Skip to main content

เสียงผู้คนส่งเสียงเชียร์เรือยาวในแม่น้ำดังไปทั่วริมฝั่ง งานแข่งเรือเริ่มขึ้นในวันสาขารล่อง--ประมาณวันที่ ๑๔ เมษายน เบื้องล่างเหนือสายน้ำ เรือ ๒ ลำกำลังขับเคี่ยวกันอย่างหนัก ไม่นานนักเรือที่มีฝีพายใส่เสื้อสีแดงก็ทะยานเข้าเส้นชัย

หลังเรือลำนั้นเข้าเส้นชัยแล้ว การแข่งเรือรอบคัดเลือกจึงสิ้นสุดลง พรุ่งนี้จะเป็นวันตัดสินว่า เรือของคุ้มบ้านไหน จะได้ลอยลำเฉิดฉายเข้าเส้นชัย

เสียงเพลงเฉลิมฉลองทั้งปราชัย และมีชัยดังมาเป็นระยะ เมื่อผู้คนเริ่มทยอยกลับบ้าน ชายชราก็ลุกจากเสื่อที่ปูนั่ง และเดินออกมาจากริมน้ำคืนสู่บ้าน ก่อนจะเดินมาถึงบันไดทางขึ้นวัด ชายชราก็ก็หยุดคุยกับใครบางคนตรงเชิงบันได

“เด็กบ้านเรามันไม่สู้ พายเรือก็ไม่พร้อมกัน ถ้าเป็นสมัยเรานี่ได้รางวัลไปแล้ว” ชายใส่เสื้อขาวอีกคนที่อายุไล่เลี่ยกับชายชราพูดขึ้นมา
“นั้นแหละ พอตอนซ้อมมันไม่มาซ้อม ตอนแข่งก็กินเหล้ากัน พอแข่งจริงแรงมันก็ไม่มี ถ้าเป็นสมัยพวกเรานี่ สู้ไม่เคยถอย แต่ก็อย่างว่านั้นแหละ ถึงคนพายถ้ามันพายดี แต่เรือไม่ดี มันก็เหมือนเดิม เรือกับคนมันต้องดีๆ พอกันถึงจะชนะบ้านอื่นเขาได้”
เมื่อพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง ชายชราก็เดินจากผู้ชายอีกคนมา

หากพูดถึงการแข่งเรือแล้ว นานทีปีครั้งถึงจะมี การหาฝีพายที่มือถึง และการหาเรือดีมาเข้าแข่งจึงเป็นเรื่องยากพอควร และความจริงแล้ว การแข่งเรือก็เพียงรักษาประเพณีครั้งเก่าก่อนไว้เท่านั้น หาได้หมายถึงการแข่งขันเอาถ้วยรางวัล และชื่อเสียงใหญ่โตอาฬารแต่ประการใด

หลังงานแข่งเรือแล้วเสร็จอีกหลายวัน ชายชราก็เดินทางขึ้นไปหาปลาอีกครั้ง การไปหาปลาในครั้งนี้ ไม่มีใครรู้ได้ว่า ชายชราจะได้กลับมาพร้อมกับปลากี่กิโล

เมื่อชายชรากลับมาถึงกระท่อม แมวสองตัวที่เลี้ยงไว้ก็วิ่งมารับ มันคงดีใจที่เจ้าของผู้ใจดีกลับมา หลังเก็บสัมภาระทุกอย่างเรียบร้อย ชายชราก็มุ่งหน้าไปยังท่าน้ำ เมื่อไปถึงชายชราก็พบว่า เรือลอยอยู่บนริมฝั่ง ไม่ได้ลอยอยู่ในน้ำ ชายชราหยุดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเดินเข้าไปใกล้กับหัวเรือแล้วใช้มือทั้งสองออกแรงดันเรือให้ลงน้ำ เมื่อเรือโดนน้ำ เสียงลั่นคล้ายกำลังปริแตกของไม้ก็ดังขึ้น หลังเสียงเงียบลง ชายชราก็ใช้ขันตักน้ำขึ้นมาสาดไปทั่วเรือ หลังเรือชุ่มไปด้วยน้ำ ชายชราก็เดินขึ้นมาริมฝั่ง และจัดเตีรยมอุปกรณ์ในการบวงสรวงเรือ

