Skip to main content

Kasian Tejapira(23 มิ.ย.56)

นายกฯ เทย์ยิบ เออร์โดกาน นักการเมืองประชาธิปไตยผู้ไต่เต้าขึ้นมาจากการเมืองท้องถิ่นในนครอีสตันบูล ต่อต้านอำนาจทหาร ถูกแบนทางการเมืองและจับติดคุก ๑๐ เดือนเพราะท่องบทกวีในที่ชุมนุม ตั้งพรรค AK (พรรคยุติธรรมและการพัฒนา) ในคุก และชนะเลือกตั้งต่อกัน ๓ ครั้งในปี ค.ศ. ๒๐๐๒, ๒๐๐๗, ๒๐๑๑ ได้เป็นนายกฯต่อกันถึง ๑๐ ปี กลายมาเป็น

--> ผู้นำอำนาจนิยมที่รมประชาชนของตัวเองด้วยแก๊สน้ำตา เพื่อจะได้สร้างชอปปิ้ง มอลล์ขึ้นมาบนสวนสาธารณะ Gezi สีเขียวผืนสุดท้าย ณ จตุรัส Taksim กลางเมืองอีสตันบูล

การชุมนุมของมวลชนคนหนุ่มสาว (ม็อบสารพัดสีไร้ผู้นำชัดเจน มีทั้งนักอนุรักษ์ธรรมชาติ, มุสลิมเอียงซ้าย, แฟนฟุตบอล, ศิลปินนักสร้างสรรค์ ฯลฯ) ซึ่งยิ่งถูกตำรวจปราบ ยิ่งแผ่ขยายลุกลามไปหลายเมืองของตุรกี มุ่งปกป้อง “ต้นไม้กับประชาธิปไตย” และยกระดับการเรียกร้องจากให้ยกเลิกแผนรื้อสวนสาธารณะ Gezi ทิ้งเพื่อทำชอบปิ้ง มอลล์และศูนย์ที่พักอาศัย ไปเป็นให้นายกฯเออร์โดกานลาออกเพราะท่าทีอำนาจนิยมและเอาหลักศาสนามาบังคับใช้ทางโลกของเขา

ความจริงเออร์โอกานก็เป็นนักสู้คนหนึ่ง มาจากครอบครัวกรรมาชีพยากไร้ในอีสตันบูล ถูกกดขี่ข่มขู่ดูแคลนจากพวกชนชั้นนำเคมาลิสต์เก่ารวมทั้งทหาร เขาจึงกัดฟันสู้แบบก้าวร้าวกัดไม่ปล่อย ไม่มีถอย ไม่เลิกรา ท่วงทำนองการเมืองเป็นแบบประชานิยมอิงสามัญชนและหลักอิสลาม เสนอภาพตัวเองเป็นนักประชาธิปไตยหัวอนุรักษนิยม ต้องการสร้างระบอบประชาธิปไตยใต้การควบคุม แต่เปิดประเทศทางเศรษฐกิจเข้าหายุโรป แนวนโยบายที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จช่วงชิงชัยชนะทางการเมืองในการเลือกตั้งมาได้ตลอดทศวรรษ คือ ๑) โละล้างอำนาจแทรกแซงการเมืองของทหาร และ ๒) พาประเทศปฏิรูปเศรษฐกิจ (เช่น privatization ขนานใหญ่ในแนวเสรีนิยมใหม่) เปิดเชื่อมเข้ากับสหภาพยุโรปทั้งในทางเศรษฐกิจและการเมือง (สิทธิมนุษยชน เสรีภาพ ประชาธิปไตย) ผลคือเศรษฐกิจเติบโตและเผด็จการทหารเสื่อมถอยหมดพลังลง

ในที่สุดเขาทำลายการผูกขาดอำนาจการเมืองของชนชั้นนำเคมาลิสต์เก่าลงได้ และผลักดันทหารออกจากวงการเมืองกลับเข้าสู่กรมกอง (ล่าสุดบรรดานายพันและนายทหารที่วางแผนแทรกแซงการเมือง/ก่อรัฐประหารทั้งหลายถูกรัฐบาลจับกุมดำเนินคดีติดคุกกันส่วนใหญ่) สองปีหลังนี้ ไม่มีภัยคุกคามทางการเมืองจากกองทัพอีกต่อไป เหลือแต่รัฐบาลประชาธิปไตยกุมอำนาจเสียงข้างมากเด็ดขาดของนายกฯเออร์โดกานแห่งพรรค AK กับสังคมการเมืองและประชาสังคมตุรกีโล้น ๆ

