Skip to main content

หลายครั้งที่ผมรู้สึกว่ากรุงเทพไม่มีอยู่จริง หรือมีอยู่จริงแต่ผมผ่านไปกี่ครั้งๆ ก็ไปไม่ถึง เหมือนมันอยู่ไกลเหลือเกิน จนไม่เข้าใจแก่นแกนของเมืองใหญ่เมืองนี้ ช่วงเวลาน้อยๆที่จำเป็นต้องอยู่ เสมือนหนึ่งสถานีพักชั่วข้ามคืน


ห้องสงบบนตึกสูงชั้น 6 บนฝั่งถนนวิภาวดีรอยต่อเขตดอนเมืองกับหลักสี่ ห่างจากทางรถไฟที่มุ่งไปสายเหนือ-ตะวันออกฉียงเหนือราว 50 เมตร ห่างจากสนามบินดอนเมืองแค่ 5-10 นาทีบนความเร็วรถแท็กซี่


เป็นหนึ่งพื้นที่ที่ผมรู้สึกว่ามีอยู่จริง ชะเง้อมองกรุงเทพด้วยความรู้สึกไม่คุ้นเคย


เหมือนไม่ใช่เรื่องแปลกที่เสียงรถยนต์จะดังอยู่ตลอดเวลา เสียงรถไฟแล่นผ่านบ่อยมาก หวูดรถไฟดังก้องสะท้อนผนังห้อง อีกทั้งเสียงเครื่องบินดังอยู่เป็นระยะๆ


หนึ่งในสองสามแห่ง ที่ผมแวะพักค้างคืนยามต้องผ่านเมืองนี้ ด้วยอัธยาศัยเจ้าของห้องที่ดูราวเป็นพี่น้องคลานตามกันมา เป็นความยินดีทั้งคนมาพักและเจ้าของห้อง


เจ้าของห้องเป็นมุสลิม เพียงแต่พื้นเพเขาโตขึ้นมาจากครอบครัวมุสลิมย่านประตูน้ำกรุงเทพ เขามีชีวิตที่มีข้อยกเว้น มีเงื่อนไข ขณะเดียวกันเขาก็มีพื้นที่ว่างในชีวิตอีกมากมาย ที่จะไม่พยายามหยิบยกมาเป็นข้อขัดแย้ง มิตรภาพจึงคงยาวนานเรื่อยมา


เขาเป็นคนเล็กๆของเมืองนี้ ทำงานเป็นหน่วยเล็กๆที่ไม่มีใครเห็น บุคลากรที่มีหน้าที่เก็บข้อมูลในพิพิธภัณฑ์ สืบค้นเก็บรวบรวมเอกสารอ้างอิงอันข้องเกี่ยวของเก่า


ดูเหมือนทุกอย่างในชีวิตเขา ถูกจำลองไว้บนเนื้อที่ของห้องไม่กี่ตารางเมตรนั้น ตอนแรกผมไม่ทันสังเกตเห็นสิ่งเปลี่ยนแปลงใดบ้างตรงริมระเบียงหลังห้อง ผมเห็นแต่ต้นวาสนาในกระถางดินเผากำลังแตกใบอ่อน เป็นหย่อมสีเขียวอยู่ในห้อง



กระทั่งครั้งล่าสุด ผมเห็นต้นบุหงาส่าหรี กับต้นกะเพราก้านขาวอยู่ในกระถาง เช่นกัน ราวกับเป็นมุมพักผ่อนสายตา ได้ดูตุ่มตา ใบไม้ใบใหม่แตกออกมา แต่พลันสายตาผมกวาดไปมองเห็นเจ้าใบเรียวยาวราวเสากระโดงเรือ โผล่ขึ้นมาจากพื้นมหาสมุทรนั่นแหละ

ต้นอะไร” ผมถาม

ลองทายดูสิ มันมาไกล” เขาถามกลับ

เหมือนใบเรือจากอาหรับ” ผมพูดพลางหัวเราะ เขาหัวเราะตาม “อ่อ จริงๆ เหมือนใบเรือจริงๆนะ”

ใบเรือมาอยู่บนตึกสูงชั้น 6 ได้ด้วย” ผมพูดต่อ

อินทผาลัม” ..


