเรา องค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดนกลับตั้งคำถามว่า "หรือประเทศไทยจะเป็นศัตรูรายใหม่ของสื่ออินเตอร์เน็ต" โดยอ้างถึงกรณีที่ ‘ใจ อึ๊งภากรณ์' อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถูกฟ้องร้องข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และมีการพาดพิงถึงหนังสือ ‘A Coup for a Rich' ซึ่งเปิดให้ดาวน์โหลดฟรีทางอินเตอร์เน็ตว่าเป็นเครื่องมือทำลายชื่อเสียงพระมหากษัตริย์ ขณะเดียวกัน ‘นายสุวิชา ท่าค้อ' วัย 35 ปี ถูกดำเนินคดีในข้อหาโพสต์ข้อความหมิ่นฯ ตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ปี 2550 หลังจากกระทรวงไอซีทีประกาศ ‘ล้างบาง' กว่า 2,300 เว็บไซต์ที่เป็นอันตรายต่อสถาบันกษัตริย์ได้ไม่นาน ส่วนชะตากรรมของ ‘นายแฮรี่ นิโคไลด์ส' ชาวออสเตรเลียเชื้อสายกรีก ผู้ต้องหาซึ่งถูกจับเพราะเขียนหนังสือนิยายพาดพิงสมาชิกราชวงศ์ไทย ติดคุกมาแล้ว 4 เดือน ถูกปฏิเสธการประกันตัว 4 ครั้ง และคดีก็ยังไม่คืบหน้าไปถึงไหน จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ หากพื้นที่สื่ออินเตอร์เน็ตในเมืองไทยจะยังเป็นได้แค่พรมแดนทดลองของเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเท่านั้น. ข้อมูลอ้างอิง(1) Britain: Prince Harry and the ‘P' word(2) Prince's apology for racist term(3) Prince Harry ‘Paki' comment unacceptable, says Gordon Brown(4) Prince Harry has homophobia licked: gay rights campaigner(5) Prince Harry ‘Paki' remark could harm ethnic recruiting(6) Just no excuse for aristro-brat Prince Harry     
คนไม่มีอะไร
 ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ คนใด้เดือดร้อนแน่นอนทางเข้าท่าเรือน้ำลึกปากบาราจังหวัดสตูล เป็นโครงการเชื่อมสงขลา - สตูล (สะพานเศรษฐกิจ)แบบก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบาราระยะแรกผังโครงอาหารฮาลาลจังหวัดปัตตานีสิ่งที่จะเกิดในสตูล มองภาพสวยมาก แต่แปลกรูปทั้งหมดที่ผ่านเจ้าของโครงการไม่พูดถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น พูดแต่ตัวเลข    
การะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์
ลีอองกำลังโตวันโตคืนค่ะ แต่ยิ่งโตยิ่งร้าย เวลาไม่ได้ดั่งใจจะพับหูข้างนึงแล้วจ้องหน้ามามี้แบบนี้
แพร จารุ
ไนท์ซาฟารีที่อยู่ของสัตว์กลางคืน ฉันไม่เคยไปที่นั่นสักครั้งเดียว แม้ว่าจะมีงานเปิดอย่างยิ่งใหญ่ ใครต่อใครก็เดินทางไปที่นั่น และฉันถูกถามบ่อยๆ ว่า “ไปไนท์ซาฟารีมาหรือยัง” “ทำไมไม่ไป” ฉันได้แต่ยิ้มๆ ไม่ได้ตอบอะไร นอกจากว่า คนถามมีเวลาจริง ๆ ฉันก็จะอธิบายให้เขาฟังว่า ที่ไม่ไปเพราะไม่เห็นด้วยกับการสร้างไนท์ซาฟารีตั้งแต่ต้นและเห็นด้วยกับกลุ่มคัดค้านมาโดยตลอด ไปประชุมสัมมนากับเขาเสมอ
นาโก๊ะลี
เราต่างเติบโตมาอยู่ร่วมยุคสมัย พบเห็นโลกเป็นไปเสมอเหมือน อาจหลงลืมบางเรื่องลางเลือน แต่บางสิ่งเรากลบเกลื่อนความทรงจำ
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ในวัยเด็ก ผมปล้ำเล่นกับน้อง น้องชายอายุ 4 ขวบ ผมอายุ 7 ขวบ ผมปล้ำสู้ไม่ได้ น้องแข็งแรงมาก ผมอดขำหัวเราะไม่ได้ ผมปล้ำเจียนอยู่เจียนแพ้ จึงเปลี่ยนยุทธวีธี ใช้ลำตัวกดทับขาน้องให้แนบพื้นกระดานบ้าน ป้องกันการถีบสกัด ใช้มือทั้งสองจับข้อมือน้องชายกดไว้ น้องสะบัดหน้าไปมา แรงแกสม่ำเสมอ ผมอดหัวเราะไม่ได้ จนเผยอปากอวดฟันหลอ อดใจไม่ไหว ก้มหน้าลงไปใช้จมูกหอมแก้มซ้าย 1 ฟอด น้องส่ายหน้าไปมาคงเขิน ผมหัวเราะชอบใจพูดว่า เก่งนักหรือ หอมแก้มขวาอีกฟอดแล้วปล่อย น้องลุกขึ้นยืนถ่างขา มือน้อยๆ กำเป็นรูปกำปั้นเตรียมสู้ต่อ แม่ทำอาหารหันมาเอ็ดว่า ทำอะไรกันเสียงดังลั่น ผมออกปากยอมแพ้แกจึงหยุด ยืนทำหน้าขึงขังอยู่ที่เดิม
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ดงน้อยเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะหยุดค้างแรม มีห้องน้ำที่ทำด้วยไม้ไผ่สานใบตองตึงต่ออย่างหยาบๆ ในห้องขุดลึกเป็นโพรงราวๆ 3 เมตร ปากหลุมเป็น 4 เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 1x1 เมตร มีไม้พาดระหว่างปากหลุมให้นักท่องเที่ยวเข้าไปนั่งทำธุระทั้งหนักและเบานักเดินป่าสัก 10 คน มาถึงดงน้อยในเย็นวันนั้น อากาศขมุกขมัวทำให้เวลากลางวันสั้นกว่าเวลากลางคืน มืดสนิทภายใต้อ้อมกอดของขุนเขาและราวป่า ลูกหาบของคณะเดินป่าชุดนั้นเริ่มอุธทรณ์ เมื่อพวกเขาคิดว่า จะเดินไปอ่างสลุงในคืนนั้น เพื่อให้ทันดูทะเลหมอก“หากพวกคุณจะไป พวกคุณไปได้เลย ลูกหาบ(4 คน)จะพักที่นี่แล้วตามไปพรุ่งนี้”“อ่าว แล้วเราจะเอาอะไรกินคืนนี้” หนึ่งในนั้นเริ่ม“!!!...” ไม่มีคำตอบจากลูกหาบ“เพิ่งมีชาวบ้านเจอหมีในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา” ประมาณว่า เชื่อผมสิ พักที่นี่แหละ สรุปความได้ว่า นักเดินป่าคณะใหญ่จำต้องนอนค้างที่จุดพักแรมดงน้อย

แท็กล่าสุด

แท็กยอดนิยม