คุยกันเล่นๆ ในบางวันของชีวิต
ว่าเรามี "รัฐ" และ "รัฐบาล" ไปทำไม?
บางคนตอบทีเล่นทีจริง
แต่ค่อนข้างขมขื่น ว่า...
ไม่ได้อยากมี มัน "มี" มาแล้ว
และมัน "มี" ของมันเอง
ทำนองว่า... มีมาแต่ไหนแต่ไร
หรือ "ที่ไหนๆ" และ "ใครๆ" ก็มีกัน
อะไรทำนองนั้น...ประมาณนั้น !
"รัฐ" คือ อะไร? และมีความจำเป็นอย่างไร?
ฟังดูเป็นวิชาการ และขึงขัง "เป็นงานเป็นการยิ่ง"...
ลองค้นดูใน พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตฯ พ.ศ.2542
ก็พบความหมาย(หรือคำแปล?) ว่า...
รัฐ, รัฐ- [รัด, รัดถะ-] น. แคว้น เช่น รัฐปาหัง, บ้านเมือง เช่น กฎหมายสูงสุด
ของรัฐ, ประเทศ เช่น รัฐวาติกัน. (ป. รฏฺ?; ส. ราษฺฏฺร).
อ่านแล้ว "งง" ไหม?
กับการสื่อสารของเหล่าผู้รู้-ราชบัณฑิต!!
ช่างเถอะ..
ถึงจะงงๆ กับการสรุปให้สั้นที่สุด
(นี่แปลว่า "ชัดที่สุด" แน่หรือ?)
แต่ก็พบสิ่งน่าตื่นตา ว่า...
ในภาษาสันสกฤต "รัฐ" นั้นคือ "ราษฎร"
น่าสนใจไหมเล่า...
ที่คำว่า "ราษฎร" แปลว่า "รัฐ"
ซึ่งหมายถึง แคว้น บ้านเมือง และ ประเทศ
มาแต่ครั้งโบราณ ครั้งที่ใช้ภาษาสันสกฤตโน่น...
ก็แล้วใครกัน?
ที่ทำให้ความหมายดีๆ อย่างนี้เลือนไปเสีย...
...............
กลับมาที่วงสนทนาตอนต้น
ยังมีการคุยกัน "เล่นๆ" ว่า...
ถ้า "รัฐ" ซึ่งดูแล หรือบริหารโดย "รัฐบาล"
ไม่สามารถแม้แต่จะ ...
๑. จัดเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มให้ประชาชน ปีละชุด 2 ชุด
๒. จัดหายารักษาโรค หรือการรักษาพยาบาล(ขั้นพื้นฐาน)ฟรี
๓. จัดหาที่อยู่อาศัย(เฉพาะคนที่ไม่สามารถจัดหาเองได้)อันมั่นคงถาวร
๔. จัดหาอาหารบรรเทาความเดือดร้อน แก่ผู้ยากไร้
และในยามประสบภัย(ให้อย่างเหมาะสมและทั่วถึง)
หรือ ถ้าให้ดีไปกว่านั้น
บางคนเสนอให้ลองเพิ่ม...
๕. จัดหาบำนาญให้กับทุกคนที่อายุเกิน ๖๐ ปี(ถึงไม่ใช่คนของรัฐก็เถอะ)
๖. จัดให้ผู้สูงอายุ(เกิน ๖๐ นั่นล่ะกระมัง)ได้เดินทางท่องเที่ยวฟรี สักปีละครั้ง
๗. จัดให้มีบริการด้านสาธารณสุข(เป็นพิเศษ)สำหรับคนชรา คนยากไร้
และผู้ประสบภัย
และ/หรือ
๘. จัดการศึกษาและให้โอกาสที่เท่าเทียมในทุกระดับ โดยไม่เร่งรัดหรือจำกัดเวลา
๙. เปิดโอกาสให้พัฒนาและใช้ศักยภาพ โดยการเสนอโครงการเพื่อรับทุน
มาทำงานแก้ปัญหาบางระดับ(ตามความเชื่อผู้ขอทุน)ว่าควรจะเป็นเช่นนั้นเช่นนี้
แทนที่รัฐและองค์กรพัฒนาเอกชนจะผูกขาดไว้ทำเอง
๑๐. เปิดโอกาสและให้ช่องทาง สำหรับเข้าถึงทรัพยากร องค์ความรู้ ภูมิปัญญา และข้อมูลข่าวสาร ซึ่งอยู่ในความครอบครองของรัฐ
ตลอดจน
๑๑. เปิดโอกาสและช่องทางให้แสดงศักยภาพ
๑๒. เปิดโอกาสและช่องทางให้เข้าถึงแหล่งทุน(นอกรัฐ) โดยมีรัฐเป็นผู้รับรองหรือค้ำประกัน
๑๓. เปิดโอกาสและช่องทางให้ประชาชนได้เข้าถึง(ใช้งาน)บุคลากรและเครื่องมือของภาครัฐ
๑๔. ส่งเสริมและสนับสนุนการสื่อสารและการแลกเปลี่ยนข้อมูลสาธารณะระหว่างบุคคลและองค์กร ตลอดจนภาคส่วนต่างๆ ทางสังคม และประชาสังคม
ฯลฯ
บางคนยิ้มขื่นๆ บางคนหัวเราะเฝื่อนๆ
ขณะที่บางคนส่ายหน้า พลางว่า "ยากที่จะเป็นไปได้..."