ที่แท้เป็นเม็ดในจากทะเลทราย แต่มาแตกหน่ออยู่ในกระถางบนตึกสูงกลางมหานคร แตกใบออกมาจากดินร่วนดินดำ ไม่ได้งอกออกมาจากเม็ดทราย

สงสัยที่นี่เป็นโอเอซีส” เขาพูด แล้วเราก็หัวเราะกันเสียงดัง


เขาเล่าถึงที่มาของเม็ดในอินทผาลัม พืชตระกูลปาล์มที่เติบโตในทะเลทราย เขาบอกว่าสายเลือดเขาก็มาจากทะเลทราย เขาปฏิเสธแหล่งกำเนิดเขาไม่ได้ แต่เขาเลือกจะมีชีวิตจะอยู่อย่างไรได้ เขามีที่ดินเท่าผืนเสื่อเป็นมรดกกลางเมืองหลวง แต่เขากลับไปอยู่บนพื้นดินจริงๆได้ไม่นาน ต้องกลับคืนสู่ตึกสูงจนได้


ผมไม่ได้ถามว่าเขาผูกพันกับต้นอินทผาลัมมากแค่ไหน แต่ผมกลับเล่าถึงความประทับใจต่อต้นมะพร้าว ต้นตาลโตนด ต้นหมากและต้นปาล์ม ที่ดูราวจะอยู่ในเชื้อสายพันธุ์เดียวกัน เพียงแต่ตกอยู่ในอากาศแบบทะเลทราย หรือร้อนชื้นแบบทะเลล้อม


อินทผาลัม บ้านผมเรียกลู่หมา” ผมบอกเขาอีกที “ลู่หมา”

 

 

