Skip to main content

ภาสกร อินทุมาร

เดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนที่คนไทยในกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ อย่างน้อย ๒ กลุ่ม คือ จีนและมอญ  มีกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่ผูกโยงอยู่กับ “อัตลักษณ์” (identity) ของชาติพันธุ์แห่งตน นั่นก็คือ “วันตรุษจีน” หรือการเฉลิมฉลองการขึ้นปีใหม่ตามคติจีน ที่รวมถึงการรำลึกถึงบรรพชนของตน และ “วันรำลึกชนชาติมอญ” ที่คนไทยในกลุ่มชาติพันธุ์มอญจากหลายจังหวัดทั่วประเทศมารวมตัวเพื่อกันทำบุญให้แก่บรรพชนผู้ล่วงลับ และร่วมกันจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม

คนจีนและคนมอญได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในอาณาบริเวณที่เรียกว่าประเทศไทยในปัจจุบันตั้งแต่ก่อนการสถาปนาความเป็น “รัฐชาติ” (nation state) มาเนิ่นนาน วัฒนธรรมของทั้งสองชาติพันธุ์ต่างดำรงอยู่ และได้ผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย วันตรุษจีนได้กลายเป็น “เทศกาลตรุษจีน” ที่มีการเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ในหลายจังหวัด เป็นการเฉลิมฉลองที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้การสนับสนุน เพราะเทศกาลดังกล่าวนำมาซึ่งรายได้จากนักท่องเที่ยวที่มาร่วมชม และถึงแม้จะไม่มีเทศกาลตรุษจีนที่ยิ่งใหญ่เยี่ยงนั้น สังคมไทยก็คุ้นเคยกับอัตลักษณ์จีนมาเป็นเวลายาวนาน ดังเช่นการที่แทบจะไม่มีคนใดในกรุงเทพที่ไม่รู้จักเยาวราชอันเป็นย่านที่อยู่อาศัยของคนไทยในกลุ่มชาติพันธุ์จีน และเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยร้านค้าที่มีป้ายทั้งภาษาไทยและภาษาจีนกำกับ ในกรุงเทพและอีกหลายๆ จังหวัดก็มีโรงเรียนจีนที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ ทำหน้าที่สอนหนังสือจีนให้กับลูกหลานจีนในเมืองไทย ดังนี้แล้ว อาจกล่าวได้ว่าคนไทยในกลุ่มชาติพันธุ์จีนยังคงดำรงอัตลักษณ์ของชาติพันธุ์แห่งตน และอัตลักษณ์นั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย

คนไทยในกลุ่มชาติพันธุ์มอญก็เช่นเดียวกัน กล่าวคือ คนมอญได้อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ที่เป็นประเทศไทยในปัจจุบันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เรื่อยมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ คนมอญเหล่านี้ได้เข้ามามีบทบาทในการรับใช้ราชสำนักในฐานะกองกำลัง ศิลปวัฒนธรรมมอญก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของศิลปวัฒนธรรมไทย ดังเช่นการที่ปี่พาทย์มอญก็ได้กลายเป็นรูปแบบหนึ่งของสิ่งที่เรียกว่าดนตรีไทย ข้าวแช่ ซึ่งเป็นการหุงข้าวเพื่อบูชาเทวดาในช่วงสงกรานต์ของมอญ ก็ได้กลายมาเป็นอาหารไทย เป็นต้น และที่สำคัญยิ่ง สมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์ พระบรมราชินีในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ทรงมีเชื้อสายมอญ ราชสกุล และตระกูลต่างๆ ในสังคมไทยจำนวนไม่น้อย อาทิ ราชสกุลกฤดากร ราชสกุลกุญชร ราชสกุลทินกร ราชสกุลฉัตรชัย ตระกูลคชเสนี ตระกูล ณ บางช้าง ฯลฯ ต่างมีเชื้อสายมอญ

จะเห็นได้ว่าคนไทยในกลุ่มชาติพันธุ์มอญดำรงอยู่ในสังคมไทยมานับหลายร้อยปี อัตลักษณ์มอญก็ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์ไทยในปัจจุบัน เช่นเดียวกันกับการดำรงอยู่ของอัตลักษณ์จีน อย่างไรก็ดี “วันตรุษจีน” และ “วันรำลึกชนชาติมอญ” ในปีนี้ ได้เกิดปรากฏการณ์ที่ก่อให้เกิดคำถามในเรื่อง “ท่าที” ของ “รัฐไทย” ที่มีต่ออัตลักษณ์ที่แตกต่างหลากหลายที่ดำรงอยู่ในสังคม

