23 กุมภาพันธ์ 2534 มีรัฐประหารล้มรัฐบาลที่ขึ้นชื่อว่ามีการคอร์รัปชั่นที่เรียกว่า บุฟเฟ่ต์คาบิเน็ท
ฝูงชนดีใจ เอาดอกไม้ ซุปไก่สกัด ช่อดอกไม้ไปให้ทหาร
เฉลิมฉลอง ดีใจยกใหญ่
ในปีถัดมา เราออกไปบนท้องถนนเพราะเดิมทหาร รสช. บอกว่าไม่สืบทอดอำนาจ
แต่แล้วพวกเขากลัวว่าจะถูกเช็คบิลย้อนหลัง จึงตั้งพรรคสามัคคีธรรม มี ฐิติ นาครทรรพ เป็นกุนซือ มีนายณรงค์ วงศ์วรรณเป็นหัวหน้า
หลังการเลือกตั้ง แม้นายณรงค์จะชนะ แต่ก็ถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องคุณสมบัติ จึงมีคนไปถามบิ๊กจ๊อด ชายร่างเล็กบอกว่า "ถ้าสุไม่เอา ก็ให้เต้ ถ้าเต้ไม่เอาก็ให้ตุ๋ย" สร้างความโกรธแค้นให้กับประชาชน
เมื่อถามไถ่ไปที่คนทั้งสาม ต่างพากันปฏิเสธ แต่เมื่อนายณรงค์พ้นทาง จึงถึงคราวของสุจินดา
และคนเริ่มแสดงความรังเกียจว่าเขาตระบัดสัตย์ หลายคนถึงกับลำเลิกว่าเป็นไม่ได้แม้กระทั่งลูกเสือสำรองที่มีคำขวัญ "เสียชีพ อย่าเสียสัตย์"
จึงเป็นที่มาของคำว่า "เสียสัตย์เพื่อชาติ"
การประท้วงเริ่มจากคนไม่กี่คนหน้ารัฐสภา ร.ต. ฉลาด วรฉัตรมาอดข้าวประท้วงหน้าสภา บางคนเห็นเป็นเรื่องขำขัน ขณะที่มีเครื่องดื่มน้ำเต้าหู้เอาไปล้อเลียนด้วยซ้ำ
เมื่อมี ครป. และภาคประชาชนจำนวนมากเข้าร่วม ผู้คนจึงออกมาสู่ท้องถนน และมากขึ้น ที่สนามหลวงมีคนถือโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้งแบบกระเป๋าหิ้ว และแบบถือที่คล้ายกระติกน้ำ หลายคนมีฐานะดีจนเห็นเด่นชัด เพราะรถราที่พวกเขาขับ จึงพากันเรียกว่าม็อบมือถือ ม็อบชนชั้นกลาง
เมื่อสถานการณ์งวดเข้า รัฐบาลเริ่มไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น
การชุมนุมเริ่มแสดงความไม่พอใจต่อท่าทีของรัฐบาล
เอาขวดเปล่าตีพื้น ร้อง "เ -ี้ย สุๆๆๆๆ" จนเกิดการปะทะทะหลังพลตรีจำลองถูกจับ
ก่อนหน้านั้น จำลองเคยประกาศอดอาหารจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แต่แล้วเขาก็ขอมติจากคนที่มาชุมนุมกลับมากินข้าว เลิกอดอาหาร
ภายหลังนิรโทษกรรม พลตรีพัลลภออกมาอธิบายภายหลังว่า รู้ว่าจะมีการจับจำลองตอนบ่ายสาม จึงให้จำลองกลับไปนั่งที่แนวหน้า
หลังจากจำลองถูกจับ จึงเห็นโอกาสที่ให้นักศึกษายึดรถดับเพลิงแล้วเริ่มทำโมโตลอฟค็อกเทล เพื่อเผาสถานีตำรวจนางเลิ้ง
กลางดึกเขาข้ามแนวไปบอกทหารหลังลวดหนามว่าจะตีตำรวจเผาโรงพัก ให้ถอยไป
จากนั้นการปะทะกันก็รุนแรงต่อกันหลายวัน
ที่โรงแรมรอยัล หลายคนที่เคยไปมอบช่อดอกไม้ให้ทหารเมื่อปี 2534 ถูกกระทืบ ถูกเหยียบไปบนตัว และมีศพและผู้บาดเจ็บอยู่ข้างๆ
ยามเช้าผู้ชุมนุมชายถูกจับมือมัดไพล่หลังราวกับเป็นเชลยศึก
เป็นคืนที่ยาวนานนั้น ผมอยู่กับพี่น้องจำนวนหนึ่ง หลบในโรงแรมขนาดเล็ก เห็นกระสุนส่องวิถีและเสียงยิงทั้งคืน
จำลองถูกวิจารณ์ว่าพาคนไปตาย ด้วยน้ำคำของมีดโกนอาบน้ำผึ้ง พร้อมกับความพ่ายแพ้ในระดับฉิวเฉียด