ควันธูปลอยล่องไปตามลม หลังถูกจุดขึ้นไม่นาน ตรงหัวเรือมีขนมหลากสี ดอกไม้ และแก้วเหล้า วันนี้ชายชราตัดสินใจเลี้ยงเรือ และบนบานบอกกล่าวต่อแม่ย่านางเรือ หลังจากไม่ได้ทำมานาน

แสงตะวันยามพลบใกล้เข้ามาเต็มที ชายชรายังไม่กลับมาจากหาปลา ตรงริมฝั่ง แมวสองตัวเดินวนไปวนมาเฝ้ารอเจ้าของ บนแม่น้ำหน้าแล้ง แม้น้ำไม่มาก แต่ความหน้ากลัวก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม

เวลาค่อยๆ ผ่านไปช้าๆ ขณะตะวันใกล้ลับเหลี่ยมเทือกเขาดอยหลวง ชายชราก็พายเรือกลับเข้ามถึงฝั่ง แมวสองตัวหลังรู้ว่าเจ้าของพวกมันกลับมาแล้ว มันก็เดินมายังริมฝั่งอีกครั้ง เมื่อมาถึงมันก็กระโดดขึ้นไปบนเรือ มันค่อยๆ ไต่ไปตามเรือ เพื่อไปหาชายชรา

“เหมียว วันนี้ไม่มีอะไรกินหรอก ปลาก็ไม่ได้ กุ้งก็ไม่ได้ ไปขึ้นไปบนฝั่ง มืดค่ำแล้วเดียวตกน้ำ”
ชายชราร้องไล่แมว เมื่อเห็นว่าพวกมันกำลังเล่นกันอยู่บนแคมเรือ แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันหาปลาวันแรก หลังจากไม่ได้หามาหลายวัน ผลรับที่ได้กลับมาก็ไม่ได้แตกต่างกับก่อนหน้าจะหยุดหาไปเท่าใดนัก เมื่อแมวสองตัวเดินขึ้นไปบนริมฝั่งแล้ว ชายชราก็เดินจากท่าเรือขึ้นมาบนกระท่อม

บริเวณกระท่อมตอนนี้มีแสงตะเกียงมาแทนที่ของแสงตะวันยามพลบ ที่ริมระเบียง ชายชรานอนเอาเมื่อก่ายหน้าผากครุ่นคิดถึงเรื่องราวต่างๆ นานาจนเผลอหลับไปเนิ่นนาน

ชายชราสะดุ้งตื่นขึ้นมา เมื่อแมวสองตัวหยอกล้อกันแล้ววิ่งมาชนแก เมื่อตื่นขึ้นมา ชายชราก็ย้ายเข้าไปนอนในกระท่อม หลังจากชายชราเข้าไปในกระท่อมแล้ว แมวสองตัวก็เงียบเสียงของพวกมันลง

สองวันให้หลัง ชายชราก็กลับคืนสู่บ้าน ผมได้พบกับชายชราขณะแกกำลังเข็นรถผ่านหน้าบ้าน
“พ่อเฒ่าได้ปลาไหม”
“ไม่ได้ ปลาก็ไม่ได้ เรือก็มาแตก น้ำเข้าเยอะ อุดยังไงก็เอาไม่อยู่ ก็เลยคิดว่าจะเปลี่ยนเรือใหม่ ตอนนี้กำลังไปสั่งคนลาวทำเรือให้อยู่ บอกช่างว่าจะเอาสัก ๑๔ ศอก ให้มันลำใหญ่กว่าลำเดิม”
“แล้วพ่อเฒ่าจะขึ้นไปหาปลาอีกเมื่อไหร่”
“ช่วงนี้ไม่ไป เอาไว้ให้เรือเสร็จก่อน ถึงไปปลามันก็ไม่มี ไปก็เสียเวลาเปล่าสู้ไม่ไปดีกว่า”

ผมคุยกับชายชราอยู่ไม่นานนัก แกก็เข็นรถมุ่งหน้าคืนสู่บ้าน หลังชายชราลับตาไปแล้ว ผมกลับเข้ามาในบ้าน และเดินไปนอนเล่นบนเปลใต้ต้นกระท้อน เมื่อเอนหลังลงแนบกับเปล ผมก็หวนคิดถึงเรื่องเล่าของชายชราที่แกเล่าให้ฟังหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องราวในวันนี้ของชายชรา  