 

http://blogazine.prachatai.com/upload/ong/ong_20080513-061526.jpg
งานวันรำลึกชนชาติมอญครั้งที่ ๖๑ ประจำปี ๒๕๕๑ ณ วัดบ้านไร่เจริญผล สมุทรสาคร

ขณะที่วันตรุษจีนและเทศกาลตรุษจีนสามารถดำเนินไปได้โดยไม่มีการแทรกแซงจาก “เจ้าหน้าที่รัฐ” แต่งานวันรำลึกชนชาติมอญ ที่จัดขึ้นในวันที่ ๒-๓ กุมภาพันธ์ ณ วัดบ้านไร่เจริญผล ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร กลับถูกตรวจสอบและควบคุมโดยเจ้าหน้าที่รัฐของจังหวัดนั้น คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ เพราะเหตุใดตัวแทนรัฐไทยในจังหวัดสมุทรสาคร จึงแทรกแซง ตรวจสอบ และควบคุมกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่จัดโดย “คนไทย” ในกลุ่มชาติพันธุ์มอญ ขณะที่ไม่กระทำเช่นนั้นต่อคนไทยในกลุ่มชาติพันธุ์จีน

งานวันรำลึกชนชาติมอญเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกปีโดย “ชมรมเยาวชนมอญกรุงเทพ” ซึ่งเป็นชมรมที่ดำเนินกิจกรรมทางวัฒนธรรมของคนไทยในกลุ่มชาติพันธุ์มอญ ร่วมกับชุมชนคนไทยในกลุ่มชาติพันธุ์มอญ โดยในปีนี้เป็นการจัดงานครั้งที่ ๖๑ การจัดงานในแต่ละปีนั้น จะมีการเวียนไปจัดตามจังหวัดต่างๆ ที่มีชุมชนคนไทยในกลุ่มชาติพันธุ์มอญ โดยคนในชุมชนนั้นๆ จะทำหน้าที่ดั่งเจ้าภาพในการจัด ดังเช่น การจัดงานครั้งที่ ๖๐ ในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ ก็ได้จัดขึ้นที่วัดอัมพวัน ตำบลบางขันหมาก อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี โดยกิจกรรมที่มีในทุกครั้งก็คือการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพชน และมีการแสดงทางวัฒนธรรม รวมทั้งชุมชนคนไทยในกลุ่มชาติพันธุ์มอญจากทั่วประเทศจะได้ใช้โอกาสนี้ในการพบปะพูดคุยกัน และในการจัดงานแต่ละครั้ง ผู้ว่าราชการของจังหวัดนั้นๆ ก็จะให้เกียรติมาเป็นประธานในการเปิดงาน

แต่ในการจัดงานครั้งที่ ๖๑ นี้ นอกจากผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครจะไม่รับเชิญมาเป็นประธานในการเปิดงานแล้วนั้น ยังได้สั่งการให้ “กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน” (กอ.รมน.) ประจำจังหวัดสมุทรสาคร เข้ามาตรวจสอบด้วยท่าทีสงสัยและระแวง รวมทั้งมีหนังสือมายังวัดบ้านไร่เจริญผลซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน โดยระบุว่า สิ่งใดทำได้ สิ่งใด “ห้ามทำ” อาทิ การไม่ให้ใช้ชื่อชมรมเยาวชนมอญกรุงเทพในการจัดงาน โดยระบุว่า ชมรมฯไม่มีสถานะทางกฎหมาย ทั้งๆ ที่การจัดกิจกรรมในลักษณะนี้ ประชาชนกลุ่มใดก็สามารถรวมตัวกันจัดได้ รวมทั้งมีการระบุให้ใช้เพียงภาษาไทย ไม่ให้ใช้ป้ายภาษามอญในงาน ทั้งๆ ที่ป้ายชื่อวัดเก่าแก่จำนวนมากในสมุทรสาครล้วนใช้ทั้งภาษาไทยและภาษามอญควบคู่กันมาเนิ่นนาน เพราะสมุทรสาครคือจังหวัดที่มีชุมชนคนไทยในกลุ่มชาติพันธุ์มอญอาศัยอยู่มากว่า ๒๐๐ ปี ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทั้งจังหวัดมาตั้งด่านตรวจสอบผู้ที่จะมาร่วมงานในทุกเส้นทาง ตลอดจนกระจายตัวอยู่ทั่วบริเวณวัด

http://blogazine.prachatai.com/upload/ong/ong_20080513-061543.jpg
หัวใจของงานวันรำลึกชนชาติมอญคือการทำบุญอุทิศกุศลแด่บรรพชนมอญ

