Skip to main content
‘ไกล’ กลืนกิน, เกาะเกี่ยว,เชี่ยว              
เหม่อริมคลองน้ำครำคลาย
จมจ่อมแต่เน่าหนอน้ำ
‘คลองใส’ผักบุ้งไหววาม
ไม้ดอกริมน้ำนั้นเฉา
มือคนว่างงานผ่านกราย  
วาสนาเจ้าดอกไม้  
ขณะเมืองรุ่งเรืองนิรันดร์ 
ให้ปลาตัวผอมดอมกลิ่น     
ให้กับโศกนาฏกรรม   

เฮือกสุดท้ายแล้วหนอ ‘ปลา’     
ปลอบเศร้า เจ้ารอต่อไป       

 
ธารลับลดเลี้ยว เปลี่ยวสาย
วิโยคหาย สูญใจนาม
ปลาผุดดำ หวังว่ายข้าม
ยามสาวเจ้าเล่นน้ำ – อาย
เน่าน้ำวิดเบาก็หาย
ดอกไม้,น้ำเน่า เท่านั้น
ผลิใบมาเฉาเก่าฝัน
พลันเจ้าล้มจมน้ำครำ
ร่ำรินน้ำตา อกร่ำ
ผุดช้ำดำผุด สุดใจ

ปรารถนาน้ำคำไหน
‘น้ำครำไม่มี’ ไม่มี

‘รัก’วันนี้จมน้ำคำ!

 

กังวาลไพร นามฯ
กลุ่มโดยสารวรรณกรรม

บล็อกของ กวีประชาไท

กวีประชาไท
 
กวีประชาไท
    พฤศจิกาห่าถล่ม เมืองก็จมใต้บาดาล หรือคนมันสามานย์ ที่สั่งฟ้าถล่มเมือง  
กวีประชาไท
    ท้องทุ่งระบัดเขียวขึ้นในบัดดล หลังเม็ดฝนทะลุรอยเมฆรั่วลงมาได้ เด็กน้อยติดปีกถลาลิ่วออกสู่ลาน สวนทางกับฝูงนก… ที่ร่อนคว้างสู่ชายคาดั่งนักรบแตกพ่าย ไม่ใช่สายฝนทำร้ายเจ้าใช่ไหม? เปล่าเลย..สายฝนฉ่ำเย็นอยู่เช่นนั้น กระสุนสังหารต่างหากซุ่มยิงเราหมายครองฟ้า  
กวีประชาไท
  *หัวใจแม่ แหลกสลาย ในวันนั้น วันลูกฉัน ถูกเข่นฆ่า ล่าสังหาร ภาพที่เห็น เป็นที่รู้ กู่ประจาน เมื่อมีการ ยิงสลาย ฝ่ายชุมนุม
กวีประชาไท
ลมผ่าวพัดบ่ายแล้ง            เคลื่อนไหวไม้พุ่มดอกบางใบ              ร่วงแล้วลมแล้งเคลื่อนรอยไหน      เผยผ่านไม้มิ่งฝุ่นเมืองแก้ว             ไม่รู้อยู่ไหน  ฯลฯ
กวีประชาไท
   
กวีประชาไท
โลกทัศน์ของข้ามืดบอดอยู่ในปากท้องและศักดิ์ศรีเหมือนว่าหนักอึ้งในทุก ๆ วลีที่จะเอื้อนเอ่ยถึง...ลมรำเพยก็เคลื่อนห่าง..ไกลออกไปแต่ข้างในนี้สิ – มีรอยรุ่มร้าวลึกก่ายทับซับซ้อน
กวีประชาไท
 
กวีประชาไท
คลี่กระดาษประเทศนี้              เป็นไฉน คนแต่ละคนไย                      ซ่านซ้อน เหมือนล้อเล่นซ่อนไย             จับจ่อ จรดฤๅ โครง เก่า กร่อน ผุ ย้อน          ยิ่งล้ำหยั่งเหลือ ฯลฯ
กวีประชาไท
เธอตายในเดือนกุมภาเวลาตะแบกบานเต็มต้นลมหวนระรานกลีบบางร้าวรนที่สุดร่วงหล่นบนวิถีเดินทาง
กวีประชาไท
แด่...ทรัพย์สินเจ็ดหมื่นหกพันล้านของพณฯ ท่าน