Skip to main content
เคยซื้อหนังสือ "ฟ้าเดียวกัน" ราย 3 เดือนมาอ่านอยู่บ้าง

ส่วนใหญ่ซื้อจาก "ลุงเสริฐ" ที่มักมีหนังสือทางเลือกมาขาย

แบกะดินตามงาน หรือตามกิจกรรม เคลื่อนไหว-รณรงค์ ต่างๆ อยู่เสมอ

ก็ได้แต่ชื่นชมกับใครต่อใคร ว่าคนหนุ่มสาวกลุ่มนี้ช่างกล้าหาญ

และดูจะมากความสามารถ

เพราะประเด็นของ "ฟ้าเดียวกัน" แต่ละเล่ม เป็นเรื่องใหญ่

และต้องใช้ความสามารถในการ จัดการ-จัดทำ มากทีเดียว

 

ต้องออกตัวไว้นิด ว่าไม่เคยอ่านเล่มไหนจบใน 3 เดือนเลย

ด้วยว่าเนื้อหามากมาย หนักหน่วง หลายประเด็นเกินสติปัญญาไปมาก...

 

หลังๆ มาได้ข่าวอยู่ ว่าคุณธนาพล ซึ่งเป็นบรรณาธิการ

ถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหา "หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ"

ดูเหมือนจะพร้อมๆ กับ อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์

คดีจะจบอย่างไรไม่ทราบชัด เพราะไม่ค่อยได้สนใจในรายละเอียด

เกี่ยวกับคดีเชยๆ หลงยุคเช่นนั้น

 

ก็ตรองดูเถิด...ยุคนี้ พ.ศ.นี้

ในบ้านในเมืองของเรา ยังจะปล่อยให้มีเรื่องอย่างนี้กันอยู่อีกหรือ?

 

ยิ่งทราบจากบางคน ว่าเอาเข้าจริง คดีก็กลายเป็นเรื่องกลั่นแกล้ง

หรือเป็นเครื่องมือเล่นงานฝ่ายตรงกันข้ามกับตน(ทางความคิด?)

ก็ยิ่งสลดสังเวช

ดีหน่อยที่ทั้ง 2 ท่าน เป็นคนมีชื่อเสียงและความสามารถ

สุดท้ายอำนาจรัฐก็ทำอะไรไม่ได้มาก

 

ได้แต่กดดัน หรือข่มขู่ให้หวาดเกรง

ซึ่งพอเจอคนไม่กลัว ไม่แหยเข้า ก็ไปไม่เป็น ไม่ได้อะไรจากเรื่องที่ทำ

 

สุดท้าย มาทราบว่าเว็บไซต์และเว็บบอร์ด "ฟ้าเดียวกัน"

ก็มาโดนบีบให้เซิร์ฟเวอร์ปิด ไม่ยอมให้โฮสต์ข้อมูล

โดยอ้างว่า "หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ" อย่างเดิม

 

เพียงแต่คราวนี้รัฐไม่ได้ออกหน้าออกตาโดยตรง เหมือนที่ควรจะเป็น

แต่กลับไปกดดันผ่านเอกชน ซึ่งก็ต้องห่วงใยหม้อข้าวของตนเป็นธรรมดา

"ฟ้าเดียวกัน" เลยต้องยุ่งยาก มาหาเว็บบอร์ดใหม่ เพื่อรองรับสมาชิก

ที่ล้วนเป็นเสรีชน และประสงค์จะใช้สิทธิ์ใช้เสียงของตน ในการแสดงทัศนะ

ทั้งต่อกลุ่ม และต่อสาธารณะ

 

ฟังดูก็ไม่น่าจะมีอะไรมาก

นอกไปจากความยุ่งยาก หรือลำบาก ที่ต้องเริ่มทำอะไรกันใหม่ๆ

แทนที่จะมีเวลาได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ยิ่งกว่า

 

เรื่องปิดเว็บฯ ปิดเซิร์ฟเวอร์ หรือปิดโฮสต์

ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรนัก สำหรับผู้คนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

หรือเกี่ยวข้องกับอินเตอร์เน็ต

 

แต่ดูในรายละเอียด ที่ผู้ดูแลระบบ บอกว่า...

ข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ที่เซิร์ฟเวอร์ จะหายไปกับการปิดโฮสต์นั้น

ฟังแล้วขัดๆ ชอบกล...