จากวันที่เราพบเจอกันวันแรกจนถึงวันนี้ สิ่งที่ผมเห็นอยู่เสมอคือชายชรายังเป็นคนหาปลาอยู่เช่นเดิม แม้ว่าในตอนนี้ชายชราจะไม่ได้ขึ้นไปหาปลาที่เดิม เพราะปลาไม่ค่อยมี ก็อย่างที่ชายชราเล่าให้ฟังนั้นแหละว่าเป็นเพราะเหตุใด ปลาจึงไม่ค่อยมี ยิ่งนานวันเข้าปลาที่เคยได้ก็ลดน้อยลงทุกที รอยยิ้มเคยมีอยู่บนใบหน้าของชายชราก็เริ่มเลือนหายไปบ้างตามชั่วยามแห่งอารมณ์ที่เกิดขึ้น

หากเราจะเรียกสิ่งที่กำลงเกิดขึ้นกับชายชราและคนหาปลาคนอื่นว่า ‘ชะตากรรม’ แล้ว คนหาปลาเช่นชายชราจะต้องเผชิญชะตากรรมนี้อีกนานเท่าไหร่ ผมเองก็ยังไม่รู้ ได้เพียงแต่ภาวนาว่าขอให้ชายชราเป็น ‘ชายชราแห่งสายน้ำโบราณ’ ที่ได้อาศัยพึ่งพาแม่น้ำ ในช่วงสุดท้ายของชีวิตต่อไปจนกว่า...

แน่ละ ในความเป็นจริงไม่มีสิ่งใดจีรังยั่งยืนและเป็นนิรันดร์ ชายชราก็เช่นกัน อีกไม่นานตำนานแห่งการล่องไหลบนลำเรือเหนือสายน้ำคงได้หยุดลงเป็นการถาวร เพราะร่างกาย และอายุของชายชราก็มากขึ้นทุกที

แม่น้ำก็คงเหมือนกัน วันใดในหนึ่ง แม่น้ำก็ย่อมมีวันหยุดไหล เมื่อผู้คนคิดแต่จะกอบโกยเอาผลประโยชน์จากแม่น้ำมากเท่าใด ผู้คนก็ลงมือทำลายแม่น้ำมากขึ้นเท่านั้น และนอกจากจะทำลายแม่น้ำแล้วยังทำลายวิถีของผู้คนริมน้ำด้วย

ในอนาคตใครจะเป็นคนมาสืบสานวิถีของคนหาปลาแห่งสายน้ำโบราณต่อจากชายชรา มันเป็นคำถามสั้นๆ ที่ยังหาคำตอบไม่ได้ เพราะลูกหลานแห่งแม่น้ำ พวกเขาต่างโดนพรากจากแม่น้ำด้วยมือนิรนามหลายร้อยหลายพันมือ มือนิรนามเหล่านั้นฉุดกระชากลูกหลานแห่งแม่น้ำให้ไหลล่องไปสู่ที่ห่างไกลออกไปเรื่อยๆ และนับวันจะไปไกลขึ้นทุกที

สายน้ำยังคงไหลไปเช่นใด เรื่องราวของชายชราและแม่น้ำโบราณก็คงไม่จางหายไปเช่นกัน และมันยังจะคงมีต่อไป แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่เรื่องราวเล็กๆ ของหาคนหาปลาคนหนึ่งบนสายน้ำอันยิ่งใหญ่สายนี้...

ขณะเดินทางออกจากเชียงของสู่เชียงใหม่ ผมหวนคิดถึงคำพูดของชายชราที่ว่า ’หากเราทำร้ายแม่น้ำก็เหมือนเราฆ่าแม่’ ใช่สินะ! หากเราทำร้ายแม่น้ำก็เหมือนกับเราทำร้ายแม่ของเรา เพราะสายน้ำก็ให้กำเนิดของสรรพชีวิตไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าแม่ของเราเช่นกัน...

