ถนนคดเป็นงู ข้ามผ่านหารกง – (พี่ชายของหนองน้ำ) เหลนของสายคลองหัวท้ายตัน ความยาวเดิมเกือบ 100 เมตร ตอนนี้มันหดสั้นลงเหลือครึ่งหนึ่ง อีกไม่เกินสิบปีกระมัง มันอาจหดลงเหลือแค่คืบไว้ดูเป็นขวัญตา ให้เด็กรุ่นผมได้นึกย้อนความหลัง เดินเปลือยล่อนจ้อนตัดกลางหมู่บ้านหน้าตาเฉย ไปให้ถึงหัวสะพาน แล้วกระโดดน้ำกันอย่างหนุกหนาน(สนุกและสนาน)
วันทั้งวัน เฝ้าแต่หารกง กระโดดน้ำยังไม่พอ พลเหนือเพื่อนน้ำทีมล้วงรูหาปลา ผู้ใหญ่เขาล้อเด็กๆว่า ล้วงเอาหัวงู (ถนนผ่านได้ต้องทำสะพานข้าม) ได้แผลกลับไปบ้านมากกว่าได้ปลากลับบ้าน หรือไม่ก็เดินโทงๆกันเป็นแถว ตัดทุ่งนาไปหา ”ลูกโทะ” ในป่าโทะ
ถามพลเหนือเพื่อน เขาต้องแหลง(พูด)ต่อว่า ภาษาศาลากลางเขาไม่รู้ว่าเรียกลูกโทะว่าพรื่อ..!?
ภาษาศาลากลาง หมาถึงภาษา ณ ที่ตั้งศาลากลางจังหวัด ที่รวมการสั่งการจากส่วนกลางนั่นแหละ เหล่าเด็กๆรู้ว่าคนแถวหรือเข้าไปแถวนั้น เขาพูดภาษากลางกัน
ตงลง ลูกโทะ คืออะไร??..
ป่าโทะอยู่ท้ายทุ่ง อยู่ในเขตดินเหนียวปนทรายชื้นๆ ป่าโทะอยู่คู่กับป่าเหม็ด(เสม็ด) ป่าเหม็ดมีเห็ดเหม็ดช่วงหน้าฝน หาเห็ดก็ได้กินลูกโทะ ได้ทั้งเห็ด ได้ทั้งลูกโทะ ป่าโทะมีป่าเบล๋อกระจายปนอยู่ด้วย
เด็กๆ ได้ความรู้จากผู้ใหญ่ว่า ลูกเบล๋กินได้ก็ต่อเมื่อ หน่วยมันแตกเป็นกลีบแยกเป็นแฉกรูปดาว เผยเนื้อสีม่วงน้ำเงินแย้มสะท้อนแสงแดด วับๆน่ากินอย่างที่สุด
ปากของพลเหนือเพื่อนจะเป็นสีม่วงเข้มกว่าคนอื่น อย่างกับทาด้วยสีลิปติกสีม่วงน้ำเงินเข้ม เห็นชัดมาแต่ไกล คุณสมบัติพิเศษของลูกเบล๋ก็คือว่า สีติดปากติดฟัน ใช้เวลาข้ามคืนข้ามวัน กว่าสีจาง
ภาษาเด็กบอกว่า ต้องล้างปากด้วยแกงส้มปลาหัวโม่ง
เก็บลูกโทะใส่พก เก็บลูกเบล๋ใส่ปาก เก็บเห็ดใส่ตะกร้า ดีไม่ดีก็เก็บยอดหมุยมาด้วย เจอยอดพ้อก็เอายอดพ้อ เอามาทำต้ม เจอหน่อไม้เอาหน่อไม้
โอย ... ป่าวัยเด็กของเรา สมบูรณ์เหลือเกิน ขอโทษครับ มองไปยามนี้เห็นแต่สวนยางพารา ยืนต้นเรียงแถวสุดหูสุดตา
