ตากอากาศบ้านเกิด (2) รถไฟชั้นนอน น้ำพริกตาแดง และคนฝรั่งเศส

รถไฟชั้นนอน โบกี้ 7 คนแน่นเต็มตั้งแต่ต้นทาง
เราสองพ่อลูกออกจะตื่นเต้นพอๆกัน เพราะเหลียวมองไปทางไหนก็เจอแต่ใบหน้าคนฝรั่ง เหมือนเดินทางอยู่อีกมุมโลก นี่เรากำลังกลับบ้านนะ ไม่ได้ไปต่างประเทศ อย่ามองจ้องหน้าเรานานๆแปลกๆอย่างนั้นสิ เรากำลังจะไปบ้าน นี่ลูกชายผม อายุแค่ 7 ขวบ เป็นเด็กว่านอนสอนง่าย อย่าห่วงเลยว่าเขาจะเสียงดังรบกวน ขอให้คุณๆเดินทางสู่ปลายทางกันให้มีความสุขที่สุด

ห่างออกไปแค่หนึ่งช่วงตัว เป็นครอบครัวคนฝรั่งเศส หูมัธยมศึกษาปีที่สี่ห้าบอกว่าพวกเขาเป็นคนฝรั่งเศส ตุ๊ดตูเลอองฟร็อง .. บองชู .. ตูวาเบียง ..หวี๋ ..ตัวโอซี .. แกลเลคอมม็องตาเลวู..
ซาวะ ..หวี๋/น็อง ... ไล่เรียงสำเนียงเข้าหู

ชาติศิวิไลซ์ปรากฏตัวที่ไหนก็มีท่าทีเป็นเจ้าอาณานิคม .. (ฮา)
พวกเขารวมทีมกันเหนียวแน่น สังเกตดูกริยาท่าทางที่คุ้นเคยกับดินแดนนี้เหลือเกิน อย่างกับเมืองนี้เป็นเมืองอาณานิคมจริงๆ พูดสนั่นหวั่นไหว เหล่าลูกๆเปิดเผยความมั่นอกมั่นใจว่าชีวิตปลอดภัยอย่างเต็มที่

เราสองพ่อลูกเสียอีก ผู้อาศัยดินแดนนี้ ต้องเกรงใจ
พวกเขาเปิดกล่องโฟมสีขาวอย่างพร้อมเพรียง กลิ่นปิ้งๆย่างๆโชยเข้าจมูก กินพร้อมกัน อิ่มพร้อมกัน การเดินทางอีกยาวไกล

ดวงอาทิตย์เพิ่งลับขอบฟ้า
บริกรโภชนาบริโภคตู้เสบียงผ่านมาป้วนเปี้ยนบ่อยขึ้น โยนคำถาม ต้องการอาหารมั้ย พ่อบอกลูกว่าเรามีอาหารพร้อม เพียงแต่ผมลังเลกับกลิ่นน้ำพริกตาแดง อานุภาพของมันถึงขั้นทำลายล้างโพรงจมูกใครบ้าง โดยเฉพาะครอบครัวคนฝรั่งเศส ผมเกิดความเกรงใจ เพราะดูท่าพวกเขาอยากให้เราเรียนรู้-รู้จักพวกเขา มากกว่าพวกเขาจะมาทำความเข้าใจเรา

แต่ช่างเถอะ อาหารเป็นวัฒนธรรม กลิ่นน้ำพริกตาแดงสำแดงเมื่อไหร่ ก็หมายถึงการประกาศอิสรภาพเหนือดินแดน
พริกตาแดงสำแดงฤทธิ์ตอนใกล้สองทุ่ม ครอบครัวคนฝรั่งเศสอิ่มกันแล้ว พวกเขากำลังจั่วไพ่กันอย่างสนุกสนาน ผมไม่แน่ใจว่าพริกตาแดงเป็นน้องๆระเบิดไข่เน่าหรือไม่ การกินกลิ่นท้องถิ่นชักจะกินก่อเรื่องให้แล้ว

ไม่สุภาพอย่างข้าวผัดกุ้งวางแผละบนผิวหน้าด้วยไข่ดาวหนึ่งฟองจากโบกี้เสบียง
รวมเสร็จหนึ่งอิ่มหนำใจ(หรือไม่) หยิบใบแดงยื่นออกไปเสียดีๆ
กลิ่นอาหารชนิดนั้น ดูคุ้นเคยกับโบกี้ และแขกผู้มีฐานะเจ้าของดินแดน

