Skip to main content

ถนนคดเป็นงู  ข้ามผ่านหารกง – (พี่ชายของหนองน้ำ) เหลนของสายคลองหัวท้ายตัน  ความยาวเดิมเกือบ 100 เมตร  ตอนนี้มันหดสั้นลงเหลือครึ่งหนึ่ง  อีกไม่เกินสิบปีกระมัง  มันอาจหดลงเหลือแค่คืบไว้ดูเป็นขวัญตา  ให้เด็กรุ่นผมได้นึกย้อนความหลัง  เดินเปลือยล่อนจ้อนตัดกลางหมู่บ้านหน้าตาเฉย  ไปให้ถึงหัวสะพาน  แล้วกระโดดน้ำกันอย่างหนุกหนาน(สนุกและสนาน)  

20080415 1

 

วันทั้งวัน  เฝ้าแต่หารกง   กระโดดน้ำยังไม่พอ  พลเหนือเพื่อนน้ำทีมล้วงรูหาปลา  ผู้ใหญ่เขาล้อเด็กๆว่า  ล้วงเอาหัวงู  (ถนนผ่านได้ต้องทำสะพานข้าม)  ได้แผลกลับไปบ้านมากกว่าได้ปลากลับบ้าน  หรือไม่ก็เดินโทงๆกันเป็นแถว  ตัดทุ่งนาไปหา ”ลูกโทะ” ในป่าโทะ

ถามพลเหนือเพื่อน  เขาต้องแหลง(พูด)ต่อว่า  ภาษาศาลากลางเขาไม่รู้ว่าเรียกลูกโทะว่าพรื่อ..!?  

ภาษาศาลากลาง  หมาถึงภาษา ณ ที่ตั้งศาลากลางจังหวัด  ที่รวมการสั่งการจากส่วนกลางนั่นแหละ  เหล่าเด็กๆรู้ว่าคนแถวหรือเข้าไปแถวนั้น  เขาพูดภาษากลางกัน

ตงลง ลูกโทะ คืออะไร??..

ป่าโทะอยู่ท้ายทุ่ง  อยู่ในเขตดินเหนียวปนทรายชื้นๆ  ป่าโทะอยู่คู่กับป่าเหม็ด(เสม็ด)  ป่าเหม็ดมีเห็ดเหม็ดช่วงหน้าฝน  หาเห็ดก็ได้กินลูกโทะ  ได้ทั้งเห็ด ได้ทั้งลูกโทะ  ป่าโทะมีป่าเบล๋อกระจายปนอยู่ด้วย  

เด็กๆ ได้ความรู้จากผู้ใหญ่ว่า  ลูกเบล๋กินได้ก็ต่อเมื่อ  หน่วยมันแตกเป็นกลีบแยกเป็นแฉกรูปดาว  เผยเนื้อสีม่วงน้ำเงินแย้มสะท้อนแสงแดด  วับๆน่ากินอย่างที่สุด

ปากของพลเหนือเพื่อนจะเป็นสีม่วงเข้มกว่าคนอื่น   อย่างกับทาด้วยสีลิปติกสีม่วงน้ำเงินเข้ม   เห็นชัดมาแต่ไกล  คุณสมบัติพิเศษของลูกเบล๋ก็คือว่า สีติดปากติดฟัน  ใช้เวลาข้ามคืนข้ามวัน  กว่าสีจาง  

ภาษาเด็กบอกว่า  ต้องล้างปากด้วยแกงส้มปลาหัวโม่ง
เก็บลูกโทะใส่พก  เก็บลูกเบล๋ใส่ปาก  เก็บเห็ดใส่ตะกร้า  ดีไม่ดีก็เก็บยอดหมุยมาด้วย  เจอยอดพ้อก็เอายอดพ้อ  เอามาทำต้ม  เจอหน่อไม้เอาหน่อไม้  

โอย ... ป่าวัยเด็กของเรา  สมบูรณ์เหลือเกิน  ขอโทษครับ  มองไปยามนี้เห็นแต่สวนยางพารา  ยืนต้นเรียงแถวสุดหูสุดตา

ผ่านหารกง  ผมแว่บคิดถึงฉากชีวิตวัยเด็กพวกนี้   มีฉากชีวิตแจ่มชัดอยู่ในใจ  ขนาดข้อมูลความจุมากมหึมาใส่โบกี้รถไฟได้หลายขบวนทีเดียวครับ   
มันไม่เคยถูกลบเลือนไปจากความทรงจำ

ถึงประตูบ้าน  ได้กราบลงบนอกแม่อกพ่อ  มันอิ่มอกอิ่มใจเหลือเกิน   ดวงตาแม่รื้น  แววตาพ่อดีใจออกหน้าออกตา   เราแตะเนื้อต้องตัวกันน้อยมาก  ปีหนึ่งนับครั้งได้   เราต้องขอใช้บริการจากดาวเทียม   เพื่อจะฟังเสียงพ่อแม่มาตลอด   

