Skip to main content

วันนี้อยากชวนสนทนาถึงศัพท์คำว่า “การเข้าถึงเทคโนโลยี” ซึ่งในทัศนะส่วนตัวคือสภาวะที่บุคคล องค์กร หรือประเทศหนึ่งสามารถได้มาซึ่งความสามารถในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีต่างๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงอยู่และจำเป็นต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่เกี่ยวข้อง

ปัจจุบันแนวทางการพัฒนาของเศรษฐกิจโลก เป็นไปในลักษณะที่เทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการการผลิต และเทคโนโลยีอื่นๆอีกมากมายเข้ามามีบทบาทมากขึ้นทุกวัน ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าการเข้าถึงเทคโนโลยีในทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจโลก ย่อมมีความสำคัญกับทุกประเทศอย่างที่สุด

หนึ่งเทคโนโลยีซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโลก และเป็นด้านที่ SenseMaker ให้ความสนใจวิพากษ์ถึงอย่างรอบด้านบนเวทีความคิดแห่งนี้คือ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology; ICT) ซึ่งต่อไปจะขอใช้คำว่า ICT เพื่อความกระชับ

ICT  เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่เปลี่ยนแปลงลักษณะของเศรษฐกิจโลก ในระยะยี่สิบปีหลังมานี้ ทั้งในแง่ของตัวตลาดเองที่เคลื่อนที่เข้าสู่ตลาดในรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งเกิดจากความก้าวหน้าของ ICT เช่นตลาดธุรกรรมออนไลน์ เป็นต้น รวมทั้งในแง่ของตัวระบบข้อมูลข่าวสารด้านต่างๆที่เกี่ยวข้องกับตลาด ด้วยเหตุนี้การเข้าถึงเทคโนโลยีต่างๆเหล่านี้ จึงสามารถถูกมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่ง ที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และความแตกต่างทางสังคม

ในด้านความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ การเข้าถึงตลาดรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งเกิดจากความก้าวหน้าของ ICT เป็นตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดว่า ผู้ที่เข้าถึงตลาดใหม่ๆได้ ย่อมเป็นผู้ที่ได้เปรียบในการขยายตลาด และเก็บเกี่ยวความเติบโตทางเศรษฐกิจได้มากขึ้นและก่อนหน้าผู้ที่เข้าถึงล้าหลังกว่า

อีกหนึ่งตัวอย่างที่สำคัญคือ ผู้ที่สามารถเข้าถึงระบบข้อมูลข่าวสารและตัวข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับตลาดได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และสมบูรณ์กว่า ย่อมเป็นผู้ที่มีโอกาสที่จะตัดสินใจดำเนินการด้านต่างๆที่จำเป็นได้อย่างรัดกุม ถูกต้อง และรวดเร็วกว่า ซึ่งจุดนี้ถือได้ว่าเป็นความได้เปรียบในแง่ของการใช้โอกาสทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากการประยุกต์ใช้ ICT จะมีผลต่อเศรษฐกิจแล้ว ตัวอุตสาหกรรม ICT  เองในปัจจุบัน ก็ถือได้ว่ามีผลโดยตรงต่อการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจของโลก เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมซึ่งสร้างรายได้อย่างมหาศาล และเป็นหนึ่งในกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของหลายๆประเทศ

ในบริบทแห่งความแตกต่างทางสังคม ICT ถือเป็นตัวนำชั้นดี ที่อนุญาตให้สมาชิกในหน่วยย่อยต่างๆของแต่ละสังคม เรียนรู้และรับเอาแนวความคิดและวัฒนธรรมจากสังคมอื่นๆได้อย่างไร้พรมแดน ซึ่งในที่สุดก่อให้เกิดมีความหลากหลายทางด้านพื้นฐานความคิด และความแตกต่างในเรื่องของ คติ ความเชื่อ และค่านิยมทางสังคม