โต๊ะใกล้ๆ เป็นหญิงไทยวัยกลางคน พูดให้ได้ยินค่อนโบกี้ว่าเพิ่งกลับจากอเมริกา รัฐเพนซินวาเนีย เช่ารถไปเที่ยวหลายรัฐ มีคนไทยอยู่ที่นั่นเยอะ อาหารไทยถูกปากแต่แพงแสนแพง และอีกหลากหลายรายงานอย่างไม่เป็นทางการ
ขณะเขาทั้งหลายตั้งโต๊ะอุดหนุนบริการรถไฟ ทั้งผัด ต้มจืด ไข่ดาว แว่วเข้าหูจากบริกร 350 บาท

อากาศในโบกี้ค่อยโล่งโปร่งขึ้น หลังจากผมล้มเลิกโครงการน้ำพริกตาแดงเข้าปากเอาดื้อๆ ก็สายตาคนฝรั่งเศสต่างมองหาที่มาของกลิ่น ว่ามาจากทิศทางใด จากหัวขาวหรือหัวดำ แน่นอน เพียงแค่อยากรู้กระมัง ไม่น่าจะถึงขั้นต่อว่าด้วยวาจาหรือท่าทีปรามห้ามใดๆ

น้ำพริกตาแดงไม่ใช่สมบัติสาธารณะ (เป็นไปได้อย่างไร) ไม่โกอินเตอร์-เน-ชั่น-แนล(แนว) น้ำพริกตาแดงเป็นของหัวดำ ยิ่งไม่เกี่ยวกับหัวแดงและคนฝรั่งเศส
ผมท่องบางคำผ่านสายตาสีน้ำข้าว ปาด็อง เมอซีเยอร์ ปาด็อง มาสมัวแซว ...

นับแต่นาทีนั้น ผมก็ตกอยู่ในวงล้อมของข้อเสนอจากบริกรอาหารจากตู้เสบียง รุกฆาตทางพ่อไม่สำเร็จ ก็มีเมนูแนะนำเด็กชาย 7 ขวบ
“ต้มสักอย่างมั้ย เดี๋ยวครัวจะปิด”
“ไม่ครับ ขอบคุณครับ”
“เอามั้ย..”

ลูกชายเคี้ยวหมับๆ ไข่เจียวหมูสับ กับข้าวกล้องเม็ดพองโต เมนูแม่ห่อมาไว้อย่างดี

ยิ่งมืด ครอบครัวคนฝรั่งเศสยิ่งประกาศอาณาบริเวณครอบครองโบกี้ เสียงของพวกเขาดังกลบเสียงล้อกับราง
พวกเขาเคลื่อนไหวไปทางไหน หลีกทางให้พวกเขาเถอะ เขาเป็นคนฝรั่งเศส

** ปล. รูปยังไม่มา รูปยังกินโกปี้อยู่ริมฝั่งเลสาบ สัปดาห์หน้าอาจจะมาปรากฏ..

ความเห็น

Submitted by เงาศิลป์ on

ฮ่า ฮ่า ฮ่า

Submitted by เบิ้มครับ on

นานๆได้เข้ามาอ่านสักครั้ง(อ่อนเทคโนฯครับ)
รู้ว่าพี่นนท์กลับถึงบ้านแล้วแต่อยากเขียนคุยด้วยครับ
ไม่เคยย่างกรายไปใกล้เลสาบสักที
คิดถึงบ้านเหมือนกันครับแต่คงไม่มากเท่าพี่นนท์
ตอนนี้ไปไหนติด"ใต้ถุนบ้าน"กับ"นางฟ้าสีขาวฯ"ไปด้วยตลอดครับ
หลายคนฟังแล้วต่างชอบต่างเพลง
ผู้เฒ่า(เพื่อนๆ)ว่าไม่เหมือนชุดก่อนๆ
ผู้หนุ่ม(น้องๆ)ว่าได้ใจเลยครับ
ส่วนผมว่าคงต้องโขมยไปเล่นหลายวงมิตรสหาย
ที่พี่นนท์ถาม ผมฟังท่อนนี้ไม่รู้เบื่อครับ
"ไม่มีทางใดสวยงามซื่อตรง วางเพียงดอกไม้
กลิ่นหอมจะไป ไหลตามสายลมที่พัดเปลี่ยนทาง
อยู่กับรักและหวัง ผ่านใบหน้ารื่นรมณ์ ทุกทางไป"