แม้ว่าในวิถีทางของชายชราจะอยู่บนเส้นแบ่งลางๆ ระหว่างบุญ-บาป-สำนึกแห่งการไม่ฆ่า-การอยู่รอด แต่ความเป็นจริงแล้ว ชายราเคยบอกกบัผมว่า ไม่ว่าคนหรือสัตว์ เราล้วนเกิดมาชาติเดียว ปลาในแม่น้ำก็เช่นกัน มันล้วนเกิดมาเพียงชาติเดียว เพียงแต่ว่าวันสิ้นชาติของเราจะเดินมาถึงเมื่อไหร่เท่านั้นเอง หากวันสิ้นชาติของปลาเดินทางมาเร็ว มันก็โดนคนหาปลาจับได้หรือไม่ก็โดนปลากินเนื้อบางชนิดกินมันเป็นอาหาร คนเราก็เช่นกัน หากเราไม่โดนคนอื่นฆ่าเสียก่อน เราก็โดนวันเวลาค่อยๆ กลืนกินเราจนกว่าวันสุดท้ายของชีวิตจะเดินทางมาถึง

เมฆฝนฤดูใหม่ตั้งเค้ามาแล้ว ในที่สุดก็โปรยสายลงสู่ผืนดินและสายน้ำอีกครั้ง หลายชีวิตก่อเกิดขึ้นมาอีกครั้ง ชายชราเองก็เช่นกัน เมื่อฝนแรกมาเยือน น้ำเริ่มนอง ไซลั่นที่สานไว้ตั้งแต่หน้าแล้งก็ถูกนำลงมาวางในแม่น้ำอีกครั้ง

เมื่อไหร่หนอ การเดินทางบนสายน้ำของชายชราจะสิ้นสุดลง อีกกี่ปีหนอการล่องไหลของแม่น้ำจะสิ้นสุดลงอย่างสิ้นเชิงเช่นกัน อีกไม่กี่ปีข้างหน้าชายชรา และแม่น้ำโบราณสายนี้จะเป็นอย่างไร จะจบลงด้วยความสุขหรือว่าจบลงด้วยความทุกข์ เวลาคงเป็นเครื่องตัดสิน บางทีการจบลงของเรื่องราวชายชรา และสายน้ำโบราณอาจเป็นเหมือนเพลงที่ชายชราชอบร้องก็เป็นได้...

สายโขงยังตัดไม่ขาด สายสวาทตัดขาดอย่างไร
ตัดบัวก็ยังไว้ใย ตัดน้ำใจยังมีเมตตา
ค่อยอิง ค่อยอาศัยกัน เอาไว้รักกันในวันข้างหน้า

 