ผ่านหารกง ผมแว่บคิดถึงฉากชีวิตวัยเด็กพวกนี้ มีฉากชีวิตแจ่มชัดอยู่ในใจ ขนาดข้อมูลความจุมากมหึมาใส่โบกี้รถไฟได้หลายขบวนทีเดียวครับ
มันไม่เคยถูกลบเลือนไปจากความทรงจำ
ถึงประตูบ้าน ได้กราบลงบนอกแม่อกพ่อ มันอิ่มอกอิ่มใจเหลือเกิน ดวงตาแม่รื้น แววตาพ่อดีใจออกหน้าออกตา เราแตะเนื้อต้องตัวกันน้อยมาก ปีหนึ่งนับครั้งได้ เราต้องขอใช้บริการจากดาวเทียม เพื่อจะฟังเสียงพ่อแม่มาตลอด
พอได้ถึงเนื้อถึงตัวแล้ว ตัวผมก็ลอยสบายขึ้นเหนือพื้นดินอย่างน่าอัศจรรย์
อย่างแรกที่ลงมือช่วยแม่ก็คือ ขูดพร้าว แม่พูดเชิงจริงเชิงเล่น คนขูดพร้าวมาทันเวลาพอดี ผมได้ขูดพร้าวในรอบหลายปีทีเดียว มัวใช้บริการกะทิกล่อง กะทิสดตามตลาด แต่บ้านผมยังต้องขูด ต้องจับกลาแน่นๆจ่อลงไปยังซี่เหล็กขูด ขูดๆๆๆ
พร้าว มะพร้าวจากสวน เหล็กขูดก็ทำขึ้นเอง
น้ำกิน ใช้น้ำบ่อในบ้าน มันลึกลงไปราว 15 เมตร ลึกสุดหูสุดตา น้ำแร่ใต้ดินอย่างดีนี่เอง ที่บ้านเกิดยังไม่มีน้ำขวดมาโจมตีบ่อน้ำ ความสะอาดปลอดภัยจากบ่อน้ำยังไม่ถูกความเชื่อว่าสะอาดจากน้ำขวดลบทิ้ง
บ่อน้ำยังทำหน้าที่เลี้ยงดูชีวิตในบ้าน น้ำยังใสเหมือนเดิม รสอร่อยเจือกลิ่นดินหอม
ได้กินน้ำบ่อหนึ่งขัน ให้รู้สึกอย่างกับได้อิ่มน้ำทิพย์
ผมเคยพูดกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันว่า เรามันคนรุ่นขุดบ่อน้ำกินเอง ดูช่างเท่ห์แปลกๆ คนรุ่นขุดบ่อสุดท้าย เพราะนับจากนั้น น้ำบาดาลก็เข้ามาแทนที่ ไหลจ่ายทุกหลังคาเรือน ต้องจ่ายเงินตามมาตรวัดน้ำที่ใช้ไปในแต่ละเดือน
จึงยากจะมีบ่อเกิดใหม่ คนรุ่นขุดบ่อน้ำกินเอง จึงเห็นความยากลำบากกว่าจะได้กินน้ำหยดแรก ต้องขุดกันเกือบเดือนทีเดียว จำได้ว่า ผมห้อยโตงเตงอยู่ในความลึกของบ่อ มองเห็นก้นบ่อไกลลิบ ดินขาวๆเหนียวๆชื้นๆอยู่ก้นบ่อนั้น แสดงว่าใกล้จะพบน้ำเต็มที
ผมมีโอกาสพบตาน้ำใต้ดินครั้งแรก มันผุดขึ้นมาอย่างกับมีใครฉีดขึ้นมาจากใต้พื้นพิภพ เป็นความตื่นเต้นดีใจอย่างที่สุด กระโดดเต้นไปมาอยู่ก้นบ่อ ส่งเสียงหลงด้วยความดีใจ ผมสัมผัสอารมณ์พบตาน้ำใต้ผืนพิภพมาแล้ว
ไม่น่าเป็นไปได้จริงๆ