Skip to main content

ต้นแบบของดอกเตอร์คาลิการิคือจิตแพทย์ผู้โด่งดังสองคน คนแรกคือฌอง มาแตง ชาคูต์ จิตแพทย์ชาวฝรั่งเศสจากปลายศตวรรษที่ 18 เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์คนแรกๆ ที่ศึกษาโรคฮิสทีเรียอย่างจริงจัง ในปี 1885 ฟรอยด์วัยหนุ่มเรียนหนังสืออยู่กับชาคูต์ เขาเขียนจดหมายถึงคู่หมั้นบรรยายลักษณะของอาจารย์ไว้ว่า "สูงห้าฟุตแปดนิ้ว สวมหมวกทรงสูง ดวงตาดำละมุนอย่างประหลาด ผมปรกยาวติดอยู่หลังใบหู หนวดเคราเกลี้ยงเกลา ริมฝีปากล่างยื่นออกมา แสดงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ " จากคำบรรยายเหล่านี้ ไม่น่าแปลกใจนัก ถ้าแวร์เนอร์ คราวส์จะใช้ชาคูต์เป็นต้นแบบในการรับบทบาทเป็นคาลิการิ

การบรรยายในที่สาธารณะของชาคูต์เป็นเหตุการณ์สำคัญที่ไม่มีชาวปารีสคนใดอยากจะพลาด การบรรยายจัดขึ้นทุกวันอังคาร ในโรงละครขนาดห้าร้อยที่นั่ง แขกผู้ทรงเกียรติได้แก่อองรี แบร์ซอง นักปรัชญาเจ้าของรางวัลโนเบล ซาราห์ แบร์นฮาร์ดท์ ดาราหญิง กีเดอมูปาซัง นักเขียน และแน่นอน ซิกมุนด์ ฟรอยด์ ในการบรรยายแต่ละครั้ง ชาคูต์จะนำเอาคนไข้ฮิสทีเรียจากในคลินิกมาแสดงต่อหน้าสาธารณชน ให้รับรู้ถึงอาการทางประสาทชนิดต่างๆ เช่น การชักกะตุก ร่างกายบิดเบี้ยว ชี้โบ๊ชี้เบ๊ หัวเราะไม่มีเหตุผล หรืออ่อนเปลี้ยพลียแข้งขา แพทย์หลายคนไม่ยอมรับในทฤษฎีและวิธีการรักษาของชาคูต์ รวมทั้งตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ คนไข้หลายคนจงใจแสดงอาการที่มากเกินกว่าความเป็นจริง เพื่อความ "เพลิดเพลิน" ของแพทย์เจ้าของอาการ และผู้ชม

บรรยากาศของการบรรยายมีลักษณะกึ่งวิชาการกึ่งละครสัตว์ ตัวชาคูต์เองก็รับบทบาทเป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์และผู้ให้ความบันเทิง เฉกเช่นเดียวกับดอกเตอร์คาลิการิ นอกจากนี้ ชาคูต์ยังเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการรักษาคนไข้ฮิสทีเรียด้วยการสะกดจิต ในบันทึกของเขา ชาคูต์เล่าถึงผลกระทบจากการสะกดจิต คนไข้ที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา ทั้งที่สมองยังตกอยู่ในภวังค์ เปิดช่องว่างให้ผู้สะกดจิตสามารถใส่คำสั่งอะไรก็ได้ลงไปในสมอง และให้อีกฝ่ายปฏิบัติตาม

ไม่ว่าชาคูต์จะเป็นหมอหรือจอมลวงโลก อย่างน้อยความตั้งใจที่จะรักษาคนไข้ฮิสทีเรียของเขาก็คือเรื่องจริง จึงดูไม่ค่อยยุติธรรมกับชาคูต์นัก ที่เราจะเอาเขาไปเปรียบกับนักสะกดจิตผู้ชั่วร้าย อีกต้นแบบของคาลิการิเป็นจิตแพทย์ผู้มีชื่อเสียงเช่นกัน ดอกเตอร์จูเลียส วาคเนอร์-ยาวเรกก์ แห่งมหาวิทยาลัยเวียนนา เขาเชื่อว่าอาการผวาระเบิด (shell shock) หรือการที่นายทหารถูกกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรงในสงคราม กระทั่งก่อให้เกิดผลข้างเคียงทางกายภาพ เช่น ตาบอด คลื่นไส้อาเจียน นอนไม่หลับ และอาการฮิสทีเรียอื่นๆ นั้น แท้ที่จริงเป็นอาการป่วยการเมืองของคนไข้ ที่ไม่ต้องการถูกส่งกลับไปยังสมรภูมิ วิทยาศาสตร์การแพทย์ในยุคนั้นสนับสนุนความเชื่อของวาคเนอร์-ยาวเรกก์ เนื่องจากไม่ว่าจะตรวจร่างกายคนไข้แค่ไหน ก็ไม่พบความผิดปรกติจริงๆ 

