Skip to main content
ช่วงที่พ่อแม่มาอยู่ด้วย ผมจะพาพ่อแม่ไปเที่ยวใกล้บ้าง ไกลบ้าง เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เพราะการพาคนแก่มาอยู่เมืองที่ไม่มีเพื่อนฝูงที่สนิทกันคงไม่ใช่เรื่องสนุก
อาทิตย์ก่อนก็ขับออกไปพุทธมลฑลแล้วไปพระปฐมเจดีย์ วกออกไปทางบ้านแพ้ว ออกมาพระรามสอง ก็เจอรถติดยาว
 
ในสัปดาห์ก่อนเราพยายามหาซื้อกระถางดินเผา แต่เหมือนโชคไม่เข้าข้างส่วนใหญ่เป็นกระถางซีเมนท์ หรือพลาสติก เลยได้มาแต่มะพร้าวน้ำหอมต้นเดียว
 
อาทิตย์นี้เลยจะพาไปดูตลาดต้นไม้และร้านก๋วยเตี๋ยวเรือที่แม่บอกว่าอร่อยที่ตลาดต้นไม้คลอง 15 นครนายก
หลังจากวนหาร้านไม่เจอ เราตัดสินใจขับย้อนมาซื้อกระถางและดินปลูกต้นไม้ปากทางแล้วขับออกหาร้านใหม่
 
ผมนึกได้ว่านครนายกไม่ห่างจากเมืองศรีมโหสถ ที่ผ่านมาเคยพาพ่อแม่ไปเที่ยวคูบัวมาแล้ว ส่วนตัวผมและพี่ชายเคยไปเมืองศรีเทพ (ยังเหลือเขาคลังนอกอันโด่งดัง) เลยคิดว่าจะเลยไปเมืองศรีมโหสถ ปราจีนบุรี
 
เมื่อกินข้าวเสร็จก็ขับมาตามเส้นทางไปปราจีนบุรี แต่เมื่อถึงทางแยกเข้านครนายก ผมเห็นป้ายเมืองดงละครเลยเลี้ยวเข้าไป คิดว่าจะดูเร็วๆ แต่เมื่อเข้าไปก็หลงทาง ต้องไปถามร้านขายของว่าเมืองโบราณไปทางไหน น้องที่ดูร้านบอกว่าเข้าซอยข้างวัดไปเรื่อยๆ จึงเลี้ยวเข้าไปใหม่
 
เข้าไปถึงจุดแรกเป็นเหมือนศูนย์ข้อมูลเมืองดงละคร มีนิทรรศการแสดงว่าเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับที่ไหนบ้าง  กล่าวได้ว่าเมืองดงละครน่าสนใจมาก เพราะเป็นชุมชนยุคทวาราวดีที่เห็นร่องรอยการตั้งถิ่นฐานขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกำแพงสูงใหญ่ ถ้าไม่ขับรถเข้าไปก็คงไม่รู้ว่ามีเมืองโบราณอยู่
ดงละครเป็นเมืองร่วมยุคกับคูบัว ราชบุรี พระประโทนเจดีย์ นครปฐม ศรีเทพ เพชรบูรณ์ และเมืองศรีมโหสถ จุดที่เราเข้าไปก็ดูเป็นที่ราบ แต่เมื่อเข้าไปบริเวณเมืองเก่าถึงเข้าใจว่าเป็นเมืองที่สร้างติดแม่น้ำนครนายก แต่เมื่อทางน้ำเปลี่ยนก็น่าจะเสื่อมถอยลง หรืออาจจะไปตั้งถิ่นฐานใหม่ 

วันนี้มีรถขับเข้ามาพร้อมกับเราสองสามคัน มีคันหนึ่งที่ผู้โดยสารหญิงมาคนเดียว แต่แต่งตัวทะมัดทะแมง น่าจะญี่ปุ่น ไม่ก็เกาหลี มาชมเมืองโบราณโดยมีคนขับรถมาส่งรอตามจุด
 
ผมกะว่าจะขับเลยไปปราจีนบุรีต่อ เลยไม่ได้ลงเดินตรงบ่อน้ำศิลาแลง แต่ขับเลยไปบ่อน้ำทิพย์ ซึ่งใกล้กับช่องถนนที่ตัดกำแพงโบราณ ช่องนั้นสูงเกินสี่เมตรแน่ๆ และข้างๆ บ่อน้ำทิพย์มีทางเดินไปดูบนกำแพงโบราณซึ่งชาวบ้านดงละครน่ารักมาก มีป้าขายของแถวบ่อน้ำทิพย์ เตือนว่าระวังยุงเวลาขึ้นไปบนกำแพง พอกำลังเดินขึ้นไปก็เจอยุงจริงๆ มันรุมกัดเอาจริงเอาจังมาก กัดแบบไม่กลัวคนตบมันตายเลย 
 
จริงๆ สำหรับคนชอบขี่จักรยานอาจจะมาเป็นคณะก็น่าจะใช้เวลาชมเมืองราวๆ สองชั่วโมงได้สบายๆ หากมีไกด์ที่นำชมได้ เพราะมีป้ายรูปจักรยานแยู่แล้ว แต่อาจจะต้องจัดจุดพัก และมีกิจกรรมอื่นบ้าง 

