Skip to main content

หลบเรื่องร้อนทางการเมือง ที่ทำให้หัวใจรุ่มร้อน สับสนอลหม่าน วันนี้เลยเปลือยหัวใจ แบบไร้สี เขียนเรื่องความรักของเพื่อนนักข่าวดีกว่า เป็นความรักข้ามพรมแดนและข้ามศาสนาในดินแดนสวรรค์ "บาหลี" อินโดนีเซีย 

หนุ่มน้อยรูปหล่อชื่ออันตอน เป็นหนุ่มชาวจาวา เกิดที่เมืองยอกยาการ์ตา แต่ไปทำงานข่าวไกลถึงบาหลี เพราะหลงใหลในเสน่ห์ของบาหลีหลังจากจบการศึกษาทางนิเทศศาสตร์จากมหาวิทยาลัย เรียกว่าเป็นนักข่าวท้องถิ่นคนหนึ่งในบาหลี ทำงานส่งข่าวให้สำนักข่าวในจาการ์ตาด้วย แล้วก็ทำงานให้กับ AJI (อาจิ) หรือ the Alliance of Independent Journalist สาขาบาหลี เป็นสมาคมนักข่าวที่รวมตัวกันทำงานเพื่อข่าวทางเลือกเกิดขึ้นเมื่อครั้งสมัยต่อต้านเผด็จการซูฮาร์โต เป็นนัยว่าอาจิเป็นกลุ่มนักข่าวที่นิยมประชาธิปไตย ต่อต้านการเป็นนักข่าวรับใช้เผด็จการซูฮาร์โตด้วย ที่สาขาบาหลีทำงานดำรงความคิดหลักนี้ ถือเสรีภาพการแสดงออกของสื่อเป็นอุดมการณ์หลัก และเอื้อพื้นที่ให้กับกลุ่มคนด้อยโอกาส ทั้งยังต่อต้านอำนาจรัฐชาติและรัฐท้องถิ่นหากนำมาใช้ข่มเหงประชาชน ฉะนั้นอาจิสาขาบาหลีจึงมีเพื่อนพันธมิตรเป็นกลุ่มคนหลากหลายทำงานร่วมกันทั้งนักข่าว นักวิชาการ เอ็นจีโอ ศิลปิน นักเขียน ฯลฯ ภาพด้านบนเป็นสำนักงานของอาจิ ห้องเล็กๆ แต่เน้นคุณภาพ  

สาวน้อยหน้าใสในภาพเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในบาหลี ปัจจุบันเธอคงจบการศึกษาระดับปริญญาตรีเรียบร้อยแล้ว เธอเป็นชาวบาหลีโดยกำเนิด พ่อแม่มีอาชีพค้าขาย เธอเป็นหญิงสาวที่ฉลาดสดใส สนใจการเมือง และทำงานด้านเอดส์ควบคู่ไปกับการเรียน จึงเข้าคู่กับหนุ่มนักข่าวของเราเป็นอย่างดี พวกเขามีความเข้าอกเข้าใจกันและกัน ฐานะของหญิงสาวไม่อยู่ในระดับร่ำรวย แต่ก็ไม่ยากจนข้นแค้น มีความพร้อมทุกอย่างทั้งบ้าน ที่ดินและอาชีพของพ่อแม่ แต่เธอคบหนุ่มน้อยนักข่าวคนนี้ที่พลัดบ้านเมืองมาไกลหลายพันกิโล ข้ามเกาะ ข้ามน้ำ ข้ามทะเล นั่งเครื่องบินจากเกาะจาวามาบาหลีเกือบสองชั่วโมง เป็นการคบกันอย่างจริงใจ หนุ่มเช่าบ้านเดือนละไม่กี่พันรูเปีย มีมอเตอร์ไซต์เป็นพาหนะคู่กาย ทำงานข่าวอย่างแข็งขัน ขยันมากขึ้นเมื่อมีสาวสวยคู่ใจ เพราะรับจ้างเป็น correspondent ให้กับสำนักข่าวในออสเตรเลียด้วย ออสเตรเลียกับบาหลีอยู่ไม่ห่างกันมากใกล้กว่าจาการ์ตาเสียอีก


จอดรถได้ทุกเมื่อ หากมีโทรศัพท์จากสำนักข่าวออสเตรเลียโทรมาเอาข่าว
 

การทำงานหนักเพื่ออนาคตจึงเป็นเรื่องที่หนุ่มอันตอนตระหนักอยู่ตลอดเวลา พวกเขาวางอนาคตไว้ว่าจะใช้ชีวิตร่วมกัน หญิงสาวนับถือศาสนาฮินดู ชายหนุ่มเป็นมุสลิม แต่ศาสนาไม่เป็นอุปสรรคต่อหัวใจของทั้งคู่ แต่อุปสรรคสำคัญที่ทั้งคู่ต้องผ่านให้ได้ คือ ครอบครัว ครอบครัวฝ่ายชายย่อมต้องการสะใภ้มุสลิม ส่วนฝ่ายหญิงคงต้องกลั่นกรองความมั่นคงด้านอาชีพและฐานะของชายหนุ่มอย่างเข้มข้นเช่นกัน  

