ฤดูแต่ละฤดูที่ผ่านไป หากแม่น้ำพูดได้ น้ำคงอยากบอกอะไรกับมนุษย์ผู้ได้ชื่อว่าใช้ประโยชน์จากแม่น้ำมากที่สุด อย่างน้อยคนที่ผิดหวังพลาดหวัง แม่น้ำคงร้องเพลงสักเพลงปลอบให้คลายเศร้า และแม่น้ำคงปลอบประโลมเราให้อดทนในเวลาที่สายฝนกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย
ในวงรอบหนึ่งปี เราเคยระลึกถึงบุญคุณของแม่น้ำกันกี่ครั้ง หากลองนับดูแล้วก็เพียงช่วงออกพรรษา และลอยกระทงเท่านั้นที่มนุษย์เช่นเราได้ระลึกถึงบุญคุณของแม่น้ำอย่างจริงจัง แล้ววันเวลาที่เหลือนอกจากนั้นล่ะ เราระลึกถึงแม่น้ำในฤดูที่แตกต่างกันของสายน้ำในแง่มุมใด
เพื่อนของฉันบางคนมีความใฝ่ฝันแสนงาม เมื่อเขาได้เดินทางไปเยือนแม่น้ำบางสาย เพื่อนของฉันคนนั้นเก็บซ่อนความฝันแสนงามของเขาไว้ในหลอดเวลาที่มีทรายอยู่เล็กน้อย ทุกวันเขาจะเฝ้าดูเม็ดทรายที่ไหลกลับลงมาอีกด้านหนึ่งของหลอดแก้ว เพื่อรอวันเวลาเดินทางไปตามความใฝ่ฝันแสนงามเหนือดินแดนที่ได้ชื่อว่า ‘แม่น้ำแห่งความฝัน' แต่ก็นั้นแหละ ชั่วยามแห่งการเปลี่ยนผ่านของแม่น้ำขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนผ่านของสายลมในแต่ละฤดู บางฤดูความงามของแม่น้ำอาจงามราวเนรมิต แต่ในบางฤดูความงามของแม่น้ำก็ถูกแทนที่ด้วยความเกรี้ยวกราดของสายน้ำ ในฤดูเช่นนี้เพื่อนของฉันคนเดิมเดินทางมาพบเจอเข้า เขาแอบกระซิบกับฉันแผ่วเบา คงเพราะกลัวแม่น้ำได้ยินเสียงกระซิบ
เขากระซิบกับฉันว่า ‘พอแล้วละความงามของสายน้ำ ฉันไม่อาจทัดทาน ความงามที่เดินทางมาถึงในบางฤดูของสายน้ำให้อยู่กับเรานานๆ ได้ ในฤดูที่แตกต่างของสายน้ำ ฉันคงไม่อาจซ่อนความเบื่อหน่ายที่สายน้ำไม่เป็นดั่งปรารถนาเอาไว้ได้หรอก'
แล้วเขาก็ทิ้งความใฝ่ฝันแสนงามลงแม่น้ำอย่างไม่ใยดี เหมือนกับว่าความฝันแสนงามที่เขาทิ้งไปไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อน
ฉันเองเคยหลงรักแม่น้ำทุกๆ สายที่เดินทางไปพบ แต่ความรักที่มีต่อสายน้ำได้จำแนกผ่านฤดูแต่ละฤดูที่ได้ไปเยือน บางฤดูฉันพบว่า แม่น้ำบางสายมีความน่ารักเฉพาะที่ โดยเฉพาะในจุดที่แม่น้ำเชี่ยวกรากขณะเราอยู่บนเรือเหนือสายน้ำเชี่ยว ฉันพบว่าแม่น้ำช่วงที่ทำให้ความรู้สึกหวาดกลัวเดินทางมาเยือนหัวใจดวงน้อยๆ ของฉันไม่น่ารักเอาเสียเลย แต่หากว่าในช่วงที่แม่น้ำไหลนิ่งเฉย ฉันพบว่า แม่น้ำช่างว่านอนสอนง่าย และเป็นอย่างที่เราอยากให้เป็นเหลือเกิน แต่เชื่อไหมถ้อยคำที่ฉันพูดถึง มันอาจแปรเปลี่ยนไปได้เพียงการขยับเดินด้วยขาข้างใดข้างหนึ่งของมดแดงบนช่อมะม่วง สายน้ำที่เรียบเฉยบางทีอาจไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเบื้องล่างที่เกาะกุมความลึกล้ำเอาไว้ เราไม่มีโอกาสเดินทางไปสัมผัสอย่างแท้จริง เบื้องล่างของแม่น้ำจึงน่ากลัวพอๆ กับตรงจุดที่แม่น้ำเชี่ยวกราก
มีกวีบางคนเคยพรรณนาเอาไว้ว่า หากคุณอยากฟังเสียงของสายน้ำจงเป็นหนึ่งกับสายน้ำ และปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับเสียงน้ำไหล นิ่งฟังเสียงเพรียกของสายน้ำ แล้วเราจะเข้าใจสายน้ำ แต่ฉันว่ากวีกล่าวเกินไป เพราะฉันไม่ค่อยเห็นกวีคนใดลงเล่นน้ำ เมื่อพวกเขาเดินทางไปเจอแม่น้ำที่สวยงาม กลับกัน พวกเขาเอาแต่นั่งดื่มสุราชื่นชมความงามของสายน้ำ และเดินทางไปด้วยเรือจินตนาการเสียมากกว่าการดำผุดดำว่ายในแม่น้ำเหมือนคนอื่นๆ
ในฤดูที่แตกต่างของสายน้ำได้ให้หลายสิ่งหลายอย่างกับเรามากมาย โดยเฉพาะกับกลุ่มคนที่มีวิถีชีวิตแนบแน่นอยู่กับแม่น้ำ ในวันที่สายน้ำเริ่มเอ่อ และท่วมท้น คนหาปลาจะเปลี่ยนเครื่องมือหาปลา เพื่อจับปลาไปขาย คนขับเรือก็ขับเรือได้ง่ายขึ้นในช่วงที่น้ำเต็มฝั่ง แต่หากว่าผู้คนที่ไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับแม่น้ำ และเดินทางไปเยือนแม่น้ำในชั่วครั้งชั่วคราว พวกเขากลับอยากให้แม่น้ำเป็นอยู่อย่างฤดูที่พวกเขาเดินทางไปถึง และบอกว่าฤดูนี้แม่น้ำงดงามที่สุด
นอกจากฤดูที่แตกต่างของสายน้ำจะบอกกล่าวถึงการเปลี่ยนผ่านของสายน้ำแล้ว ยังได้บ่งบอกบางสิ่งบางอย่างด้วย เช่น เมื่อเดือนห้าหน้าแล้งเดินทางมาถึง แม่น้ำแห้งขอดลง ลมแรงที่เป็นลมร้อน และพายุในฤดูร้อนก็จะเดินทางมาเยือน เพื่อพัดช่อของยอดมะม่วงที่กำลังแตกช่อ
บ่อยครั้งที่ตระเวนไปตามแม่น้ำสายต่างๆ ฉันพบว่า ในฤดูที่แตกต่างของสายน้ำ ชีวิตของฉันก็ต่างกันออกไปไม่ต่างอะไรกับสายน้ำ