Skip to main content

หลังจากจบกิจกรรมในวันแรกเราทุกคนต้องนอนค้างด้วยกันและเช้าวันรุ่งขึ้นผมต้องรีบแหกขี้ตาขับรถกลับบ้านเพื่อแต่งตัวไปทำงาน ในขณะที่เพื่อนๆคนอื่นเตรียมตัวออกเดินทางโดยตลอดการเดินทางเราจะใช้ “APP C –Site”เพื่อติดตามเรื่องราวของกันและกัน ความรู้สึกที่เราต้องนั่งหงอยๆทำงานอยู่หน้าคอมทั้งที่เพื่อนคนอื่นออกเดินทางกันอย่างน่าตื่นเต้นนี่ มันทำให้จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวได้ดีจริงๆ ผมใช้เวลาทุกๆ 5 นาทีใจจดใจจ่อในการดูเพื่อนๆถ่ายรูปมาแชร์กันทั้งๆที่ผมนั่งอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมๆ ความรู้สึกเหมือนเด็กที่อยากได้ของเล่นใจจะขาดแต่แม่ไม่ซื้อให้เลยร้องงอแงไม่ไปไหนอยู่หน้าร้านขายของเล่น แต่นั่นมันเด็กไงจะให้ผมไปร้องงอแงหน้าห้องผู้จัดการแล้วบอกว่า หนูอยากไปเที่ยว ปล่อยหนูไปเถอะนะ หนูไม่อยากทำงาน ก็เกรงว่าชะตาชีวิตจะขาด จึงทำได้แค่กดมือถือมองคนอื่นตาปริบๆแต่ในใจตอนนี้ หายใจเข้าก็เที่ยว หายใจออกก็อยากเที่ยว ผมเก็บความรู้สึกไว้แต่เพียงผู้เดียว อดทนรออีก 2 วัน เหมือนเด็กเก็บกดที่ถ้าได้ออกเดินทางเมื่อไหร่จะเอาให้เต็มที่เลยคอยดู และแล้วความอดทนของผมก็ถึงวันสิ้นสุด เย็นวันศุกร์เวลา 18.00 น.ตรง ผมเก็บของปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว ผมขี่มอเตอร์ไซต์กลับบ้านด้วยความเร่งรีบเพื่อที่จะไปเตรียมตัวออกเดินทาง แต่ลึกๆความกลัวที่ผมสร้างขึ้นมามันก็ท าให้ผมรู้สึกหวั่นใจเหมือนกัน ผมแทบไม่มีข้อมูลอะไรมากมายเลยเกี่ยวกับ สะเนพ่อง รู้แค่ว่าข้างในนั้นไม่มีไฟฟ้า สัญญาณมือถือ ผมไม่รู้ว่าคนข้างในนั้นจะต้อนรับผมไหม เขาจะนิสัยดีไหม แล้วไปผมจะมีอะไรกินรึเปล่า ที่นอนจะนอนได้ไหม ไปแล้วจะน่าเบื่อไม่มีอะไรทำรึเปล่า และที่สำคัญผมเข้าไปอยู่ข้างในถ้าผมหายไป จะมีใครตามหาผมไหม ผมข่มความกลัวและไปสงบจิตใจด้วยการสวดมนต์ เพื่อขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยคุ้มครองผมให้ปลอดภัยผมมักทำอย่างนี้ทุกครั้งเมื่อถึงเวลาที่ต้องเดินทาง และในครั้งนี้ก็เช่นกัน

 

