Skip to main content


ในช่วงนี้ คำว่า Storm Surge หรือ Tidal Surge หรือที่ไทยเรียกว่า คลื่นพายุซัดฝั่ง น่าจะทำให้ใครๆ วิตกอยู่บ้าง เพราะมีความคล้ายคลึงกับการเกิดสึนามิ มีรูปแบบการเคลื่อนตัวของคลื่นขนาดใหญ่พัดเข้าชายฝั่ง แต่ที่แตกต่างกัน คือ สึนาเกิดขึ้นจากปรากฏการณ์ของแผ่นดินไหวใต้ทะเล ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนส่งผลให้เกิดคลื่นขนาดยักษ์ แต่ Storm surge จะเกิดขึ้นโดยมีตัวแปรจากพายุ



หลังจาก ดร
.สมิทธ ธรรมสโรช ผอ.ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ออกมาเตือนให้รับมือกับภัยพิบัติในกรุงเทพฯ และถึงกับประกาศลาออกเพราะไม่มีหน่วยงานสนใจเรื่องนี้ ผู้เขียนเลยคิดถึงคำว่า “ถ้า” ซึ่งมีความหมายได้สองอย่าง คือ ให้สบายใจเพราะอาจจะไม่เกิดก็ได้ อีกด้านคือไม่น่านิ่งนอนใจเลย แม้ Storm Surge จะเกิดหรือไม่ ในข่าวก็ยังมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนทฤษฎีที่จะก่อให้เกิดภัยพิบัติร้ายแรงอยู่หลายประการทีเดียว


เราลองไปดูกันกว่าค่ะ ว่าเหตุผลเหล่านั้นมีอะไรกันบ้าง

 

26_8_02
ภาพพายุคลื่นทะเล Tidal Surge จาก www.guardian.co.uk


เหตุผลแรก ที่เรารู้กันดีอยู่แล้ว ว่าภาวะโลกร้อนทำให้อูณหภูมิสูงขึ้น ทำให้การเคลื่อนไหวของสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไปมาก จึงเกิดพายุมากขึ้นทุกขณะ และมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ


ต่อมา อากาศร้อนทำให้ธารน้ำแข็งขั้วโลกละลายตัว อย่างรวดเร็ว จนนักวิทยาศาสตร์ 3 ประเทศคืออังกฤษ เยอรมัน และสหรัฐอเมริกา เคยให้ข้อมูลในนิตยสาร “เจอนอล เนเจอร์ จีโอ ไซอัน” ว่าภายในปี พ..2643 นี้ ระดับน้ำทะเลทั่วโลกจะสูงขึ้นอีก 88 เซนติเมตร แต่ในเมื่อน้ำแข็งไม่ได้ละลายต่อเนื่องอย่างเดียว แต่ส่งผลให้ชั้นน้ำแข็งถาวรที่อยู่ใต้พื้นโลกละลายไปด้วย “จุดใต้พื้นที่โลก” ที่เคยเป็นน้ำแข็งก็กลายเป็นรูรั่วใต้ดิน จึงส่งผลให้น้ำทะเลอาจสูงขึ้นถึง 163 เซนติเมตร และผลลัพธ์คือสภาพภูมิศาสตร์ของโลกก็เปลี่ยนไปด้วย และน้ำหนักโลกไม่เท่ากัน


เหตุผลต่อมา
เมื่อโลกมีน้ำทะเลสูงขึ้น เปลือกโลกก็จะเริ่มเคลื่อนไหว เหตุการณ์แผ่นดินไหวก็จะตามมามากขึ้น อย่างที่เห็นตัวอย่างมากมาย แค่สัปดาห์ที่แล้วเฉพาะในเอเชียก็มีทั้งจีน พม่า ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่นที่เกิดหลายครั้งต่อกัน


ว่ากันว่า รอยต่อของเปลือกโลกในทะเลอันดามัน เช่นประเทศอินโดนิเซียและฟิลิปินส์ดูจะมากที่สุด


26_8_03a 28_8_04

 ภาพถ่ายแผนที่โลกที่เปลี่ยนไปจากองค์การ NASA และ ภาพถ่ายก่อน และ หลัง ภูเขาหิมะละลายในทิเบต


