Skip to main content

Henk Sneevliet (ภาพจาก Wikipedia)

บริเวณหลุมฝังศพของ เฮงค์ สเนฟลีตกับสหายอีกเจ็ดคนถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้นานาชนิดจากผู้ที่มารำลึกถึงวันครบรอบวันเสียชีวิตของเขา

เมื่อวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2013 ดิฉันได้มีโอกาสไปร่วมงานรำลึกถึงวันครบรอบวันเสียชีวิตปีที่ 71 ของ เฮงค์ สเนฟลีต (Henk Sneevliet) ที่หลุมฝังศพของเขา ณ เมืองดรีเฮ้าส์ (Driehuis) อยู่ในจังหวัดฮอล์แลนด์เหนือของประเทศเนเธอร์แลนด์ จริงๆ แล้ววันครบรอบวันเสียชีวิตของเขาคือวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 1942 ซึ่งเป็นวันที่เขาถูกตัดสินประหารชีวิตโดยกองทัพนาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

ผู้ที่มาร่วมงานรำลึกในวันนั้นมีประมาณสามสิบกว่าคน ส่วนมากเป็นผู้สูงวัยผู้ซึ่งเป็นญาติรุ่นหลาน, เหลน, สหายพรรคสังคมนิยม, เพื่อนๆ ของญาติ, ชาวดัตช์และชาวอินโดนีเซียผู้สนใจและชื่นชมเฮงค์ สเนฟลีต และนักข่าวจากอินโดนีเซียคือวารสาร Historia, Tempo และนักข่าวต่างชาติอื่นๆ ผู้มาร่วมงานทยอยเดินทางมาถึงที่จัดงานตั้งแต่เวลาประมาณสิบโมงครึ่ง โดยทักทายกันและนั่งพูดคุยกันในร้านกาแฟทางเข้าสุสาน เวลาประมาณสิบเอ็ดโมงครึ่งมีการประกาศให้ทุกคนออกไปรวมตัวกันหน้าร้านกาแฟเพื่อที่จะเดินไปยังสุสานของ เฮงค์ สเนฟลีต ระยะทางไม่ไกลมากนัก ประมาณสิบนาทีพวกเราก็ไปถึง ณ สุสานของ เฮงค์ สเนฟลีต ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นหลุมฝังศพของเขา เนื่องจากเคยสอนเรื่องขบวนการคอมมิวนิสต์ในอินโดนีเซีย และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่เอ่ยถึงชี่อของเขา แต่ก็เพิ่งจะทราบว่าออกเสียงชื่อเขาผิดมาตลอด

ผู้มาร่วมงานรำลึกค่อยๆ เดินไปยังหลุมฝังศพของเฮงค์ สเนฟลีต

ที่หน้าหลุมฝังศพของเขาถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้นานาชนิดหลากสีสรร แต่ส่วนมากจะเป็นดอกทิวลิป เบื้องหน้าสุสานเป็นทางเดินและสนามหญ้า ซึ่งมีเก้าอี้จัดไว้สี่ห้าตัวสำหรับผู้เข้าร่วมงานที่อาวุโสมาก งานเริ่มด้วย Dick de Winter ประธานและตัวแทนของคณะกรรมการรำลึกสเนฟลีต (Sneevliet Herdenkingscomité) กล่าวต้อนรับและรำลึกถึงเฮงค์ สเนฟลีต เป็นภาษาดัตช์ และเขาได้กล่าวเชิญให้ Bonnie Triyana นักข่าวจากวารสาร Historia จากอินโดนีเซียขึ้นกล่าวสดุดีเฮงค์ สเนฟลีต หลังจากนั้นก็มีคนขึ้นอ่านบทกวีและกล่าวรำลึกถึงเฮงค์ สเนฟลีตอีกสองคน และทุกคนก็ยืนสงบนิ่งรำลึกถึงเฮงค์ สเนฟลีต

Dick de Winter ประธานคณะกรรมการรำลึกสเนฟลีต

ผู้เข้าร่วมงานรำลึกถึงเฮงค์ สเนฟลีต

Bonnie Triyana นักข่าวจากวารสาร Historia จากอินโดนีเซีย (ภาพโดย Siswa Santoso)

หลังจากนั้นผู้เข้าร่วมก็เดินทางไปรวมตัวกันที่องค์กรแห่งหนึ่งเพื่อพูดคุย กินดื่มอาหารว่างเบาๆ กันและมีการขายหนังสือเกี่ยวกับสังคมนิยมในเนเธอร์แลนด์ก่อนจะแยกย้ายกันกลับ

