Skip to main content

"ต้นตอของปัญหาใหญ่ๆ ในสังคม พบว่าเรื่องหนึ่งคือ คนที่เป็นเจ้าของปัญหาไม่มีช่องทางส่งเสียงของตัวเองในช่องทางสื่อสารมวลชน ยิ่งวิทยุและทีวีนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง พื้นที่ของคนเดือดร้อน ถูกเบียดออกมาบนท้องถนนที่ออกมาประท้วงให้คนเมืองใหญ่รำคาญ"

 

TV

อรพิณ ยิ่งยงพัฒนา

ไม่นานมานี้ ได้ไปฟังการอภิปรายเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานของทีวีสาธารณะ ในช่วงท้ายๆ มีเรื่องหนึ่งที่ถกกัน คือ ทีวีสาธารณะควรจะเป็นเรื่องของ 'พื้นที่สาธารณะ' หรือ 'ประโยชน์สาธารณะ'

เอาเข้าจริง เรื่องบ้านเมืองควรจะมีทีวีที่เป็น 'พื้นที่สาธารณะ' หรือ 'ประโยชน์สาธารณะ' เป็นกรอบใหญ่ที่ต้องวางไว้ตั้งแต่ต้นทางของการออกกฎหมาย เพราะความหมายของคำสองคำนี้ต่างกันโดยสิ้นเชิง สื่อที่เป็นพื้นที่สาธารณะ น่าจะหมายถึง ช่องทางที่ใครๆ สามารถเข้าถึง ส่วนสื่อที่เป็นประโยชน์สาธารณะ น่าจะหมายถึงการเป็นสื่อที่มีเนื้อหาเป็นประโยชน์ต่อคนดู

อย่างไรก็ดี กฎหมายทีวีสาธารณะก็ผ่านสภามาแล้ว เหลือเพียงประกาศในราชกิจจานุเบกษาซึ่งคาดว่าน่าจะได้ประกาศใช้ราวๆ กลางเดือนธันวาคมนี้ แล้วพอเปิดปีใหม่มาสังคมไทยเราก็จะมีทีวีสาธารณะให้ได้เชยชม

ที่ต้องใช้คำว่า ได้ 'เชยชม' เพราะยังไม่แน่ใจว่า คนตัวเล็กตัวน้อยจะเข้าถึงทีวีสาธารณะในฐานะอะไร เป็นคนทำ คนคิด หรือเป็นคนดูฝ่ายเดียว

ที่ผ่านมาเวลาพูดกันถึงต้นตอของปัญหาใหญ่ๆ ในสังคม พบว่าเรื่องหนึ่งคือ คนที่เป็นเจ้าของปัญหาไม่มีช่องทางส่งเสียงของตัวเองในช่องทางสื่อสารมวลชน ยิ่งวิทยุและทีวีนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง พื้นที่ของคนเดือดร้อน ถูกเบียดออกมาบนท้องถนนที่ออกมาประท้วงให้คนเมืองใหญ่รำคาญ

ปัญหานี้ก็เกิดขึ้นคู่ขนานไปกับปัญหาความเหลื่อมล้ำของคน ที่ไม่ได้แตกต่างกันเพียงเรื่องฐานะทางเศรษฐกิจ แต่ยังแตกต่างกันในเรื่องของโอกาสด้วย คนด้อยโอกาสไม่เคยได้เข้าถึงสื่อ เพราะนอกจากเราจะไม่เคยมีพื้นที่สาธารณะในสื่อที่ใช้ทรัพยากรของประชาชนอย่างคลื่นความถี่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงสื่อกระแสหลักอื่นๆ ที่จะอยู่รอดได้ก็ต้องมีต้นทุนสูงลิบ

เดิมเราอาจรู้สึกว่า ปัญหาสื่อเมืองไทยที่รอการปฏิรูปคือ เราไม่มีช่องทีวีดีๆ มีคุณภาพให้ดู แต่ปัญหานี้คงไม่ได้แก้ด้วยการหาอะไรที่เป็นคุณภาพใส่เข้าไปเสีย เรื่องแบบนี้เป็นของลางเนื้อชอบลางยา

ผลลัพธ์สุดท้ายไม่อาจให้ความหมายอะไร หากแต่กระบวนการและโครงสร้างต่างหากที่จะบ่งบอกคุณภาพ.. และถึงที่สุดแล้ว เรากำลังจะต้องเสพทีวีที่ใครผลิตเนื้อหามาให้ดู?