พอได้ถึงเนื้อถึงตัวแล้ว  ตัวผมก็ลอยสบายขึ้นเหนือพื้นดินอย่างน่าอัศจรรย์  

20080415 2

อย่างแรกที่ลงมือช่วยแม่ก็คือ ขูดพร้าว  แม่พูดเชิงจริงเชิงเล่น  คนขูดพร้าวมาทันเวลาพอดี   ผมได้ขูดพร้าวในรอบหลายปีทีเดียว   มัวใช้บริการกะทิกล่อง  กะทิสดตามตลาด  แต่บ้านผมยังต้องขูด  ต้องจับกลาแน่นๆจ่อลงไปยังซี่เหล็กขูด ขูดๆๆๆ

พร้าว  มะพร้าวจากสวน  เหล็กขูดก็ทำขึ้นเอง

น้ำกิน  ใช้น้ำบ่อในบ้าน  มันลึกลงไปราว 15 เมตร  ลึกสุดหูสุดตา  น้ำแร่ใต้ดินอย่างดีนี่เอง  ที่บ้านเกิดยังไม่มีน้ำขวดมาโจมตีบ่อน้ำ  ความสะอาดปลอดภัยจากบ่อน้ำยังไม่ถูกความเชื่อว่าสะอาดจากน้ำขวดลบทิ้ง   

บ่อน้ำยังทำหน้าที่เลี้ยงดูชีวิตในบ้าน   น้ำยังใสเหมือนเดิม  รสอร่อยเจือกลิ่นดินหอม  
ได้กินน้ำบ่อหนึ่งขัน ให้รู้สึกอย่างกับได้อิ่มน้ำทิพย์

ผมเคยพูดกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันว่า   เรามันคนรุ่นขุดบ่อน้ำกินเอง  ดูช่างเท่ห์แปลกๆ  คนรุ่นขุดบ่อสุดท้าย   เพราะนับจากนั้น  น้ำบาดาลก็เข้ามาแทนที่  ไหลจ่ายทุกหลังคาเรือน  ต้องจ่ายเงินตามมาตรวัดน้ำที่ใช้ไปในแต่ละเดือน  

จึงยากจะมีบ่อเกิดใหม่  คนรุ่นขุดบ่อน้ำกินเอง  จึงเห็นความยากลำบากกว่าจะได้กินน้ำหยดแรก  ต้องขุดกันเกือบเดือนทีเดียว   จำได้ว่า  ผมห้อยโตงเตงอยู่ในความลึกของบ่อ   มองเห็นก้นบ่อไกลลิบ  ดินขาวๆเหนียวๆชื้นๆอยู่ก้นบ่อนั้น   แสดงว่าใกล้จะพบน้ำเต็มที

ผมมีโอกาสพบตาน้ำใต้ดินครั้งแรก  มันผุดขึ้นมาอย่างกับมีใครฉีดขึ้นมาจากใต้พื้นพิภพ  เป็นความตื่นเต้นดีใจอย่างที่สุด  กระโดดเต้นไปมาอยู่ก้นบ่อ  ส่งเสียงหลงด้วยความดีใจ   ผมสัมผัสอารมณ์พบตาน้ำใต้ผืนพิภพมาแล้ว   

ไม่น่าเป็นไปได้จริงๆ  

           