นอกจาก ICT เป็นตัวนำชั้นดีแล้ว ICT  ยังเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ดีอีกด้วย คือทำให้การเปลี่ยนแปลงทางสังคมเป็นไปด้วยความรวดเร็วและอย่างความรุนแรง โดยในบริบทนี้ ICT ถูกมองว่าเป็นสื่อสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หนึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในปัจจุบัน คือทิศทางการใช้เว็บเทคโนโลยียุค 2.0 เช่น Youtube, Weblog (Blog), และ RSS (จะขอสนทนาถึงในโอกาสต่อไป) สร้างสื่อพลเมือง (เป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่จะขอสนทนาถึงในอนาคต) ซึ่งอนุญาติให้สมาชิกแต่ละบุคคลในสังคมสามารถทำตัวเป็นสื่อ และสร้างช่องทางการสื่อสารสองทางระหว่างกันได้หลากหลายมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นสื่อทางเลือกใหม่ ที่ทำให้ผู้ที่มีความเข้าใจ สามารถใช้เทคโนโยโลดังกล่าวนี้ชี้นำทางความคิด และสร้างกระแสต่างๆได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย หากแต่มีผลกระทบกับสังคมในระดับที่รุนแรงและเป็นวงกว้าง

ลึกลงไปในเหตุและปัจจัยของความแตกต่างทางสังคมที่เกิดขึ้นข้างต้น อันที่จริงนั้น ICT ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของปรากฏการณ์ที่ SenseMaker ขอเรียกว่า “สังคมในแนวขนาน”

สังคมในแนวขนาน คือการที่สภาพแวดล้อมทางความคิด ของแต่ละปัจเจกบุคคลมีความแตกต่าง ทำให้เกิดการมองเห็นโลกและเข้าใจการการดำเนินไปของสิ่งแวดล้อมรอบข้าง ในมุมมองที่แตกต่างกันไปในแต่ละสังคม

สังคมในแนวขนานเกิดจากการที่แต่ละปัจเจกบุคคล มีภาวะการรับรู้และกรอบความคิดที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นผลมาจากหลายปัจจัยเช่น การมีพื้นฐานการศึกษาที่แตกต่างกัน การมาจากสังคมที่แตกต่างกัน การได้รับรู้ข่าวสารที่แตกต่างกัน และความเชื่อหรือค่านิยมส่วนบุคคล ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้สมาชิกแต่ละคนภายในสังคมเดียวกัน สามารถมองเห็นหรือเข้าใจเหตุการณ์อย่างเดียวกัน ได้แตกต่างกันไป

 

อันที่จริงแล้วปรากฏการณ์สังคมในแนวขนาน เกิดขึ้นและมีอยู่ควบคู่กับการมีอยู่ของมนุษย์และสังคมมาอย่างช้านาน หากแต่ในปัจจุบัน ด้วยความก้าวหน้าของ ICT ทำให้ปรากฏการณ์ดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ถี่ หลากหลาย รวดเร็ว และในวงกว้างมากขึ้น

ปรากฏการณ์สังคมในแนวขนานไม่ใช่สิ่งไกลตัว หากมองในระดับสังคมที่เรียกว่าครอบครัว หมายถึงการที่แต่ละสมาชิกอยู่ในสังคมในแนวขนานที่ต่างกัน หมายความว่าสามีอาจเข้าไม่ถึงสังคมในแนวขนานของภรรยา บิดามารดาไม่อาจจะรู้ได้ว่าสังคมในแนวขนานของบุตรธิดาเป็นอย่างไร และจะรับรู้ได้อย่างไรว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างข้างในนั้น ซึ่งในท้ายที่สุดจะส่งผลให้ครอบครัวมีหัวข้อสนทนาร่วมกันลดน้อยลง ไม่สามารถให้คำแนะนำให้แก่กัน และไม่สามารถเข้าใจกันและกันได้

เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน สามารถเกิดขึ้นได้กับสังคมในระดับที่ใหญ่ขึ้น เช่นในระดับชาติ ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นย่อมมีวงกว้างและรุนแรงมากขึ้น