Submitted by พี่นนท์ครับ on

ขอบคุณมากครับ เบิ้ม ดูใกล้กันจริงๆ
มีสุขกับการฟังครับ ตั้งท่าเนือยๆอยู่อีกยกสองยก
กว่าจะส่งไปตรงโน้น นั้น นี้ บ้างครับ

และพี่ศิลป์ครับ ผ่านบรรทัดนี้อีกแล้ว
ผมไม่ค่อยได้เข้าไปทัก แต่ผ่านไปอ่านอยู่ครับ
ฮ่าๆๆ จริงๆครับ

Submitted by อ้ายแสงดาวฯ on

นนท์, คับ... รำลึก นนท์ กล้วย แล หลาน ธันวา... ได้ข่าวว่ากล้วยไม่สบาย แต่ล่าสุดว่าดีขึ้นแล้ว หนูกล้วย ขอให้สุขภาพสมบูรณ์ นะ คับ และทุกๆคน ตวย วันนี้อ้ายจะไปเชียงของกะอ้ายวิฑูรย์ บัวแดง และ บอมบ์ แล้วอ้ายค่อยไปเยือนทักทาย

เพลงของลูกชายจ่าเพียร ชุมพล เอกสมญา (2)

ห้องครัวซ้อมดนตรี ถึงเพลงบันนังสตา
บ้านเช่าบ้านไม้เป็นบ้านชาวนาในหมู่บ้านแม่เหียะ ชานเมืองเชียงใหม่  
ห้องครัวคือห้องทำงาน  ห้องนอนบางเวลา  ห้องซ้อมดนตรี   ห้องนั่งเล่นและห้องรับแขก 

หมายเหตุบันนังสตา คืนหนึ่ง

สองทุ่ม   อังคารที่ 16 มีนาคม  2553   นักดนตรีในเชียงใหม่  และคนในแวดวงหนังสือ ศิลปะ  นัดรวมตัวกันที่ร้านสุดสะแนน  ร่วมรำลึกถึงการจากไปของ จ่าเพียร(พ.ต.อ สมเพียร เอกสมญา) วีรบุรุษแห่งเทือกเขาบูโด  ด้วยสายสัมพันธ์กับไวล์ดซี๊ด (ชุมพล  เอกสมญา) ลูกชายจ่าเพียรที่ผ่านมาเล่นดนตรีในเชียงใหม่อยู่เสมอๆ   เยียวยาจิตใจเมล็ดเถื่อนจากบันนังสตา 

ร่วมรำลึก ...   

ดนตรีของใต้สวรรค์ ร็องแง็งเร็กเก้ในกลิ่นอันดามัน (4)


ขอต่อยาวสาวความยืดถึงน้ามาดบางมุมดูหน้าดุ เวลาเดินเหมือนนุ่นลอยอีกหน่อย อย่างที่บอกไว้ บุรุษไร้นาม(และหนาม)ตามใจคนนี้ อย่าให้นั่งหน้าทับหน้าหนังกลองแล้วกัน ความจืดของหน้าจะถูกขับออกมาอย่างเผ็ดร้อน ไม่เรียบเฉยปล่อยวางอีกแล้ว บางด้านดูดุเทียบได้ใบหน้าเสือจ้องขบ กลับเกลี่ยเสียใหม่ เป็นเสียงทะลวงไส้พุงเร้าใจผิดหน้าผิดหูผิดตาไปทันที

ดนตรีของใต้สวรรค์ ร็องแง็งเร็กเก้ในกลิ่นอันดามัน (3)


 


เลสาปหน้าร้อนเปื่อยหมดแล้ว” ประโยคนี้ถ้าเขียนใหม่ตามภาษาบรรพบุรุษของใต้สวรรค์ ต้องบอกว่า เลสาปหน้าร้อนเปื่อยแผล็ดๆ เหตุที่เปื่อยเห็นด้วยตา ถ้าพูดผ่านปากของบ่าวทอง ต้องเริ่มต้นว่า“ที่จริง”เช่นเคย

ที่จริงมันไม่เปื่อยหร็อก ที่มันเปื่อยเพราะเลกลายเป็นโคลน เปื่อยแผล็ดๆไปทั้งเล” …