Skip to main content

บล็อกกาซีน ประชาไท

นาโก๊ะลี
เรื่องราวของเด็กคนที่หนึ่งครูสั่งให้เด็กทำงานฝีมือ เป็นงานพวกเย็บปักถักร้อย  เด็กหญิงคนนี้ก็เย็บตุ๊กตา ด้วยฝีมือที่ปรานีต ด้วยความตั้งใจอย่างที่สุด  และเธอก็ได้ตุ๊กตาที่สวยสมใจ  และเป็นความภาคภูมิใจที่เธอทำมันขึ้นมาด้วยตัวเอง   และเมื่อถึงเวลาส่งงาน ครูก็กล่าวหาว่าเธอให้แม่ทำให้  และคาดคั้นให้เธอยอมรับว่า งานนี้แม่เธอทำให้ เธอไม่ได้ทำด้วยตัวเอง  เด็กหญิงยืนยันว่าเธอทำมันเองด้วยความตั้งใจ  แต่ครูก็ไม่เชื่อ  แล้วก็ยังคาดคั้นให้เธอยอมรับให้ได้อยู่นั่นเอง ทั้งขู่ว่า ถ้าไม่ยอมรับ จะเรียกผู้ปกครองมาพบ  ไม่ว่าเด็กหญิงจะพูดอย่างไร ครูก็ไม่มีทางเชื่อ  ในที่สุดครูก็เชิญผู้ปกครองมาพบ  แต่กระนั้น  ไม่ว่าอย่างไร ครูก็ยังเชื่ออยู่นั่นเองว่า งานชิ้นนี้หาใช่ฝีมือเด็กผู้หญิงอายุสิบขวบไม่  แต่หลายวันต่อมา เมื่อมีงานแสดงผลงานของเด็ก ครูก็ยังมาขอตุ๊กตาตัวที่แกไม่เชื่อว่านี่เป็นผลงานของเด็กอายุสิบขวบ ไปแสดงร่วมกับงานชิ้นอื่นๆ  โดยมิได้ละอายใจ
สุมาตร ภูลายยาว
“สาละวินไม่มีคน” คือคำพูดของบรรดานักพัฒนาผู้แสวงหากำไรบนหนทางของการพัฒนาลุ่มน้ำแห่งนี้ได้ยกขึ้นมาบอกกล่าวจนชินหู แต่หากได้ลงมาล่องเรือเลียบเลาะสายน้ำชายแดนแห่งนี้ จะพบว่าแม่น้ำนานาชาติสายที่ยาวที่สุดในภูมิภาคอุษาคเนย์ที่ยังคงไหลอย่างอิสระแห่งนี้เป็นบ้าน เป็นชีวิตของผู้คนมากมาย โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในผืนป่าตลอดสองฝั่งน้ำงานวิจัยปกากญอ “วิถีแม่น้ำและผืนป่าของปกากญอสาละวิน” ได้จัดทำโดยนักวิจัยชาวบ้าน ปกากญอ หรือชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงจาก ๕๐ หย่อมบ้านในพื้นที่ลุ่มน้ำสาละวินบนพรมแดนไทย-พม่า เขต อ.แม่สะเรียง และ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงว่าในลุ่มน้ำแห่งนี้มีคนเล็กๆ อาศัยอยู่ และรักษาทรัพยากรดุจดังชีวิตของตนเองการศึกษาครอบคลุมพื้นที่ลุ่มน้ำสาละวินตลอดแนวพรมแดนไทย-พม่า โดยศึกษาข้อมูลฐานในประเด็นพันธุ์ปลา เครื่องมือหาปลาพื้นบ้าน การเกษตร พรรณพืชในป่า และสังคมวัฒนธรรมของชาวปกากญอ เพื่อนำมาอธิบายความสลับซับซ้อนของระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพในลุ่มน้ำสาละวิน และวิถีชีวิต เศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรมของชุมชนที่ตั้งอยู่บนฐานของระบบนิเวศน์ดังกล่าว ตลอดจนพิธีกรรมและความเชื่อของชุมชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ งานวิจัยปกากญอสาละวินได้นำเอาวิธีการวิจัยไทบ้านที่ดำเนินการที่ปากมูนมาปรับใช้ แต่ยังคงตั้งบนฐานงานวิจัยไทบ้าน นั่นก็คือ ชาวบ้านเป็นนักวิจัยโดยใช้ความรู้พื้นบ้านในการอธิบายข้อมูลด้านต่างๆ ภายใต้การสนับสนุนขององค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมที่ช่วยประสานงานและช่วยจัดทำเอกสารในฐานะผู้ช่วยนักวิจัยงานวิจัยปกากญอสาละวินได้ใช้วิธีการวิจัยผสมผสานกัน ทั้งการประชุมกลุ่มนักวิจัย การสำรวจภาคสนาม การสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลหลัก และการสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วม โดยดำเนินการรวมระยะเวลาทั้งสิ้น ๒ ปี ๗ เดือน โดยใช้ภาษาถิ่น คือภาษาปกากญอสะกอ เป็นภาษาหลักในการศึกษา ผลการศึกษาพบว่า แม่น้ำสาละวินตลอดเส้นพรมแดน มีระบบนิเวศที่สลับซับซ้อน อาทิ แก่ง วังน้ำ หาดทราย และระบบนิเวศย่อยตามลำห้วยสาขาอีกมากมาย ความหลากหลายซับซ้อนทั้งหมดนี้ เป็นทั้งบ้านของปลานานาชนิด และแหล่งหาอยู่หากินของชาวบ้าน
ที่ว่างและเวลา
เรื่อง/ภาพโดย วัชระ สุขปาน ลำธารสีเทา ขัดเงา จนเกิดริ้วสีเงิน ฝูงปลาพลิกพลิ้วตัว สะท้อนแสงกลับไปบอกเวลากับดวงอาทิตย์
ผักกูดอ่อน ยอดใบบอน ยอดผักหนาม ฟ้อนอรชรอยู่ริมคุ้งน้ำ ถ้ายังไม่มีใครไปเก็บ ก็จะเป็นสุมทุม ที่วัวควายชอบซุ่มตัวต้นไม้ล้มขวางลำธารโดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นเพราะธรรมชาติ ก็พอเป็นสะพานใช้ข้ามไปถึงเขียงนา ก็ยังมีขนุน มะม่วง ส้มโอ ถั่ว ข้าวโพดสาลี พริก มะเขือ และพืชผักๆ ฯลฯ ให้ได้เห็น และเก็บกินก่อไฟ ต้มน้ำชา นั่งสนทนา และ บ้างเคี้ยวเมี่ยง สูบยาขี้โย
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
  
เงาศิลป์
มือขวาที่บวมเบ่ง ความสากกร้านที่ห่อหุ้มยิ่งทำให้มือนั้นดูเทอะทะ เจ้าของมือยังมีเค้าความสวยงาม แม้วัยล่วงเลยจนเป็นย่าคนแล้ว เธอยังต้องทำงานหนัก จนกระทั่งบาดเจ็บ
ฉันค่อยๆลูบยาหม่องสูตรเข้มข้นที่ปรุงเอง ความร้อนของน้ำมันสมุนไพรคงพอบรรเทาอาการ ที่สำคัญกว่าสิ่งใดในการเยียวยาคือให้พักงาน หยุดใช้มือนั้นทำงานสักระยะ  เธอยิ้มตอบคำแนะนำอย่างสดใส บนใบหน้ากร้านแดด บอกว่าทำไม่ได้หรอก งานมีเยอะแยะ หนี้สินอีกมากมายจะหยุดทำงานได้อย่างไร“นี่ก็เปลี่ยนกันทำงาน ให้ตาเก้ไปรับจ้างไถไร่เพิ้น เอาเงินมาซื้อน้ำมันสูบน้ำใส่ไร่อ้อย ข้อยกะต้องมาเลี้ยงวัวแล้วกะเสียหญ้าอ้อยไปนำ” ฉันคลึงเบาๆที่นิ้วกลางอันบวมช้ำ เพื่อให้น้ำมันซึมลงใต้ผิวหนัง คำบอกเล่าเรื่อยๆอย่างเป็นธรรมดาในน้ำเสียง แต่ฉันสิ ที่เป็นฝ่ายสะท้อนใจ...จะอีกสักเท่าไหร่กันหนอ จึงจะพอเรื่องของน้ำ น้ำมัน และหนี้สิน ดูเหมือนจะมีสาเหตุมาจากการขาดน้ำเสียงขุดเจาะน้ำบาดาลที่ดังกึงๆ เงียบลงแล้ว ช่างเจาะบอกว่าเจอหินที่แข็งมาก มันเป็นหินทรายที่ใช้ลับมีด ฉะนั้น บ่อน้ำบาดาลของฉันอาจจะมีความลึกได้แค่เพียง 30 เมตร และน้ำจับที่ระดับ 21 เมตร โอ...คุณพระช่วย ฉันไม่อยากคิดถึงปริมาณน้ำที่ยังไม่ได้ทดลองสูบขึ้นมาดูว่าจะไหลมากน้อยและสม่ำเสมอแค่ไหน
