บล็อกของ sangpuchai
วันเค้าท์ดาวน์ที่แสนเศร้า
ส่งพรปีใหม่
ความคิดของคนสมัยใหม่
กาลเวลา ฟ้ากำหนด
มองดูอยาก
เดือนสว่างพรางแพรวแล้วแก้วตา
คราตามองยังไม่ชัดดูมืดมัว
ไม่ใช่ว่ากลัวผีคืนเดือนดับเป็นสลัว
เพราะตามัวหรือมั้ยรู้จริงดูขรึม
ในสายตา
แสงพูไชย อินทะวีคำ เขียน
สุมาตร ภูลายยาว แปล
จำปีพยายามปั่นจักรยานเก่าๆ คู่ชีพของตนไปตามถนนเรื่อยๆ ทั้งวันตามคำแนะนำของป้าจำเริญ ที่หลายคนขนานนามให้แก่ว่า ‘คุณป้าแสนรู้' เพราะคนจะขายบ้านอยู่ตรงไหน ถนนใด ซอยใด คุ้มใดในขอบเขตเมืองเวียงจัน ไม่เป็นอันหลุดรอดสายตาป้าไปได้ จำปีทั้งปั่นทั้งยกมือขึ้นเอาชายเสื้อเช็ดเหงื่อที่ไหลลงมาราวกับน้ำจากรางริน เพราะความร้อนของอากาศเมืองเวียงจันในช่วงเดือน ๕ ของปี ๒๐๐๓
ผีในคราบคน
เขียน: แสงพูไชย อินทะวีคำ
แปล: สุมาตร ภูลายยาว
แม้จะบิดเร่งคันเร่งเท่าไหร่ รถจักรยานยนต์ยังวิ่งช้าเหมือนเต่าคลาน ที่เป็นอย่างนี้คงเพราะความเร่งรีบอย่างไปถึงไปรษณีย์ให้เร็ว เพราะชั่วโมงทำงานใกล้มาถึง มือบิดคันเร่งพอๆ กับหัวใจที่ร้อนรนกลัวไม่ทันเวลา สายตาจึงต้องเพ่งมองไปตามถนนเพื่อหลบรถคันแล้วคันเล่าก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าไปสู่ไปรษณีย์กลาง
น้ำใจคนข้างถนน
พระอาทิตย์ยามใกล้ค่ำสาดแสงอ่อนๆ ลอดผ่านปลายไม้ตามถนนล้านช้าง บนถนนรถยังคงแน่นขนัดวิ่งสวนกันไปมา ข้าพเจ้าประคับประคองร่างกาย ค่อยๆ ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่าช้าๆ สายตามองสองส่องหาเศษขยะ ปากก็กลืนน้ำลายลงคอ สมองก็เริ่มคิดว่า ในบรรดาถังขยะเหล่านั้นจะมีสิ่งใดที่พอทำให้ข้าพเจ้ามีชีวิตรอดต่อไปอีกหนึ่งวัน
ท้ายสุดคือความเหงา
ที่ร้านกาแฟเล็กๆ แห่งหนึ่ง บนริมถนนล้านช้าง เช้าเช้าอย่างนี้เป็นเวลาที่ผู้คนกำลังเดินเข้าเดินออกเพื่อที่จะมาลิ้มรสกาแฟปากช่องที่ขึ้นชื่อที่สุด ชายหนุ่มชื่อต่ายเดินไปในร้านกาแฟ แกมองซ้ายมองขวา ก่อนที่จะนั่งลง อีกไม่ถืงสามนาที ก็มีหญิงสาวอายุประมาณยี่สิบกว่านิดๆ เดินเข้ามานั่งลงม้านั่งด้านตรงกันข้าม เสียงสนทนาแว่วๆ เข้าหู
"นึกว่าพี่จะไม่มา"
"ไม่มาได้ไง?"
"ขอบคุณค่ะ"
"ไม่เป็นไร ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว"
"ไอ้เรื่องไหนๆ ที่พี่ว่ามีความหมายว่าอย่างไร?"
"ไม่มีอะไรหรอก คิดมากไป..."
"ถามจริงๆเถอะ...พี่ชอบหนูจริงหรือเปล่าคะ?"
"เรื่องนี้เราคุยกันรู้เรื่องแล้วไม่ไช่หรือ? ทำไมต้องคุยอีก"
"ก็กลัวพี่ไม่รักหนูจริงนี่นา"