ด้วยเหตุผลที่ว่ามานี้ สำหรับประเทศไทย มีข้อมูลจากองค์การนาซา(NASA-องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติอเมริกา) ระบุว่าระดับน้ำในประเทศไทยจะสูงขึ้น 7 เมตร ดังนั้น เมืองหลวงของประเทศควรอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 40-50 เมตร ในขณะที่กรุงเทพสูงกว่าระดับน้ำทะเล อยู่ที่ 1 เมตรโดยเฉลี่ยและทรุดลงทุกปี นั่นเป็นเหตุผลที่ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา อดีตนักวิทยาศาสตร์องค์การนาซ่า แนะนำว่าภายใน 6 ปีรัฐบาลต้องเริ่มคิดย้ายเมืองหลวงได้แล้ว และคาดการณ์ว่าอีก 30 ปี ภาคกลางของไทยก็จะจมลงทะเล


อีก 30 ปีอาจจะยังฟังดูนานอยู่ ส่วนตอนนี้ มีการคาดการณ์ว่าถ้าแผ่นดินไหวเกิดบ่อยๆ ตามคาด เปลือกโลกที่ร้าวก็จะทำให้ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก และจันทบุรีเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงและอาจทำให้เขื่อนที่กาญจนบุรีแตกได้ ถ้าแตกก็จะส่งผลให้กาญจนบุรีจมน้ำ แล้วไหลมาท่วมนครปฐมและกรุงเทพฯ ในที่สุด


เหตุผลทั้งหมดนี้เกื้อหนุนกันเพราะว่า ตามสถิติ ช่วงสิงหาคม-กันยายน ที่ความกดอากาศสูงและเกิดพายุขึ้นบ่อยอยู่แล้ว ก็จะเกิดบ่อยกว่าเดิม เมื่อความกดอากาศจีนทวีกำลังแรง และดันร่องมรสุมลงมาทางใต้ ถึงอ่าวไทยตอนบน และเจอกับพายุหมุนตามชายฝั่ง

 

26_8_01

 ภาพจำลองการเกิด Storm Surge จากเวบไซต์ www2.sunysuffolk.edu


พายุที่หมุนๆ จะมีตาพายุที่มีความกดอากาศน้อยกว่าเขตพายุรอบๆ จะทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นกว่าปกติ แต่พายุที่หมุนรอบๆ จะกวาดผิวน้ำให้มารวมตัวกันเป็นคลื่นที่สูงกว่าปกติได้มาก และซัดคลื่นสูงนี้เข้าหาฝั่ง สร้างความเสียหายที่เรียกว่า สตอร์ม เซอจ (Storm Surge) นั่นเอง ซึ่ง กทม.ได้นำระบบ ICS ของอเมริกามาคาดการณ์พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ ก็ระบุพื้นที่ว่า “ถ้าเกิดในกรุงเทพฯ” ได้แก่ ตั้งแต่แยกเขตบางนา ไป จ.สมุทรปราการ ส่วนเขตบางขุนเทียน ทุ่งครุ ราษฎร์บูรณะ จอมทอง อาจจมใต้น้ำถึง 1 เมตร ส่วนพื้นที่ใน จ.สมุทรปราการ จะมีน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร


อย่างไรก็ตามนี่เป็นแค่การคาดการณ์ ดังนั้นจึงมีทั้งคนเชื่อและไม่เชื่อ ถ้าถามว่าประเทศไทยเคยเจอกับเหตุการณ์นี้หรือไม่ คำตอบก็คือ เคยเกิดมาแล้ว ได้แก่

28_8_05

 

 

ปี พ..2505พายุแฮเรียต (HARRIET) เกิดขึ้นในแถบปลายแหลมญวนบริเวณหมู่เกาะปูลูกองดอร์ ต่อมาซัดแหลมตะลุมพุก จ.นครศรีธรรมราช วันที่ 25 ตุลาคม มีผู้เสียชีวิตประมาณ 900 คน สูญหาย 160 คน บาดเจ็บ 422 คน ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัย 16,170 คน

ปี พ.. 2513 พายุโซนร้อน รู้ธ (RUTH) เคลื่อนเข้าระหว่างชุมพรและประจวบคีรีขันธ์ลงอาวมะตะบันและวกไปเลียบฝั่งพม่า ก่อความเสียหายมากโดยเฉพาะชุมพร น้ำท่วม ถนนขาด

ปี พ..2535 พายุเกย์ (GAY) ถล่มหลายพื้นที่ในจังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ผู้เสียชีวิต 602 คน บาดเจ็บ 5,495 คน บ้านเรือนเสียหาย 61,258 หลัง