พวกเขามีจิตใจประเสริฐ และมีความคิดทันโลกไม่ตกยุค เข้าใจเพื่อนมนุษย์ ช่วยเหลือผู้เขียนทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเป็นอย่างดี จิตใจที่ดีงาม ความเป็นห่วงกันและกัน ของคนทั้งคู่คงช่วยผ่านอุปสรรคทั้งมวลไปได้ ขอพระเจ้าของทั้งสองศาสนาอำนวยพรให้พวกเขา  

ความรักเป็นเรื่องจิตและวิญญาณที่เชื่อมสัมพันธ์ของคนคู่ หาใช่ปัจจัยภายนอกอื่นใดเป็นตัวกำหนดไม่ ถึงแม้จะไม่สมหวัง ความรักไม่หวนกลับ จงคิดเสมอว่าสุขใจที่ได้รัก มีบุญที่ได้เจอ สวรรค์ส่งให้เค้ามาเป็นที่รักได้ในเวลาเพียงเท่านี้ ...อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนเชื่อมั่นว่า คู่นักข่าวและสาวนักกิจกรรมของเราโลกเป็นสีชมพูกันไปจนแก่เฒ่าแน่นอน 


ทั้งที่พบกันเพราะการฝากฝังจากเพื่อนที่จาการ์ตา ทั้งคู่เป็นเจ้าบ้านที่น่ารักสรรหาสถานที่ที่ดีเยี่ยม
สำหรับเพื่อนต่างถิ่น พามากินข้าวเย็นกันที่จิมบารัน (เคยโดนระเบิดปี 2005)

 

 

 

บล็อกของ กอแก้ว วงศ์พันธุ์

กอแก้ว วงศ์พันธุ์
 ได้หนังสือเล่มนี้มาเกือบสี่ปีจากร้านขายหนังสือ a different bookstore ในแหล่งช้อปปิ้งชื่ออิสต์วูด เมืองลิบิส ฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นที่รู้จักว่าหากอยากได้หนังสือแปลของนักเขียนเอเชียก็มาที่นี่ได้ เพราะเป็นแหล่งรวมงานเขียนชาวเอเชีย ประเภทประวัติศาสตร์ การเมือง วัฒนธรรมหาได้ง่ายที่สุดแห่งหนึ่งในมนิลา (หวังว่าร้านหนังสือยังไม่เจ๊งไปเสียก่อน)
กอแก้ว วงศ์พันธุ์
ผู้เขียนเคยเข้าพบสัมภาษณ์ผู้บริหารของหนังสือพิมพ์เดอะจาการ์ตาโพสต์ เกี่ยวกับการบริหารงานหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษหนึ่งเดียวในประเทศอินโดนีเซีย ความยากลำบากต่อการอยู่รอด การบริหารงานข่าว ฯลฯ เมื่อห้าปีที่แล้ว จึงขอนำตอนหนึ่งที่น่าสนใจในการพูดคุยกันมาเล่า ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์จาการ์ตา โพสต์ต้องการให้โครงสร้างของบริษัทหรือธุรกิจหนังสือพิมพ์ไม่เป็นที่ผูกขาด หากเป็นของตระกูลใดตระกูลหนึ่ง แน่นอนว่า หนังสือพิมพ์อาจเอนเอียงไปทางใดทางหนึ่งได้ ด้วยวิธีการหลากหลายตั้งแต่การล้อบบี้ การซื้อตัว (เจ้าของสื่อ) การขู่เข็ญ คุกคาม จากบรรดาอำนาจมืดทั้งหลายทั้งปวง
กอแก้ว วงศ์พันธุ์
หลบเรื่องร้อนทางการเมือง ที่ทำให้หัวใจรุ่มร้อน สับสนอลหม่าน วันนี้เลยเปลือยหัวใจ แบบไร้สี เขียนเรื่องความรักของเพื่อนนักข่าวดีกว่า เป็นความรักข้ามพรมแดนและข้ามศาสนาในดินแดนสวรรค์ "บาหลี" อินโดนีเซีย 
กอแก้ว วงศ์พันธุ์
เด็กสาวแนะนำตนเองว่าเป็นนักศึกษาฝึกงานกำลังเรียนอยู่คณะนิเทศศาสตร์วิชาเอกหนังสือพิมพ์ จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เธอมักจะหาโอกาสฝึกงานทุกครั้งที่มหาวิทยาลัยปิดภาคเรียน เพื่อทดลองสนามจริงแทนที่จะเรียนแต่ในห้องเรียนเท่านั้น ผู้เขียนเห็นวิญญาณของความเป็นสื่อของเธอแล้ว เธอน่าจะเป็นสื่อมวลชนคุณภาพดาวเด่นดวงหนึ่งในแวดวงสื่อสารมวลชน หากเธอไม่ติดกรอบและถูกครอบงำจากความกลัวบางอย่างที่เธอเองก็มองไม่เห็นในโครงสร้างของสังคมไทย
กอแก้ว วงศ์พันธุ์
ในบ้านเราเรียกหนังสือพิมพ์ออกเป็น 2 ชนิด หนึ่ง คือหนังสือพิมพ์กระแสหลัก สอง หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น หนังสือพิมพ์กระแสหลักก็หมายถึงหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่เช่น เดลินิวส์ ไทยรัฐ มติชน ฯลฯ ซึ่งจัดพิมพ์อยู่ในกรุงเทพฯ และส่งออกไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทย นำเสนอข่าวในประเทศและข่าวรอบโลก พิมพ์จำหน่ายเป็นรายวัน ส่วนหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นคือ หนังสือพิมพ์ทิ่ผลิตขึ้นในต่างจังหวัด ขายในจังหวัดนั้นๆ ส่วนใหญ่เป็นหนังสือพิมพ์แทปลอยด์ ข่าวส่วนใหญ่นำเสนอข่าวในท้องถิ่น พิมพ์ไม่กี่ฉบับและไม่เป็นหนังสือพิมพ์รายวัน อย่างมากก็รายสัปดาห์ หรือรายเดือน ฉะนั้นสื่อประเภทสิ่งพิมพ์ในไทย…
กอแก้ว วงศ์พันธุ์
   สิ่งที่ดีที่สุดของปีนี้สำหรับผู้เขียนคือ "การได้รักใครบางคน" ช่วงเวลามหัศจรรย์ที่เกิดเมื่อไม่นานนัก แต่สัมผัสได้ว่า การได้รัก (อีกครั้ง) มันเกิดพลังสร้างสรรค์ อยากทำในสิ่งที่เป็นบวกแก่คนรอบข้าง และเมื่อความอ่อนโยนอบอุ่นส่งตอบกลับมา ยิ่งก่อความอิ่มเอิบในใจและอิ่มเอมในอารมณ์ยิ่งนัก จากซึมๆ เศร้าๆ ก็กระฉับกระเฉงอย่างบอกไม่ถูก ความต้องการสรรหาแต่สิ่งดีให้แก่ความรัก ตื่นตัวตลอดเวลา...ถือว่าการได้รักใครบางคน เป็นของสิ่งที่ดีที่สุดและเป็นของขวัญวันปีใหม่ให้กับตัวเอง
กอแก้ว วงศ์พันธุ์
ข่าวการเสียชีวิตของสมาชิกผู้สนับสนุนของกลุ่มการเมืองสองกลุ่มที่ขัดแย้งกันอยู่ขณะนี้ พวกเขาพลีชีพเพราะความเชื่อ ความศรัทธาของพวกเขา ซึ่งเป็นความเชื่อที่บริสุทธิ์ที่เขาแสดงออกต่อสิ่งที่ศรัทธานั้น แต่ไม่มั่นใจว่า พวกเขาเผชิญความรุนแรงถึงขั้นเลวร้ายเช่นนี้ โดยปราศจากแรงขับของความรุนแรงที่สองฝ่ายก่อให้เกิดขึ้น ท่านผู้นำทั้งหลาย ท่านกำลังใช้ความเชื่อ ความศรัทธาของคนเหล่านี้ เพื่อบรรลุเป้าหมาย เกียรติภูมิของท่านผู้นำ ที่ปูด้วยคราบเลือด น้ำตา ของมวลชน ควรภาคภูมิใจล่ะหรือ??? ความเชื่อ ศรัทธาควรเป็นหนทางเพื่อสันติภาพ หากเมื่อใดถูกนำไปสู่ความรุนแรงแล้วไซร้…
กอแก้ว วงศ์พันธุ์
ขอเปิดพื้นที่แทนเรื่อง "สื่อ" ชั่วคราว เพื่ออุทิศให้กับแรงงานที่ประสบเหตุเสียชีวิตจากการลักลอบขนย้ายแรงงานที่สังเวยต่อการเมืองในประเทศพม่าและกระบวนการค้ามนุษย์ในไทย อู วิน (นามสมมติ) เคยทำงานเป็นอาสาสมัครขององค์กรคณะกรรมการเพื่อประชาธิปไตยในพม่า (กรพ.) เพื่อช่วยเหลือแรงงานพม่าในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสึนามิที่จังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่และระนอง โทรมาหาผู้เขียนด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยในเช้าวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา เขาพูดถึงการเสียชีวิตหมู่ของแรงงานพม่าที่ลักลอบเข้ามาทำงานในเมืองไทย จำนวน 54 ศพ เป็นข่าวเกรียวกราวเมื่อหลายเดือนก่อน…
กอแก้ว วงศ์พันธุ์
  เช้าตรู่วันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้เขียนตื่นขึ้นด้วยเสียงโทรศัพท์ของพี่สาวที่โทรหาด้วยน้ำเสียงห่วงใย กลัวว่าจะอยู่ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากเธอยังไม่ได้ออกเวรจากการดูแลคนไข้กะกลางคืน จึงได้เห็นข่าวเช้าของการปราบปรามประชาชนที่หน้ารัฐสภาก่อนที่จะรีบโทรมา คาดว่าด้วยวิสัยของผู้เขียนมักจะร่วมในเหตุการณ์ประท้วงอยู่บ่อยครั้ง ครั้งนี้เธอคาดผิด แต่กลับเป็นความดีใจของเธอที่น้องสาวไม่ได้อยู่ที่นั่น แต่เป็นความกังวลสำหรับผู้เขียนแทนเพราะพี่สาวคนที่สองของบ้านกลับเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ประท้วงและติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรตั้งแต่การชุมนุมครั้งที่สองเริ่มต้นขึ้น…
กอแก้ว วงศ์พันธุ์
นักผจญภัยคนหนึ่งซึ่งเลือกนั่งเรือล่องทะเลผ่านประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นักข่าวเทมโปสัมภาษณ์เขาเมื่อเดินทางมาถึงอินโดนีเซียเพื่อนำเรื่องราวของเขาลงในนิตยสารเทมโป หนึ่งในคำถามนั้นให้เขาแสดงความคิดเห็นกับประเทศที่เขาล่องเรือผ่าน ซึ่งมีไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เขาตอบสิ่งที่ดีที่สุดในแต่ละประเทศ ประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด แต่ประเทศที่เขาบอกว่าอยู่แล้วสบายใจที่สุดคือ ประเทศอินโดนีเซีย เพราะเป็นประเทศเสรี ผู้คนเป็นมิตร และให้พื้นที่กับคนต่างถิ่นมากกว่าประเทศอื่นๆ ที่เขาผ่านมา ออกจะเห็นด้วยกับนักผจญภัย ....…
กอแก้ว วงศ์พันธุ์
ไทยและอินโดนีเซียในระดับการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยอำนาจที่มีความหมายต่อประเทศ ที่มีมายาวนาน และเรารับทราบไม่กว้างขวางมาก เลยลงภาพให้ชมกัน ในแง่ความหลากหลายของศาสนาและชาติพันธุ์นั้น ประเทศอินโดนีเซียยึดเป็นหลักธรรมนูญของประเทศ อินโดนีเซียได้ชื่อว่ามีวัดไทย จำนวนมากตั้งอยู่ทั่วประเทศ ไม่ต่างจากอเมริกา ความเป็นชาตินิยมแบบอินโดนีเซียจึงแตกต่างอย่างมากจากความเป็นชาตินิยมของไทยค่อนข้างมาก  สัญลักษณ์รูปช้างสร้างเป็นที่ระลึกหน้าพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอินโดนีเซีย
กอแก้ว วงศ์พันธุ์
แค่ตั้งชื่อก็สะดุ้งเอง แต่แน่ใจว่าต้องใช้ชื่อนี้ เพราะเหตุเกิดที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปี ค.ศ. 1946 ค่ะ เป็นกลุ่มทหารปฏิวัติหรือกลุ่มกบฎ นำโดย Gusti Ngurah Rai นายทหารผู้ก่อตั้ง กองทัพปลดปล่อยอิสรภาพจากการรุกรานของประเทศอาณานิคมดัทช์ และญี่ปุ่น เมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นถอนทัพออกจากบาหลี ก็เป็นโอกาสให้ดัทช์ เจ้าอาณานิคมเก่าเข้ามาครอบครองบาหลีอีกครั้ง โดยครั้งนี้ต้องการรวมบาหลีเข้ากับอินโดนีเซีย ทหารและประชาชนชาวบาหลี ซึ่งมาจากทั่วทั้งเกาะบาหลี จึงพร้อมใจกันเข้าต่อสู้กับกองทัพดัทช์ ผู้ซึ่งมีกองกำลังพร้อมอาวุธทันสมัย แต่ทหารบาหลีมีเพียงอาวุธของชาวญี่ปุ่น…