Skip to main content

คนในแอเชีย โดยเฉพาะแอเชียตะวันออก เช่น คนญี่ปุ่น คนเกาหลีหรือคนจีน มักจะประเมิณว่า โค้ชที่ใช้ความรุนแรงกับลูกศิษย์เป็นโค้ชที่มีความทุมเทในการทำงาน การใช้ความรุนแรงในการฝึกซ้อมอาจจะได้ผลบ้าง และพวกที่ได้ผลนั้นก็สร้างค่านิยมที่ไม่ถูกต้องที่ว่า "ในการฝึกซ้อมการเล่นกีฬา เราต้องใช้ความรุนแรง" หรือ "การใช้ความรุนแรงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสร้างวินัยให้กับนักกีฬา" ถ้าเราสังเกตวงการกีฬาในแอเชีวตะวันออก แนวคิดเช่นนี้ยังเรื้อรังอยู่ในสมองของคนในวงการ ไม่ว่าจะเป็นพวกโค้ช คนในสมาคมกีฬา นักข่าว ฯลฯ

คำถามที่นี่คือ

๑. เราจำเป็นต้องใช้ความรุนแรงเพื่อสร้างวินัยหรือไม่ 
๒. เราจำเป็นต้องใช้ความรุนแรงเพื่อสร้างนักกีฬาระดับโลก

๑. ในการสร้างวินัย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การควบคุมพฤติกรรมของตัวเอง ให้เราทำสิ่งที่ต้องทำ และหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำไม่ได้ เมื่อเราทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือหลีกเลี่ยงบางสิ่งบางอย่าง เพราะกลัวว่าจะได้รับบทลงโทษทางร่างกาย คนนั้นก็ทำตัวเหมือนกับคนที่มีวินัย แต่จริงๆ แล้ว ในจิตใจของคนเหล่านี้ไม่ได้มีวินัย แต่เต็มไปด้วยความกลัวที่จะได้รับบทลงโทษ ดังนั้น คนเหล่านี้จะปฏิบัติตัวเหมือนกับคนที่มีวินัยเฉพาะเมื่อมีความเป็นไปได้ว่าจะได้รับการลงโทษจากผู้อื่น แต่ในเมื่อเขารู้ว่าไม่มีใครจะลงโทษเค้า ในกรณีเช่นนั้นไม่มีการรับรองใดๆ ว่า เขายังมี "วินัย" อีกต่อไปหรือไม่

การสร้างวินัยโดยใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะการลงโทษทางร่างกายอันรุนแรง หรือ "เกินเหตุ" อาจจะสามารถสร้างพฤติกรรมบางอย่าง แต่มันไม่สามารถ "ปลูกฝัง" วินัยอันแท้จริงซึ่งต้องมาจากการใช้เหตุผล โดยที่คนนั้นเข้าใจว่า "ทำไมฉันต้องทำแบบนี้" และ "ทำไมฉันทำแบบนี้ไม่ได้" ไม่ใช่สร้างคนที่ทำหรือไม่ทำบางสิ่งบางอย่างเพราะกลัวการลงโทษทางร่างกาย

๒. การสอนกีฬาโดยใช้ความรุนแรงอาจจะสร้างนักกีฬาระดับโลกได้ แต่ในขณะเดียวกัน นักกีฬาหลายๆ คนก็มาจากสิ่งแวดล้อมอันปราศจากการใช้ความรุนแรง ลองสังเกตดูสโมสรหรือทีมชาติฟุตบอลระดับติดอันดับ ผมไม่เคยได้ยินว่า โค้ชชื่อดังได้เชื่อเสียงจากการใช้ความรุนแรง แต่คนเหล่านี้สร้างชื่อเสียงจากมืออาชีพของตน

ดังนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ เราก็ไม่จำเป็นต้องคิดมาก โค้ชมืออาชีพสามารถสร้างนักกีฬาได้โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยการใช้ความรุนแรงหรือการลงโทษทางร่างกาย การกระทำเช่นนั้นถือว่า สิ่งไม่จำเป็นในการสร้างนักกีฬา ในตรงกันข้าม โค้ชที่ต้องอาศัยการใช้ความรุนแรงก็ถือว่า ฝีมือของเค้ายังไม่ถึง อย่าให้การฝักซ้อมกีฬาเป็นโอกาสสำหรับการละเมิดสิทธิ