 

ก็... ลองว่าตัว หรือกลุ่ม-พวกของตัว ทำกิจกรรมประเภทนี้

ทำเว็บไซต์ เว็บบอร์ด ประเด็นร้อน-ประเด็นใหญ่ ทำนองนี้

แล้วยังไม่ยอมแบคอัพข้อมูล หรือไม่มีฮาร์ดดิสก์สำรอง เพื่อรักษา "ข้อมูลสำคัญ"

นี่สิ เป็นเรื่องแปลกแน่ๆ มิหนำซ้ำยังทำให้ดูอ่อนหัด-หน่อมแน้ม ชอบกลอยู่

 

ริจะเล่นกับไฟ ไม่เตรียมการ หรือเตรียมกายเตรียมใจไว้ให้พอควร

จะรบชนะเขาได้ล่ะหรือ...

 

แต่เอาเถอะ

นั่นมันเรื่องปลีกย่อย เรื่องเทคนิค

เรื่องเครื่องไม้เครื่องมือ รู้ตัวว่าด้อย ว่าพลาด ก็แก้ไขเอา...

 

เรื่องคน เรื่องหัวจิตหัวใจ

ที่พร้อมจะสู้ ดูจะสำคัญกว่า

 

ก็...อยากจะให้กำลังใจกับคนทำงาน "ฟ้าเดียวกัน"

ว่า...ถ้าตนเชื่อ และศรัทธาในสิ่งที่ทำ

มีความตั้งใจจริง กับประเด็นใหญ่ๆ เกี่ยวกับเจ้า เกี่ยวกับบ้านกับเมือง

ก็คงต้องขอให้เข้มแข็ง และระมัดระวัง

ทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต-ความคิด-สติปัญญา

 

ตลอดจนฟูมฟักศรัทธาของตน ให้เพียงพอต่อการทำงานระดับนี้

 

หาไม่แล้ว งานก็จะไม่สำเร็จ

เป้าหมายสูงสุดก็ไปไม่ถึง แถมคนทำก็ทุกข์ยากลำบาก

ยิ่งทำให้เสียเวลาขึ้นไปอีก

 

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนกับว่า

การวิพากษ์วิจารณ์เช่นที่ "ฟ้าเดียวกัน" กระทำ จะยังได้รับความสนใจ

หรือได้รับการใส่ใจอยู่ไม่ใช่น้อย

 

ก็ถือได้ว่ายังมีพวก ยังมีแฟนๆ คอยติดตาม

ซึ่งหากผ่านร้อนผ่านหนาวไประดับหนึ่ง แล้วมีการสรุปบทเรียนกันอย่างจริงๆ จังๆ เสียบ้าง

ก็น่าจะมีประโยชน์ และใช้ประโยชน์ได้กว้างขวางออกไป

 

เรื่องการปิดหนังสือ ปิดเว็บไซต์ ปิดเว็บบอร์ด

ว่าไปก็เป็นเรื่องธรรมดา

ไม่ใช่เรื่องใหญ่ หากใจอันเสรี ยังพร้อมจะแสวงหา

ยังพร้อมจะโบยบินสู่ความจริง หรือทำสัจจะให้ปรากฏ

 

คนบิดเบือนสัจจะ

คนทำลายช่องทางเข้าถึงสัจจะของมหาชนสิ

ที่จะถูกปิดอย่างถาวรในที่สุด...