เราน่าจะก้าวไปให้พ้นจากการถูกบอกให้เชื่อว่า อะไรดี อะไรไม่ดี รวมถึงเลิกอยู่กับความเคยชินเดิมๆ ที่ติดกับความเป็นมืออาชีพของคนทำสื่อ แต่ทีวีสาธารณะมีหน้าที่ที่ต้องเชื่อว่า พลเมืองเจ้าของเรื่องเป็นผู้ถ่ายทอดได้ และพลเมืองผู้บริโภคก็มีศักยภาพที่จะกลั่นกรองเนื้อหา และมีส่วนวิพากษ์วิจารณ์ช่วยกันปรุงรสไม่ให้ทีวีสาธารณะน่าเบื่อเกินไป

พลเมืองเจ้าของเรื่องต้องได้เป็นผู้ถ่ายทอด เพราะนานมาแล้วที่เราเชื่อในระบบตัวแทน เราเชื่อในองค์กรที่ทำงานเพื่อประชาชน เราหลงเชื่อในระบบคุณธรรมลมปาก ซึ่งก็นานมาแล้วอีกเช่นกันที่คนด้อยโอกาสก็ยังด้อยโอกาสดักดานต่อไป

กับทีวีสาธารณะ แม้กฎหมายจะไม่ได้ออกมาขี้เหร่มากนัก แม้จะเกิดขึ้นจากเจตนาที่ดี แต่ก็อดห่วงไม่ได้ว่า ทุกครั้งที่พูดกันถึงอนาคตทีวีสาธารณะ มักไปลงเอยว่าคณะกรรมการนโยบายฯ อันมาจากคณะกรรมการสรรหาฯ พอจะน่าเชื่อน่าหวัง ที่จะวางแนวนโยบายในการสร้างสื่อสาธารณะอันทรงคุณค่า

กฎหมายไม่ได้ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่ามีกลไกที่มีธรรมาภิบาลรองรับ แต่ให้ความเชื่อมั่นว่าจะมีคนมาเป็นตัวแทนที่คอยดูแลให้มันเดินไปในแนวทางที่ดี ดูแล้วประชาชนไม่ต่างจากเด็กที่ไม่ยอมโต ไปไม่พ้นจากอ้อมอกของพ่อแม่ที่ห่วงใย

ไม่ต่างกับกฎหมายฉบับอื่นๆ ที่รัฐบาลและสภานิติบัญญัติแห่งชาติเร่งปั๊มออกมาก่อนหมดสมัยรัฐบาล เพราะกลัวว่าจะไม่สามารถทำสำเร็จได้ในสถานการณ์ประชาธิปไตย ยังมีกฎหมายในนามของความปรารถนาดีอีกร้อยกว่าฉบับที่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองช่วยกันผลักดัน สร้างฉากหลังให้ดูมีกระบวนการน่าเชื่อถือ เพราะผ่านกระบวนการสภา

แต่หารู้ไม่ว่า กฎหมายมากมายผ่านออกมาได้เพราะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติยกมือผ่านแบบแลกหมูแลกหมา มีการพูดกันทีเล่นทีจริงว่า หากคำนวณเวลาบวกลบคูณหารเวลาที่ สนช.ใช้พิจารณากฎหมายแล้ว เฉลี่ยตกราวฉบับละ 2 นาทีเท่านั้น ยังไม่นับว่ามีอีกเท่าไรที่ผ่านสภาแบบไม่ครบองค์ประชุม

ขณะที่เรากังขากับประชาธิปไตยแบบตัวแทน เราก็ต้องพัวพันกับการเมืองที่พยายามจะทำทีให้เหมือนประชาธิปไตย มีระบอบสภา เป็นสภาที่มีความหวังดีแบบพ่อแม่รังแกฉัน

