Skip to main content

สายใยแห่งกวีนิพนธ์ ฉบับที่ ๖ ได้คัดเลือกจาก "สายรุ้ง รุ่งเยือน" ในชื่อบทว่่า  ห้วงฝัน, ฝั่งขวัญเอย

เชิญพินิจและพิศอ่านแล...

 

ห้วงฝัน, ฝั่งขวัญเอย

 

มาม่านมวลอากาศ       ลอยวาดฟุ้งฝุ่นผง     ร่วงซบลงขึ้น - วาง

สร้างให้ฝันธาตุจริง      ทุกสิ่งถึงรู้สึก            รอยผลึกอารมณ์ต่อ

กรายก่อสานสายใย     ห้วงใจหนึ่งดวงนี้       ที่สายสัมพันธ์ผูก

หวังปลูกทุกคืนวัน       คืนฝันสู่ภาวะ              ภาระม่านหมอกควัน

ขวัญเอยอย่าเร้นหนี     ยามชีวียังอยู่              มาเถิดขวัญเทอญ


เชิญละอองมวลม่านฟุ้ง                   ธาตุฝัน

ให้โลกนี้เผยผัน                                ผุดแผ้ว

ถึงทางทุกโรมรัน                              รุดฝ่า

ทางยุคหม่นค้นแคล้ว                       ค่นคว้ารอยฤทัย


ทุกข์ฤๅใจสัมผัสสร้าง                       สานสายใย

ทุกจังหวะทุกภาวะไหน                     ครุ่นค้ำ

กองทุกข์หนักใกล้ไกล                       กรายหาก

ถึงมอบสุขเสริมย้ำ                              หยัดครั้งยั่งยืน...


ทุกคืนวันค่ำเช้า                                 ฉ่ำเย็น

ร้อนเหน็บทางหนาวเข็ญ                   ขุ่นใกล้

รอยโรยร่วงก่ายเป็น                           ปรนปรับ

โปรยประดับปลุกปลอบได้                 ดุจพื้นสรวงเสวย

 


เลยทิพยเนตรทุกห้วง                        เหินหาว

ให้ยื่นแย้มหยาดคราว                        คลื่นหล้า

จรัสเจิดจันทร์พราว                            เพริศสู่

สถิตพื้นอารมณ์ว้า                             วุ่นเวิ้งวาดชีวี


หนึ่งนี่และหนึ่งนี้                                เนื่องหลาย

บทบาทยามย่ำกราย                        กรีดเยื้อง

ตราตรึงฝากความหมาย                  หมอกม่าน

อยู่ระหว่างปลูกฝังเปลื้อง                  ปลุกสร้างผุดผัน

 

เผยหันวันใฝ่สร้าง                             ผันเผย

ถึงธาตุพรั่นรำเพย                            พลาดพลั้ง

ปางแต่ย่ำยลเคย                               แปรต่าง

คว้านผ่องฤๅครองตั้ง                       หยั่งครั้งครองผล

 

หงายเฉียบเลียบค่ายครื้น                 เงียบฉาย

ร่างสอบสั้นยาวสาย                           รอบข้าง

อาจโอ้ อก อด อาย                             โอกาส

การณ์ทื่อวางถือบ้าง                           ถ่างบื้อคือฐาน

 

ฐานสรรดมสืบเสาะส้ม                         ชมสันดาน

เลี้ยวปดรสเคี้ยวขาน                            รสเปรี้ยว

รอบได้ร่ายปริมาณ                               ง่ายตอบ

ถึงเล่ารสเถาเคี้ยว                                  เที่ยวทั้งเท่าหรือ ?

 

ถือ - วางเหมือนต่างทั้ง                         ทางถือ

คว้าคั่งครั้งคลักครือ                               คั่งคว้า

หลากหล่มลื่นหลงหรือ                           หล่มหลาก

ตรึกไต่ถามไถ่หน้า                                 ท่าให้ใฝ่ถึง

 

ซึ่งเชิญม่านหมอกค้าง                           รอยขวัญ

มาฝุ่นผงฟุ้งควัน                                     คลื่นครั้ง

ละออง, ทุกละอองฝัน -                           ใฝ่สู่

ธาตุสุขมาเยือนยั้ง                                   แห่งห้วงขวัญมา.

..............................................

พ.ศ. ๒๕๔๘

 

 

 

 

 

บล็อกของ ณรงค์ยุทธ์

ณรงค์ยุทธ์
ทะเลที่เงียบที่สุด  
ณรงค์ยุทธ์
วันคืน...   หยดน้ำค้างเยี่ยมเช้า                ฉ่ำเยือน ซึมแผ่วห้องหับเรือน                 ระลึกรื้น ห้วงฝันตื่นแว่วเหมือน                หยดหนึ่ง
ณรงค์ยุทธ์
เสียงต่างต่างคั่งค้าง          เลื่อนลอย เช้าฉ่ำแล้งฝันรอย              รื่นร้าง เสียงแล้งฉ่ำย่ำคอย            ร้
ณรงค์ยุทธ์
ลุกเตรียมรับฉ่ำแล้ง               อารมณ์ รับคลื่นผ่านคายขม                คั่งค้าง ลุกไหวแว่ววาวชม                 ขวัญชื่น รับตื่นชักเช้าร้าง                     รื่นร้อยรอยเรียง ฯลฯ  
ณรงค์ยุทธ์
วันคืนต่อคลื่นคว้า          พลังใจ ถึงผ่านฟุ้งซ่านไหว         เห่เร้น สัมผัสเพื่อยองใย             ฝันตื่น ทุกฝั่งทางเลือกเฟ
ณรงค์ยุทธ์
เหมือนหนาวเทียมธาตุฟ้า                       เชือนเฉย
ณรงค์ยุทธ์
จนที่สุดทุกข์ล้ำ               ไพศาล หากเล่าฟ้าประทาน           กว่าพื้น ด้วยโหมรุกโรมราน            แว่วดั่ง
ณรงค์ยุทธ์
ไม่รู้แรงกลั่นร้อย               รอยสรรค์ จะหมดจากใจฉัน               กี่ครั้ง ให้ร้อยกลั่นจาบัลย์             สุดที่่
ณรงค์ยุทธ์
เพื่อพิสูจน์ค่าล้ำ              ลางเทียม จริงเท็จในอกเกรียม        กว่ารู้
ณรงค์ยุทธ์
โลกชีวิตแย้มยื่น                   หยัดหลอม
ณรงค์ยุทธ์
แต่นี้และต่อไป                 จะไม่เรียกร้องร่ำเริ่ม โหยไห้หรือหาเหิม           เพียงรู้นึกรู้สึกทำ...