บล็อกของ พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ

พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ
นางคำ เหล้าหวาน ถูกจับกุมเมื่อต้นเดือนเมษายน 2551ในข้อหาประมาณว่า.."ประมาท ทำให้เกิดเพลิงไหม้ เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ ฯลฯ.."เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 254816 วัน หลังจากนางคำพบศพพระสุพจน์ สุวโจซึ่งถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2548
พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ
กว่า 7 เดือนมาแล้ว...ที่ความป่วยไข้มาเยือนอย่างหนักหนาสาหัสหลังจากที่ส่อแสดงความ "แปรปรวน" ของเหตุปัจจัยมาบ้างแล้วนับย้อนทวน ก็อาจเป็นเวลากว่า 1 ปีใครเคยมีประสบการณ์แห่งความเจ็บปวดทางกายมาบ้างคงพอเข้าใจได้ว่า..หากอวัยวะส่วนหนึ่งส่วนใดบาดเจ็บ กระทั่งทุพลภาพชั่วคราวจิตสำนึก จิตใต้สำนึก และความลังเลสงสัยที่ไม่รู้-ไม่แน่ใจ ย่อมนำไปสู่เวทนา และตามมาด้วยการปรุงแต่ง กระทั่งจบลงที่ความทุกข์อันทนได้ยากแต่ถ้าใครสักคน...มีเหตุให้ต้องเจ็บปวดไปแทบทุกข้อกระดูกทุกเส้นเอ็น ทุกมัดกล้ามเนื้อและท้ายสุด…
พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ
  .............. ว่ากันว่า...โชคลาภวาสนาเป็นเรื่องชะตาลิขิต แต่ถึงอย่างนั้นในฐานะชาวพุทธ คงจะละเลยเรื่องเหตุปัจจัยและ "กรรม-วิบากกรรม" ไปไม่ได้ .............. จะอย่างไรก็แล้วแต่ถึงบัดนี้ คุณสมัคร สุนทรเวช ก็เป็นนายกรัฐมนตรีที่ผ่านขั้นตอนแบไทยๆ คือมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าเรียบร้อยแล้วรอเพียงการเสนอรายชื่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาโปรดเกล้าฯ และเสนอนโยบายรัฐบาลผ่านสภาฯ ... คำปรามาสของใครต่อใครก็จะกลายเป็นการดูหมิ่นและอาจนำไปสู่ระดับที่คุณสมัครถือว่าเป็นการหมิ่นประมาทไปได้ในที่สุด สรุปความได้ ว่า "นายกรัฐมนตรี คนที่ 25" คือ นายสมัคร…
พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ
  คุยกันเล่นๆ ในบางวันของชีวิตว่าเรามี "รัฐ" และ "รัฐบาล" ไปทำไม? บางคนตอบทีเล่นทีจริงแต่ค่อนข้างขมขื่น ว่า...ไม่ได้อยากมี มัน "มี" มาแล้วและมัน "มี" ของมันเอง ทำนองว่า... มีมาแต่ไหนแต่ไรหรือ "ที่ไหนๆ" และ "ใครๆ" ก็มีกัน อะไรทำนองนั้น...ประมาณนั้น ! "รัฐ" คือ อะไร? และมีความจำเป็นอย่างไร?ฟังดูเป็นวิชาการ และขึงขัง "เป็นงานเป็นการยิ่ง"... ลองค้นดูใน พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตฯ พ.ศ.2542 ก็พบความหมาย(หรือคำแปล?) ว่า...รัฐ, รัฐ- [รัด, รัดถะ-] น. แคว้น เช่น รัฐปาหัง, บ้านเมือง เช่น กฎหมายสูงสุดของรัฐ, ประเทศ เช่น รัฐวาติกัน. (ป. รฏฺ?; ส. ราษฺฏฺร). อ่านแล้ว "งง" ไหม?…
พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ
  2 - 3 วันมานี้มีโอกาสอ่านบทความเชิงวิเคราะห์ เกี่ยวกับรัฐบาลใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้นเร็วๆ นี้ หลายต่อหลายชิ้น ที่เห็นพ้องกันว่า... สุดท้าย..พรรคแกนนำก็คงเป็น "พลังประชาชน"โดยมีพรรคการเมืองขนาดกลางและเล็ก เข้าร่วมด้วยทั้งหมดยกเว้นพรรคประชาธิปัตย์ อันเป็นพรรคการเมืองอีกฟาก... คอลัมนิสต์บางรายเชื่อว่านี่เป็นผลมาจาก "คณิตศาสตร์การเมือง" เกี่ยวกับจำนวน ส.ส.และความน่าจะเป็น ของชัยชนะจากการเลือกตั้ง และเลือกตั้งซ่อมตลอดจนสัดส่วน ของการแบ่งสรรตำแหน่งรัฐมนตรีที่พรรคพลังประชาชนสามารถตอบสนองได้ดีกว่าประชาธิปัตย์ แถมยังน่าจะมั่นคงกว่าเกี่ยวกับอนาคตของรัฐบาลผสม... บางคนบอกว่านี่เป็น…
พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ
เคยซื้อหนังสือ "ฟ้าเดียวกัน" ราย 3 เดือนมาอ่านอยู่บ้าง ส่วนใหญ่ซื้อจาก "ลุงเสริฐ" ที่มักมีหนังสือทางเลือกมาขายแบกะดินตามงาน หรือตามกิจกรรม เคลื่อนไหว-รณรงค์ ต่างๆ อยู่เสมอก็ได้แต่ชื่นชมกับใครต่อใคร ว่าคนหนุ่มสาวกลุ่มนี้ช่างกล้าหาญและดูจะมากความสามารถเพราะประเด็นของ "ฟ้าเดียวกัน" แต่ละเล่ม เป็นเรื่องใหญ่และต้องใช้ความสามารถในการ จัดการ-จัดทำ มากทีเดียว ต้องออกตัวไว้นิด ว่าไม่เคยอ่านเล่มไหนจบใน 3 เดือนเลยด้วยว่าเนื้อหามากมาย หนักหน่วง หลายประเด็นเกินสติปัญญาไปมาก... หลังๆ มาได้ข่าวอยู่ ว่าคุณธนาพล ซึ่งเป็นบรรณาธิการถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหา "หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ"ดูเหมือนจะพร้อมๆ กับ…
พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ
๑.การเมืองของนักเลือกตั้งเร่าร้อนยิ่งขึ้นทุกขณะการแถลงข่าวของบุคคล กลุ่ม ก๊วน และพรรค ตลอดจน "อนาคตพรรคการเมือง"มีขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับตลาดนัดในอดีต ที่มีทั้งปาหี่ คนเล่นกล พ่อค้าเร่และแม่ค้า "เจ้าประจำ" คุ้นหน้าสถานที่พบปะระหว่าง "ผู้ซื้อ" กับ "ผู้ขาย" นั้นเรียกกันง่ายๆ ว่า "ตลาด" โดยมี "สินค้า" เป็นสื่อกลาง แลกเปลี่ยนความพึงใจระหว่างกัน...ในที่ชุมนุมเช่นนี้ ปฏิสัมพันธ์ระหว่าง "คุณค่า" และ "มูลค่า"นอกจากจะมี "ความจริง" เป็นเครื่องเทียบเคียงแล้วดูเหมือนว่า การโฆษณาประชาสัมพันธ์ก็มีส่วนอยู่ไม่น้อยสำหรับการตัดสิน หรือชี้วัดความพึงใจตลาดโดยทั่วไปมักเปิดเป็นประจำ…
พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ
๑. หลวงพ่อปัญญาพระเดชพระคุณ พระพรหมมังคลาจารย์ หรือ “หลวงพ่อปัญญา” ของศิษยานุศิษย์ ละสังขาร หรือมรณภาพเสียแล้ว เมื่อเช้าวันที่ ๑๐ ตุลาคม ท่ามกลางความรู้สึกสูญเสียของผู้เกี่ยวข้องผู้เขียนไม่เคยมีโอกาสศึกษาธรรมะจากท่านโดยตรงไม่ว่าโดยการฟัง พูดคุย หรืออ่านหนังสืออีกทั้งยังไม่เคยได้รับใช้ใกล้ชิด หรือมีโอกาสได้จำพรรษาร่วมอารามกับท่านแม้สักพรรษาเดียวแต่ด้วยความที่เติบโตมาในจังหวัดบ้านเกิดของท่านบวชเรียนในวัดที่หลวงพ่อเคยชี้ให้ดูโคนต้นขนุนชราแล้วบอกว่า… ครั้งที่ท่านยังเป็นเด็กเลี้ยงวัว เคยนั่งพักร่มขนุนต้นนี้บ่อยๆในคราวหนึ่ง เมื่อท่านแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนวัดเล็กๆ วัดนั้นหลวงพ่อปัญญา…
พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ
หลายองค์กรชาวพุทธออกมา “คัดค้าน”การประกวด การตัดสิน และการให้รางวัล ผลงานศิลปะชิ้นหนึ่งอย่างรุนแรง และต่อเนื่องกล่าวโทษถึงขั้นมุ่งร้าย และ/หรือ ทำลายพระพุทธศาสนาค่าที่ศิลปินผู้นั้นเขียนภาพ “ภิกษุสันดานกา”ในลักษณะอาการ ตำหนิ หรือติเตียน การกระทำสำหรับพฤติกรรมอันน่ารังเกียจอย่างที่ชาวโลกเห็นว่าผู้เป็น “สมณะ” ไม่ควรประพฤติแต่ในที่สุด กลุ่มบุคคล หรือองค์กร รวมทั้งหน่วยงานรัฐ เช่น สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติก็ได้พบว่า…มีชาวพุทธจำนวนหนึ่งเช่นกันที่ไม่เห็นด้วย เอือมระอา หรือรังเกียจ “การแสดงออก” ของตน หรือของพวกตน และมีบ้าง ที่ถึงขั้นกล่าวว่าเป็นอาการ “ร้อนตัว” “วัวสันหลังหวะ” หรือ “กินปูนร้อนท้อง”…