Skip to main content

สมัยที่ทำหน้าที่อนุกรรมการตรวจสอบความจริงกรณีเผากรุงเทพ 34 จุดนั้น ไม่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารชั้นผู้ใหญ่หรือ กทม. มาให้ข้อมูลเลย ภาพรวมที่ได้คือ 


ประการแรก ทหารไม่ให้รถดับเพลิงเข้าพื้นที่โดยไม่รับรองความปลอดภัยของนักดับเพลิง 

ประการที่สองคือ กรณีการเผาอาคารต่างๆ มีภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวของบุคคลจำนวนหนึ่ง แต่ไม่มีการดำเนินการสืบสวนอย่างจริงจังของรัฐบาลในขณะนั้น 

ประการที่สาม อนุกรรมการชุดที่ 4 นั้นได้เคยซักถาม รปภ. ห้าง ความเบื้องต้น (ยังไม่ได้สอบทวน) ก็คือ กรณีเผาอาคารห้างสรรพสินค้านั้น ทาง รปภ. ยืนยันว่าคนที่เผาหน้าไม่คุ้น เพราะปกติแล้ว รปภ. ห้างจะรู้จักและประสานงานกับการ์ดเสื้อแดง แต่วันนั้นถูกยิงข่มจากข้างใน และมีกลุ่มมาเผาข้างนอก เวลานั้นเสื้อแดงส่วนใหญ่ถูกสลายออกไปแล้วหลังจากแกนนำมอบตัว มีเสื้อแดงบางส่วนมาป่วนทุบกระจกและ "อาจ" พยายามเผา แต่สถานการณ์ร้ายแรงขึ้นเมื่อมีการใช้อาวุธยิงคนในอาคาร ท้ายสุด รปภ. ต้องประสานให้ตำรวจมารับตัว รปภ.และเจ้าหน้าที่ของห้างออกไป และในที่สุดไฟลุกลามไหม้จนหมดสิ้นเพราะมีการตัดน้ำ ตัดไฟ ซึ่งทำให้ "อาคารอัจฉริยะ" ไม่สามารถดับไฟในห้างได้ ขณะที่ทหารเข้ามาขอคืนพื้นที่ และตรึงกำลังได้แล้ว นี่เป็นเหตุการณ์ก่อนจะมีกรณี 6 ศพวัดปทุมฯ

ประการที่สี่ การเผาอาคารจำนวนหนึ่งอาจควบคุมเพลิงได้ หากให้ชุดผจญเพลิงเข้าพื้นที่ 
คำถามก็คือในวันที่รัฐบาลใช้กำลังทหารกว่า 50,000 นาย เหตุใดจึงไม่สามารถคุ้มกันทีมดับเพลิงได้

ประการที่ห้า ในฐานะอนุกรรมการที่ดูแลเรื่องเผากรุงเทพ 34 จุด การทำงานของอนุกรรมการเป็นไปอย่างล่าช้า จนต้องยุติบทบาทและรีบสรุปงาน เพราะปัญหาเรื่องงบประมาณ ผมไม่ทราบว่า "รายงานสุดท้ายของ คอป. " ใช้ข้อมูลจากอนุกรรมการที่ผมทำงานอยู่กี่มากน้อย 

ประการที่หก เมื่อสิ้นหวังจะค้นหาความจริงในภาคราชการ ผมและเพื่อนพี่น้องกลุ่มมรสุมชายขอบ ทำงานชุด ข้อเท็จจริงเบื้องต้นเดือนพฤษภาคมฯ ได้แถลงที่มูลนิธิ 14 ตุลาคม เมื่อ พ.ศ. 2554 เพื่อแสดงความจริงใจในการค้นหาความจริง
ต้องย้ำด้วยว่า ข้อมูลเหล่านี้ ไม่ได้ใช้เอกสารหรือข้อมูลของ คอป. แม้แต่ชิ้นเดียว!

ประการที่เจ็ด เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ผมคิดว่าไม่สามารถทำงานให้คืบหน้าต่อไปได้ ขณะที่อนุกรรมการของ คอป. ไม่มีท่าทีจะเดินหน้าต่อ ผมหันมาเขียนรายงานข้อเท็จจริงร่วมกับกลุ่มสันติประชาธรรมและ ศปช. จนเป็นที่มาของ รายงานความจริงเพื่อความยุติธรรมฯ โดยมีรายงานตีพิมพ์ http://www.pic2010.org/category/report/ และเว็บไซต์
(ในเวลาต่อมา อาจารย์คณิต มีหนังสือมาขอบคุณที่ทำงานในฐานะอนุกรรมการของ คอป. เท่ากับว่างานของผม "หมดอายุ" โดยปริยาย)

ผมหวังว่าเพื่อนพี่น้องผู้มีใจเป็นธรรมจะลองทบทวนดูว่าเราควรจะด่วนประณามใครต่อใครโดยไม่ค้นหาความจริงหรือไม่ 

ที่สำคัญ ผมค้านการตรา พ.ร.บ. นิรโทษกรรมเหมาเข่งสุดซอยครับ

บล็อกของ บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ

บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
รถบัสนำผมมาถึงเมืองชิคาโกในเวลาสองทุ่มครึ่ง รถจอดที่สถานีปลายทาง Union Station แม้จะเคยมาเมืองนี้ แต่คราวนี้มาคนเดียว และนัดเพื่อนที่ไม่เจอกันเกือ
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
เราตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อจะเดินไปบ้านอาจารย์แคทเธอรีน บาววีเพื่อยืมรถอาจารย์ไปเที่ยว อา
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
แม้จะเข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่อากาศที่นี่ยังคงเย็นอยู่บ้าง ในคืนที่ผ่านมาอากาศเย็นสบาย เมื่อเราซื้อของจากซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆ ที่พัก เราเดินกลับบ้านได้สบายๆ
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
อย่างที่เคยเล่ามาในตอนก่อนๆ ว่า หนึ่งในความสุขเล็กๆ ของพวกเราคือการได้ไปกินติ่มซำวันเสาร์ (อาจจะมีคนเติมว่าไม่เอาเผด็
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ผมอดคิดไม่ได้ว่าคนรุ่นก่อนช่างกล้าหาญนัก กล้าเดินทางเข้ามาในดินแดนที่ไม่รู้จัก เพื่อแสวงหาโอกาสที่ดีกว่าการเดินทางของมนุษย์เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ ชีวิตยิ่งมหัศจรรย์กว่า ในความผันแปรเปลี่ยนของมนุษย์
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ผมเขียนบทความชุดนี้มาหลายเดือน มาถึงตอนนี้ นับว่าเป็นชุดบทความที่ยาวไม่น้อย 
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
เมื่อปี พ.ศ.2532 เดือนมิถุนายน ยังไม่รู้ประสีประสาทางการเมือง ในขณะที่เพื่อนๆ พี่ๆ พากันขึ้นคัทเอาท์สนับสนุนประชาธิปไตยในจีน และมีกิจกรรมต่อเนื่องหลังจากที่นักศึกษา ประชาชนถูกล้อมปราบที่ลานหน้าพระราชวังต้องห้าม
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
     มหาวิทยาลัยเกือบทุกแห่งที่ผมได้มีโอกาสผ่านไปมักมีเรื่องราวให้จดจำ ไม่ว่าจะเป็นความสวยงามของภูมิทัศน์ เอ
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
Today is the 5th year to commemorate the day that Abhisit Vejjajiva started cracking down the United front for Democracy against Dictatorship (UDD) camp site on Rajadamri. It started with the killing of Seh. Daeng or Gen. Kattiya Sawasdiphol.