 ผมนึกถึงเรื่องเล่าของอาจารย์หมี่ จักรกริช ฉิมนอก แห่งมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายที่เคยพายเรือล่องแม่น้ำปิง อาจารย์หมี่ตั้งข้อสังเกตว่าจุดตั้งวัดและชุมชน อาจจะประมาณได้จากการเดินทางโดยการพายเรือได้ในระยะหนึ่งวัน (เช้าถึงเย็น) ผมเลยประเมินว่าถ้าขับต่อไปเมืองศรีมโหสถอาจจะค่ำ ไม่ทันชมเมืองแน่ๆ เลยตัดสินใจไม่ข้ามไปปราจีนบุรี

ที่เล่ามานี้อยากบอกว่าการสร้างเรื่องราวของท้องถิ่นสำคัญต่อการสร้างเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวมากกว่าทำโครงการที่ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย ทั้งๆ ที่เรารู้ว่าเกาหลีสามาถเนรมิตเรื่องเล่าจากซีรี่ย์ให้คนตามไปเที่ยวเกาะนามิ และเมืองอื่นๆ ได้ 
 
คราวไปเกาหลีครั้งแรกเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน คุณแม่ของเพื่อนสนิทก็พาผมนั่งชมเส้นทางสายโรแมนติกของชุนเชินมาแล้ว แน่นอนว่าทั้งรีสอร์ต ร้านกาแฟ ร้านอาหาร กิจกรรมอื่นๆ ตามมาเพียบ
 
 หรือที่ไต้หวันเองก็มีโฆษณาชุดหนึ่งที่ไปถ่ายต้นไม้กลางทุ่งนาที่ชิชาง (หรือ สือจั้ง ซึ่งผมนั่งรถไฟไปขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ากลางทุ่งนามาแล้ว) 
 
การสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นจากเมืองโบราณที่มี "ของ" จึงไม่ยาก แต่ก็นั่นแหละครับ
 
พูดหลายครั้งว่า เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไม่มีทางเติบโตไดในกรอบการเมืองแบบเผด็จการ
 
คงต้องรอไปอีกแน่ๆ
 

บล็อกของ บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ

บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ณ ประเทศแห่งหนึ่งที่เพิ่งจะพ้นจากยุคเผด็จการอันแสนเลวร้ายมา พวกเขาต้องการร่างรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อแก้ปัญหาที่สะสมหมักหมมนานนับหลายปี
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ผมมักเอ่ยถึงเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วอยู่หลายครั้ง ด้วยความรู้สึกสามัญธรรมดาเหมือนกับหลายๆ คนที่เชื่อว่า วันเวลาแห่งความสุขช่างผ่านไปรวดเร็ว แ
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
บทนำจากนิตยสารวิภาษา ฉบับที่ 61(ในการเผยแพร่ครั้งนี้ มีการแก้ไขการสะกดชื่อคุณจำกัด พลางกูร จากคำนำวิภาษาฉบับที่ 61 ที่ผมเขียนผิดเป็น "กำจัด" ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ)
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
  คืนนี้หิมะโปรยลงมาตั้งแต่เย็น เป็นการฉลองวันคล้ายวันเกิดที่ห่างบ้านไม่น้อยทีเดียว แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะที่ผ่านมาก็เป็นแบบนี้ในหลายโอกาสเพราะวันคล้ายวันเกิดไม่มีอะไรต้องฉลองนอกเสียจากทบทวนชีวิตตัวเองว่าผ่านอะไรมาบ้าง 
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
วันก่อนผมให้สัมภาษณ์กับรายการทีวีรายการหนึ่งซึ่งพาดหัวข่าวอาจจะแรงไปบ้างนะครับ ผมมีความเห็นต่อเรื่องการแต่งตั้งเครือญาติมานั่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้ช่วยปฏิบัติงานดังนี้นะครับ
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
จากลิงค์และพาดหัวข่าวต่อไปนี้
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
 ตารางกิจกรรมนะครับForum on Human Rights and Everyday Governance in Thailand: Past, Present and Future Friday, March 6, 2015; 9 a.m.-5 p.m.
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
เมื่อวานนี้ (21 กุมภาพันธ์) หิมะยังโปรยเป็นสายลงมาไม่หยุดตั้งแต่ยามบ่าย นี่เป็นพายุหิมะระลอกที่สี่ เพียงแต่คราวนี้ไม่ยาวนานเหมือนครั้งก่อนๆ ในยามที่หิมะตกมาเป็นละอองเย็นๆ ยิ่งต้องระวัง เพราะหากสูดเข้าไปมากๆ อาจมีอาการป่วยได้ พวกเราเอง รวมทั้งผมต่างก็มีอาการป่วยกันคนละเล็กคนละน้อย เพราะสภาพอากาศที
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ผมนั่งมองปุยหิมะที่พริ้วลงมาตามสายลมตาปริบๆ บางทีสายลมเกรี้ยวกราดพัดมันปลิวเป็นสาย เลื้อยไหลตามถนนและหลืบบ้าน บางทีมันอ้อยอิ่ง ค่อยๆ พริ้วลงมา แต่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุด 
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
เพื่อนฝูงหลายคนหัวเราะแกมสมเพชที่ผมอยู่บอสตันในยามหนาวเหน็บอย่างถึงที่สุด โดยเฉพาะพายุหิมะที่พัดผ่านมาให้เมืองทั้งเมืองจมอยู่ใต้กองหิมะนับเดือน
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ผมมาอยู่ที่นี่ได้สองเดือนกว่าแล้ว ขณะที่เพื่อนๆ มาอยู่ได้ราวครึ่งปี นาฬิกาและตารางชีวิตเราจึงต่างกันบ้างด้วยความผูกพัน ภาระที่แต่ละคนพึงมี