อาจเพราะว่า สภานิติบัญญัติคิดว่ากำลังทำ 'ประโยชน์สาธารณะ' เพื่อสร้างแนวทางให้ลูกแหง่ที่คงยังไม่พร้อมเดินในโลกกว้าง มีชีวิตที่ดีมากขึ้น

ในภาวะแบบนี้ เราจะอยู่กับการเมืองแบบที่มี 'พื้นที่สาธารณะ' หรือมีความหวังดีแบบ 'ประโยชน์สาธารณะ' ก็คงเป็นได้แค่เพียงความคาดหวังในใจ ทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้น เพราะมีคนคิดให้หมดแล้ว

 

บล็อกของ Hit & Run

Hit & Run
 นายหอกหัก (จูเนียร์)     เห็นเด็กๆ สมัยนี้ออกมารณรงค์เรื่องการเมือง แล้วมันช่างน่าอิจฉาซะกระไร!เพราะมีสื่อทั้งผู้จัดการ ASTV เนชั่น TPBS และอื่นๆ อีกมากมายคอยประคบประหงมให้เขาเป็นดาราเพียงชั่วข้ามคืนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเยาวชนขวาใหม่จัดคลั่งชาติคลั่งสถาบันอย่าง ยังแพด (Young pad) และอีกสารพัดของกลุ่มพลังนิสิต นักศึกษาชนชั้นกลาง ที่ละจากการโฉบเฉี่ยวสร้างความเท่ เก๋ไก๋ จากการฟังเพลงอินดี้ ดูหนังนอกกระแส แต่งตัวอย่างมีเทรนด์ มีสไตล์ มาช่วยกันขับเคลื่อนการเมืองใหม่ รัฐบาลประชาภิวัฒน์ ระบอบ 70: 30 ให้กับพวกพ้องพ่อแม่ญาติพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย…
Hit & Run
< จิรนันท์ หาญธำรงวิทย์>แบนเกมมาริโอ้ เหตุเด็กประถมกระโดดเอาศีรษะกระแทกอิฐ ไล่เตะเต่าและตะพาบ ซ้ำยังเอาแต่กินเห็ด เพราะอยากตัวสูง เลียนแบบเกมมาริโอ้ แบนอิคคิวซัง เหตุเด็กอนุบาล หวังฉลาดแบบอิคคิว เอานิ้วแตะน้ำลายถูรอบศีรษะจนเป็นขี้กลาก แบน นสพ.หัวสีรุ้ง หลังพบเด็กมัธยม อ่านข่าวข่มขืนแล้ว อยากทำตาม เพราะบรรยายอย่างละเอียด (เหตุการณ์สมมติ) ถ้าสังคมนี้ แก้ไขทุกอย่างด้วยการชี้นิ้วหาคนผิด และแบนสิ่งนั้นๆ เสีย ก็คงง่ายดีพิลึก ต่อไปสังคมก็คงใสสะอาด เต็มไปด้วยคุณธรรมสูงส่ง จริงหรือ?
Hit & Run
 มุทิตา เชื้อชั่ง   รู้ว่าหลายคนเห็นความไม่ถูกต้อง รู้สึกได้ถึงหายนะ แต่ไม่มีใครจัดการอะไรกับพวกเขาซักคน.......ถ้าไม่เพราะกลัวเครือข่ายอันกว้างขวางของพวกเขา ก็อาจเพราะไม่อยากเป็นเป้า ถูกโจมตีเสียเอง มันไม่ใช่เรื่องสนุกที่ต้องคัดง้างกับพวกนักบุญที่แสนอาฆาตมาดร้าย ป่าเถื่อน ราวกับหลุดมาจากยุคกลางแต่มันก็น่าสำรอกไม่หยอก ที่เขาทำตัวเป็นผู้จงรักภักดีกับอะไรต่อมิอะไรมากมาย มากกว่าคนอื่นๆ และเล่นงานศัตรูของเขาด้วยการตระเวรพูด พูด พูด พูด พูดทุกคืน ทุกวัน ทุกชั่วโมง ไม่หยุดหย่อนถึงความชั่วร้ายเลวทรามของศัตรู ง่ายๆ แบบสีขาว-สีดำ ใครก็ตามที่เขาเห็นว่าไม่ถูกต้องตามนิยามที่พวกเขาตั้งขึ้น…