ดังนั้นแต่ละสังคมควรที่จะมองผลกระทบจาก ICT อย่างรอบด้าน เพื่อการมีวิสัยทัศน์และแนวนโยบายที่คลอบคลุม เพื่อพลักดันให้สังคมของตนสามารถเก็บเกี่ยวประโยชน์ รวมทั้งเข้าใจและป้องกันผลกระทบที่เกิดจากการประยุกต์ใช้ ICT ได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ

โดยสรุปแล้ว ทุกระดับสังคม ควรที่กระตือรือร้นให้สังคมของตนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างทั่วถึง ซึ่งจะส่งผลให้สังคมของตนสามารถลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่มี เมื่อเปรียบเทียบกับกระแสโลกาภิวัฒน์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกันสังคมนั้นๆควรที่จะตระหนักถึง ผลกระทบซึ่งเทคโนโลยี ICT ทำให้เกิดความแตกต่างทางสังคม และยังส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์สังคมในแนวขนานได้ถี่ หลากหลาย รวดเร็ว และในวงกว้างมากขึ้น

อย่างไรก็ดีการที่สังคมหนึ่งๆ จะสามารถรับมือกับทั้งประโยชน์ และผลกระทบที่เกิดจากการประยุกต์ใช้ ICT ได้อย่างรอบด้านและรอบคอบนั้น คงไม่สามารถโยนหน้าที่ความรับผิดชอบ ให้กับใครคนใดคนหนึ่ง หากแต่ผู้นำหรือผู้ที่ต้องรับผิดชอบในระดับนโยบาย จะต้องมีวิสัยทัศน์กว้างไกล อีกทั้งยังต้องสามารถแปลงวิสัยทัศน์ ให้เกิดเป็นผลลัพท์ที่เป็นรูปธรรมได้

พร้อมกันนั้นผู้นำทางความคิดในทุกระดับของสังคม ควรที่จะรับทราบและเข้าใจถึงแนวนโยบายดังกล่าว ซึ่งคนกลุ่มนี้จะเป็นกลจักรสำคัญที่ส่งผลให้สังคมหนึ่งๆ สามารถปรับเปลี่ยนและประสบความสำเร็จตามแนวนโยบายนั้นๆได้อย่างรวดเร็ว

กระนั้นก็ดี สมาชิกในสังคมแต่ละคนเอง ก็ไม่ควรรอหรือฝากความหวังให้ผู้นำทางสังคมเป็นผู้ชี้นำแนวทาง การรับมือการเปลี่ยนแปลงของ ICT หากแต่ตนเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งแห่งตน ในยุคที่ ICTมีอิทธิพลต่อทุกสังคมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ขอให้ทุกท่านรับมือกับการพัฒนาทาง ICT อย่างรอบคอบและรอบด้าน