แต่แล้วเออร์โดกานก็เริ่มแสดงท่าทีท่วงทำนองโอหังเหลิงเริงอำนาจ ในหลายแง่ไม่ต่างจากชนชั้นนำเก่าที่เขาเขี่ยทิ้งไป เช่น เรียกผู้ประท้วงเป็น “นักปล้น” บ้าง “ผู้ก่อการร้าย” บ้าง ถอยไม่ได้ ขอโทษไม่เป็น บ้าก่อสร้าง วางแผนจะสร้างสุเหร่าใหญ่ที่สุดในประเทศตุรกีขึ้นบนเนินเขาเหนือกรุงอีสตันบูลแล้วตั้งชื่อสุเหร่าตามชื่อตน อาจใช้กลเม็ดแบบปูตินสลับตัวเองไปเป็นประธานาธิบดีชั่วคราวก่อนวกกลับมาเป็นนายกฯบริหารประเทศอีกหนเพื่อให้พ้นขีดจำกัดเรื่องการดำรงตำแหน่งนายกฯต่อกันเกิน ๓ สมัย ทุกครั้งที่เขาดำเนินนโยบายหรือมาตรการผิดพลาด เช่น สั่งทหารโจมตีทิ้งระเบิดผิดเป้า จนทำให้ชาวบ้านในละแวกบ้านแถบชายแดนซีเรียตายหมู่ ๕๑ คน, และอีกครั้งก็ทำให้ขบวนนักค้าของเถื่อนชาวเคอร์ดตายหมู่ไป ๓๔ คน แต่ทุกครั้งไม่มีคำขอโทษจากนายกฯ ไม่มีเจ้าหน้าที่ถูกลงโทษ มีแต่ลูกไม้เบี่ยงเบนความสนใจ เช่น นายกฯเออร์โดกานรีบชูเรื่องห้ามผู้หญิงทำแท้งขึ้นมา, หรือชูเรื่องห้ามผู้ใหญ่ซื้อขายเหล้าหลัง ๔ ทุ่มขึ้นมาโดยอิงหลักศาสนาอิสลาม เป็นต้น ล่าสุด ถึงแก่เล่นแรง โดยเออร์โดกานเปรยว่า “ทำไมขี้เมา ๒ คนเขียนกฎหมายได้ แต่ผมจะทำบ้างกลับไม่ได้ ทั้งที่ดูจากหลักศาสนาของเรา?” ทั้งนี้ “ขี้เมา ๒ คน” ที่ว่ามีนัยแฝงถึง เคมาล ปาชา อตาเตอร์ก ผู้ก่อตั้งรัฐชาติตุรกีสมัยใหม่ขึ้นกับนายกฯ ของเขาซึ่งร่วมกันออกกฎหมายยกเลิกการห้ามขายเหล้าที่อิงหลักศาสนาอิสลามในสมัยก่อน

แล้วลัทธิ Kemalism (ยึดหลักความเชื่อของ เคมาล ปาชา อตาเตอร์ก ผู้สร้างรัฐชาตินิยมตุรกีที่ถือโลกวิสัยและเป็นประชาธิปไตย ไม่บังคับใช้หลักศาสนาอิสลามอย่างเคร่งครัด ฯลฯ) ยังมีพลังอยู่หรือไม่?

- คำตอบคือเสื่อมถอยและเปลี่ยนไปมากแล้ว ไม่มีใครเชื่อจริง คนเลิกเชื่อหลายด้านหลายประการของลัทธิการเมืองนี้ไปแล้วในปัจจุบัน แต่กระนั้นในแง่วัฒนธรรม Kemalism ยังมีพลังอยู่ ทำให้การท้าทายลองของตีวัวกระทบคราดของเออร์โดกาน สร้างความไม่พอใจพอสมควร

วิกฤตนี้จะจบอย่างไร?