Hit & Run
ภาพันธ์ รักษ์ศรีทอง   แล้ววันสำคัญทางพุทธศาสนาก็วนเวียนมาบรรจบอีกครั้งหนึ่งในรอบสองพันห้าร้อยห้าสิบเอ็ดปีหลังพระพุทธเจ้าเสด็จสู่นิพพาน เป็นความน่ายินดีที่รัฐไทยซึ่งประกาศตัวเป็นพุทธมามกะประกาศให้เป็นวันหยุดเพื่อแสดงความเคารพอย่างสำคัญและจะได้เปิดโอกาสให้ไปทำบุญทำทานกันตามธรรมเนียมประเพณี แต่สิ่งหนึ่งที่น่าเบื่อหน่ายพ่วงตามมากับบรรยากาศแบบนี้คือไม่สามารถไปหาซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาดื่มกินตามวิสัยได้ เนื่องจากเมื่อปีก่อนรัฐบาลคุณธรรมผลักดันจนมีกฎหมายมาบังคับ ทั้งที่เรื่องของศาสนาและแนวทางการปฏิบัติควรเป็นเรื่องของส่วนบุคคลเสียมากกว่า…
Hit & Run
  คิม  ไชยสุขประเสริฐ   5 ก.ค. 51  เยือนโขงเจียม แดนตะวันออกสุดเขตประเทศไทย ที่ว่ากันว่าเห็นตะวันก่อนใครในสยาม (อีกครั้ง) แล้วเวลาแห่งการรอคอยของชาวบ้านปากมูนก็มาถึง เมื่อประตูบานเขื่องทั้ง 8 บานของ "เขื่อนปากมูล" ถูกยกขึ้นเพื่อปลดปล่อยฝูงปลาให้เวียนว่ายท้าทายกระแสน้ำขึ้นสู่ต้นน้ำตามวัฎจักร ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามมติของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำเขื่อนปากมูล หลังจากที่ "เขื่อนปากมูล" ต้องถูกปิดมากว่า 1 ปีเต็ม  ที่ผ่านมา "เขื่อนปากมูล" กับการต่อสู้ของ "ไทบ้านปากมูน" เป็นที่รับรู้มานานปี และดูเหมือนว่าวันนี้…
Hit & Run
  เมื่อหนุ่มน้อย "สี TOA" เขียนจดหมายถึง "ศรีบูรพา" ว่าด้วยความสับสนและอคติต่ออุดมการณ์สื่อ
Hit & Run
< แสงธรรม > 20 มิถุนายน 2551ฉันได้รับการแจ้งข่าว ชาวบ้านในหมู่บ้านชายแดนไทย – พม่า ด้านที่ติดกับรัฐฉาน พบกลุ่มเด็กชายและหญิงจำนวน 5 คน วิ่งมาจากอีกฝั่งแล้วข้ามเข้ามาในเขตไทยดูเหมือนพวกเขาวิ่งหนีบางสิ่งบางอย่างชาวบ้านมาพบเด็กกลุ่มนี้เข้า พบว่าเป็นเด็กชาวว้า0 0 0
Hit & Run
จิรนันท์ หาญธำรงวิทย์    แถลงการณ์ ฉบับที่ 0.17 จากประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย รักหมา รักแมว รักสิ่งแวดล้อม จนอาจลืมรักเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน (ไปบ้าง)   เนื่องด้วยประเทศไทยอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ต่างคนต่างก็ออกแถลงการณ์แสดงความเห็นต่อปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นอุบัติการณ์ ประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย รักหมา รักแมว รักสิ่งแวดล้อม จนอาจลืมรักเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน (ไปบ้าง) (ป.ป.ช.ผ.ร.ช.ร.ป.ช.ต.ร.ม.ร.ม.ร.ส.ว.ล.) จึงเห็นว่า ควรออกแถลงการณ์กับเขาบ้าง โดย ป.ป.ช.ผ.ร.ช.ร.ป.ช.ต.ร.ม.ร.ม.ร.ส.ว.ล. มีข้อสังเกตต่อการออกแถลงการณ์ ดังนี้