ปี พ.. 2540 พายุลินดา LINDA ซัดซ้ำรอยเดิมในจังหวัดชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี ในวันที่ 4 พฤศจิกายน ซัดเรือประมงอับปางกว่า 50 ลำ ถนนถูกตัดขาด

28_8_06


 

ปรากฏการณ์ของ Storm Surge นั้น ถือกันว่าน่ากลัวกว่าสึนามิ เพราะจะมีทั้งลมพายุ ฝนตก และน้ำท่วม ท้องฟ้าปั่นป่วน ไม่แจ่มใส เมฆฝนจะก่อตัวขึ้นและลมพัดแรง เกิดคลื่นโถมกระแทกอย่างหนัก เมื่อศูนย์กลางพายุเคลื่อนที่เข้าใกล้ก็จะยิ่งหอบเอาคลื่นน้ำขนาดใหญ่ซัดเป็นระลอก ความเสียหายจึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นทวีคูณ เหมือนที่เคยเกิดพายุนาร์กีสมาแล้วที่พม่า และเกิดในแบบกะทันหัน ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีเมฆเตือนภัยอีกด้วย


นอกจากนี้ การคาดการณ์บอกว่า Storm Surge อาจจะไม่ได้เกิดแต่เฉพาะในทะเลอ่าวไทยเท่านั้น แต่ยังเกิดได้ในทะเลสาบสงขลา หนองหาร สกลนคร หรือ กว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา เพราะเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่


 


26_8_07
ภาพแผนที่เสี่ยงภัยในกรุงเทพมหานคร 2551


ในบทความด้านสิ่งแวดล้อมจากเวบไซต์
www.bluecrab.org ได้ให้คำแนะนำเอาไว้ว่า สิ่งแรกที่มีการเตือนภัยก็คือ ให้คิดแผนสำรองเอาไว้แต่เนิ่นๆ ว่าควรจะอพยพไปที่ไหนได้บ้าง โดยเฉพาะคนที่มีบ้านติดกับทะเลหรือแม่น้ำ เผื่อไว้ว่าจำเป็นต้องไปก็จะได้คิดออกได้ทันทีแม้จะไม่มีประวัติว่าเคยถูกพายุคลื่นซัดฝั่งมาก่อนก็ตาม และควรสำรองอาหารเอาไว้แต่เนิ่นๆ เก็บข้าวของให้ปลอดภัย แม้บ้านไม่ติดทะเลแต่ก็มีโอกาสน้ำท่วมขังยาวนานนับเดือน หากเป็นไปดังคาด ก็เท่ากับจะไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ด้วยเช่นกัน


คิดเผินๆ ก็ดูจะน่ากังวล แต่ก็ไม่ควรวิตกเกินไป และอย่าลืมว่าเรากำลังอยู่กับคำว่า “ถ้า” ที่มีความหมายสองด้านไว้เตือนเราอยู่นั่นเอง.



เรื่องน่ารู้ฉบับนี้ แถมท้ายด้วยภาพน้ำท่วมกรุงเทพฯ ในอดีตเป็นของแถมก็แล้วกันนะคะ

 

 26_8_08

ปี 2485 ได้เปลี่ยนโฉมกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร (ของคนยุคนั้น) ให้กลายเป็นทะเล (น้ำจืด) ขนาดใหญ่ ที่ในหลายๆ พื้นที่มีคนนำเรือออกมาพายกันเป็นทิวแถว น้ำท่วมปี 2485 ทำให้ถนนราชดำเนินกลายเป็นทะเลสาบไปโดยปริยายรวมถึงรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยด้วย (บันทึกจากหนังสือสารานุกรมไทย)


 

 

 