๑) เออร์โดกานกล่าวคำขอโทษต่อประชาชนที่ใช้กำลังปราบปรามเกินกว่าเหตุ ยอมยกเลิกแผนการที่จะรื้อถอนสวนสาธารณะ Gezi ทิ้งเพื่อทำเป็นชอปปิ้ง มอลล์และศูนย์ที่พักอาศัย

๒) ดื้อรั้นเดินหน้าต่อ ระดมม็อบฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลโดยเฉพาะในหัวเมืองชนบทมาชุมนุมแสดงพลังบ้าง (จัดแล้ว ๒ ครั้งที่เมืองอีสตันบูลและอังการา) รัฐบาลข่มขู่ว่าจะส่งทหารออกมาปราบม็อบเป็นต้น ทว่าความเสี่ยงคือความแตกแยกในพรรค AK เองที่เริ่มปริออกให้เห็น เช่น ประธานาธิบดีแสดงท่าทีประนีประนอมต่อม็อบต่างจากนายกฯเออร์โดกาน อดีต รมว.วัฒนธรรมเรียกร้องให้นายกฯยกเลิกแผนรื้อสวนสาธารณะ Gezi เสีย

บล็อกของ เกษียร เตชะพีระ

เกษียร เตชะพีระ
มิจฉาทิฐิว่าด้วย“24 มิถุนาคือการรัฐประหารไม่แตกต่างจากครั้งอื่นๆ คือใช้อำนาจทหารล้มล้างการปกครองเช่นเดียวกัน” "ถ้าเอาวันประกาศเอกราช ก็เอาวันที่สมเด็จพระนเรศวรประกาศอิสรภาพจากพม่าสิ" และ "วันชาติคือวันรวมใจคนทั้งชาติ ในยุคสมัยผมใจพวกเราทุกดวงอยู่ที่ในหลวงก็ควรเอาวันที่ ๕ ธันวานี่ล่ะเหมาะที่สุด"
เกษียร เตชะพีระ
นายกฯ เทย์ยิบ เออร์โดกาน จากครอบครัวกรรมาชีพยากไร้ในอีสตันบูล สู่นักการเมืองประชาธิปไตยผู้ไต่เต้าขึ้นมาจากการเมืองท้องถิ่นในนครอีสตันบูล ต่อต้านอำนาจทหาร จนถึงผู้นำอำนาจนิยมที่รมประชาชนด้วยแก๊สน้ำตา เพื่อจะได้สร้างชอปปิ้ง มอลล์ขึ้นมาบนสวนสาธารณะ Gezi และ วิกฤตนี้จะจบอย่างไร?
เกษียร เตชะพีระ
...ในการปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชน คำถามสำคัญคือ ใครบ้างที่คุณนับเป็นมนุษย์? เราควรจะแบ่งแยกและเลือกปฏิบัติว่าจะปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของคน ๆ หนึ่งบนฐานศาสนา ชาติพันธุ์ จุดยืนทางการเมืองของเขา หรือไม่อย่างไร? ถ้าหากไม่เกิดคดีเอกยุทธ ยังจะมีใครคิดรื้อฟื้นดำเนินคดีทนายสมชายให้จบจริงหรือไม่?
เกษียร เตชะพีระ
..จะเอานายกฯคนโน้นแทน ก็จะไปเรียกเอาร้องเอาจากในหลวงโดด ๆ โดยไม่ฟังเสียงและไม่เคารพอำนาจอธิปไตยของคนไทย ๗๐ ล้านคนเลยได้ มิฉะนั้น ก็จะมีคนเปลี่ยนหน้า ม็อบเปลี่ยนหน้ากาก ไชยวัฒน์บ้าง สนธิบ้าง ชูวัดบ้าง สุทธิบ้าง หน้ากากขาวเขียวเหลืองชมพูน้ำตาลโกโก้กรมท่าน้ำเงินฟ้าสารพัดสี เข้าแถวเรียงรายผลัดกันขอนายกฯพระราชทานคนใหม่คนแล้วคนเล่าเอากับองค์พระประมุขไม่เว้นแต่ละวัน แล้วจะให้พระองค์ทรงทำอย่างไร?
เกษียร เตชะพีระ
อุตสาหกรรมยาและเทคโนโลยีชีวภาพสั่นสะเทือน: ศาลสูงสหรัฐฯพิพากษาห้ามจดสิทธิบัตรเหนือยีนส์มนุษย์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มันทำให้การที่ทุนนิยมจะยึดเอาพื้นที่ใหม่ในธรรมชาติระดับยีนส์และ DNA มาเป็นอาณานิคมใต้กรรมสิทธิ์ของตนมีอันสะดุดหยุดชะงักลงบ้าง
เกษียร เตชะพีระ