เหตุผลที่พอจะเป็นไปได้ในการอธิบายท่าทีดังกล่าวของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ก็คือการที่จังหวัดสมุทรสาครมีแรงงานต่างชาติทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก โดยแรงงานส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่มาจากประเทศพม่า อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาในมิติชาติพันธุ์แล้วนั้น จะพบว่าแรงงานที่ถูกบอกว่าเป็นพม่านั้น ส่วนใหญ่คือคนในกลุ่มชาติพันธุ์มอญ ดังนั้น การจัดงานวันรำลึกชนชาติมอญ จึงอาจทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเกิดความหวาดระแวงว่ากลุ่มชาติพันธุ์มอญจะรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องแผ่นดินมอญคืนจากพม่า อันจะนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างรัฐไทยกับรัฐพม่าในที่สุด และหากผู้ว่าราชการจังหวัดคิดเช่นนี้จริง ย่อมเท่ากับว่าไม่เข้าใจวิถีชีวิตของแรงงานมอญในสมุทรสาคร ไม่เข้าใจความเป็นไปในพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบ

http://blogazine.prachatai.com/upload/ong/ong_20080513-061553.jpg
ป้ายชื่อวัดเขียนด้วยอักษรมอญ หน้าปากทางเข้าวัดปากบ่อ สมุทรสาคร ริมถนนพระราม ๒

ปรากฏการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งของวิธีคิดที่ซ้อนทับกันอยู่ในรัฐไทย กล่าวคือ จังหวัดสมุทรสาครเป็นจังหวัดที่อาศัยการเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านภาคอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมเหล็ก พลาสติก และอาหารสัตว์ รวมทั้งกิจการประมงและประมงต่อเนื่องเป็นหลัก โดยลักษณะของแรงงานในกิจการกลุ่มนี้ก็คือ การเป็นลูกเรือประมง การแกะกุ้ง เป็นต้น ลักษณะงานเช่นนี้เอง เป็นงานที่คนไทยไม่ทำ เป็นงานที่นักวิชาการด้านประชากรและแรงงานระบุว่าเป็นงานที่ สกปรก อันตราย และยากลำบาก (dirty, dangerous, difficult) ดังนั้นแรงงานต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่คือกลุ่มชาติพันธุ์มอญ จึงมีความจำเป็นอย่างมากในจังหวัดสมุทรสาคร

แต่เมื่อแรงงานจำนวนมากเข้ามา รัฐไทยก็เกิดความหวาดระแวง ความระแวงเช่นนี้อาจมาจากฟังภาษาที่แรงงานพูดไม่เข้าใจ การไม่เข้าใจการแสดงออกทางวัฒนธรรม และรหัสทางวัฒนธรรม (cultural code) ของแรงงานที่เป็นคนต่างชาติพันธุ์ เมื่อไม่เข้าใจ ก็ไม่มีวิธีการจัดการเพื่อให้เกิดความเข้าใจได้ สิ่งที่ทำได้ก็คือการเก็บกด ปิดกั้น ไม่ให้แรงงานเหล่านั้นแสดงอัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์ของตน ดังเช่นการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดได้เคยมีหนังสือขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการในจังหวัดสมุทรสาครในการห้ามมิให้แรงงานต่างชาติ โดยเฉพาะ “พวกที่มาจากพม่า” มีกิจกรรมทางวัฒนธรรม และในที่สุดก็มีการเข้ามาตรวจสอบและควบคุมการจัดงานวันรำลึกชนชาติมอญดังที่กล่าว ปรากฏการณ์เช่นนี้ทำให้เห็นถึงความขัดแย้งของวิธีคิดที่ซ้อนทับกันอยู่ของรัฐไทย ซึ่งก็คือ รัฐไทยยังคงต้องการแรงงานต่างชาติเพื่อประโยชน์ในทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็ไม่ยอมรับอัตลักษณ์ของแรงงาน เพราะมองเห็นคนเหล่านี้เป็นเพียง “คนอื่น” (the other) และการไม่ยอมรับอัตลักษณ์ของแรงงานมอญ ก็คือการไม่ยอมรับอัตลักษณ์ของคนไทยในกลุ่มชาติพันธุ์มอญที่มีตัวตนและบทบาทในพื้นที่ที่เรียกว่าประเทศไทยมานับศตวรรษ เพราะคนทั้งสองกลุ่มนี้ โดยเนื้อแท้แล้วคือคนที่มีราก (root) เดียวกัน มีบรรพบุรุษเดียวกัน ทั้งนี้ การไม่ยอมรับอัตลักษณ์ของผู้อื่น ก็คือการไม่ยอมรับว่าผู้อื่นมี “ความเป็นมนุษย์” เท่าเทียมกับตน

เมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน ที่ผ่านมา วัดเกาะ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ได้มีการจัดงานสงกรานต์ที่มีการสรงน้ำพระแบบมอญ การสวดของพระก็เป็นการสวดแบบมอญ ในงานนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครก็ได้มาร่วมงาน และพยายามที่จะพูดว่าคนที่อยู่ที่นี่ไม่ใช่คนมอญ แต่เป็น “คนไทย” ที่มีเชื้อสายรามัญ ตนก็มีบรรพบุรุษเป็นคนไทยเชื้อสายรามัญเช่นกัน คำว่า “มอญ” ดูเหมือนจะกลายเป็นคำหยาบคายสำหรับผู้ว่าราชการจังหวัด และการพูดว่าคนที่นี่ไม่ใช่คนมอญ ก็คือความพยายามที่จะแบ่งแยกคนมอญเมืองไทยออกจากแรงงานมอญที่มาจากเมืองมอญ ทั้งๆที่คนทั้งสองกลุ่มคือคนที่มาจากต้นทางเดียวกัน นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดยังอ้างอิงถึงการจัดงานวันรำลึกชนชาติมอญที่กล่าวถึงข้างต้นว่า เป็นการรวมตัวกันของ “เยาวชนมอญ” เพื่อตั้งกองกำลังกู้ชาติ

http://blogazine.prachatai.com/upload/ong/ong_20080513-061604.jpg
นายวีระยุทธ เอี่ยมอำภา ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กับชุดโสร่งอีสาน ในงานสงกรานต์วัดเกาะ สมุทรสาคร

คำพูดดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่ามายาคติเรื่องรัฐชาติแบบไทยๆ ได้ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐมองไม่เห็นแม้กระทั่งรากเหง้าของตน หลงเวียนวนอยู่กับคำว่า “ไทย” โดยที่หาความหมายที่ชัดเจนไม่ได้ รวมทั้งไม่เข้าใจการดำรงอยู่ของวัฒนธรรมที่หลากหลาย และตีความไปเองว่าการจัดงานวันรำลึกชนชาติมอญคือการตั้งกองกำลังกู้ชาติ ทั้งๆ ที่ชมรมเยาวชนมอญกรุงเทพได้อธิบายตั้งแต่ต้นแล้วว่าตนคือใครและกำลังทำอะไร รวมทั้งมีการก่อตั้งมาแล้วตั้งแต่ปี ๒๕๑๘ ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นเพื่อการจัดงานในปีนี้อย่างที่ผู้ว่าฯเข้าใจ

http://blogazine.prachatai.com/upload/ong/ong_20080513-061614.jpg
การสรงน้ำพระแบบมอญ ชาวบ้านจะเทน้ำสะอาดผ่านรางเข้าไปรดบนร่างพระสงฆ์ในโรงสรงน้ำที่มิดชิด

http://blogazine.prachatai.com/upload/ong/ong_20080513-061633.jpg
แหวนทองหัวพลอยแดงและห่อผ้าผีมอญต้นตระกูล 'มิเกล็ด' ตระกูลทางมารดาของนายวีระยุทธ เอี่ยมอำภา

การกระทำของรัฐไทยที่ผ่านมาทางผู้ว่าราชการ สะท้อนให้เห็นถึงความไม่สามารถในการสร้างการจัดการทางสังคม (social management) ของรัฐไทย ความไม่สามารถนี้ล้วนเป็นผลผลิตของมายาคติ (myth) ว่าด้วย “รัฐชาติ” และ “ความมั่นคงแห่งรัฐ” ที่เข้าใจว่า “ความแตกต่างหลากหลาย” คือปัญหา คือสิ่งที่จะก่อให้เกิดความไม่มั่นคง ดังนั้น สิ่งที่รัฐกระทำก็คือการใช้อำนาจในการปิดกั้น และควบคุม ซึ่งผลลัพธ์ของการเก็บกด ปิดกั้น และควบคุมความแตกต่างหลากหลายที่กระทำโดยรัฐไทย ก็ได้ปรากฏอย่างชัดเจนในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่รัฐไทยก็ดูจะยังไม่เรียนรู้จากผลลัพธ์นั้น