Hit & Run
< กรกช  เพียงใจ>ขณะใครเปล่งเสียงสู้เพื่อกู้ชาติขณะใครร่วมพิฆาตมาดมารร้ายขณะนั้นเขายืนอยู่อย่างเดียวดายกลางผืนทราย ฝูงยุง ทุ่งพระสุเมรุไม่มีศิลปินใดร่ายบทกวีไม่มีวงดนตรีระเริงเล่นมีเพียงเหล่าคนยากที่ชัดเจนจากหลืบเร้นเหม็นสาบวิบากกรรมหรือเขาเป็นคนทุกข์ผู้โฉดเขลาหลงมัวเมาประชานิยมจนถลำหรือเขาคือผู้ยึดถือในถ้อยคำจึงชอกช้ำ ‘ประชาธิปไตย’ ช่างเปล่ากลวงหรือเขาคือฝูงคนผู้หลงผิดผู้ยึดติดเงินตราดังค่าหลวงพวกป่าเถื่อนเกลื่อนกลาดอนาจทรวงคอยทะลวงสู้ตายกับลายพรางรู้เพียง...คนว่า…
Hit & Run
ภาพันธ์ รักษ์ศรีทอง >ความมืดเริ่มแผ่ปกคลุมรอบๆบริเวณ หญิงเฒ่ากำเศษเหรียญจำนวนสามบาทห้าสิบสตางค์เอาไว้ในมือ สายตามองตามรถปรับอากาศติดแอร์สีส้มสาย 60 ที่เพิ่งผ่านไปอย่างเลื่อนลอย แต่ด้วยจำนวนเงินที่มีในมือคงทำได้เพียงอดทนรอเหมือนที่ริ้วรอยย่นบนหน้าผากและผิวพรรณที่แห้งกร้านแสดงออกมาทั้งชีวิต การรอคอยยังมีความหวัง เพราะอีกไม่นานรถเมล์คันสีแดงคงจะขับผ่านมาอีกรอบ เมื่อไม่นานมานี้เองเศษเงินราคาไม่ถึงห้าบาทยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังของเส้นทางกลับบ้าน� �เพียงกระพริบตากาลเวลาก็ล่วงผ่าน ถึงพุทธศักราช 2551 ภายในรอบครึ่งปีแรก ราคาน้ำมันในตลาดโลกทุนนิยมเสรีถีบตัวขึ้นสูงลิ่วจ่อทะลุ 40…
Hit & Run
ชูวัส ฤกษ์ศิริสุขบางคนบอกว่าโลกใบนี้คือโรงละคร และก็มีบางคนที่เห็นว่ามันคือ ‘คุก’ และคุณว่ามันคืออะไร 0 0 0
Hit & Run
ภาพันธ์ รักษ์ศรีทองเพื่อนนักโบราณคดีส่งภาพความเสียหายที่ ‘ปราสาทหินพนมรุ้ง’ จังหวัดบุรีรัมย์มาให้ดูอย่างเศร้าๆ สะพานนาคราชชั้นที่ 1, 2 และ 3 เศียรนาคถูกตีใบหน้าตรงส่วนปากกึ่งจมูก เสียหายไป 13 เศียร โคนนทิ พาหนะแห่งองค์ศิวะถูกตีทำลายบริเวณใบหน้า ส่วน ‘แท่งศิวลึงค์’ ศูนย์กลางแห่งจักรวาลในไศวะนิกาย สัญลักษณ์แห่งองค์ศิวะถูกเคลื่อนย้ายจากตำแหน่งเดิมบนฐานโยนีแล้วเอาลงไปวางไว้ในร่องน้ำมนต์ ข้างนอกปราสาทแม้แต่ทวารบาลผู้รักษาประตูประจำทิศใต้ก็ไม่อาจรักษาดูแลตัวเองได้ แขนและมือถูกทำลายมือข้างหนึ่งถูกวางไว้ที่สะพานนาคราชชั้นที่ 1 มืออีกข้างถูกเอาไปวางที่สะพานนาคราชชั้นที่ 2 ด้านทิศเหนือ…