สวนหนังสือ
‘นายยืนยง’ชื่อหนังสือ      :    เถ้าถ่านแห่งวารวัน    The Remains of the Day ประเภท            :    วรรณกรรมแปลจัดพิมพ์โดย    :    แพรวสำนักพิมพ์พิมพ์ครั้งที่ ๑    :    กุมภาพันธ์   ๒๕๔๙ผู้เขียน            :    คาสึโอะ  อิชิงุโระ ผู้แปล            :    นาลันทา  คุปต์
กิตติพันธ์ กันจินะ
งานวิจัยมากมายทยอยออกมานำเสนอผ่านสื่อมวลชน ในช่วงก่อนวาเลนไทน์ ชนิดที่ว่า นอกจากจะเป็นช่วงเทศกาลวันแห่งความรักแล้ว ยังเป็นเทศกาลนำเสนอผลวิจัยวัยรุ่นอีกก็ว่าได้งานวิจัยที่ออกมาส่วนใหญ่แล้ว มีลักษณะ “ถ้ำมอง” และ นำเสนอด้าน “ลบ” ของวัยรุ่นเพียงอย่างเดียว ทำนองว่า วัยรุ่นจะมีเพศสัมพันธ์กันมากที่สุดในวันดังกล่าว – ผมเองได้พยายามค้นหาดูว่ามีผลวิจัยหรืองานสำรวจอะไรบ้างที่ให้ข้อเสนอแนะทางออกในเชิงสร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่องเพศของวัยรุ่นนอกจากผลการสำรวจของ เครือข่ายเยาวชนด้านเอดส์ ประเทศไทย (Youth Net) ที่เสนอว่า วัยรุ่นกว่า 70% เห็นว่าควรมีวิชาเพศศึกษาในหลักสูตรของทุกโรงเรียน นักเรียนทุกคนควรได้เรียนเพศศึกษาอย่างต่อเนื่องทุกระดับชั้น และครูควรตอบข้อสงสัยในเรื่องเพศศึกษาของนักเรียนได้อย่างกระจ่างชัด กว่าครึ่งของวัยรุ่นที่ทำการสำรวจ (2,000 คน) ไม่เห็นด้วยต่อประเด็นที่ว่าเพศศึกษาควรสอนเรื่องการรักนวลสงวนตัวเท่านั้น สะท้อนให้เห็นว่าการจัดเพศศึกษาที่เข้าถึงและตอบโจทย์วัยรุ่นได้ทุกคนนั้น จะต้องเริ่มจากการให้ทางเลือกที่หลากหลายสำหรับแต่ละคนที่มีวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน ในการจัดการสัมพันธภาพและวิถีเพศของตนเอง

ส่วนด้านการเข้าถึงอุปกรณ์ป้องกันที่ทำให้วัยรุ่นปลอดภัย กว่าครึ่งอยากให้นักเรียนขอรับถุงยางอนามัยที่โรงเรียนได้ และเห็นว่าผู้หญิงควรเป็นผู้พกพา รวมทั้งเห็นว่าสถาบันการศึกษาควรมีนโยบายที่ปฏิบัติต่อเพศทางเลือก เกย์ กะเทย ทอม ดี้ อย่างเท่าเทียม  และในกรณีที่ตั้งครรภ์ ควรได้รับสิทธิให้เรียนต่อได้ทั้งขณะตั้งครรภ์หรือหลังคลอดตามความสมัครใจ เพศศึกษาสำหรับเยาวชนในสถานศึกษา จึงไม่ได้หมายความเพียงการจัดให้มีการเรียนการสอน แต่ยังต้องสะท้อนให้เห็นในการปฏิบัติต่อเยาวชนอย่างเห็นคุณค่าที่เท่าเทียมในมิติอื่นๆ ด้วยและวัยรุ่นกว่า 70% ยังต้องการให้ผู้ใหญ่ โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครองพูดคุยและรับฟังความในใจเรื่องความรักและเรื่องเพศ จึงถึงเวลาที่เด็กและผู้ใหญ่ต้องหันหน้ามาเจอกัน เพราะว่าการสอนเรื่องเพศศึกษาเป็นยิ่งกว่านโยบาย