* บทความนี้ปรับปรุงจากบทความชื่อเดียวกัน ที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ “มติชน” ฉบับวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑

บล็อกของ องค์ บรรจุน

องค์ บรรจุน
คนส่วนใหญ่รับรู้ว่าวัดชนะสงครามเป็นวัดมอญ ใช่ว่าคนสนใจประวัติศาสตร์จึงได้รู้ความเป็นมาของวัด แต่เป็นเพราะหน้าวัดมีป้ายโลหะสีน้ำตาลที่ทางการชอบปักไว้หน้าสถานที่ท่องเที่ยว ความระบุประวัติไว้ว่าวัดนี้เป็นวัดของพระสงฆ์ฝ่ายรามัญ (มอญ) แต่ก็ไม่แน่ใจนัก คนสมัยนี้อาจเข้าใจว่ามอญเป็นชื่อต้นไม้จำพวกเห็ดราปรสิตชนิดหนึ่งก็ได้
องค์ บรรจุน
องค์ บรรจุน   การสื่อสารระหว่างมนุษย์ด้วยวิธีต่างๆ เพื่อให้ฝ่ายหนึ่งรับรู้ความหมายจากอีกฝ่ายหนึ่ง และเกิดการตอบสนอง นับแต่โบราณกาลมีตั้งแต่การสุมไฟให้เกิดควัน นกพิราบสื่อสาร ปัจจุบันการสื่อสารมีหลายวิธีรวดเร็วทันใจมากขึ้น อาจเป็นวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ โทรศัพท์มือถือ ดาวเทียม ระบบโทรคมนาคม หรือการสื่อสารระบบเครือข่ายที่อาศัยดาวเทียมและสายเคเบิลใยแก้ว ที่เรียกว่า อินเตอร์เน็ต ก็ได้ ส่วนภาษาที่มาพร้อมกับวิธีการสื่อสารเหล่านั้น เป็นเครื่องมือที่สำคัญซึ่งมีพัฒนาการไม่หยุดนิ่ง มีการหยิบยืมคำในภาษาอื่น เปลี่ยนรูปแบบและความหมายตลอดเวลา…
องค์ บรรจุน
องค์ บรรจุน   พิพิธภัณฑ์ในประเทศไทยนั้นมีมาอย่างน้อยก็ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ ถึงแม้ว่าจะเริ่มต้นจากการหาที่เก็บของเก่าก็ตาม แต่จากประสบการณ์ที่ว่านี้ ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่กำลังคิดทำพิพิธภัณฑ์ว่าจะใช้เก็บของเก่าหรือใช้เป็นสถานที่เรียนรู้ โดยเฉพาะในยุคที่ผู้คนเริ่มเห็นคุณค่าท้องถิ่นของตน การตัดสินใจเกี่ยวกับท้องถิ่นจึงควรมาจากท้องถิ่นเพื่อประโยชน์ของท้องถิ่น
องค์ บรรจุน
องค์ บรรจุน     หญ้าขัดมอญ เป็นพืชล้มลุก ทรงพุ่มเตี้ย ตระกูลเดียวกับชบา ขึ้นเองตามธรรมชาติไม่ต้องปลูกและดูแลรักษา คนในสังคมเมืองคงไม่คุ้นชื่อคุ้นต้นไม้ชนิดนี้ หลายคนเห็นเป็นวัชพืชอย่างหนึ่งที่ต้องกำจัด นอกจากบางคนที่ช่างสังเกตธรรมชาติรอบตัวก็อาจจะพบว่า หญ้าขัดมอญ เป็นไม้พุ่มเตี้ยแตกกิ่งก้านหนาแน่น ใบเล็กเรียวเขียวเข้ม ยิ่งเวลาออกดอก สีเหลืองอ่อนหวานพราวพรายรายเรียงอยู่ทั่วทุกช่อใบ ชวนมองไม่น้อย แถมมีประโยชน์ในครัวเรือนหลายอย่าง ทั้งด้านการใช้สอยและสรรพคุณทางสมุนไพร
องค์ บรรจุน
