บุหงาชีพ ๒๕๕๑

ภาพประกอบกวีประชาไท
แก้ไขสี จากต้นฉบับ http://www.flickr.com/photos/poakpong/491087791/

( ๑ ) หลับใหลแล้วเห่ให้
ที่ทุกข์ล้ำย้ำกราย
หลับแล้วตื่นดั่งสาย
ที่มิ่งขวัญคืนครั้น
ลับหาย
อย่างนั้น
หยุดดอก ไม้พันธุ์
หวั่นคร้ามข้ามคืน ฯ
( ๒ ) เพื่อชีพตื่นอยู่ย้ำ
มาอยู่ปรนปรับเหมือน
เพื่อสัมผัสน้อมเตือน
มามิ่งใจกายคล้อย
เยี่ยมเยือน
ชีพน้อย
กรายสู่
เคลื่อนครั้งจรัสจรูญ ฯ
( ๓ ) แสงธรรมคูณค้ำแม่
กระจ่างจำรัสฝัน
แสงศรีนพคุณครัน
กระจ่างเหตุก่อแก้
ผู้สรรค์ สร้างเอย
ใฝ่แท้
บรรสพ
ทุกข์ล้ำกล้ำกราย ฯ
( ๔ ) จากสายหยุดกลิ่นเช้า                      
สายบ่ายเช้างมงาย
จากหยดกลั่นหยาดหมาย
สายเสน่หาฉ่ำแล้ง
จางสลาย ชื่นมา
หม่นแจ้ง
คืนค่า ชีพฤๅ
วาดต้องละอองถึง ฯ
( ๕ ) เทียมซึ้งจริงเท็จทั้ง
โลกอยู่ร้อยเสน่หา
เทียมสายหยุดชื่นวา -
โลกคติเผยอ้าง
สวรรยา
โศลกสล้าง
จาหนึ่ง
ผ่องไว้เผยวาร ฯ.

 

ณรงค์ยุทธ โคตรคำ

 

หมู่บ้านในฝัน

 
 
ท้องทุ่งระบัดเขียวขึ้นในบัดดล
หลังเม็ดฝนทะลุรอยเมฆรั่วลงมาได้
เด็กน้อยติดปีกถลาลิ่วออกสู่ลาน
สวนทางกับฝูงนก
ที่ร่อนคว้างสู่ชายคาดั่งนักรบแตกพ่าย
ไม่ใช่สายฝนทำร้ายเจ้าใช่ไหม?
เปล่าเลย..สายฝนฉ่ำเย็นอยู่เช่นนั้น
กระสุนสังหารต่างหากซุ่มยิงเราหมายครองฟ้า
 

*หัวใจแม่ แหลกสลาย

 

*หัวใจแม่ แหลกสลาย ในวันนั้น
วันลูกฉัน ถูกเข่นฆ่า ล่าสังหาร
ภาพที่เห็น เป็นที่รู้ กู่ประจาน
เมื่อมีการ ยิงสลาย ฝ่ายชุมนุม

บ่ายแล้ง ฯ

ลมผ่าวพัดบ่ายแล้ง            เคลื่อนไหว
ไม้พุ่มดอกบางใบ              ร่วงแล้ว

ลมแล้งเคลื่อนรอยไหน      เผยผ่าน

ไม้มิ่งฝุ่นเมืองแก้ว             ไม่รู้อยู่ไหน  ฯลฯ