บล็อกของ SenseMaker

SenseMaker
น้ำมาถึงไหนแล้วหว่า...บ้านฉันน้ำจะท่วมมั้ยเนี่ย...จะหาข้อมูลที่จำเป็นได้จากที่ไหนบ้างหว่า...เวลาเดือดร้อนจะต้องแจ้งใคร...ทำไมโทรไป 1111 กด 5 แล้วถามอะไรไปก็ตอบไม่ได้... ........ใครก็ได้ช่วยบอกทีเหอะว่าฉันกับครอบครัวต้องทำยังไงบ้าง.......ข้อมูลประกอบการตัดสินใจอะไรๆก็ไม่มี ที่มีก็ไม่รู้จะเชื่อได้มากขนาดไหน เชื่อได้รึเปล่า.........
SenseMaker
ขอสวัสดีปีใหม่แด่ท่านผู้อ่านทุกท่าน ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยจงอวยพรให้ทุกท่าน สุขกาย สบายใจมีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ และมีสติในการดำเนินชีวิตอยู่เสมอ
SenseMaker
  จากที่สัญญาว่าในบทความนี้ ข้าพเจ้าจะมาต่อยอดบทความจากครั้งที่แล้วในหัวข้อ “ความร่ำรวยข้อมูล” ด้วยการวิเคราะห์ความจำเป็น ที่เราจักต้องพัฒนาทั้ง 3 ส่วนประกอบสำคัญ อันได้แก่ ความอุดมทางด้านข้อมูล ความยากง่ายในการเข้าถึงข้อมูล และมุมมองที่มีในการวางแผนโครงสร้างข้อมูลบนเว็บ ไปพร้อมๆกัน เพื่อทำให้ทุกท่านเข้าใจประเด็นดังกล่าวนี้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
SenseMaker
เป็นอีกครั้งที่ข้าพเจ้าไม่สามารถส่งบทความเข้ามาได้ตามกำหนด โดยคราวนี้ทิ้งระยะไปนานมาก จนทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกผิดต่อผู้อ่านและผู้บริหาร blogazine เป็นอย่างยิ่ง ข้าพเจ้าต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
SenseMaker
ต่อเนื่องจากบทความที่แล้วในหัวข้อ ความเป็นส่วนตัวของคุณราคาเท่าไหร่ ข้าพเจ้าอยากชวนท่านผู้อ่านคิดต่อไปอีกนิดว่า ท่านจะรู้ได้อย่างไรว่า ข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ที่ท่านเปิดเผยไว้บนพื้นที่ออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเครือข่ายสังคมออนไลน์ (social network sites) ต่างๆ เช่น Facebook และ MySpace จะไม่ทำให้ท่านสูญเสียอะไร หรือเสียใจในอนาคต
SenseMaker
จากบทความที่แล้วในหัวข้อ การจัดระเบียบโลกใหม่ การเมืองไทย และICT ข้าพเจ้าได้ชี้ให้เห็นว่า เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ICT ในปัจจุบัน ทำให้ความสามารถของมนุษย์ ในการจัดการและจัดเก็บข้อมูล ซึ่งหากอาศัยเพียงประสาทสัมผัสของมนุษย์ จะไม่สามารถเข้าถึงและจัดการได้ และความด้วยความก้าวหน้านี้ ทำให้มนุษย์สามารถเห็นและรับรู้ ในข้อมูลที่เคยยากที่จะเห็นและรับรู้ อีกทั้งยังทำให้เข้าใจในสิ่งที่เคยยากต่อการวิเคราะห์
SenseMaker
ความก้าวหน้าทาง ICT ในปัจจุบัน ช่วยให้เราๆท่านๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ซึ่งยากที่จะเข้าถึงในอดีต ได้ง่ายขึ้น เช่น ข้อมูลของบุคคลหรือข้อมูลขององค์กรที่เราสนใจ ข้อมูลทางเศรษฐกิจและสังคม ของประเทศใดประเทศหนึ่ง รวมถึงองค์ความรู้ในด้านต่างๆ เป็นต้น
SenseMaker
หลังจากบทความที่เรียกได้ว่า บทบรรณาธิการแรก ได้ชี้แจงเป้าหมายการดำรงอยู่ ของพื้นที่ทางความคิดแห่งนี้ บัดนี้เวลาล่วงเลยมาครึ่งปี โอกาสแห่งการพูดคุย กับท่านผู้อ่านอีกครั้ง ก็มาถึงทุกๆ12 บทความ ที่ได้ทำหน้าที่ของมันผ่านพ้นไป ถือเป็นช่วงเวลาที่ดี ที่ผู้เขียนกับผู้อ่านจะได้แลกเปลี่ยนความคิดกัน เพื่อทำให้พื้นที่แห่งนี้ เป็นประโยชน์กับทุกๆคน อย่างแท้จริงในทัศนะของข้าพเจ้าแล้ว ICT เข้ามามีบทบาท ต่อชีวิตของเราทุกคน ในทุกวันนี้มากขึ้นทุกที แต่ละคนได้รับประโยชน์ ผลกระทบ และผลลัพธ์ ที่แตกต่างกันไป จากการเปลี่ยนแปลงรอบตัว ซึ่งมี ICT เป็นปัจจัยต้นเหตุ