บล็อกของ dinya

dinya
หลายวันก่อนผู้เขียนเถียงกันเล่นๆ กับเพื่อน เรื่อง "ดวงตาของควาย" ที่บอกว่ามันตื่นกลัวสีแดงเป็นพิเศษ สามารถตกมันได้เหมือนช้าง เวลาเห็นสีแดงจัดๆ ในอากาศร้อนๆ แต่อีกคนบอกว่าไม่จริงเลย ควายน่ะมองเห็นทุกอย่างแค่สีขาวดำ ก็เลยมีมุกขำๆ กันเล่นว่า "แล้วเคยเป็นควายด้วยเหรอ" :P จะว่าไปแล้วเรื่องนี้เถียงกันให้ตายก็คงไม่มีใครชนะ ก็เราไม่ใช่สัตว์เหล่านั้น แต่ด้วยความพยายามของมนุษย์ จึงมีการวิจัยและศึกษามากมายเกี่ยวกับความเป็นไปของสัตว์ชนิดต่างๆ และมีข้อเท็จจริงที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรู้สึก การมองเห็น การได้ยิน การรับรู้รส กลิ่น สี ของสัตว์ประเภทต่างๆ…
dinya
ตอนแรกตั้งใจว่าจะเขียนถึงเรื่องของฝนดาวตก  ซึ่งมักจะมีให้เห็นมากที่สุดในช่วงกลางเดือนธันวาคมของทุกปี แต่สัปดาห์นี้ตื่นเต้นนิดหน่อยกับเรื่องของปรากฏการณ์  "พระจันทร์ยิ้ม"  ซึ่งผู้สื่อข่าวเตือนว่าอย่าลืมชมความน่ารักๆ  บนท้องฟ้าได้ตั้งแต่หลังพระอาทิตย์ตกดิน  นั่นคือ 17.40 น.  จนถึง  20.30 น. ของคืนวันที่ 1 ธันวาคม 2551
dinya
ภาพของปัจจุบันและอดีตของทะเลสาบในตะวันออกเฉียงเหนือของ Aotea มีคนบอกว่า ชิลี เป็นประเทศที่มีเรื่องน่าตื่นเต้นไม่น้อยเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ อย่างเช่น ทะเลสาบที่สวยงามในเขตแมกกัลลันส์ ห่างจากกรุงซานดิอาโก้ ไปประมาณ 2,000 กิโลเมตร ที่นั่นเคยมีน้ำอยู่เต็มทะเลสาบ มีสิ่งมีชีวิต มีสภาพแวดล้อมที่สวยงาม และดำรงอยู่เช่นนั้นมานานร่วม 30 ปี ด้วยพื้นที่ 10-12 เอเคอร์ หรือประมาณ 10 เท่าของสนามฟุตบอล แต่แล้ววันหนึ่ง อยู่ๆ ทะเลสาบนั้นก็แห้งเหือด อันตรธานหายไปเสียเฉยๆ ทั้งที่คนยืนยันว่าก่อนหน้าที่ทะเลสาบจะหายไปไม่ถึง 1 เดือน ก็ยังเห็นน้ำมีอยู่เต็มทะเล สิ่งที่เหลืออยู่แทนที่ความงามของทะเลสาบ…
dinya
การทำนายนั้นอยู่คู่กับสังคมของเรามานาน โดยเฉพาะการทำนายธรรมชาติ เช่นการดูสีของท้องฟ้า ก้อนเมฆ สายลม ดวงดาว แม้กระทั่งการมองเห็นด้วยจิต ที่สามารถหยั่งรู้ฟ้าดินและธรรมชาติได้ เหมือนที่เคยฮือฮากันไปเมื่อหลายปีก่อน เมื่อนาย กอร์ดอน (Gordon-Michael Scalion) ชาวอเมริกันที่เคยเสียชีวิตเมื่อปี 1979 แต่กลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นเขาก็อ้างว่า ได้รับพรสวรรค์ที่หยั่งรู้อนาคต เขามักจะเดินทางไปอยู่บนพื้นที่สูงๆ บนภูเขา แล้วมองลงมาเห็นภาพในอนาคต โดยเฉพาะภาพของเมืองที่เปลี่ยนไป และโลกที่จะเกิดขึ้นมาใหม่ คนที่เชื่อถือนายกอร์ดอนนั้นมีไม่น้อย เพราะได้เคยฝากผลงานการทำนายที่แม่นยำเอาไว้ เช่น…
dinya
