Skip to main content

กัลกัตตาเป็นเมืองหลวงสมัยที่อินเดียเป็นอาณานิคมของอังกฤษ (มันยิ้มเห็นลิ้น “คิดว่านะ”)

อาคารร้านตลาดหรือ Shopping Center ยังคงรูปแบบทางสถาปัตยกรรมยุโรป ประเมินได้ว่า นับตั้งแต่คานธีปลดปล่อยอินเดีย “มันก็ยังอยู่อย่างนั้น ทรุดโทรมไปตามเวลาอย่างขาดการดูแล”

ยามเช้า “ชั้นตั้งนาฬิกาปลุกออกไปเดินถนนตั้งแต่ 7 โมงเช้า” บนถนนย่านตลาดสด เวลาเหมือนหยุดนิ่ง เงียบสงบ ยามเช้าที่ไหนก็สวยใสอย่างนี้เสมอ ถนนลาดหินเหมือนจัตุรัสกลางในหนังสือวรรณกรรมอังกฤษ

“ถนนลาดหินเหมือนฉากหนังหยองขวัญเรื่อง Jack the Ripper มากกว่าว่ะ”

อืม .. หน้าโรงแรม ริมถนนตรงข้ามข้างคันโยกน้ำสาธารณะ เด็กน้อยคนนึงกำลังอาบน้ำ สีฟัน “ชั้นพยายามโฟกัส” ขณะวัดแสง เด็กน้อยรีบหลบหลังคันโยก (ทั้งที่ไม่มิด) หุบยิ้ม จ้องเขม็ง เดินหนี

ใกล้ๆ กัน มีผู้หญิงในชุดส่าหรีมอมอคนหนึ่งคุ้ยกองขยะ ...

ร้านน้ำชาเป็นสภาของผู้ชายที่จะมานั่งเต๊ะจุ๊ยพูดคุยและอ่านหนังสือพิมพ์ จิบชานมสีน้ำตาลอ่อนๆ ในถ้วยดินเผา ดื่มหมดโยนถ้วยดินเผาลงพื้น กินแล้วโยนลงพื้น กินแล้วก็โยน จนมันบอกว่า เศษถ้วยดินเผาเกลื่อนถนน

อีกฟากหนุ่มรถเข็นขายน้ำมะนาวกำลังผสมน้ำสีตุ่นๆ กับมะนาวสด จนไม่รู้ว่า กินไปแล้วท้องเสียเพราะมะนาวสดหรือน้ำสีตุ่น ลานกว้างหน้า Shopping Center กลายเป็นที่นอนของคนเร่ร่อน ไร้บ้านจำนวนมาก บางคนหรูหรามีเตียงเหล็กสานนอนเบียดกันและกัน ฝ่าเท้าดำปี๋ ขาก่ายเกยกันสองสามคน บางคนคุดคู้ใต้ผ้าห่มบางๆ เกลื่อนกลาดอยู่กลางลาน

เวลาดูเหมือนหยุดนิ่ง ยามเช้าที่ไหนในโลกมักสวยงามอย่างนี้เสมอ “ภาพอย่างนี้มีให้เห็นได้ทั่วไป เหมือนภาพ abstract ที่ไม่อาจบรรยาย” มันว่า

ห่างออกไปอีกบล็อกจะเป็นย่านตลาดสดเพิ่มดีกรีความจอแจที่คุ้นเคย คนขนไก่มัดขาไก่เอาไว้กับแฮนด์รถจักรยานเข็นไปส่งที่ตลาดสด ไก่นับร้อยชีวิตถูกแบ่งเป็น 4 พวง บนแฮนด์สองข้างและท้ายที่นั่งอีกสองข้างห้อยปุเลงๆ ไปบนถนนหินเหมือนกับฉากหนังสยองขวัญ Jack the Ripper

ผู้ชายเดินทูนของบนหัว บิดก้นไปมาขยับขาไวๆ เหมือนกับนักกีฬาเดินทน เดินกันให้ควั่ก เข็มนาฬิกาแห่งวันเริ่มทำงานอีกครั้ง

เมืองแห่งอารยธรรมอันรุ่งโรจน์ ขณะที่ทัชมาฮาล คือ สถาปัตยกรรม อันน่าอัศจรรย์ใจหรือความเป็นเมืองแห่ง IT อย่างบังกาลอว์ อินเดียไม่ใช่ประเทศยากจนหรือประเทศโลกที่สาม เป็นหนึ่งในมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ตรงกันข้ามประชาชนอินเดีย ยากจน

คนกว่าครึ่งของมหานครกัลกัตตา ไม่เร่ร่อนไร้บ้านก็อยู่ในชุมชนที่เรียกได้ว่า สลัม

“นั่นแหละ คือ อินเดีย”
“เพื่อน (อินเดีย) ชั้นบอกมาว่ะ ส่วนอีกคนถามว่า ท้องเสียหรือของหายหรือเปล่า” เพื่อนผมหัวเราะขื่นๆ

หรือว่า นี่มันเป็นเรื่องปกติในทุกมหานครของโลก (การค้าเสรี) ...

picture
กิจกรรมยามเช้า

picture
เวลาที่หยุดนิ่งของคุณลุงเหมือนกับฉากหลัง คือ อาคารทรงยุโรปจากยุคอาณานิคม

picture
คุณลุงบนรถลาก กำลังรอผู้โดยสาร

picture
ร้านน้ำชาก่อนจะกลายสภาพเป็นสภากาแฟสำหรับผู้ชาย

picture
ไก่!