ตรองดูนะครับ พี่น้องเพื่อนฝูงทั้งหลาย
วันนี้เช้าเวลาตีสาม เขา-กองทัพประกาศกฎอัยการศึก
กลัวจะ dejavu เหลือเกิน
บล็อกของ บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
รัฐบาลนี้จะอยู่ค้ำฟ้ารึไง
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ประโยคหนึ่งที่ถูกสลักจารึกที่ชานปลายบันได บนทางเดินก่อนเข้าอนุสรณ์สถานลินคอล์น (Lincoln Memorial) ที่ซึ่งถือกันว่าเสมือนวิหารแห่งประชาธิปไตยอันเป็นที่ตั้งของรูปสลักอับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา สลักเอาไว้ว่า “ข้าพเจ้ามีความฝัน“ (I have a dream) ประโยคนี้เป็นบทเริ่มต้นของสุนทรพจน์ข
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ผมต้องไปประชุมกับนักวิชาการที่ได้รับทุนฟุลไบรท์ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ปลายปีแบบนี้หลายคนเดินทางกลับบ้านหรือไปเที่ยวทางไกลกันมากมาย ทำให้คิดถึงเรื่องที่ผมเจอกับตัวเองเมื่อหลายปีก่อนระหว่างขับรถบนถนนสี่เลนจากนคร
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
หลังจากผมมาถึงเมืองเคมบริดจ์เป็นเดือน เริ่มจากการหาที่พัก ไปประชุมที่วอชิงตัน ดีซี หาซื้อเสื้อผ้ารับความหนาว รองเท้า จัดการเรื่องอาหารการกิน มีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ งานเอกสาร ตลอดจนตั้งสถานีทำงานที่บ้าน จนได้ห้องใต้หลังคาของบ้านอายุกว่าร้อยไป ห่างจาก Harvard University สองสถานีรถไฟใต้ดิน ก็เริ่มตั้งห
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ผมขออนุญาตเขียนบันทึกความจำเอาไว้นะครับ ในโอกาสที่ครบรอบหนึ่งปีของการก่อตั้งกลุ่มนักวิชาการและเครือข่ายประชาชนที่เรียกตัวเองว่า สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย หรือ สปป.
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
บทความเก่าๆ เป็นรายงานสมัยเรียน ป.
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ในรายงานวิจัยที่ผมเสนอต่อโครงการเมธีวิจัยอาวุโส ศ. รังสรรค์ ธนะพรพันธ์ุ ได้เขียนถึงเรื่องจุดเริ่มต้นและชีวิตทางการเมืองของธรรรมนูญฉบับนี้ ตลอดจนผลการใช้มาตรา 17 เอาไว้ดังนี้ ครับ
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ได้เคยเขียนบทนำวิภาษา 23 ไว้เมื่อปลายปี 2553 ไว้เกี่ยวกับเรื่องปฏิวัติวัฒนธรรม ดังนี้การปฏิวัติวัฒนธรรมที่กลายเป็นสินค้า
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
23 กุมภาพันธ์ 2534 มีรัฐประหารล้มรัฐบาลที่ขึ้นชื่อว่ามีการคอร์รัปชั่นที่เรียกว่า บุฟเฟ่ต์คาบิเน็ท ฝูงชนดีใจ เอาดอกไม้ ซุปไก่สกัด ช่อดอกไม้ไปให้ทหาร เฉลิมฉลอง ดีใจยกใหญ่ ในปีถัดมา เราออกไปบนท้องถนนเพราะเดิมทหาร รสช.