เพราะเป็นจิตสำนึกที่จะช่วยดูแลให้เยาวชนอยู่รอดปลอดภัยจากปัญหาเพศสัมพันธ์ ซึ่งอาจทำลายนักเรียนได้ทุกกลุ่ม นอกจากผลสำรวจในเชิงสร้างสรรค์ ที่เป็นข้อเสนอแนะและทางออกสำหรับวัยรุ่นต่อเรื่องเพศ ของ Youth Net แล้ว ก็ไม่ค่อยเห็นผลอะไรไปมากกว่านั้น นอกจากนี้ ความคิดเห็น คนอื่นๆ ต่อผลสำรวจเท่าที่หาได้คือ ที่ “เพ็ญพิลาส เหล็มปาน” จาก คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เสนอว่า
วาดวลี
“เธอดูโน่นสิ แดดออกแล้ว แต่ฝนยังตกอยู่เลย”ฉันเอ่ยเสียงดัง แล้วละสายตาจากคอมพิวเตอร์ ออกมายืนยังประตูบ้าน กลิ่นไอฝนกระทบกับผืนดินแตะปลายจมูก  สูดกลิ่นเข้าไปเต็มปอด พลางพิจารณาแสงแดดที่ค่อยๆ มาแทนที่อย่างเชื่องช้าคนข้างกายลุกขึ้นบ้าง เราสองคนออกมายืนดูสายฝน ที่มีเม็ดเล็กลงเรื่อยๆ ตกช้าลง ช้าลง จนกระทั่งหยุดตก เหลือไว้เพียงก็รอยหมาดฝนบนผืนดิน ใบไม้ และทางเดิน “แบบนี้ต้องมีรุ้งกินน้ำแน่ๆ หิวข้าวหรือยัง”
“อ้าว เกี่ยวกันยังไง” ฉันทำหน้าเบ๋อ พุ่งตัวเข้าไปใกล้เธอในระยะประชิด“แปลว่าเราออกไปหาอะไรกิน แล้วไปดูรุ้งกินน้ำด้วยไง”ฉันยิ้มกริ่ม ถ้าเธอมีเวลาอยู่กับฉันทุกวันก็คงจะดี นานๆ หน ที่รู้สึกได้อย่างนี้ วางหนังสือไว้บนชั้น วางงานไว้บนโต๊ะ หยิบเงินใส่กระเป๋ากางเกง ก้าวออกมาพร้อมกับกล้องถ่ายรูปคู่ใจ
เธอพาฉันขี่มอเตอร์ไซค์ออกมา ลัดเลาะมาตามทางเล็กๆ  โผล่สู่ถนนใหญ่นอกเมือง  รอบข้างของเราเป็นทุ่งนาที่กำลังถูกหว่านเมล็ดพันธุ์ใหม่
แสงดาว ศรัทธามั่น
“ความรักคือการให้”เป็นดวงใจ สะอาดพิสุทธิ์ สดใสสรวงสวรรค์แห่งรักย่อมเริงระบำงามเรืองไรเพียงเราไซร้  อย่าไร้ซึ่งชีวิตจิตวิญญาณ์เรื่อง…รัก เรื่อง Sex ...ฤา? คือสามัญธรรดาไร้ชนชั้นเพียงหัวใจนั้นรู้รักโลกชีวีกันเถิดหนาเมื่อกลองดวงใจร่ำรัวร้องดังขึ้นบ่งบอกชีวาจึงบรรลุธรรมว่า...โลกเอกภพจักรวาลนี้ ล้วนมีรัก...จักดำรงรัก...ส่วนตน+ส่วนตัว...หรือรักโลกแสงแดด-สายลมโชยโบยโบกหวานฉ่ำนักผีเสื้อ-แมลงปอเริงระบำบทเพลง พริ้มทายทักชีพชีวันจึงประจักษ์ว่าโลกนี้ยังงดงาม!Oh…My BeLoved!...ศานติภาพแห่งรักมนุษยชาติตระหนักว่ารักนี้งามวาบหวามเถิด โอบกอดรักกันไว้ทั่วเขตคามนิยามรักย่อมยั่งยืนนาน-งดงามเป็นนิรันดร์...We Love You!ต้นฤดูหนาว ๑๕ มกราคม ๒๕๕๑บ้าน “น้ำใส-สวนงาม” บ้านวัชรียา + ธารรพีอ.สันทราย ต.ป่าไผ่ ,ล้านนาอิสรา, เจียงใหม่ภาพประกอบ ธารรพี  ชมพูพร ศิลปิน+กวี จากดินแดนด้ามขวานด่านใต้ ผู้มาปักหลักฐานที่มั่นอยู่เจียงใหม
กวีประชาไท