picture
ลานข้างตลาดขายปลา สีแดงธงรูปค้อนเคียว

picture
เธอกำลังเก็บกระดาษ

picture
กิจวัตรประจำวันริมฟุตบาธ ก่อนจะออกไปทำงาน

picture
คฤหาสน์บนลานหน้า Shopping Center

บล็อกของ กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์

กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ความโกลาหลเริ่มต้น ,07.00 น. ,เจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งเตรียมงานของพวกเขาพร้อมกับการอารักขาของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ,ฟายซาบัด แบ่งเขตการเลือกตั้งออกเป็น 2 ฝั่ง มีแม่น้ำค็อกช่าคั่นระหว่างเมือง ,ฝั่งหนึ่งเป็นเขตเมืองเก่า อีกฝั่งเป็นเขตเมืองใหม่
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ยาดาถูกส่งไปอำเภอบันดักชาน จังหวัดฟายซาบัด ,เมืองทางตอนเหนือติดกับทาจิกิสถาน ปากีสถานและมณฑลซินเจียง ประเทศจีน ที่ตั้งของชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอูยกูที่เพิ่งเป็นข่าวดังไปทั่วโลกถึงปมขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติกับชาวฮั่น
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ทิวเขาเหยียดยาวระหว่างนั่งเครื่องบิน เป็นอีกหนึ่งโฉมหน้าของประเทศแห่งนี้ ภูเขาสีน้ำตาล ท้องทุ่งสีเขียว ข้าว ผลไม้และความสมบูรณ์ของสายน้ำ
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
08.00 น. ของวันเสาร์ ที่ 15 สิงหาคม 2552 เสียงระเบิดดังสนั่นใจกลางเมืองคาบูล์ ไกลออกไป 3 กิโลเมตร กระจกโรงแรมแคปิตอล อินน์ เขย่าประหนึ่งว่าจะแตกร้าวเสียตรงนั้น ทีมสังเกตุการณ์การเลือกตั้ง คนหนึ่ง หมอบกับพื้นห้องน้ำ อีกส่วนหนึ่งวิ่งขึ้นดาดฟ้าโรงแรม มองเห็น ควันไฟบริเวณสำนักงานใหญ่กองกำลังนานาชาติ นาโต้ ประจำอาฟกานิสถาน พวยพุ่งสู่ท้องฟ้า
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
เดือนที่ผ่านมา สำนักข่าว BBC เสนอข่าวเหตุการณ์คาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้นหน้าสำนักงานใหญ่กองกำลังนาโต้ภายในกรุงคาบูล ขณะกลุ่มตาลีบัน ออกแถลงการณ์จะทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางการเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศและออกมายอมรับว่าตนเองเป็นผู้ก่อเหตุ ก่อนจะยืนยันว่า กองกำลังตะวันตกต้องถอนตัว
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
เด็กชายหม่อง ทองดี อายุ 12 ปี นั่งพับกระดาษอยู่บนโต๊ะ เขารอผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ "วันนี้พับไปกี่แผ่นคะ" นักข่าวคนสวยถาม "หลายแผ่นคับ" เด็กชายแหงนหน้ามองขณะที่มือยังพับกระดาษ "เซ็นชื่อให้ด้วยนะ" นักข่าวคนเดิมยิ้ม เด็กชายหยิบปากกาขึ้นมาเขียนชื่อตัวเองลงบนปลายปีเครื่องบินกระดาษ ดูเหมือนเด็กชายหม่องจะไม่เข้าใจว่าผู้ใหญ่กำลังจะทำอะไรเขา ...
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
แมงมุมสีเหลือง --เหมือนมีดวงตาอยู่ที่ก้น ,จุดเล็กๆ สีดำสองจุดเด่นชัด คล้ายกับจ้องหน้าผมอยู่ตลอดเวลา ---มันกำลังกินแมลงปอขนาดหนึ่งนิ้ว บนใยสีเงินที่ถักอยู่ระหว่างกิ่งไม้แห้งๆ 2 กิ่ง อย่างเมามัน 
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ท้องฟ้าเพิ่งตื่นนอน ,ผมหยิบถุงน้ำปลาออกมาจากกระเป๋า รูดเอายางรัดปากถุงออกอย่างระมัดระวัง ถึงแม้จะเป็นน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกแต่ให้มันทำหน้าที่น้ำปลาพริกคลุกข้าวสวยร้อน ๆ จะดูเหมาะสมกว่า ,ผีเสื้อกินเค็ม มันชอบ
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
เช้าวันสุดท้าย ในดาก้า อีกวันที่อากาศแจ่มใส บนถนนสายหนึ่ง ใจกลางเมือง นักศึกษากลุ่มเล็กๆ จากมหาวิทยาลัยดาก้ากำลังทำงานของพวกเขา ชายหนุ่มหญิงสาวกลุ่มใหญ่กำลังมุงดูวงดนตรีพื้นบ้านริมถนนสายหลัก
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ยิ่งเข้าใกล้วันเลือกตั้งดูเหมือนเมืองจะวุ่นวายชนิดที่ไม่เคยวุ่นวาย บนถนน จากดาก้าไปจิตตะกอง ตัวเมืองจิตตะกอง ไม่เว้นแม้แต่ในเมืองเล็กๆ อย่างคากราชาริที่ใช้ขบวนรถจิ๊ปออกมาชุมนุมหาเสียงสนับสนุน
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
เช้าตรู่ หมอกยังไม่ทันจาง เพื่อนผมแซะตัวเองออกจากเตียงนอนเพื่อลงสัมภาษณ์ชาวบ้าน ประเด็นที่ต้องการ คือ ,รัฐบาลเตรียมความพร้อมให้แก่ประชาชนของตัวเองแค่ไหน ...