บล็อกของ สุมาตร ภูลายยาว

สุมาตร ภูลายยาว
หากท่วงทำนองของสายน้ำในฤดูฝนคือท่วงทำนองของเพลงร๊อคที่โหมกระหน่ำดุเดือดด้วยเสียงกระเดื่องกลองสลับกับเสียงเบสหนักๆ ปนกับเสียงร้องอันแหลมคม และสูงปรี้ดของนักร้อง สำหรับท่วงทำนองของสายน้ำในหน้าแล้งที่อยู่ในฤดูหนาว ท่วงทำนองของสายน้ำอันปกคลุมไปด้วยหมอกหนาวคงเป็นเสียงเพลงบูลล์หม่นเศร้า และในช่วงหน้าแล้ง ท่วงทำนองของสายน้ำคงเป็นท่วงทำนองของเพลงแคนอันเศร้าสร้อยอ้อยอิ่ง ชวนให้คิดถึงบรรยากาศของท้องทุ่ง และดินแตกระแหงของผืนดินอีสาน ฤดูแต่ละฤดูที่ผ่านไป หากแม่น้ำพูดได้ น้ำคงอยากบอกอะไรกับมนุษย์ผู้ได้ชื่อว่าใช้ประโยชน์จากแม่น้ำมากที่สุด อย่างน้อยคนที่ผิดหวังพลาดหวัง…
สุมาตร ภูลายยาว
ในชีวิตผมถือว่า สองปีที่ผ่านมา ผมโชคดีไม่น้อยที่มีโอกาสได้ไปยังสถานที่ที่ตัวเองไม่คาดคิดว่าจะได้ไป สถานที่ที่ว่านั่นคือ ‘สันเขื่อน’ และจุดสำรวจที่จะมีการสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขงในตอนล่าง ไล่ตั้งแต่ปากแบ่ง หลวงพระบาง ไซยะบุรี ปากลาย ปากชม และบ้านกุ่ม จำนวนพื้นที่ที่กล่าวมาทั้งหมดแถบทุกพื้นที่ได้มีการสำรวจศึกษาความเป็นไปได้ของพื้นที่ในการก่อสร้างเขื่อนหมดแล้วการไปในแต่ละครั้ง บางทีก็ต้องทำตัวให้กลมกลืนกับพื้นที่โดยการปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวผู้อยากรู้อยากเห็น และที่สำคัญต้องตีสนิทกับคนท้องถิ่น เพื่อจะได้เดินทางไปสู่เป้าหมายง่ายขึ้น ในจำนวนพื้นที่ที่กล่าวมาทั้งหมด หากไม่นับรวมปากชมแล้ว…
สุมาตร ภูลายยาว
-ห้องพัก ๒๐๑, เฮือนพักเพียงจัน,หลวงพระบาง- สายฝนที่โปรยสายลงมาอย่างหนักตั้งแต่ตอนกลางคืนหายไปเมื่อตอนเช้าตรู่ ฟ้ากลับมาเป็นสีฟ้าใสอีกครั้ง หลังจากผู้คนของเมืองตื่นจากหลับใหลในอ้อมกอดของบ้านพักอบอุ่น ความเคลื่อนไหวจึงปรากฏ ถนนแต่ละสายผู้คนเริ่มพลุกพล่านโดยเฉพาะส่วนที่เป็นตลาด หลายครั้งที่มาถึงเมืองนี้ในการดำรงอยู่ของเมืองยังคงมีเรื่องราวให้น่าค้นหาในมุมมองอันหลากหลายมากขึ้น การมาถึงเมืองนี้ในแต่ละช่วงเวลาที่แตกต่างกันย่อมมีเรื่องเล่าแตกต่างกันออกไปด้วย การมาหลวงพระบางในครั้งนี้ก็เช่นกัน เรามาถึงในตอนเกือบ ๓ ทุ่ม สายฝนยังตกลงมา…
สุมาตร ภูลายยาว
ลมหนาวพัดข้ามยอดเขามา ตอซังข้าวลู่ลงแนบพื้นดิน น้ำในแม่น้ำหมันแห้งขอดลงตามฤดูกาล ถัดจากแม่น้ำขึ้นไปเป็นภูเขา แม่น้ำหมันมีต้นกำเนิดจากภูโลมโลอันเป็นเทือกเขาของเทืือกเขาเพชรบูรณ์ สายน้ำเล็กๆ ที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ของคนอำเภอด่านซ้ายไหลเอื่อยช้าคล้ายคนเพิ่งหายจากการป่วยไข้ แม่น้ำหมันช่วงที่ไหลผ่านอำเภอด่านซ้ายไปจนถึงบ้านปากหมัน ตรงที่แม่น้ำหมันเดินทางไปบรรจบกับแม่น้ำเหืองมีความยาวทั้งสิ้น ๖๖ กิโลเมตร ตลอดริมสองฝั่งแม่น้ำจะมีต้นไผ่จำนวนมากขึ้นอยู่เป็นระยะ ต้นไผ่-แม่น้ำหมัน-คนริมฝั่งน้ำมีความสำคัญต่อกันจนแยกขาดจากกันไม่ได้
สุมาตร ภูลายยาว
