Skip to main content
ไฟป่า ยังคงเป็นปัญหาที่กลุ่มอนุรักษ์เขาแผงม้าต้องจัดการ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหน้าแล้ง เช่นนี้

...


แดดอ้าวผ่าเปรี้ยงลงกลางหัว เหล่าอาสาสมัคร v4n ยืนฟังขั้นตอนการทำงานดับไฟป่าโดยกลุ่มอนุรักษ์เขาแผงม้า ไกลโพ้น เมฆฤดูร้อนลอยอยู่เหนือเทือกเขาที่ได้ชื่อว่า ภูเขาไฟ

เนินลูกแล้วลูกเล่าถูกแปรสภาพเป็นไร่ เหนือเนินหลายลูก ทะเลหญ้าสลับดงกล้วยป่าแซมเป็นจุดๆ รถบรรทุกน้ำถูกนำมาเตรียมเอาไว้ให้พร้อม


ขั้นแรก เริ่มต้นด้วยการตัดฟันทำลายใบหญ้าแห้งให้เตียนโล่งเป็นแนว ภารกิจครั้งนี้ อาสาสมัครจะต้องทำระยะทางให้ได้ 2 กิโลเมตร

ขั้นที่สอง คือ การเผาทำลายหญ้าเพื่อขยายแนวกันไฟออกไป

ขั้นที่สาม คือ ฉีดดับไฟไม่ให้ลามหรือลอยไปไหม้ในจุดอื่น

นอกจากสายยางแล้ว อาสาสมัครจะได้รับแจกโคนต้นกล้วย ผ่าเป็นแฉกๆ สัก 10 แฉก เอาไว้ตีไฟกองเล็กกองน้อย งานนี้ ต้องลุยไฟกันทีเดียว

 

ประสบการณ์บอกลุงโชคว่า 99% ของไฟป่าเกิดจากคนและฟ้าผ่าเป็นเพียงเหตุการณ์ทางธรรมชาติเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่ทำให้เกิดไฟป่าได้ ส่วนที่ตำรับตำราเขียนเอาไว้ว่า ไม้ไผ่สีกันนั้น ผมอยากเจอคนเขียน ผมจะตัดไม้ไผ่ให้เค้าลองสี (HAAAAAAAA)


ลุงโชคยืนยันว่า แนวกันไฟที่เหล่าอาสาจะได้ร่วมกันทำนั้น ได้ผล 100%

ชั้นแรก คือ แนวถนนที่สร้างเอาไว้แล้วซึ่งจะกันไฟได้เป็นอย่างดี หากหญ้าแห้งมากๆ เราจะใช้วิธีเอารถไปไถกลบหรือเผาหญ้าแห้งเพื่อป้องกันพร้อมๆ กับขยายแนวกันไฟออกไป

ตามศัพท์ของนักผจญเพลิงแห่งเขาแผงม้า เรียกว่า ‘ชิงจุด'


งานของพวกเขาจะเริ่มกันตั้งแต่ 18.00 น. เพราะมองเห็นแนวไฟได้ดีกว่ากลางวัน เน้นการทำงานเชิงป้องกัน เขาแผงม้ามีพื้นที่ลาดชัน เกิดไฟป่าแล้วดับได้ยาก ต้องใช้คนเป็นจำนวนมากรวมไปถึงการลาดตระเวน

 

ใครคนหนึ่งถามว่า "ทำไม ลุงถึงปลูกต้นไผ่เอาไว้เยอะแยะ"

"ผมคิดว่า ไผ่เป็นพืชที่เหมาะกับผมมากที่สุด ไม่ต้องตัดแต่งดูแล มันโตของมันเองแต่มีประโยชน์มหาศาล ผมไม่ได้ทำสวนเพื่อขายผลผลิตแต่ผมต้องการให้ธรรมชาติคงอยู่"

คุณฟังสิ ได้ยินเสียงนกไหม

 

สิ่งที่พวกเราได้มาทำ อาจจะไม่เห็นผลทันที หากหน่ออ่อนของความรักในโลกธรรมชาติกำลังเติบโตในความคิด เชื่อผมสิ

น้ำเสียงของลุงโชคกังวานในแบบคนใต้

 

ขอบคุณชาวคณะ v4nature ทุกคน

ที่ชวนไปทำแนวป้องกันไฟป่าที่เขาแผงม้า

 

 

  

ก่อนลงมือปฏิบัติงานต้องบรรยายรายละเอียดและข้อควรระวังกันก่อนเพราะกำลังเล่นกับไฟ





ขั้นตอนแรก เริ่มด้วยการตัดทำลายหญ้าและกล้วยป่า รอชิงเผา



หน้าตากล้วยป่าก็มีเมล็ดเยอะอย่างนี้



ปฏิบัติการชิงเผาเริ่มต้นแล้ว



พระเพลิงกำลังทำหน้าที่ของเขา เผาเพื่อตัดตอนไฟป่า







คุณลุงนักผจญเพลิงแห่งเขาแผงม้ากำลังทำหน้าที่อย่างขมักเขม้น



เพลิงสงบเป็นอันว่างานของนักผจญเพลิงแห่งเขาแผงม้าเรียบร้อยไปอีกหนึ่งครั้ง

 

 