บล็อกของ ชนกลุ่มน้อย

ชนกลุ่มน้อย
ห้องครัวซ้อมดนตรี ถึงเพลงบันนังสตา บ้านเช่าบ้านไม้เป็นบ้านชาวนาในหมู่บ้านแม่เหียะ ชานเมืองเชียงใหม่   ห้องครัวคือห้องทำงาน  ห้องนอนบางเวลา  ห้องซ้อมดนตรี   ห้องนั่งเล่นและห้องรับแขก 
ชนกลุ่มน้อย
ประชาชน  สัตว์เลี้ยงของแวมไพร์
ชนกลุ่มน้อย
สองทุ่ม   อังคารที่ 16 มีนาคม  2553   นักดนตรีในเชียงใหม่  และคนในแวดวงหนังสือ ศิลปะ  นัดรวมตัวกันที่ร้านสุดสะแนน  ร่วมรำลึกถึงการจากไปของ ”จ่าเพียร”(พ.ต.อ สมเพียร เอกสมญา) วีรบุรุษแห่งเทือกเขาบูโด  ด้วยสายสัมพันธ์กับไวล์ดซี๊ด (ชุมพล  เอกสมญา) ลูกชายจ่าเพียรที่ผ่านมาเล่นดนตรีในเชียงใหม่อยู่เสมอๆ   เยียวยาจิตใจเมล็ดเถื่อนจากบันนังสตา  ร่วมรำลึก ...   
ชนกลุ่มน้อย
ขอต่อยาวสาวความยืดถึงน้ามาดบางมุมดูหน้าดุ เวลาเดินเหมือนนุ่นลอยอีกหน่อย อย่างที่บอกไว้ บุรุษไร้นาม(และหนาม)ตามใจคนนี้ อย่าให้นั่งหน้าทับหน้าหนังกลองแล้วกัน ความจืดของหน้าจะถูกขับออกมาอย่างเผ็ดร้อน ไม่เรียบเฉยปล่อยวางอีกแล้ว บางด้านดูดุเทียบได้ใบหน้าเสือจ้องขบ กลับเกลี่ยเสียใหม่ เป็นเสียงทะลวงไส้พุงเร้าใจผิดหน้าผิดหูผิดตาไปทันที
ชนกลุ่มน้อย
  “เลสาปหน้าร้อนเปื่อยหมดแล้ว” ประโยคนี้ถ้าเขียนใหม่ตามภาษาบรรพบุรุษของใต้สวรรค์ ต้องบอกว่า เลสาปหน้าร้อนเปื่อยแผล็ดๆ เหตุที่เปื่อยเห็นด้วยตา ถ้าพูดผ่านปากของบ่าวทอง ต้องเริ่มต้นว่า“ที่จริง”เช่นเคย “ที่จริงมันไม่เปื่อยหร็อก ที่มันเปื่อยเพราะเลกลายเป็นโคลน เปื่อยแผล็ดๆไปทั้งเล” …
ชนกลุ่มน้อย
  สวรรค์ปักษ์ใต้มีสะตอกับลูกเนียงรวมอยู่ด้วย หรอยที่สุดต้องเหนาะ(จิ้ม)กับน้ำชุบ(น้ำพริก-ต้องกะปิเท่านั้น) หรือกินกับแกงคั่ว คั่วกะทิหรือแกงคั่วเผ็ดไม่กะทิ เผ็ดร้อนไม่แพ้ขาดเหลือกันนัก ไม่มีใครบอกว่าพริกพัทลุงหรือพริกนครศรีธรรมราช เผ็ดแรงร้อนกว่ากัน...
ชนกลุ่มน้อย
นักดนตรีกลุ่มนี้ขับเคลื่อนด้วยความรัญจวนจากฤดูความว่างของชีวิต ออกไปเล่นดนตรีบรรเลงชีวิตร่วมกัน หรือจะพูดอีกที การมาถึงของพวกเขาใต้สวรรค์ ไม่ต่างจากฝูงปลาดุกหนีน้ำแถกเหงือกมาหากันในช่วงหน้าแล้ง หนวดยั้วคลุกนัวกันมาบนโคลนเปียกๆ เหนียวเหนอะไปยังถิ่นที่คาดว่าจะมีน้ำ สีผิวฝูงปลาดุกเลื่อมมันน่าเกรงขาม
ชนกลุ่มน้อย
คำ  สุวิชานนท์ รัตนภิมล และคำของอา' รงค์ ทำนอง  สุวิชานนท์  รัตนภิมล
ชนกลุ่มน้อย
ลมบาดหิน ของอา… “ผู้ชายคนนั้นกับผู้หญิงของเขาตัดสินใจแรมคืนในกระโจม(เต็นท์) เขาพบว่าการเสียบก้านปลั๊กตัวผู้ลงในรูปลั๊กตัวเมียเพื่อต้มน้ำกับกาไฟฟ้านั้นเป็นความสะดวกสบายของคนในทาวน์เฮาส์ที่กรุงเทพฯ และอย่างน่าอิจฉา แต่การมองหาก้อนหินนำมาวางเป็นก้อนเส้า กิ่งไม้ง่ามปักกับดินแล้วพาดราวแขวนหม้อและริ้วชิ้นวัวฝานหมักเกลือ ก่อกองไฟและต้มกาแฟ นี้เป็นบางแบบของชีวิตซึ่งผู้ชายควรเรียนรู้...”
ชนกลุ่มน้อย
พอออกมาจากห้องฝึกเรียนไวโอลินกลางเมืองเชียงใหม่  ผมบอกเจ้า 9 ขวบว่าไปเยี่ยมคุณลุงหน่อยนะ   เจ้าเก้าขวบถามทันทีที่ไหน  ผมตอบกลับวัดเจดีย์หลวง  ไปทำอะไรเหรอ เขาสงสัย  อยากไปเยี่ยม พ่อไม่ได้เข้าไปนานแล้ว
ชนกลุ่มน้อย
  ในห้องทำงาน โต๊ะเขียนหนังสือ เก้าอี้ไม้ไม่เหมือนวันก่อน หนังสือเล่มใหม่หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนเล่มมาวาง ชั้นหนังสือเรียงตามกัน โน้ตสั้นๆ เขียนถึงเวลานัดหมาย เวลาส่งงาน หมายเลขโทรศัพท์ ม้านั่งไม้ไว้นอนเอกเขนก โคมไฟ เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ดีด โต๊ะกลม กีตาร์ กล้องถ่ายรูป รูปภาพบนผนัง ...
ชนกลุ่มน้อย
  ในชีวิต ณ ปัจจุบัน ผมไม่นึกไม่ฝันว่าจะมาข้องเกี่ยวกับเครื่องดนตรีชื่อ ไวโอลิน และยิ่งไม่เคยนึกว่าวันหนึ่ง จะมีไวโอลินมานอนอยู่ในห้อง ตั้งวางอยู่ข้างตัว รวมถึงได้ยินมันส่งเสียงทุกวันตอนย่ำค่ำ