หลังได้รับมอบหมายให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินภาพวาดของเด็กๆ ที่ประกอบไปด้วยเด็กจากช่วงชั้นต่างๆ ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ของโรงเรียนบ้านคกเว้า ตำบลหาดคำภีร์ อำเภอปากชม จังหวัดเลย ข้าพเจ้าเองแบ่งรับแบ่งสู้ในตอนแรก เพราะโดยส่วนตัวแล้วการเป็นกรรมการประเภทนี้มีเงื่อนไขหลายอย่าง สำคัญกรรมการควรมีความรู้ทางศิลปะมาบ้าง เพื่อให้ผลการตัดสินออกมาดูน่าเชื่อถือ แต่สวนทางกันอย่างสิ้นเชิง ข้าพเจ้าไม่มีความรู้ทางศิลปะเอาเสียเลย อย่างมากก็พอรู้ว่ารูปไหนสวยไม่สวย ซ้ำร้ายเรื่องของทฤษฏีสีแล้ว ข้าพเจ้าไม่รู้เอาเสียเลย แม้จะเคยลองวาดรูปอยู่บ้าง แต่ก็งูๆ ปลาๆ…
สุมาตร ภูลายยาว
โศกนาฏกรรมสองฝั่งน้ำ มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสายน้ำเรื่องหนึ่งที่ผู้เฒ่าปกากะญอ มักเล่าให้ลูกหลานฟังอยู่เสมอ เรื่องเล่าเรื่องนี้มีอยู่ว่า ‘นานมาแล้วมีเจ้าเมืององค์หนึ่งจะตึกแค-กั้นน้ำ เพื่อจับปลาในแม่น้ำสาละวิน ให้ลูกที่อยากกิน ปลาตัวนี้ใหญ่มาก ส่วนหัวของปลาอยู่โจโหละกุย-วังน้ำใหญ่อยู่ในเขตสาละวินตอนกลาง ลำตัวของปลายาวลงไปตามลำน้ำ ส่วนหางอยู่ที่แจแปนทีลอซู แต่ก็มีเรื่องที่ทำให้ชาวบ้านชาวเมืองตกอกตกใจ เพราะหากว่าเลือดหรือน้ำมันจากปลาตัวนี้ไหลลงพื้นดินเมื่อใด แผ่นดินก็จะลุกเป็นไฟ เมื่อชาวบ้านทราบข่าวก็เกิดความกังวลว่า เมื่อน้ำท่วมบ้านแล้วไม่รู้ว่าจะหนีไปอยู่ที่ไหน…
สุมาตร ภูลายยาว
การพัฒนาบนคราบน้ำตาคนชายขอบ ในอดีตอันยาวไกลของแม่น้ำสายนี้เคยไหลอย่างอิสระมาตลอด แต่แม่น้ำนานาชาติสายสำคัญแห่งนี้อาจมิได้ไหลอย่างอิสระต่อไปอีกแล้ว เพราะปัจจุบันแม่น้ำสายนี้ได้ถูกผลักดันให้เข้าไปอยู่ในแผนพัฒนาต่างๆ แผนพัฒนาที่สำคัญ คือแผนพัฒนาพลังงานไฟฟ้า โดยเฉพาะกับประเทศไทย แม่น้ำสาละวินกลายเป็นแม่น้ำยุทธศาสตร์สำคัญสายหนึ่งที่น้ำในแม่น้ำจะถูกนำมาแปรเป็นกระแสไฟฟ้า ภายใต้วาทะกรรมของนักพัฒนาที่ว่า ‘พื้นที่ชายขอบของประเทศมีคนอยู่น้อย และผู้ที่ได้รับผลกระทบย่อมมีส่วนน้อยเช่นกัน’
สุมาตร ภูลายยาว
ผู้คนแห่งสาละวิน  สาละวิน ถือเป็นสายน้ำแห่งกลุ่มชาติพันธุ์อย่างแท้จริง เพราะสองฟากฝั่งลุ่มน้ำสาละวิน ตั้งแต่เทือกเขาหิมาลัยลงมาจนถึงอ่าวเมาะตะมะ ในเขตหุบเขาอันไกลโพ้นในประเทศจีนก็มีกลุ่มชาติพันธุ์อาศัยอยู่ไม่น้อยกว่า ๑๔ กลุ่ม โดยส่วนใหญ่เป็นชาวนู ลีซู และตู๋หลง เมื่อล่องตามน้ำลงมาจนถึงพรมแดนพม่า-จีน พม่า-ไทยก็มีกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ อาศัยอยู่มากมายไม่ต่ำกว่า ๑๖ กลุ่ม เช่น นู ลีซู ไทยใหญ่ กะยา กะยัน กะเหรี่ยง และมอญ กลุ่มชาติพันธุ์เหล่านี้ล้วนมีภาษา ตัวอักษร วรรณคดี ศิลปวัฒนธรรม และประเพณีของตนเอง ในบรรดากลุ่มชาติพันธุ์ที่มีอยู่หลากหลายบนลุ่มน้ำแห่งนี้ กลุ่มยินตาเล…
สุมาตร ภูลายยาว