เกี่ยวกับประเด็นนี้ ผมเห็นด้วยกับคุณใบตองแห้งที่เขียนไว้ในบทความในลิงค์ต่อไปนี้

"ทำไมเป็นกันไปได้ถึงเพียงนั้น หรือเห็นเหรียญทองเหรียญเงินสำคัญกว่าสิทธิที่จะร้องขอความเป็นธรรมเมื่อ ถูกละเมิด เมื่อถูกทำร้ายร่างกาย

พูดอย่างนี้ไม่ได้พิพากษาว่าโค้ชเช ผิด น้องก้อยถูก ฟังความแล้วค่อนไปทางที่เชื่อว่าน้องก้อยหย่อนยานไม่มีวินัยจนพ่ายแพ้ แต่มันคนละเรื่องกัน การลงโทษนักกีฬามีตั้งมากมายหลายวิธี ที่ไม่ต้องทำร้ายร่างกาย"

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd05UWTVPREEyTmc9PQ%253D%253D&sectionid

ภาพจากเพจ Voices of Siam

 

บล็อกของ Shintaro Hara

Shintaro Hara
มหาวิทยาลัยเคอีโอ วิทยาเขตฟูจีซาวะ (慶応大学湘南藤沢キャンパス) ซึ่งเป็นที่เรียนของผมสำหรับระดับปริญญาตรี ตั้งอยู่ในจังหวัดคานางาวะ (神奈川県) ส่วนบ้านผมอยู่ในโตเกียว ดังนั้น ผมต้องใช้เวลาการเดินทางประมาณสองชั่วมองครึ่งสำหรับขาไปอย่างเดียว เพราะฉะนั้น วันใดที่มีคาบเรียน ผมก็ต้องใช้เวลาเกือบห้าชั่วโมงสำหรับการเดิน
Shintaro Hara
ณ ปัจจุบันนี้ สังคมไทยกับสังคมญี่ปุ่นก็ตกอยู
Shintaro Hara
ตั้งแต่มีหนังสือพิมพ์ ชาวอังกฤษแสดงความเห็นกันว่า ภาษาอังกฤษอยู่ในภาวะ “วิกฤต” โดยอ้างว่า ผู้ใช้ภาษาอังกฤษมีการออกเสียงไม่ถูกต้อง หรือมีการสะกดผิดมากมาย แนวคิดแบบนี้มีอยู่ในเกือบทุกภาษา ผู้ใช้ของภาษาใดภาษาหนึ่ง โดยเฉพาะบรรดาเจ้าของภาษาที่หวังดีกับภาษาของตน เป็นห่วงกับ “คุณภาพการใช้ภาษา” ในสังคม ซ
Shintaro Hara
Shintaro Hara
คนในแอเชีย โดยเฉพาะแอเชียตะวันออก เช่น คนญี่ปุ่น คนเกาหลีหรือคนจีน มักจะประเมิณว่า โค้ชที่ใช้ความรุนแรงกับลูก
Shintaro Hara
ตามพจนานุกรม Cambridge Advanced Learner's Dictionary & Thesaurus (http://dictionary.cambridge.org/dictionary/british/potential_2) ให้คำจำกัดความต่อคำว่า potential (คำนาม) ดังต่อไปนี้: someone's or something's ability to develop , achieve , or succeed ความสามารถของคนใดคนหนึ่งหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่
Shintaro Hara
สมาคมผู้ปกครองและครู ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า PTA (พี.ที.เอ.) ซึ่งเป็นคำย่อของทัพศัพท์ Parents and Teachers Association สมาคมนี้มีอยู่ในทุกโรงเรียน โดยทั่วไป อาจกล่าวได้ว่าบรรดาผู้ปกครองก็ให้ความรวมมือต่อฝ่ายโรงเรียนโดยสมัครเป็นสมาชิกของ PTA วิสัยทัศน์การจัดตั้งสมาคมดังกล่าวคือเพื่อให้เป็นเวทีการเรียน
Shintaro Hara
หลังจาก นาย ซูซีโล บัมบัง ยูโดโยโน (Susilo Bambang Yudhoyono) ได้ครองตำแหน่งประธรานาธิบดีเป็นเวลาสองสมัย ในสุดท้าย เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ จะมีการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่สำหรับประเทศอินโดนีเซีย
Shintaro Hara
ผมเองก็ไม่ทราบครับ ว่า ทำไมคนญี่ปุ่นเข้าคิวทุกครั้ง และแทบจะไม่มีใครกล้าแซงคิว มันเป็นหัวข้อที่น่าสนใจสำหรังงานวิ
Shintaro Hara
ในคำปราศรัยโดยหัวหน้าคณะกรรมการรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ท่าน ผบ.ทบ.