ภาพแสดงลักษณะของโลก Earth มีคนพูดบ่อยๆ ว่า โลกของเราเล็กลงเรื่อยๆ แคบลงเรื่อยๆ นั่นคงเพราะ เราสื่อสารกันง่ายขึ้น ทั้งทางโทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต จะไปเรียนที่ไหน ทวีปใด เราก็ยังพูดคุยกันได้แทบทุกวัน เวลาเพื่อนคนไหนหายไปไม่ติดต่อกันนานๆ เผลอๆ ก็ไปเจอกันในเวบบล็อกหรือ ชุมชนออนไลน์ สักพักก็หาทางเจอกันจนได้  เราคงไม่คิดว่า วันหนึ่ง คำว่า “โลกเล็กลง” นั้นจะหมายถึง “โลกที่มีขนาดเล็กลงไปจริงๆ” เล็กกว่าที่เราเคยรับรู้ แม้เราจะจินตนาการได้ยากอยู่ว่าโลกของเรามันใหญ่โตขนาดไหน และมันจะสำคัญหรือเปล่าที่มันจะเล็กลง ใหญ่ขึ้น หดตัวหรือขยาย ซึ่งคงต้องขอบอกว่า มันก็สำคัญมากทีเดียวค่ะ
dinya
ช่วงนี้มีโอกาสได้เห็นสายรุ้งบ่อย เรียกว่าวันเว้นวันก็ว่าได้ เวลาเห็นรุ้งจะคิดว่าเป็นวันดีๆ เพราะว่ากันว่า ทุกแห่งทุกหนนั้นมีรุ้งเกิดขึ้นเสมอ อยู่ที่ว่าเราจะยืนในตำแหน่งที่มองเห็นหรือเปล่า  บางคนบอกว่า รุ้งตัวเดิม หากเรายืนอยู่คนละมุมเราจะเห็นแสงแตกต่างกัน เหมือนเป็นรุ้งคนละตัว ดังนั้น ธรรมชาติได้ทำให้เราทุกคน มีรุ้งของตัวเอง ที่มองเห็นเฉพาะตัว ไม่มีทางเหมือนกันนั่นเอง ตั้งแต่เด็กๆ เราเห็นรุ้งมี 7 สี  ไล่จาก ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง พอโตมาถึงรู้ว่า รุ้งมีสีเยอะมากๆๆ ไล่ตั้งแต่สีม่วงไปจนถึงสีแดง แต่เราเห็นเฉพาะสีหลักๆ อย่างที่รู้กันว่ารุ้งธรรมชาตินั้นเกิดหลังฝนตก…
dinya
ในช่วงนี้ คำว่า Storm Surge หรือ Tidal Surge หรือที่ไทยเรียกว่า คลื่นพายุซัดฝั่ง น่าจะทำให้ใครๆ วิตกอยู่บ้าง เพราะมีความคล้ายคลึงกับการเกิดสึนามิ มีรูปแบบการเคลื่อนตัวของคลื่นขนาดใหญ่พัดเข้าชายฝั่ง แต่ที่แตกต่างกัน คือ สึนาเกิดขึ้นจากปรากฏการณ์ของแผ่นดินไหวใต้ทะเล ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนส่งผลให้เกิดคลื่นขนาดยักษ์ แต่ Storm surge จะเกิดขึ้นโดยมีตัวแปรจากพายุ หลังจาก ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ผอ.ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ออกมาเตือนให้รับมือกับภัยพิบัติในกรุงเทพฯ และถึงกับประกาศลาออกเพราะไม่มีหน่วยงานสนใจเรื่องนี้ ผู้เขียนเลยคิดถึงคำว่า “ถ้า” ซึ่งมีความหมายได้สองอย่าง คือ…
dinya
เมื่อเดือนกรกฎาคม ปีที่แล้ว (2550) ช่างภาพชาวรัสเซียผู้หนึ่ง อ้างว่าหลังจากไปเดินเล่นที่ท่าเรือในทะเลแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของอเมริกาอยู่ดีๆ เขาก็เห็นแสงส่องลงมาจากฟ้าซึ่งมีก้อนเมฆเคลื่อนตัววนไปมาแปลกๆ จากนั้นไม่นานก็เกิดพายุงวงช้างพุ่งลงทะเล เขาได้นำสองภาพนี้มาแปะไว้ในเวบบล็อก ที่ชื่อ www.englishrussia.com ซึ่งมีผู้ชมมาวิจารณ์กันว่า นี่เป็นเพียงภาพที่ถูกตกแต่งด้วยโปรแกรม Photoshop เท่านั้นเอง ไม่ใช่ภาพที่จะถ่ายได้จริงๆ หากแต่ช่างภาพรัสเซียนั้นอธิบายว่านี่เป็นภาพที่สร้างจำลองขึ้นจากสถานที่จริงและวินาทีที่เขาได้พบจริงๆ ถึงไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า แต่พออ่านเจอเรื่องนี้เลยอดคิดไม่ได้ว่า ก่อน  “…
dinya
หลายคนเคยบอกว่า ไม่น่าเชื่อที่ชื่อสวยๆ อย่าง นากรี รูซา นิดา เกศนา สาลิกา คัมมุริ ฯลฯ และอีกหลายชื่อที่มีความหมายน่ารักๆ ถึง ต้นไม้ ดอกไม้ ภูเขา ทะเล แม่น้ำ ฯลฯ เหล่านี้จะเป็นชื่อของพายุไปได้ อาจเพราะความจริงแล้วพายุ หรือวาตภัยส่วนใหญ่นั้นมีพิษสงทำลายล้าง ทำความน่าสะพรึงกลัวกับพวกเราชาวโลกไม่น้อยนั่นเอง เรื่องน่ารู้ฯ ตอนนี้เลยอยากเอาชื่อพายุมาเล่าสู่กันฟังค่ะ ภาพเมฆฝนและพายุในจังหวัดเชียงใหม่ ปลายเดือน กรกฎาคม 2551 ชื่อของพายุนั้น ว่ากันว่า เดิมทีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ตั้งชื่อพายุทั่วโลกมาโดยตลอด เพราะสมัยก่อนสหรัฐนั้นถือว่าเป็นผู้นำด้านนี้ มีอุปกรณ์พร้อมในการตรวจสภาพอากาศ…
dinya
ก่อนจะนั่งลงเขียนคอลัมน์นี้ ไม่อยากเชื่อเลยว่า 72 ชั่วโมงที่ผ่านมานี้เอง 7 ประเทศ กำลังผจญกับวิกฤตพายุถล่มและน้ำท่วมชนิดที่ยังรอการช่วยเหลือและสรุปยอดผู้เสียชีวิตยังไม่ได้ เริ่มตั้งแต่เยอรมนี เจอพายุหนักทางตอนใต้ของประเทศ จนต้องปิดถนน บ้านหลายหลังพังพินาศ มาถึงประเทศยูเครน ที่มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 16 คน ประชาชน 2 หมื่นกว่าคนอยู่ในความมืดเพราะไม่มีไฟฟ้า ตามด้วยโรมาเนีย ที่ประกาศอพยพคนออกจากเมืองนับสิบเพราะน้ำกำลังท่วมอย่างหนัก ส่วนพายุที่กระหน่ำเกาะเหนือของ นิวซีแลนด์ นั้นมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 3 คน และผู้สูญหายอีกหลายคน ดูเหมือนฝั่งยุโรปอาจจะดูไกลไปหน่อย กลับมาที่เอเชียของเราที่…
dinya
ตอนที่แล้วเล่าถึง “หลุมยุบ” หรือ Sinkhole ในต่างประเทศไปแล้ว คราวนี้มาดูหลุมยุบในบ้านเรากันบ้างนะคะ ย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตั้งแต่เหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิเป็นต้นมา (2547) หลายคนบอกว่า มีข่าวหลุมยุบให้ฟังอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่รู้ว่ามีมากน้อยแค่ไหน มาดูตัวเลขที่กันดีกว่าค่ะ หลุมยุบในประเทศไทย ในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา กรมทรัพยากรธรณีแจ้งว่า มี “หลุมยุบ” ที่ได้รับแจ้งและเข้าไปตรวจสอบแล้วถึง 53 หลุม ใน 16 จังหวัด แน่ะ ไม่นับรวมกับที่เราสังเกตไม่เห็น อยู่ลึกจนไม่มีใครพบ หรือ พบแล้วแต่ไม่ได้แจ้งนะคะ ในวันเดียวกับเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ คือ 26 ธันวาคม 2547 นั้น เกิดขึ้นพร้อมกันทีเดียว 19 จุด…
dinya
สองภาพข้างบนนี้ดูเหมือนเป็นทะเลสาบสวยๆ ที่มีน้ำใสๆ เย็นๆ น่าไปเที่ยวเล่น พายเรือ ถ่ายรูปหรือดำน้ำ ทำนองนั้นไหมคะ ? แต่รู้ไหมว่า เนี่ยแหละ มันคือหน้าตาของ El Zacatón Cenote หรือ “หลุมยุบ” (sinkhole) ที่มีความลึกที่สุดในโลกล่ะ !