สาละวินบนนิยามของความหลากหลาย สาละวิน บนเส้นทางงานวิจัยชาวบ้าน งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาครอบคลุมพื้นที่ลุ่มน้ำสาละวิน ตลอดแนวพรมแดนไทย-พม่า โดยได้มีการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในประเด็นพันธุ์ปลา เครื่องมือหาปลาพื้นบ้าน การทำเกษตร พรรณพืชในป่า และสังคมวัฒนธรรมของชาวปกาะกญอ เพื่อนำมาอธิบายความสลับซับซ้อนของระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพในลุ่มน้ำสาละวิน และวิถีชีวิต เศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรมของชุมชนที่ตั้งอยู่บนฐานของระบบนิเวศดังกล่าว ตลอดจนพิธีกรรม และความเชื่อของชุมชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ผลการศึกษาพบว่า แม่น้ำสาละวิน ตลอดพรมแดนไทย-พม่า มีระบบนิเวศที่สลับซับซ้อน อาทิ แก่ง วังน้ำ หาดทราย…
สุมาตร ภูลายยาว
ระบบนิเวศลุ่มน้ำสาละวิน ระบบนิเวศลุ่มน้ำสาละวิน ถือว่า มีความสำคัญต่อภูมิภาคนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากแม่น้ำสาละวินเป็นแม่น้ำนานาชาติสายสุดท้ายในภูมิภาคนี้ที่ยังไม่ได้ถูกล่ามโซ่ด้วยเขื่อน นักนิเวศวิทยาได้จัดให้แม่น้ำสาละวินเป็นศูนย์กลางของการกระจายพันธุ์ไม้สักของโลก พื้นที่ลุ่มน้ำสาละวิน เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง มีระบบนิเวศสลับซับซ้อนเนื่องจากเป็นพื้นที่ต่อเนื่องระหว่างเขตชีวภูมิศาสตร์ย่อยอินโดจีนกับพื้นที่ต่อเนื่องจากชีวภูมิศาสตร์สิโนหิมาลายันหรือเขตชีวภูมิศาสตร์ย่อยอินเดีย แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายว่า เกือบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา การศึกษาระบบนิเวศวิทยาของแม่น้ำสาละวิน มีอยู่น้อยมาก…
สุมาตร ภูลายยาว
หลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ สหราชอาณาจักรได้คืนอิสรภาพให้กับพม่า ภายหลังพม่าได้รับอิสรภาพ ในปี ๒๔๙๐ นายพลอู่อองซาน ผู้นำพม่าในขณะนั้นก็ถูกสังหารเสียชีวิต การล้มเหลวลงอย่างสิ้นเชิงของสัญญาปางโหลง จึงเกิดขึ้น เมื่อคำมั่นในสัญญาปางโหลงไม่เป็นผล ชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่างๆ จึงได้จับอาวุธลุกขึ้นสู้กับรัฐบาลทหารพม่า เพื่อแยกตัวเป็นรัฐอิสระและปกครองตนเอง ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสาละวิน จึงเกิดกองกำลังปลดปล่อยขึ้นหลายกลุ่ม เขตรอยต่อพรมแดนไทย-พม่าริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน ด้านตะวันตก เป็นดินแดนที่กล่าวได้ว่า กฎหมายอาจไม่มีความสำคัญ ทุกชีวิตที่ยังมีลมหายใจ จึงอยู่ภายใต้กฎของปืน และความเหลื่อมล้ำในการดำเนินชีวิต…
สุมาตร ภูลายยาว
พ่อตู้เริญได้เล่านิทานเรื่องนี้ให้ผมฟังขณะเรานั่งหย่อนอารมณ์ในบ้านของแก เพื่อรอฝนหายจากฟ้า เดือนตุลาคมแล้ว ฝนยังมิจากจางเลย ลมหนาวมิมีทีท่าว่าจะพัดมา สายฝนเทลงมาจั่กๆ พ่อตู้เริญต้องเล่านิทานเรื่องนี้ด้วยเสียงดัง เพื่อจะให้ผมได้ยินถนัด ผมกดเครื่องบันทึกเสียงเพื่อบันทึกเสียงการเล่านิทานของพ่อตู้เอาไว้ เพราะคิดว่าจะเก็บเอามาเล่าต่อให้คนอื่นได้ฟังด้วย พ่อตู้เริญเล่าว่า... นานมาแล้ว ยุคสมัยก่อนการเกิดขึ้นของพุทธศาสนา องค์อินทร์ผู้เป็นนายของทุกสิ่ง และทรงสร้างทุกสิ่งในจักรวาลได้นั่งตรวจยามสามตา เพื่อตรวจดูทุกสรรพสัตว์ใตอานัติของตนเอง แล้วในญาณนั้นก็ปรากฏการเกิดขึ้นของพระพุทธศาสนา…