SenseMaker
Peer Review อาจไม่ใช่คำในภาษาอังกฤษ ที่คนส่วนใหญ่ในสังคมคุ้นเคย แต่เป็นคำคุ้นเคยเป็นอย่างดีในสังคมนักวิชาการ อาจารย์ หรือ นักวิจัย เนื่องจากสังคมดังกล่าว มีวัฒนธรรมและกิจกรรมหลัก ในการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ด้วยการต่อยอดองค์ความรู้ที่มีอยู่เดิม ผ่านการพัฒนาผลงานวิจัยใหม่ ซึ่งการยอมรับจากสมาชิกในสังคมเดียวกัน มีความสำคัญกับผลงานวิจัยแต่ละชิ้นมาก เนื่องจากไม่ว่าผลงานดังกล่าว จะมีคุณภาพในสายตาผู้พัฒนาเพียงใด แต่หากไม่ได้รับการตอบรับจากสมาชิกในสังคม ผลงานนั้นก็ถือได้ว่า ไม่ได้สร้างคุณค่าให้กับสังคมมากนัก
SenseMaker
ในอดีต การเกิดขึ้นของสังคม มักจะถูกจำกัดด้วยเส้นขอบเขตของเวลาและสถานที่ การเป็นส่วนหนึ่งในสังคม เกิดจากการมีส่วนร่วมอยู่ในเวลาและสถานที่เดียวกัน เช่น การอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน การไปโรงเรียนหรือสถานศึกษาเดียวกัน การทำงานในบริษัทหรือสถานที่ทำงานเดียวกัน หรือ การอยู่ในกลุ่มทำกิจกรรมเดียวกัน เป็นต้นแต่ด้วยความก้าวหน้าของ ICT และการขยายตัวของอินเตอร์เนต ทำให้ในปัจจุบัน การมีและเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ของเราแต่ละคน ไม่ถูกจำกัดโดยสองข้อจำกัดข้างต้น อีกต่อไป และทำให้ในปัจจุบันนั้น เราแต่ละคน มีและเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ที่ถูกสร้างขึ้นบนอินเตอร์เนต เพิ่มมากขึ้นๆทุกที
SenseMaker
  หลังจากหลายบทความในคอลัมน์แห่งนี้ ข้าพเจ้าได้ใช้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ที่นับวันดูเหมือนว่า "เป็นการยากสำหรับประชาชน ที่จะทำความเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เพื่อการดำรงชีวิตอย่างเท่าทัน" บทความวันนี้ จึงถูกเขียนขึ้นเพื่อแสดงทัศนะเกี่ยวกับกลไกทางสังคม ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน เพื่อทำหน้าที่คุ้มกันและช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบหรือถูกกระทำ จากความเปลี่ยนแปลงทางสังคมเหล่านี้ โดยไม่อาจป้องกันตนเองได้อย่างเท่าทัน หากขาดไปซึ่งกลไกทางสังคมที่จะขอกล่าวถึงในวันนี้เรามาเริ่มทบทวนกันก่อนว่าความเปลี่ยนแปลงทางสังคม ซึ่งถูกกล่าวถึงในคอลัมน์แห่งนี้…
SenseMaker
สุขสันต์ปีใหม่แด่ทุกท่าน ผู้ซึ่งให้เกียรติแวะเวียนเข้ามาอ่านบทความในคอลัมน์แห่งนี้ ทั้งขาประจำและขาจร ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก จงอำนวยอวยพรให้ทุกท่านมีความสุขกาย สบายใจ และสามารถดำรงชีวิตอย่างมีสติ (และมีสตางค์ใช้อย่างพอเพียง) ข้าพเจ้าขอเริ่มต้นปีใหม่ ด้วยอีกหนึ่งงานเขียนที่มุ่งสื่อสารให้ผู้คนในวงกว้าง ตระหนักถึงผลกระทบที่ ICT มีต่อการดำเนินชีวิตในทุกระดับ เพื่อให้ทุกท่านสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้อย่างเท่าทัน อีกทั้งสามารถประยุกต์ใช้มันอย่างมีประโยชน์