บล็อกของ กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์

กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ความโกลาหลเริ่มต้น ,07.00 น. ,เจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งเตรียมงานของพวกเขาพร้อมกับการอารักขาของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ,ฟายซาบัด แบ่งเขตการเลือกตั้งออกเป็น 2 ฝั่ง มีแม่น้ำค็อกช่าคั่นระหว่างเมือง ,ฝั่งหนึ่งเป็นเขตเมืองเก่า อีกฝั่งเป็นเขตเมืองใหม่
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ยาดาถูกส่งไปอำเภอบันดักชาน จังหวัดฟายซาบัด ,เมืองทางตอนเหนือติดกับทาจิกิสถาน ปากีสถานและมณฑลซินเจียง ประเทศจีน ที่ตั้งของชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอูยกูที่เพิ่งเป็นข่าวดังไปทั่วโลกถึงปมขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติกับชาวฮั่น
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ทิวเขาเหยียดยาวระหว่างนั่งเครื่องบิน เป็นอีกหนึ่งโฉมหน้าของประเทศแห่งนี้ ภูเขาสีน้ำตาล ท้องทุ่งสีเขียว ข้าว ผลไม้และความสมบูรณ์ของสายน้ำ
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
08.00 น. ของวันเสาร์ ที่ 15 สิงหาคม 2552 เสียงระเบิดดังสนั่นใจกลางเมืองคาบูล์ ไกลออกไป 3 กิโลเมตร กระจกโรงแรมแคปิตอล อินน์ เขย่าประหนึ่งว่าจะแตกร้าวเสียตรงนั้น ทีมสังเกตุการณ์การเลือกตั้ง คนหนึ่ง หมอบกับพื้นห้องน้ำ อีกส่วนหนึ่งวิ่งขึ้นดาดฟ้าโรงแรม มองเห็น ควันไฟบริเวณสำนักงานใหญ่กองกำลังนานาชาติ นาโต้ ประจำอาฟกานิสถาน พวยพุ่งสู่ท้องฟ้า
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
เดือนที่ผ่านมา สำนักข่าว BBC เสนอข่าวเหตุการณ์คาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้นหน้าสำนักงานใหญ่กองกำลังนาโต้ภายในกรุงคาบูล ขณะกลุ่มตาลีบัน ออกแถลงการณ์จะทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางการเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศและออกมายอมรับว่าตนเองเป็นผู้ก่อเหตุ ก่อนจะยืนยันว่า กองกำลังตะวันตกต้องถอนตัว
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
เด็กชายหม่อง ทองดี อายุ 12 ปี นั่งพับกระดาษอยู่บนโต๊ะ เขารอผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ "วันนี้พับไปกี่แผ่นคะ" นักข่าวคนสวยถาม "หลายแผ่นคับ" เด็กชายแหงนหน้ามองขณะที่มือยังพับกระดาษ "เซ็นชื่อให้ด้วยนะ" นักข่าวคนเดิมยิ้ม เด็กชายหยิบปากกาขึ้นมาเขียนชื่อตัวเองลงบนปลายปีเครื่องบินกระดาษ ดูเหมือนเด็กชายหม่องจะไม่เข้าใจว่าผู้ใหญ่กำลังจะทำอะไรเขา ...
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
แมงมุมสีเหลือง --เหมือนมีดวงตาอยู่ที่ก้น ,จุดเล็กๆ สีดำสองจุดเด่นชัด คล้ายกับจ้องหน้าผมอยู่ตลอดเวลา ---มันกำลังกินแมลงปอขนาดหนึ่งนิ้ว บนใยสีเงินที่ถักอยู่ระหว่างกิ่งไม้แห้งๆ 2 กิ่ง อย่างเมามัน 
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ท้องฟ้าเพิ่งตื่นนอน ,ผมหยิบถุงน้ำปลาออกมาจากกระเป๋า รูดเอายางรัดปากถุงออกอย่างระมัดระวัง ถึงแม้จะเป็นน้ำปลาแท้ตราปลาหมึกแต่ให้มันทำหน้าที่น้ำปลาพริกคลุกข้าวสวยร้อน ๆ จะดูเหมาะสมกว่า ,ผีเสื้อกินเค็ม มันชอบ
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
เช้าวันสุดท้าย ในดาก้า อีกวันที่อากาศแจ่มใส บนถนนสายหนึ่ง ใจกลางเมือง นักศึกษากลุ่มเล็กๆ จากมหาวิทยาลัยดาก้ากำลังทำงานของพวกเขา ชายหนุ่มหญิงสาวกลุ่มใหญ่กำลังมุงดูวงดนตรีพื้นบ้านริมถนนสายหลัก
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ยิ่งเข้าใกล้วันเลือกตั้งดูเหมือนเมืองจะวุ่นวายชนิดที่ไม่เคยวุ่นวาย บนถนน จากดาก้าไปจิตตะกอง ตัวเมืองจิตตะกอง ไม่เว้นแม้แต่ในเมืองเล็กๆ อย่างคากราชาริที่ใช้ขบวนรถจิ๊ปออกมาชุมนุมหาเสียงสนับสนุน
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
เช้าตรู่ หมอกยังไม่ทันจาง เพื่อนผมแซะตัวเองออกจากเตียงนอนเพื่อลงสัมภาษณ์ชาวบ้าน ประเด็นที่ต้องการ คือ ,รัฐบาลเตรียมความพร้อมให้แก่ประชาชนของตัวเองแค่ไหน ...