องค์ บรรจุน บทสรุปย่อสำหรับผู้บริหาร (Executive Summary) ของศูนย์พม่าศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร ในการนำการเสนอโครงการวิจัย ชุด "โครงการประเทศพม่าศึกษา" ชื่อหัวข้อวิจัย คือ "มโนทัศน์ทางการเมืองของรัฐพม่าบนพื้นที่สื่อรัฐบาลทหาร" ที่ผ่านการอนุมัติจากสกว.
องค์ บรรจุน
  องค์ บรรจุน ๗ กรกฏาคม ที่ผ่านมาเป็นวันอาสาฬหบูชา รุ่งขึ้นก็เป็นวันเข้าพรรษา วันสำคัญของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก เมื่อมีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน ผู้คนจึงออกต่างจังหวัดกันมาก ถนนช่วงนั้นจึงโล่งอย่างเทศกาลใหญ่ๆ ทุกครั้ง เปิดทีวีมีแต่ข่าวขบวนแห่เทียนเข้าพรรษากันทัวประเทศ ยิ่งใหญ่เท่าไหร่ แปลกเท่าไหร่ยิ่งดี บางจังหวัดไม่เคยจัดก็สู้อุตส่าห์ซื้อช่างแกะเทียนค่าตัวแพงลิบมาจากอุบลราชธานี กลายเป็นว่าทุกวันนี้คนทำเทียนเข้าพรรษาเพื่อขายการท่องเที่ยว ไม่ได้ถวายให้พระใช้งานจริงขณะนั้นเวลา ๑๐.๓๐ น. ผมนั่งอยู่โคนต้นอโศกอินเดียภายในวัดชนะสงคราม ความคลุกคลีกับวัดวามานานจึงพาลห่างวัด…
องค์ บรรจุน
องค์ บรรจุนบทความชิ้นนี้ไม่มีเจตนาตั้งชื่อเลียน "ชัตเตอร์กดติดวิญญาณ" เพราะในภาพยนตร์นั้น เจ้าของกล้องกดชัตเตอร์ติดวิญญาณผีที่เขาขับรถชนและหนีไป ทว่าในที่สุดวิญญาณก็ตามทวงเอาชีวิต ซึ่งต่างจากบทความนี้อย่างสิ้นเชิง เนื่องจาก เจ้าของกล้องถ่ายภาพนับร้อยที่กดชัตเตอร์ใส่ผีตนหนึ่ง คล้ายมหรสพที่นักการเมืองจัดให้ชาวบ้านในฤดูหาเสียง แต่ที่ร้ายก็คือ อำนาจของชัตเตอร์กลับสะกดให้ผีตกอยู่ใต้อำนาจของมนุษย์อย่างที่ผีไม่สามารถเอาคืนได้
องค์ บรรจุน
องค์ บรรจุน แค่อ่านชื่อเรื่องหลายคนคงรู้จักคุ้นเคยกันดีว่านี่คือเนื้อเพลง “สยามเมืองยิ้ม” สำหรับคนที่เป็นคอลูกทุ่งยิ่งต้องรู้ว่า เพลงนี้ขับร้องโดยราชินีเพลงลูกทุ่งผู้ล่วงลับ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ส่วนผู้ประพันธ์เนื้อเพลงเป็นครูเพลงคู่บุญของเธอ ลพ บุรีรัตน์ 
ได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรกก็สัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ในความเป็นชาติ รู้สึกทันทีว่าไพเราะกินใจ ซาบซึ้งไปกับบทเพลง ยิ่งฟังยิ่งเพราะ ขนาดที่เมื่อสิบกว่าปีก่อนเคยส่งเทปจัดรายการเพลงไปประกวดดีเจทางคลื่น “สไมล์เรดิโอ” ใช้เพลง “สยามเมืองยิ้ม” เป็นเพลงปิดรายการ ได้เข้ารอบแรกเสียด้วยแต่ตกรอบ ๒๐ คนสุดท้าย เพื่อนๆ ที่รอฟังและตามลุ้นพูดเหมือนกันว่า “สมควรแล้ว…
องค์ บรรจุน