บล็อกของ Storytellers

Storytellers
ปรากฏการณ์การพิทักษ์ความดีงามแห่งรัฐ คำว่า “ความดีงามแห่งรัฐ” คือ สิ่งที่รัฐมองว่าดีงามและควรค่าแก่การรักษา
Storytellers
หากเราลัดเลาะรอบกรุงรัตนโกสินทร์ สิ่งที่เห็นล้วนเต็มไปด้วยวัดวาอาราม ย่านที่เต็มไปด้วยความดีงามที่ควรแค่แก่การอนุรักษ์นำมาซึ่ง “แผนแม่บทเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์”
Storytellers
“Raising and caring for children is more like tending a garden :it involves “a lot of exhausted digging and wallowing in manure” to create a safe,nurturing space in which innovation, adaptability and resilience can thrive.”
Storytellers
หลังจากครุ่นคิดมาทั้งคืน ถึงพื้นที่การเรียนรู้ มุกได้เลือกไปที่ ชุมชนไทดำ จังหวัดสุราษฎร์ธานีค่ะ มีหลายเหตุผลมากมายในการเลือกเดินทางครั้งนี้ นั่นก็คือ อยากที่จะไปเรียนรู้ถึงวัฒนธรรม พิธีกรรม รวมถึงวิถีชีวิตต่าง ๆของคนไทดำ ว่ามีความแตกต่างกับชีวิตประจำวันของเราอย่างไร และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้
Storytellers
- ฉันเริ่มการสรุป สาธยาย เพ้อเจ้อ และพรรณา ณ วันที่12 ธันวาคม 2561 (12/12) เวลา 18.36 -
Storytellers
คำเตือนการพยายามร้อยเรียงเรื่องราวมันคงจะชัดเจนจนสับสนมากอ่านประโยคเดียวงงไหมคะ?ไม่ต้องพยายามเข้าใจอะไรให้มันง่ายหรอกค่ะ เดี๋ยวมันไม่สนุก ไปกันแบบงงๆกับคนงงๆดีกว่า .Pre-ช่วงประมาณกลางเดือนตุลาคม 2561
Storytellers
ตอน : การจัดการที่อยู่
Storytellers
การนำเสนอ ตั้งใจว่าจะทำเป็น จดหมาย 3 ฉบับที่เขียนในสเนพ่อง เพราะว่าในสเนพ่อง ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ท จึงทำให้การพูดคุยสื่อสารกันด้วยจดหมายน่าจะเข้ากับการนำเสนอการเดินทางในครั้งนี้มากที่สุดค่ะ มีจดหมายฉบับที่ส้มโอเขียนให้ครูเฟริ์นและได้มอบให้ครูเฟริ์นจริงในวันสุดท้ายก่อนออกจากสเนพ่
Storytellers
หลังจากที่นอนคิดเกือบทั้งคืนว่าเราจะเก็บกระเป๋าไปพื้นที่เรียนรู้ที่ไหนดี(จากยี่สิบกว่าตัวเลือกที่ทางโครงการ storytellers in journey มีให้) เราก็ได้คำตอบสุดท้ายแล้ว พรุ่งนี้โมจะไปเสน่พ่อง!
Storytellers
           คุณเคยเห็นเวลาที่รถติดหล่มไหม มันคงใช้เวลาอยู่นานเลยนะกว่าจะหลุดพ้นจากหล่มนั้นมาได้ คงต้องใช้ทั้งเวลาทั้งแรงและปัจจัยอีกหลายๆอย่างมากมายในการหลุดออกมา การจากลาจากใครสักคนก็เหมือนกัน ความรู้สึกของการจากลามันก็เหมือนรถที่ติดหล่มที่เมื่อติดลงไปแล้วก็ทำให้ความ
Storytellers
          พบเพื่อลา มาเพื่อจาก ผมลุกจากที่นอนออกมาทำธุระส่วนตัวก็เห็นน้องๆกำลังแต่งตัวถือหนังสือเตรียมตัวกันมาเรียน มันคงเป็นการตื่นมาเรียนที่แต่ละคนดูสดชื่นไม่เหมือนกับตัวเองสมัยเด็กๆที่โรงเรียนไม่ต่างอะไรจากกรงขังที่ตีกรอบสี่เหลี่ยมให้กับเราแต่สำหรับที่นี่โรงเรียนเหมือน