โดยบางคนเหม่อลอยและงงงัน
กับจินตนาการที่ไม่เคยลองคิด
..................
ออกจะน่าประหลาด
ที่แม้วงคุยเล่นๆ เราก็แทบไม่มีจินตนาการ "ว่าด้วยรัฐ"
แถมไม่รู้เอาเลย
ว่ายังมีวงคุยจริงจังเรื่องนี้อยู่ที่ไหนบ้าง..
ที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึง?
นอกจากบนหอคอยงาช้าง ที่เรียกกันว่า "แวดวงวิชาการ"
...................
สิบกว่าข้อที่คุยกันในวงเล็กๆ
จะมีโอกาสแปรไปเป็น"นโยบาย" หรือ "แนวทางการพัฒนา"
"ของรัฐ" บ้างไหม?
มีโอกาสเป็น "นโยบายพรรคการเมือง" บ้างไหม?
มีโอกาสวางกรอบไว้ในกฎหมายลูก
หรือกฎหมายสูงสุด เช่น "รัฐธรรมนูญบ้างหรือไม่?
หรือมีโอกาสกำหนดอยู่ในกรอบโครงใหญ่ๆ ใดๆ อีกบ้าง?
...................
ยังเขียน(พิมพ์)ไม่ถึงไหน
ข่าวก็ส่งเสียงมาจากไกลๆ ว่า...
สภาผู้แทนราษฎรที่เปิดไปแล้วตั้งกะวันก่อนนี้
ได้ประธานสภาผู้แทนราษฎร(และว่าที่ประธานรัฐสภา)แล้ว
เป็นคนจากพรรคพลังประชาชน
อีกไม่นานก็จะมีนายกรัฐมนตรีมาจากพรรคพลังประชาชน
มีรัฐบาลมาจากพรรคพลังประชาชน
และมีอีกหลายๆ อย่างมาจาก "พรรคพลังประชาชน"
และภาคีร่วมบุฟเฟ่ต์
พรรคการเมืองที่มีเสียงข้างมาก ซึ่งเมื่อรวมกับอีก 5 พรรคแล้ว
ก็มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล
ด้วยความชอบธรรม ของการเมืองระบบตัวแทน
.................
ประเทศไทยเพิ่งผ่านการเลือกตั้ง ส.ส.
และกำลังจะมี "รัฐบาล" เข้ามาบริหารประเทศ
เพื่อ "บริหาร-จัดการ" ให้ "รัฐไทย" ก้าวต่อไป
ซึ่งดูจะมีหมอกเมฆและม่านควันทึมทึบเป็นด่านแรก
ราวกับหนังตัวอย่างอันน่าตระหนก
จน "ท่านผู้ชม" ขวัญผวาก่อนที่หนังจริงจะเริ่มฉายเสียด้วยซ้ำ...
.................
จะอย่างไรก็แล้วแต่...
อยากฝากไปถึง "คุณทักษิณและคณะฯ" ด้วยว่า...
การเขียนบทและกำกับภาพยนต์
ว่าด้วย "รัฐไทย2551" เรื่องนี้...
เป็นจินตนาการเสียดเย้ย และประชดประเทียด
ระดับ "ตลกร้าย" ชนิด 5 ดาว โดยแท้...
เพราะย้อนหลังไปสองสามปี...
ถ้าวันนั้นใครบอกว่าคุณสมัครจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ,
คุณยงยุทธจะเป็นประธานรัฐสภา,
คุณเฉลิมเป็นแคนดิเดตรัฐมนตรีว่าการมหาดไทย หรือยุติธรรม
และ...คุณเสนาะจะกลับไปร่วมงานกับคุณทักษิณ
หรือ คนของคุณทักษิณ
ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ
ถ้าไม่โดนโห่ฮา คนพูดก็น่าจะเป็นจำอวดตัวกลั่น
หรือไม่ก็กำลังแสดงสภาโจ้กอยู่แน่ๆ...
แต่แล้วคุณทักษิณก็เหนือชั้น
และทำได้อีกครั้ง...
ราวกับจะบอกเป็นนัยๆ ว่า
"เมื่อพวกเอ็งไม่เอาข้า... ก็เอาไอ้พวกนี้ไปอวดชาวโลกละกัน!!"
จินตนาการว่าด้วย "รัฐ" และ "รัฐบาล" ของท่านอดีตนายกฯ
ช่างร้ายกาจจน "เหลือจะทน" เอาเสียจริงๆ...
ไม่ใช่คุณทักษิณ
ใครจะทำได้อย่างนี้ หรือขนาดนี้
คิดฉากจบไม่ออก
ยอมรับว่า "เดาไม่ถูก-คาดไม่ได้" เอาจริงๆ