บล็อกของ ชนกลุ่มน้อย

ชนกลุ่มน้อย
ห้องครัวซ้อมดนตรี ถึงเพลงบันนังสตา บ้านเช่าบ้านไม้เป็นบ้านชาวนาในหมู่บ้านแม่เหียะ ชานเมืองเชียงใหม่   ห้องครัวคือห้องทำงาน  ห้องนอนบางเวลา  ห้องซ้อมดนตรี   ห้องนั่งเล่นและห้องรับแขก 
ชนกลุ่มน้อย
ประชาชน  สัตว์เลี้ยงของแวมไพร์
ชนกลุ่มน้อย
สองทุ่ม   อังคารที่ 16 มีนาคม  2553   นักดนตรีในเชียงใหม่  และคนในแวดวงหนังสือ ศิลปะ  นัดรวมตัวกันที่ร้านสุดสะแนน  ร่วมรำลึกถึงการจากไปของ ”จ่าเพียร”(พ.ต.อ สมเพียร เอกสมญา) วีรบุรุษแห่งเทือกเขาบูโด  ด้วยสายสัมพันธ์กับไวล์ดซี๊ด (ชุมพล  เอกสมญา) ลูกชายจ่าเพียรที่ผ่านมาเล่นดนตรีในเชียงใหม่อยู่เสมอๆ   เยียวยาจิตใจเมล็ดเถื่อนจากบันนังสตา  ร่วมรำลึก ...   
ชนกลุ่มน้อย
ขอต่อยาวสาวความยืดถึงน้ามาดบางมุมดูหน้าดุ เวลาเดินเหมือนนุ่นลอยอีกหน่อย อย่างที่บอกไว้ บุรุษไร้นาม(และหนาม)ตามใจคนนี้ อย่าให้นั่งหน้าทับหน้าหนังกลองแล้วกัน ความจืดของหน้าจะถูกขับออกมาอย่างเผ็ดร้อน ไม่เรียบเฉยปล่อยวางอีกแล้ว บางด้านดูดุเทียบได้ใบหน้าเสือจ้องขบ กลับเกลี่ยเสียใหม่ เป็นเสียงทะลวงไส้พุงเร้าใจผิดหน้าผิดหูผิดตาไปทันที
ชนกลุ่มน้อย
  “เลสาปหน้าร้อนเปื่อยหมดแล้ว” ประโยคนี้ถ้าเขียนใหม่ตามภาษาบรรพบุรุษของใต้สวรรค์ ต้องบอกว่า เลสาปหน้าร้อนเปื่อยแผล็ดๆ เหตุที่เปื่อยเห็นด้วยตา ถ้าพูดผ่านปากของบ่าวทอง ต้องเริ่มต้นว่า“ที่จริง”เช่นเคย “ที่จริงมันไม่เปื่อยหร็อก ที่มันเปื่อยเพราะเลกลายเป็นโคลน เปื่อยแผล็ดๆไปทั้งเล” …
ชนกลุ่มน้อย
  สวรรค์ปักษ์ใต้มีสะตอกับลูกเนียงรวมอยู่ด้วย หรอยที่สุดต้องเหนาะ(จิ้ม)กับน้ำชุบ(น้ำพริก-ต้องกะปิเท่านั้น) หรือกินกับแกงคั่ว คั่วกะทิหรือแกงคั่วเผ็ดไม่กะทิ เผ็ดร้อนไม่แพ้ขาดเหลือกันนัก ไม่มีใครบอกว่าพริกพัทลุงหรือพริกนครศรีธรรมราช เผ็ดแรงร้อนกว่ากัน...
ชนกลุ่มน้อย
นักดนตรีกลุ่มนี้ขับเคลื่อนด้วยความรัญจวนจากฤดูความว่างของชีวิต ออกไปเล่นดนตรีบรรเลงชีวิตร่วมกัน หรือจะพูดอีกที การมาถึงของพวกเขาใต้สวรรค์ ไม่ต่างจากฝูงปลาดุกหนีน้ำแถกเหงือกมาหากันในช่วงหน้าแล้ง หนวดยั้วคลุกนัวกันมาบนโคลนเปียกๆ เหนียวเหนอะไปยังถิ่นที่คาดว่าจะมีน้ำ สีผิวฝูงปลาดุกเลื่อมมันน่าเกรงขาม
ชนกลุ่มน้อย
คำ  สุวิชานนท์ รัตนภิมล และคำของอา' รงค์ ทำนอง  สุวิชานนท์  รัตนภิมล
ชนกลุ่มน้อย
ลมบาดหิน ของอา… “ผู้ชายคนนั้นกับผู้หญิงของเขาตัดสินใจแรมคืนในกระโจม(เต็นท์) เขาพบว่าการเสียบก้านปลั๊กตัวผู้ลงในรูปลั๊กตัวเมียเพื่อต้มน้ำกับกาไฟฟ้านั้นเป็นความสะดวกสบายของคนในทาวน์เฮาส์ที่กรุงเทพฯ และอย่างน่าอิจฉา แต่การมองหาก้อนหินนำมาวางเป็นก้อนเส้า กิ่งไม้ง่ามปักกับดินแล้วพาดราวแขวนหม้อและริ้วชิ้นวัวฝานหมักเกลือ ก่อกองไฟและต้มกาแฟ นี้เป็นบางแบบของชีวิตซึ่งผู้ชายควรเรียนรู้...”
ชนกลุ่มน้อย
พอออกมาจากห้องฝึกเรียนไวโอลินกลางเมืองเชียงใหม่  ผมบอกเจ้า 9 ขวบว่าไปเยี่ยมคุณลุงหน่อยนะ   เจ้าเก้าขวบถามทันทีที่ไหน  ผมตอบกลับวัดเจดีย์หลวง  ไปทำอะไรเหรอ เขาสงสัย  อยากไปเยี่ยม พ่อไม่ได้เข้าไปนานแล้ว
ชนกลุ่มน้อย
  ในห้องทำงาน โต๊ะเขียนหนังสือ เก้าอี้ไม้ไม่เหมือนวันก่อน หนังสือเล่มใหม่หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนเล่มมาวาง ชั้นหนังสือเรียงตามกัน โน้ตสั้นๆ เขียนถึงเวลานัดหมาย เวลาส่งงาน หมายเลขโทรศัพท์ ม้านั่งไม้ไว้นอนเอกเขนก โคมไฟ เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ดีด โต๊ะกลม กีตาร์ กล้องถ่ายรูป รูปภาพบนผนัง ...
ชนกลุ่มน้อย
  ในชีวิต ณ ปัจจุบัน ผมไม่นึกไม่ฝันว่าจะมาข้องเกี่ยวกับเครื่องดนตรีชื่อ ไวโอลิน และยิ่งไม่เคยนึกว่าวันหนึ่ง จะมีไวโอลินมานอนอยู่ในห้อง ตั้งวางอยู่ข้างตัว รวมถึงได้ยินมันส่งเสียงทุกวันตอนย่ำค่ำ