              (๑)  กลางคืนดึกดื่นนี้         หนอยัง    เช้าแต่รื้อความหลัง               สั่งย้ำ    อยากเยือนหยุดความหวัง      หลายขณะ    แต่ทุกครั้งกลืนกล้ำ               ร่ำไห้เสน่หา  ฯ        (๒)  โอ้วาจาห่วงให้         ลับหาย    จึ่งจ่อจารร้อยสาย                กลั่นแก้ว    กระทั่งเพื่อแผ่พราย               จากส่วน    ที่เยี่ยมเยือนยลแล้ว              ย่อยน้ำกายใจ  ฯ        (๓)  ให้โลกฉันท์กลั่นค้าง  ครวญเสียง    ร้อยลักษณ์ใคร่เผดียง            เริ่มต้น    จากสัมผัสบางเพียง              ไหวหวั่น    สิ่งที่เหลือดื้อรั้น                   ยิ่งย้ำถ่ายถอน  ฯ        (๔)  โคลงย้อนกลอนกล่าวเกลี้ยง ผ่านเลย    อกค่ำเช้าดื่มเปรย                 หม่นร้าง    เหลือแต่สื่อใบ้เฉย                เบี้ยบอด  ต่อมา    สิ่งที่เหลืออยู่สร้าง               ย่ำล้ำฝึกตน  ฯ        (๕)  ฝึกตนค้นร่ำร้อย        รอยไหว    ก่อนคืนดับวันวัย                  ล่วงแล้ง    ฝึกฝนต่อดวงใจ                  เผยผุด    ก่อนลุ่มใหลลับแจ้ง             ต่างชั้นผันการ  ฯ        (๖)  งานกลางคืนดึกเช้า กลางวัน    ไม่ตอบถามตื้นต้น              ตื่นไต้    งานที่ก่อเกื้อฝัน                ที่ใฝ่    ไม่ง่ายยาก ลิ่วไล้             รื่นน้ำพักพร  ฯ        (๗)  อุทาหรณ์ล่วงแล้ว แก้วใจ    ไม่ตื่นสุขทุกข์ไหน            กระซิบล้ำ    ที่เหลืออยู่สายใย             เชื่อมบท  บาทนา    ด้วยแห่งหนทางค้ำ          คติพร้อมหยุดสาย  ฯ        (๘)  ผุดหมายสายหยุดเช้า  ตื่นฝัน    หอมดอกดึกจำนรรจ์        ล่วงแม้น    ผุดไล้ผ่านคืนวัน              ตราติด    หอมเรื่อโรยลอยแร้น        ฝากฟื้นมิ่งศรี  ฯ                                                                                       ณรงค์ยุทธ  โคตรคำ
อิทธิฤทธิ์ ประคำทอง
ผมอนุญาตให้ตัวเองมีความฝันที่ค้างคามานานอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นคือการเป็นเจ้าของร้านกาแฟเล็กๆ สักร้านและระหว่างรอให้ความฝันตกผลึกหรืออิ่มตัวจนตกตะกอนนอนก้น (เหมือนเวลาที่กินกาแฟชงแบบเวียดนามที่ไหลผ่านถ้วยกรองช้าๆ ขมหวานได้ที่)  ผมก็ใช้เวลาระหว่างรอ พักในร้านกาแฟที่ผ่านทางอยู่เสมอๆ สั่งกาแฟต่างรูปแบบมาจิบ บางเวลาเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับกาแฟดำธรรมดาๆ แต่หอมกรุ่นอย่างกาแฟสด บางเวลาเราอาจจะอยากเปลี่ยนไปสั่งกาแฟดำในแบบที่เรียกว่า “อเมริกาโน่” ดูบ้าง บางช่วงก็เป็นชั่วโมงที่ต้องย้อมความฝันด้วยกาแฟกรุ่นกลิ่นนมของลาเต้ร้อน หรือนั่งเหลือบแลปริศนาในพรายฟองนมที่ดูเย้ายวนในบางจังหวะเวลากับคาปูชิโน่สักแก้ว...กาแฟต่างคนชงต่างที่ต่างร้านก็ต่างบอกเล่าเรื่องราวไปคนละเรื่อง มิไยว่าอารมณ์ของคนสั่งคนดื่มตอนนั้นเป็นเช่นไร ก็ยิ่งขยายความออกไปได้แตกต่างกัน..
กานต์ ณ กานท์
ประเทศไทย 2551 - "สองอนุรักษ์นิยมชนกัน" ?

แท็กล่าสุด

แท็กยอดนิยม