..นักเศรษฐศาสตร์มักไม่ค่อยชอบ “ล้วงกระเป๋า” แบบอัมมาร ด้วยเหตุผลว่าขาดประสิทธิภาพและเสียประโยชน์ส่วนรวม, ส่วนผมเห็นด้วยกับอาจารย์นิธิที่ท่านชอบ “ล้วงกระเป๋า” แบบนิธิ ด้วยเหตุผลว่าความเหลื่อมล้ำมีมากเหลือเกินในเศรษฐกิจไทยและโลก ควรต้องกระจายจากรวย --> จนให้เท่าเทียมเป็นธรรมยิ่งขึ้น
เกษียร เตชะพีระ
ประเด็นหัวใจของการสนทนาคือความสัมพันธ์อันซับซ้อนยอกย้อนระหว่าง คุณค่าทางสังคมวัฒนธรรม (socio-cultural values) กับ มูลค่า/ราคาทางเศรษฐกิจ (economic value/price) ขณะผู้ถามซักไซ้ไล่เลียงจากมุมมองและคำถามเชิงแนวคิดปรัชญาและสังคม ผู้ตอบอธิบายจากจุดยืนของความเป็นจริงทางเศรษฐกิจ(ทรัพยากรมีจำกัด สังคมต้องตัดสินใจเลือกใช้ให้คุ้มค่าที่สุด), ความรู้เท่าทันต่อกรอบ/ขีดจำกัด/และพลังของความรู้ทางเศรษฐศาสตร์, การดำรงอยู่ของเงื่อนไขทางสังคม/การเมืองที่ล้อมกำกับเศรษฐกิจและ เศรษฐศาสตร์, และชะตาจำต้องเลือกของการตัดสินใจใช้ทรัพยากรจากจุดยืนเศรษฐศาสตร์
เกษียร เตชะพีระ
นิธิอ่านสถานการณ์ปัจจุบัน: การลงร่องของกระฎุมพีไทย → ขีดจำกัดของการเคลื่อนไหวมวลชนภายใต้กระฎุมพีเสรีนิยมปัจจุบัน
เกษียร เตชะพีระ
หากเอาความคิดทางสังคมการเมืองของ อ.เสกสรรค์ระยะหลัง (ช่วง พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็นต้นมา) ตามที่คุณพัชราภา ตันตราจินศึกษาค้นคว้าไว้ในหนังสือ ความคิดทางสังคมการเมืองของเสกสรรค์ ประเสริฐกุล (๒๕๕๖) มาวางไว้ในบริบทกระแสความคิดการเมืองปัจจุบันแล้วเปรียบเทียบกับแนวคิดของคู่ขัดแย้งหลักในสังคมการเมือง  ได้แก่ “แดง” (คือแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติและแนวร่วม) กับ “เหลือง” (คือพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและแนวร่วม) แล้ว ก็จะพบว่า...
เกษียร เตชะพีระ
ประสบการณ์ทำนองนี้ของไทยเราเคยมีก่อนวิกฤตต้มยำกุ้ง ๒๕๔๐ เมื่อหมู่บ้านจัดสรร คอนโด อพาร์ทเมนต์ก่อสร้างขึ้นมาล้นเหลือเกินดีมานด์ของตลาดนับแสนหน่วย ต้องรออีกหลายปีกว่าจะขายหมด แต่นั่นมันหมู่บ้าน, คอนโด, อพาร์ทเมนต์ร้าง, ของจีนทุกวันนี้ไปไกลกว่านั้นมากคือเมืองทั้งเมืองที่สร้างขึ้นมาใหม่สำหรับ รองรับคนเป็นล้าน กลับร้าง รอคนมาอยู่ที่ไม่เคยมา อย่างที่เรียกว่า ghost cities หรือ เมืองผีหลอก...
เกษียร เตชะพีระ
“ก่อนอื่น ชื่อของฉันคือวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ ฉันใช้เวลาตลอดชีวิต ๔๖ ปีเป็นวิลเลม-อเล็กซานเดอร์หรืออเล็กซานเดอร์ ฉันว่ามันแปลกที่จะต้องเลิกใช้ชื่อนั้นเพราะฉันเป็นกษัตริย์ ในอีกแง่หนึ่งคนเราก็ไม่ใช่ตัวเลขนี่นะ” - มกุฎราชกุมารวิลเลม-อเล็กซานเดอร์แห่งเนเธอร์แลนด์พระราชทานสัมภาษณ์ทางทีวีก่อนพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสืบต่อจากสมเด็จพระบรมราชินีนาถบีอาทริกซ์
เกษียร เตชะพีระ
คิดอย่างนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำพระเจ้าข้า ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ....