Skip to main content


ขอต่อยาวสาวความยืดถึงน้ามาดบางมุมดูหน้าดุ เวลาเดินเหมือนนุ่นลอยอีกหน่อย อย่างที่บอกไว้ บุรุษไร้นาม(และหนาม)ตามใจคนนี้ อย่าให้นั่งหน้าทับหน้าหนังกลองแล้วกัน ความจืดของหน้าจะถูกขับออกมาอย่างเผ็ดร้อน ไม่เรียบเฉยปล่อยวางอีกแล้ว บางด้านดูดุเทียบได้ใบหน้าเสือจ้องขบ กลับเกลี่ยเสียใหม่ เป็นเสียงทะลวงไส้พุงเร้าใจผิดหน้าผิดหูผิดตาไปทันที


การปรากฏตัวบนเวทีของน้ามาด คนชอบลูกตอดอง(เหนาะ)จิ้มน้ำชุบเท่านั้น จึงจะรู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไรหรอยอย่างแรง!!

ชีวิตเขาเล็กดีปลี(พริกขี้หนู) บ้านเกิดอยู่บ้านชายเลนอก อำเภอปากพนังจังหวัดนครศรีธรรมราช บนถนนเลียบริมเลไปทิศใต้ออกสงขลา หรือขึ้นเหนือไปออกสุราษฎร์ธานี

วัยเด็กของเขา เป็นยุคของความอุดมสมบูรณ์ ในนายังข้าว ในน้ำยังปลา ในอากาศยังลูก(มะ)พร้าวกับลูกโหนด อีกฟากหนึ่งของแผ่นดินเป็นเลสาปสงขลา รินน้ำยอกย้อนไปมากับเลเค็มเลนอกอ่าวไทย

ชีวิตปากพนัง ณ ปัจจุบัน ต้อง(ส)บถโหยหาฉากหลงลืมในห้วงอดีตไม่หวนคืน เขาแค่หลับตาก็เห็นภาพเด็กชาย ปีนเสาโรงหนังตะลุง ไปยืนอยู่หลังโรง เฝ้ามองตาเป็นมัน นายหนังจะเชิดรูปไหน รูปตัวตลก ไอ้เท่ง ไอ้ทอง ไอ้หนูนุ้ย ไอ้สะหม้อ ไอ้ดิก ไอ้เนือย ไอ้หลำ รูปเจ้าเมือง รูปฤาษี รูปเทวดา รูปตัวพระตัวนาง ฯลฯ

เขาหลงใหลการวางรูป เงารูปหนัง ลายสลักรูปหนังและดนตรีที่มีไม่กี่ชิ้น
"ตอนนั้นยังแค่ปี่ ซอ ขลุ่ย ฉิ่ง ฉาบ โหม่ง เท่านั้นแหละ กีตาร์ กลอง เบส ยังไม่มา เพิ่งมาทีหลัง เราเห็นหนังลุงเดิมๆโบราณๆมาก่อน ซึมซับมันมาตลอด"

ยุคสมัยที่เดินทางจากปากพนังโดยทางเรือไปเมืองนครศรีธรรมราช ยุคแม่เฒ่าขุดแห้วขายลิตรละ 2 บาท เป็นช่วงเวลาพิเศษในชีวิตน้ามาด เขามีญาติอยู่นครฯ ช่วยขายปลา ขายของไปตามเรื่อง

ตกกลางคืน เขาไปเฝ้าจอหนัง(ตะ)ลุงจนสว่างคาตา กลับมาถึงบ้าน ยังไม่นอน นั่งวาดรูปหนังลุง แกะออกมาเป็นตัวๆ เสร็จแล้วจึงนอน
นอนกลางวัน เพื่อตื่นกลางคืน ไปแลหนังลุง
ไม่พอเท่านั้น เขายังไปหาถังน้ำมัน(ทุ่ง)ขนาด 200 ลิตร เอามาทำเป็นกลอง ว่างตอนไหน ตีตอนนั้น ตีมันเข้าไปตามจังหวะหนังลุง

ใครไม่ปฏิเสธเสียงตีถังน้ำมันของน้ามาด
"วันวันมันเอาแต่ตีทุ่ง" ..
เขาวาดรูปหนังลุงได้คล่องมือ และมีความสวยงามขึ้นตามลำดับ
"วาดรูปหนังแลกยางเส้น"

สายตาซึมซับเครื่องหนัง ชุบหนังวัวเป็นรูปหนังลุง กลายเป็นลมหายใจของเขา ไม่ว่ามีหนังลุงที่บ้านไหน เขาต้องเดินข้ามถ่อง(ทุ่งนากว้าง)สามสี่ถ่อง ไปให้ถึงโรงหนัง ปีนขึ้นหลังโรง จนผู้ใหญ่ไล่ลงครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ไม่ยอมฟัง

เขาเติบโตมาบนพื้นที่ชีวิตเหล่านั้น
กระทั่งออกไปหาครูบาอาจารย์ที่ได้ชื่อว่าชำนาญเรื่องแกะสลักรูปหนังลุง เขามีอาจารย์ที่เคารพหลายคน หนึ่งในหลายคนนั้นมีชื่ออาจารย์สุชาติ ทรัพย์สินอยู่ด้วย ศิลปินแห่งชาติปี2550 ผู้ที่น้ามาดบอกว่าเป็นสุดยอดของงานแกะรูปหนัง(ตะ)ลุง

การเดินทางของใต้สวรรค์และเหล่าพลพรรคฝูงปลาดุกแถกเหงือก จึงมีรูปหนังติดสอยห้อยตาม เป็นส่วนหนึ่งของการประกอบฉากแสดงด้วย
คนเชิดรูปหนังไม่ใช่ใคร
น้ามาด!!
ทิ้งทับแล้ววิ่งไปหาจอหนังทันที


การทำงานของเหล่าฝูงปลาดุก จึงต้องแบกจอหนังติดตัวไปด้วยทุกครั้ง ทำโครงเหล็กประกอบกันมาเสร็จสรรพ ขึงจอรอท่าไว้ตั้งแต่หัวมุ้งมิ้ง(หัวค่ำ )
และเจ้าภาพต้องสละต้นกล้วยให้หนึ่งต้นอย่างพออกพอใจทุกครั้ง
เสียบตัวหนัง(ตะ)ลุง
รูปหนังลุงปักไว้บนต้นหยวกกล้วย น้ามาดต้องทำพิธีไหว้ครู อัญเชิญเทวดา ขออนุญาตสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมไปถึงการล่วงเกินวิญญาณตัวหนังทั้งหลาย ให้การแสดงได้ลุล่วงจับใจคนฟังคนชมจนได้

งานเชิดหนังเป็นศิลปะของแสง-เงา ลายแกะสลักนั้นเอง เป็นที่มาของแสงเงาอลังการ เหลือเชื่อ สวยงาม มีเรื่องราวและมีชีวิตขึ้นมา
"รูปตัวตลกราคาของอาจารย์ดังๆ ผมซื้อมาตัวละ 250 บาท รูปหนูนุ้ย เท่ง ทอง อยู่ที่ฝีมืออาจารย์ รูปปลายหน้าบท รูปเจ้าเมือง รูปฤาษี รูปเทวดาทรงโค ราคาตัวหนึ่งเกิน 1,000 บาททั้งนั้น แต่ผมซื้อมาราคาตัวละ 800 กว่า 900 กว่าทั้งนั้น"

ม้ามาดมีรูปหนังลุงอยู่กับตัวตอนนี้ 30 ตัว

 

 

 

บล็อกของ ชนกลุ่มน้อย

ชนกลุ่มน้อย
เสาร์ 14 มีนาคม 2552 เวลา 3 ทุ่ม 45 นาที ห้องเงียบ มีพยาบาลและเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานสามสี่คน เขาเข้าไปยืนใกล้ๆแล้วถามหาชื่อ หนึ่งในนั้น ชี้ไปยังเตียงใกล้ๆ เขาแทบไม่เชื่อสายตา เขาแทบจำไม่ได้ เขาเข้าไปกราบไหว้ มองร่างสงบนิ่ง เขาพยายามมองทุกส่วนที่จะมองเห็น เสียงเครื่องมือเป็นตู้สี่เหลี่ยมดังส่งเสียงช่วยชีวิต และเส้นกราฟวิ่งไปมา เขาเห็นตัวเลขหน้าปัด ข้างบน 80 ข้างล่าง 40 มองไปยังเตียงอื่น ร่างที่ทอดอยู่บนเตียงแทบไม่ต่างกัน หรือเขาเข้ามาในช่วงเวลาผู้ป่วยพักผ่อน
ชนกลุ่มน้อย
ห่างออกมาจากหมู่บ้านหนองเต่าไม่กี่โค้งถนน พลันปรากฎรถกระบะสีเลือดหมู หัวทิ่มหัวตำต้นไม้ข้างทาง ในสภาพชวนให้ตกใจ คือหัวทิ่มลงไปในหุบเหว หากต้นไม้ไม่กั้นไว้ มันคงกลายเป็นกระป๋องบุบบิบอยู่ก้นเหวเป็นแน่ น่าดีใจอยู่อย่างเดียว ดูทุกคนปลอดภัย หญิงลูกสองในชุดเสื้อผ้าปกาเกอะญอ ชายวัยกลางคนกับเด็กหนุ่มที่เดินงุ่นง่านไปมา ผมเป็นคนแรกที่ผ่านมาเห็น เหตุการณ์เพิ่งเกิดสดๆร้อนๆ ผมจอดรถมอเตอร์ไซค์คู่ชีพแล้วรีบเดินเข้าไปหา พร้อมถามอีกครั้งว่า ไม่มีใครเป็นอะไรมากใช่ไหม
ชนกลุ่มน้อย
 ไผ่กอนี้งามเหลือเกิน สิ้นคำอุทานแบบไม่มีปี่ ไม่มีพร้า แต่ในมือมีกล้องถ่ายรูป แต่เหลือฟิล์มติดกล้องเพียงไม่กี่รูปเท่านั้น เป็นฟิล์มม้วนสุดท้ายปลายฟิล์ม เจ้าปลายฟิล์มนี่สิ ลุ้นตัวโก่งตัวลีบมาแล้วหลายครั้ง ประมาณว่ามีฟิล์มอยู่ในกล้องให้อุ่นใจก็จริง แต่รูปไม่มีใส่แล้ว ปลายสุดม้วนฟิล์มอาจเป็นเรื่องอุบัติเหตุล้วนๆก็ได้ให้รู้สึกนึกในใจว่า เจอไผ่งามเมื่อฟิล์มหมด...
ชนกลุ่มน้อย
    ดูเอาเถิด  เพื่อนเอย  ลำน้ำในความฝันฉันหลงลืมฤดูบอกเล่าเรื่องที่ฉันรักนานมาแล้ว  ฉันมองเห็นแต่ดวงตาอาดูรลึกล้ำไร้จุดจบระหว่างทางความแข็งแกร่งกับมวลสารอ่อนนุ่มนานเพียงใด  ใสเย็นสงบไปตามเสียงเรียกของหัวใจที่นั่น  พระอาทิตย์ยังคลุกฝุ่นอยู่ในดงสาปเสือต้นหญ้ามีกลิ่นเสื้อผ้าเก่าๆเถาวัลย์ออกดอก   กลิ่นเหมือนน้ำปลาดวงตาดอกไม้มองดวงตาฉัน  ให้ฉันวางใจดอกไม้วางใจฉันหอบเอาความหวังสู่หนทางไว้เนื้อเชื่อใจแม้แผ่นดินที่ฉันเดินไปนั้น   แห้งแล้งแต่ลำน้ำมีชีวิตไกลลึก
ชนกลุ่มน้อย
ผมกลายร่างเป็นแมลงวันไปจริงๆ ขณะทะเล่อทะล่าอยู่กลางเมืองปาย ตอมทุกอย่างที่ขวางหน้า ดมกลิ่นได้ดม มองดูได้มอง กินได้กิน ดื่มได้ดื่ม อาหารตาอาหารใจมากสำรับวางเรียงราย ความพยายามของแมลงตัวน้อยๆบินไปเกาะอยู่ข้างโปสการ์ด ท่ามกลางผู้คนรุมล้อมตอมปาย กลิ่นเมืองปายโชยมาตั้งแต่ลงต่ำจากไหล่เขา สู่ที่ราบต่ำกว่า พอข้ามน้ำปายก็พบกับกองคาราวานรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ฝูงคนใส่เสื้อสีเหมือนลูกกวาด รวมตัวเป็นกลุ่มๆอยู่สองฟากถนน ต่างใจจดใจจ่อกับการชมทิวทัศน์ผืนนา แม่น้ำ พร้อมถ่ายรูปกันด้วยอารมณ์เบิกบานยิ้มแย้มกันถ้วนหน้าเหมือนตกลงไปอยู่ในดินแดนความฝัน 
ชนกลุ่มน้อย
หลายครั้งที่ผมรู้สึกว่ากรุงเทพไม่มีอยู่จริง หรือมีอยู่จริงแต่ผมผ่านไปกี่ครั้งๆ ก็ไปไม่ถึง เหมือนมันอยู่ไกลเหลือเกิน จนไม่เข้าใจแก่นแกนของเมืองใหญ่เมืองนี้ ช่วงเวลาน้อยๆที่จำเป็นต้องอยู่ เสมือนหนึ่งสถานีพักชั่วข้ามคืน ห้องสงบบนตึกสูงชั้น 6 บนฝั่งถนนวิภาวดีรอยต่อเขตดอนเมืองกับหลักสี่ ห่างจากทางรถไฟที่มุ่งไปสายเหนือ-ตะวันออกฉียงเหนือราว 50 เมตร ห่างจากสนามบินดอนเมืองแค่ 5-10 นาทีบนความเร็วรถแท็กซี่
ชนกลุ่มน้อย
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่ผมจะไปให้ถึงสวนสุขภาพสักครั้งหนึ่ง มากกว่า 5 ปี ที่ผมกักบริเวณสองเท้าไว้กับยามเย็น ณ ที่ใดที่หนึ่ง ไม่ใช่ในบ้านชานเมือง ก็เป็นในเมือง หรือไม่ก็ในหมู่บ้านกลางป่า ตามภูเขา ตามถนนหนทาง ร้านหนังสือ งานเลี้ยง พบเพื่อนฝูงน้องพี่ … จิปาถะยามเย็นของแต่ละวัน แต่ไม่เคยนึกจะไปสวนสุขภาพ หรือพูดอีกอย่างหนึ่งว่า ไปออกกำลังกายตอนเย็นๆเสียบ้าง
ชนกลุ่มน้อย
   ปลายปีจวนจะข้ามปีใหม่ทุกปี  ผมรอคอยการมาถึงของเพื่อนกลุ่มหนึ่ง  พวกเขารวมตัวกันเฉพาะกิจ  เดินทางไปตามบ้านที่มีสายใยทางใจต่อถึงกัน   นัดหมายกันไปร้องเพลงถึงในบ้าน  ที่สำคัญนั้น  พวกเขาไม่ต้องการอะไรมากไปกว่า  การหยิบยื่นเสียงเพลง  เสียงของความปรารถนาดีผ่านบทเพลงให้ชีวิตมีความหวัง และความสุข
ชนกลุ่มน้อย
หน้าต่างสีตะกั่ว เปิดกว้างกว่าวันก่อน นกประหลาดหัวขาวลำตัวเท่านิ้วก้อยปีกขาดไปข้างหนึ่ง บินผ่านมาเกาะอยู่ริมหน้าต่าง มันกำลังบินเข้ามายังโพรงกลวงๆในตัวข้าพเจ้า สบตากันนาน มองจ้องกันนาน สัตว์แปลกหน้าเผชิญหน้ากัน ข้าพเจ้ากลับมองไม่เห็นความจริง ท้องทุ่งหลังเก็บเกี่ยวกำลังตากแดด เปลี่ยววังเวง รอความตาย jonn Denver ร้องเพลง poems, prayers and promises
ชนกลุ่มน้อย
ผมยืนอยู่ท่ามกลางต้นไม้อันเก่าแก่อีกครั้ง เพลงร้องในยามตื่น มี ความหมายในยามหลับลึกด้วย เหล่าต้นไม้มีตุ่มตา โอบกอดความโศกศัลย์ที่ไหลย้อนผ่านมาไม่ขาดสาย
ชนกลุ่มน้อย
ผมอยู่รั้งท้าย จนตกหล่นจากขบวนแถว อยู่คนเดียวในที่สุด มองออกไปเป็นทางดินแคบๆ เส้นเดียวที่หลบเลี้ยวหายไปในพงรกทั้งสองด้าน หากมองลงมาจากยอดไม้ ก็จะเห็นกระทาชายนั่งขนาบข้างทางดินเหลืองอ่อน เหมือนนั่งบนเส้นเชือกที่ตัดเข้าไปบนพื้นที่สีเขียว ทอดสายตามองเหม่อออกไปยังหุบเหวต้นไม้เบื้องหน้าเสียงป่าเหมือนมีคนเดินอยู่รอบๆตัว ลมป่าพัดมาครั้งหนึ่ง ส่งเสียงเหมือนคนพูด อาจเป็นเสียงคนในขบวนที่เดินล่วงหน้าไปก่อน หรือเสียงป่าพูดได้ ลำต้นเหมือนลำตัว กิ่งไม้เหมือนมือ พุ่มใบมีดวงตามองจ้องมาทุกด้าน
ชนกลุ่มน้อย
 ผมรักพ่อมาก เพราะพ่อเป็นคนตลก ชอบทำให้ผมหัวเราะ พ่ออารมณ์ดี ชอบเล่นกีตาร์ให้ผมฟัง และร้องเพลงที่ผมชอบ พ่อดูแลผมอย่างดี ทุกเช้าพ่อปลุกผมตื่นด้วยเสียงกีตาร์ และเสียงร้องเพลง บางคราวพ่อทำท่าตลกจนผมหัวเราะ เวลาที่พ่อไปเล่นดนตรี พ่อจะพาผมไปด้วย ผมจะเล่นอยู่ใกล้ๆพ่อ บางเวลา เราไปกางเต็นท์ที่ภูเขากัน อากาศหนาวพ่อกอดผมไว้ และทุกครั้งที่ผมจะนอน พ่อต้องมากอดผมเสมอ พ่อของผมเป็นนักเขียนและนักดนตรี ผมรักพ่อและภูมิใจที่เป็นลูกพ่อครับ