  องค์ บรรจุน คนทั่วไปสับสนเกี่ยวกับลักษณะสายพันธุ์และชื่อเรียกของ "กระเจี๊ยบ" ว่าเป็นอย่างไรและเรียกว่าอะไรกันแน่ จะมีสักกี่คนที่รู้ถึงที่มาและคุณค่ามากมายมหาศาลของกระเจี๊ยบบ้านมอญในชนบทหลายแห่งเคยมีต้นกระเจี๊ยบริมรั้ว ริมคลองหนองบึง สำรับกับข้าวเคยมีแกงกระเจี๊ยบไม่ขาด แต่ทุกวันนี้ "กระเจี๊ยบ" เริ่มเลือนหายไปจากชีวิต ชนิดที่ไม่มีใครอาลัยอาวรณ์นัก แม้แต่จะนึกถึงความหลังที่แกงกระเจี๊ยบเคยอยู่คู่ครัวมาแต่อ้อนแต่ออก
องค์ บรรจุน
องค์ บรรจุนหลายปีก่อนผู้เขียนเคยนั่งตากลม น้ำลายบูด หันซ้ายทีขวาที อยู่กลางวงสนทนาของผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการประวัติศาสตร์ สังคมศาสตร์ และมานุษยวิทยา ในวงนั้นมี รศ.ศรีศักร วัลลิโภดม อยู่ด้วย ท่านพูดถึงความหลากหลายทางชาติพันธุ์ในเมืองไทยไว้ประมาณว่า สังคมไทยหลอมรวมมาจากผู้คนและวัฒนธรรมของคนหลายกลุ่ม ความเป็นไทยแท้นั้นจึงเป็นเรื่องโกหก โดยเฉพาะคนไทยที่ไม่มีสายเลือดอื่นเจือปนนั้นไม่มีจริงในโลก ในวันนั้นผมได้ยินคำอาจารย์ศรีศักรชัดถ้อยชัดคำเต็มสองหูว่า "ที่ไหนมีคนไทยแท้ช่วยมาบอกที จะเหมารถไปถ่ายรูปคู่เก็บไว้เป็นที่ระลึก และจะกราบตีนงามๆ สักที อยากเห็นจริงๆ..."
องค์ บรรจุน
 องค์ บรรจุนธรรมเนียมไทยแท้แต่โบราณ "ใครถึงเรือนชานต้องต้อนรับ" หัวเรื่องที่จั่วไว้ด้านบนบทความนี้ ถือเป็นคุณสมบัติอันน่าภาคภูมิของคนไทยอย่างหนึ่ง คนไทยทั้งผองเชื่อกันว่าคนไทยมีข้อดีงามหลายอย่าง เป็นต้นว่า โอบอ้อมอารีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ กตัญญูรู้คุณ ซื่อสัตย์สุจริต ยิ้มสยาม หรือแม้แต่ "รักสามัคคี" และ "ไทยนี้รักสงบ..." ล้วนเป็นความดีเด่นประจำชนชาติไทยตามลัทธิอัตตานิยม "คนไทยดีที่สุดในโลก" ดังนั้นเมื่อหมอดูทำนายคนไทยหน้าไหนก็ตามว่าเป็นคนดีดังกล่าวข้างต้น จึงไม่มีใครปฏิเสธว่าหมอดูไม่แม่น
องค์ บรรจุน
ถุงผ้าไม่ได้ลดโลกร้อน เพราะการใช้ถุงผ้าตามกระแสโดยเข้าไม่ถึงหลักใหญ่ใจความ ขณะที่ปริมาณการใช้ถุงพลาสติกยังคงเดิม คงไม่ต้องไปดูไหนไกลอื่น แค่เพียงเราสำรวจดูที่บ้านว่าเรามีถุงผ้าอยู่ในครอบครองกี่ใบ แต่ละวันที่เราออกไปทำธุระนอกบ้าน หรือเวลาที่ตั้งใจไปจ่ายตลาด มีใครสักกี่คนที่เอาถุงผ้าหรือตะกร้าติดตัวไปด้วย และในบรรดาคนที่เอาถุงผ้าหรือตะกร้าติดตัวไปด้วยนั้น จะมีใครบ้างไหมที่ปฏิเสธแม่ค้าว่าไม่เอาถุงพลาสติก โดยเฉพาะแม่ค้าในตลาดสด "ไม่ต้องใส่ถุงพลาสติกชั่งน้ำหนักแล้วเทลงถุงผ้าเลย" อย่างน้อยการซื้อแกงถุงกลับบ้าน นอกจากถุงร้อนที่ใส่แกงแล้ว ยังมีถุงหูหิ้วสวมทับอีก ๑ ใบด้วยหรือไม่