วาคเนอร์-ยาวเรกก์เสนอว่า วิธีรักษาอาการผวาระเบิดที่ดีที่สุด ก็คือการช็อตไฟฟ้า ใช้กระแสไฟฟ้าแรงสูงไหลผ่านกะโหลกศีรษะ สร้างความทรมานให้แก่คนไข้ เพื่อที่พวกเขาจะได้หายกลัวสมรภูมิ และเลือกที่จะกลับไปรบ เพราะความจำเป็นด้านการทหาร วิธีรักษาของวาคเนอร์-ยาวเรกก์ได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาลกษัตริย์ คนไข้คนแล้วคนเล่าถูกส่งเข้าสถานบำบัด และเมื่อทนการรักษาไม่ไหว ต้องยอมกลับเข้าสมรภูมิทั้งอาการผวาระเบิด บางคนก็เสียชีวิตเพราะกระแสไฟฟ้า อีกหลายคนฆ่าตัวตาย อาจดูไม่ค่อยยุติธรรมกับคาลิการินัก ที่เราจะเอาเขาไปเปรียบกับคนอย่างวาคเนอร์-ยาวเรกก์

บล็อกของ Nibuk

Nibuk
ฟรอยด์เขียน Group Psychology and the Analysis of the Ego ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันกับ Beyond Pleasure Principle ข้อถกเถียงพื้นฐานของทั้งสองเล่มนี้คล้ายคลึงกัน กล่าวคือ ขณะที่ปัจเจกชนมีแนวโน้มจะหวนไปสู่สภาวะดั้งเดิม คือความตาย สังคมอันประกอบไปด
Nibuk
Death Instinct/Death Drive หรือสัญชาติญาณแห่งความตาย เป็นแนวคิดใหม่ที่ซิกมุนต์ ฟรอยด์พัฒนาขึ้นมาภายหลังสงครามโลก   ทหารผ่านศึกส่วนใหญ่ล้วนตกอยู่ในอาการผวาระเบิด (shell shock)   นี่จึงเป็นโอกาสอันดีให้ฟรอยด์พิสูจน์ทฤษฎีของตัวเอง โดยใช้วิชาจิตวิเคราะห์รักษาคนไข้เหล่านี้ 
Nibuk
หนึ่งในข้อเรียกร้องของสนธิสัญญาแวร์ซายก็คือ เยอรมันต้องส่งมอบตัวอาชญากรสงคราม ให้ฝ่ายพันธมิตรดำเนินคดี ในที่นี้หมายถึงวิลเฮล์ม -- ถ้าเขาไ
Nibuk
รัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐไวมาร์คือลูกผสมของรัฐธรรมนูญแห่งประเทศประชาธิปไตยต่างๆ ทั่วยุโรป ตำแหน่งประมุขของประเทศเปลี่ยนจากเชื้อพระวงศ์ มาเป็นประธานาธิบดี (president) ผู้มาจากการเลือกตั้ง และประจำตำแหน่งทุกๆ เจ็ดปี เฉกเช่นเดียวกับกษัตริย์ ประธานาธิบดีคือสัญลักษณ์สูงสุดของประเทศ สามารถแต่งตั้งแล
Nibuk
อันที่จริงในหมู่ประเทศผู้ชนะสงคราม ก็ไม่ได้มีความเห็นลงรอยกันเกี่ยวกับเป้าหมายของสนธิสัญญาแวร์ซาย ฝรั่งเศสและเบลเยียมต้องการลงโทษเยอรมัน ยึดพื้นที่อุตสาหกรรมมา เพื่อให้แน่ใจว่าเยอรมันจะไม่มีโอกาสฟื้นกล
Nibuk
เดือนเมษายนปี 1919 เคาต์อูลริช วอน บรอคดอร์ฟ-รานต์ซาว รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศคนแรกของเยอรมันใหม่ เดินทางไปพระราชวังแวร์ซาย เพื่อลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพ ข้อตกลงเจรจาสงบศึกที่เขาเตรียมเอาไว้คือ เยอรมันจะยอมปลดอาวุธของตัวเองเท่ากับที่เพื่อนบ้านยอมปลด ยอมสละแว่นแคว้นชายแดนภายใต้เงื่อนไขว่า ผู้คนใน
Nibuk
วีรบุรุษซิกฟรีด สายเลือดแห่งมหาเทพ ครองรักอย่างมีความสุขกับนางฟ้าตกสวรรค์ บรึนฮิลเดอ บนภูเขาที่ล้อมรอบไปด้วยทะเลเพลิง อยู่มาวันหนึ่ง ซิกฟรีดต้องการออกไปผจญภัยในโลกภายนอก หลังจากร่ำลาภรรยาสุดที่รักเขาให้สัญญาว่าจะคงรักแต
Nibuk
คานดินสกีเกิดและเติบโตในกรุงมอสโค เมืองหลวงของประเทศรัสเซีย เขาเรียนจบและประกอบอาชีพทางกฎหมายจนถึงอายุสามสิบ ก่อนหน้านั้นไม่เคยได้รับการฝึกฝนใดๆ ทางศิลปะมาก่อน เหตุการณ์สำคัญที่หักเหชีวิตของชายหนุ่ม คือการได้ชมภาพวาดกอง
Nibuk
ต้นแบบของดอกเตอร์คาลิการิคือจิตแพทย์ผู้โด่งดังสองคน คนแรกคือฌอง มาแตง ชาคูต์ จิตแพทย์ชาวฝรั่งเศสจากปลายศตวรรษที่ 18 เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์คนแรกๆ ที่ศึกษาโรคฮิสทีเรียอย่างจริงจัง ในปี 1885 ฟรอยด์วัยหนุ่มเรียนหนังสืออยู่กับชาคูต์ เขาเขียนจดหมายถึงคู่หมั้นบรรยายลักษณะของอาจารย์ไว้ว่า "สูงห้าฟุตแปดนิ้