..............
ว่ากันว่า...
โชคลาภวาสนาเป็นเรื่องชะตาลิขิต
แต่ถึงอย่างนั้น
ในฐานะชาวพุทธ คงจะละเลยเรื่องเหตุปัจจัย
และ "กรรม-วิบากกรรม" ไปไม่ได้
..............
จะอย่างไรก็แล้วแต่
ถึงบัดนี้ คุณสมัคร สุนทรเวช ก็เป็นนายกรัฐมนตรี
ที่ผ่านขั้นตอนแบไทยๆ คือ
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าเรียบร้อยแล้ว
รอเพียงการเสนอรายชื่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาโปรดเกล้าฯ
และเสนอนโยบายรัฐบาลผ่านสภาฯ ...
คำปรามาสของใครต่อใคร
ก็จะกลายเป็นการดูหมิ่น
และอาจนำไปสู่ระดับที่คุณสมัครถือว่า
เป็นการหมิ่นประมาทไปได้ในที่สุด
สรุปความได้ ว่า "นายกรัฐมนตรี คนที่ 25"
คือ นายสมัคร สุนทรเวช
เป็นนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้ง "คนแรก" ของรัฐธรรมนูญ 2550
อันมีที่มาจากสภานิติบัญญัติ และสภาร่างรัฐธรรมนูญ
ซึ่งผูกพัน หรือเกี่ยวข้อง กับ "คมช." หรือคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ
อันเกิดขึ้นเพราะการรัฐประหาร เมื่อ 19 กันยายน 2549
ที่นำโดยผู้นำเหล่าทัพ และผู้นำตำรวจ กับพลเรือนจำนวนหนึ่ง
เป็นรัฐประหารที่มีชาวบ้านชาวเมืองชื่นชมในเบื้องต้น
ก่อนจะก่นด่าในช่วงกลาง
และหันมาเทคะแนนให้พรรคพลังประชาชนของคุณทักษิณ
ในท้ายที่สุด...
ดังที่คุณสมัคร ได้อนิสงส์ อยู่ในบัดนี้นี่เอง
..............
การก้าวเข้ามายึดกุมอำนาจรัฐ ของพรรคพลังประชาชน
ถึงจะปฏิเสธอย่างไร ก็ยากจะมีคนเชื่อถือ ว่า
ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณทักษิณ พรรคไทยรักไทย
และอดีตผู้บริหารพรรค ทรท.คณะเดิม
ชัยชนะของพรรคพลังประชาชน
จึงมักถูกศัตรูทางการเมือง ตราหน้า
ว่าเป็นชัยชนะของ "นอมินี" ทางการเมือง
ทั้งระดับตัวบุคคล และระดับพรรค
จะว่าไปแล้ว
ระยะแรกคุณสมัครก็ยอมรับ
ก่อนจะมาปฏิเสธในภายหลัง
เมื่อบางฝ่ายจะถือเป็นเหตุบ่งชี้ให้ พปช.ผิดกฎหมาย
ร้ายแรงถึงระดับยุบพรรค
แต่เมื่อกล่าวอย่างถึงที่สุด
จะนอมินีหรือไม่ คุณทักษิณชักใยหรือไม่
ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งก็ลงคะแนนให้ สส. ของพรรคนี้
และลงคะแนนให้มากกว่าพรรคอื่นๆ ทุกๆ พรรคเสียด้วย
เป็นชัยชนะถูกต้องและครบถ้วน
ตามเงื่อนไขของกติกา-กฎหมาย และกระบวนการตรวจสอบ
โดยองค์กรของรัฐ ที่ดูแลรับผิดชอบ ตามขั้นตอนที่วางไว้
กล่าวได้แบบไทยๆ ว่าไม่ผิด
เพราะอย่างน้อย ความผิดก็ไม่มีใครจับได้ไล่ทัน
..............
ชัยชนะตามกติกา
ได้ตำแหน่งโดยผ่านกระบวนการถูกต้องและครบถ้วน
ถึงใครจะหมั่นไส้ ใครจะไม่ชอบหน้า
ใครจะติเตียนการกระทำในอดีต ติเตียนแนวคิดปัจจุบัน
หรือรังเกียจภาพฝันทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง
ในอนาคต
และใครที่เบื่อหน่ายพฤติกรรมอันเนื่องมาจาก กาย วาจา และใจ
ของ นายสมัคร สุนทรเวช
ก็ย่อมอิหลักอิเหลื่อ กับชัยชนะตามกติกาประชาธิปไตย
อันจะว่าไปแล้วก็ถือได้ว่า
นายกสมัครฯ ยังสง่างามกว่า พล.อ. สุรยุทธิ์ ณ คมช. เป็นไหนๆ
ประชาธิปไตยของพวกเราบกพร่องหรือไม่
ใครรู้ชัดก็อธิบายหน่อยเถิด
ว่า..ทำไม "นายกฯ" และ"ว่าที่ ครม."
ถึงมีสภาพอย่างที่เห็นๆ กันนี้
ทั้งๆ กุมเสียงข้างมาก และมีแบคอัพมหึมา
พร้อมที่จะปกป้องดูแล และชักใยไปตามคติความเชื่อ
ของ "เจ้าของ" ที่ยังเข้าประเทศไม่ได้
..............
โชคชะตาวาสนาบารมี "ดลบันดาล" แล้ว
เหตุปัจจัยในระบอบประชาธิปไตย
เปิดโอกาส..และเอื้ออำนวยแล้ว
องคาพยพทั้งภาครัฐและราษฎร
อำนวยให้ได้เป็นประมุขฝ่ายบริหารแล้ว
กล่าวได้ว่า
หลังจากนี้ไป ทั้งหลายทั้งปวง
ก็ขึ้นอยู่กับคุณสมัครและพรรคพวกเป็นหลัก
(ถ้าไม่นับพวกผู้กำกับ หรือคนเขียนบท)
ว่าจะบริหารโอกาสและเวลา
ให้มี ประสิทธิภาพ-ประสิทธิผล อย่างไร
อย่าลืมว่าอำนาจวาสนานั้นมีที่มาที่ไป
มีเหตุ และมีปัจจัย
ตลอดจนมี "ต้นทุน" อยู่เสมอ
นายกรัฐมนตรีตั้งแต่ท่านแรก
จนถึงท่านสุดท้าย-ก่อนคุณสมัคร
ก็ล้วนแล้วแต่มีบุญ มีบารมีด้วยกันทั้งสิ้น
มีอำนาจ มีฝ่ายสนับสนุน และฝ่ายคัดค้าน
มีทั้งฝ่ายช่วย และฝ่ายขัดขวาง
มากน้อยขึ้นอยู่กับหลายสิ่งหลายอย่าง
ฉากจบของแต่ละท่าน จึงแปลกแยกและแตกต่างกันไป
ก็ได้แต่หวัง
ว่า คุณสมัคร จะสรุปบทเรียน
และเตรียมฉากจบของตนเองและพรรคพวก
ได้ดีกว่า...
หรือ "ดีที่สุด" กว่าที่เคยผ่านมา
การเป็นนายกรัฐมนตรีอาจไม่ใช่เรื่องยาก
สำหรับคนมากความสามารถ
แต่ขณะเดียวกัน
ก็อาจทำให้บั้นปลายชีวิตยุ่งยากยุ่งเหยิง
พลัดที่นาคาที่อยู่เอาได้ง่ายๆ
ประวัติศาสตร์จารึกไว้หลายแง่หลายมุม
เลือกอ่านเอาเองเถิด "ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี
เจริญพร
..............