บรรยากาศการนั่งพูดคุยพร้อมกับรับประทานอาหารว่างหลังงานรำลึกที่หลุมฝังศพ

ที่ใกล้ๆ กับหลุมฝังศพของเฮงค์ สเนฟลีตประมาณ 20 เมตรมีอนุสาวรีย์ Multatuli ตั้งอยู่ Multatuli เป็นผู้เขียนนิยายเรื่อง Max Havelaar อันเลื่องลือซึ่งได้ฉีกหน้ากากระบอบอาณานิคมของฮอลันดาในอินโดนีเซีย Multatuli เป็นหนึ่งในผู้ที่มีอิทธิพลต่อความคิดของเฮงค์ สเนฟลีต เป็นอย่างมาก ที่อนุสาวรีย์ Multatuli มีตัวอักษรสลักเป็นภาษาดัตช์ความว่า “De roeping van de mens is mens te zijn.” ซึ่งแปลว่า “หน้าที่ของมนุษย์คือการเป็นมนุษย์” 

อนุสาวรีย์ Multatuli 

ดิฉันมีโอกาสได้คุยกับหลานสาวคนหนึ่งของเฮงค์ สเนฟลีต ชื่อ Ellen Santen เธอเล่าว่า เฮงค์ สเนฟลีตถูกประหารชีวิตเมื่อเธอยังเด็กมาก เธอจำอะไรเกี่ยวกับเขาไม่ได้มาก แต่ครอบครัวของเธอเล่าถึงความกล้าหาญและการต่อสู้ของเฮงค์ สเนฟลีตเสมอ พวกเขาภูมิใจในสิ่งที่ เฮงค์ สเนฟลีตได้กระทำ และสิ่งที่เธอจำได้ดีเกี่ยวกับเฮงค์ สเนฟลีตคือ เขามักจะเล่นกับเธอและร้องเพลงให้เธอฟัง และเรื่องเล่าที่ทุกคนเล่าให้ฟังเหมือนกันหมดก็คือในตอนที่เขาจะถูกประหารชีวิตพร้อมๆ กับสหายอีกเจ็ดคน พวกเขาร้องเพลงแองเตอร์นาซิอองนาลโดยที่ไม่ได้ยี่หระต่อความตายตรงหน้าเลย และเฮงค์ สเนฟลีตขอเป็นคนสุดท้ายที่จะถูกยิง Ellen กล่าวว่าเรื่องร้องเพลงนี้เป็นเรื่องจริง เพราะมีหลักฐานว่ามีคนที่ถูกขังที่คุกนั้นได้ยินเสียงพวกเขาร้องเพลงนี้ก่อนถูกประหารชีวิต

คราวหน้าดิฉันจะเล่าชีวประวัติของเฮงค์ สเนฟลีตว่าเขาไปเคลื่อนไหวจัดตั้งสมาคมสังคมประชาธิปไตยแห่งอินดีส (Indische Sociaal-Democratische Vereeniging - Indies Social Democratic Association) ซึ่งต่อมาได้พัฒนามาเป็นพรรคคอมมิวนิสต์อินโดนีเซีย (Partai Komunis Indonesia) ได้อย่างไร จนกระทั่งถูกนาซีจับและประหารชีวิตในปีค.ศ. 1942

บล็อกของ onanong

onanong
 ศัพท์ใหม่ (Kosa kata baru)Negara-negara (เนอการา เนอการา) ประเทศต่างๆ
onanong
 ห่างหายกันไปสักพักใหญ่นะคะสำหรับการสอนภาษาอินโดนีเซียผ่านบล็อก “Selamat Datang” คราวนี้ขอเสนอโครงสร้างประโยคบอกเล่าง่ายๆ ในภาษาอินโดนีเซียค่ะ
onanong
บทสัมภาษณ์ ผู้อำนวยการกลุ่ม Tikar Pandan สถาบันทางวัฒนธรรมพร้อมกับสำนักพิมพ์ที่ไม่แสวงหากำไร และมีส่วนร่วมในการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์สิทธิมนุษยชนอาเจะห์ ซึ่งเปิดพื้นที่มากกว่าการบอกเล่าแบบที่รัฐผลิตให้วาทกรรมการชื่นชมทหาร  และการบูชาวีรบุรุษของรัฐชาติ หากแต่ประชาชาชนจำนวนมากเช่นกันที่มีประวัติศาสตร์ความเจ็บปวดและเลวร้ายจากทหาร
onanong
 ตามคำเรียกร้องของแฟนบล็อกนะคะ คราวนี้ขอเสนอคำที่แสดงความรู้สึกในภาษาอินโดนีเซียพร้อมกับตัวอย่างการใช้ค่ะ
onanong
 เซอลามัต มาลัม (Selamat malam) สวัสดีตอนค่ำค่ะ ขอยึดเวลา ณ ตอนที่เขียนแล้วกันนะคะ คราวนี้จะขอพูดถึงการนับตัวเลขและลำดับที่ในภาษาอินโดนีเซียนะคะ
onanong
เชื่อว่าชื่อเมืองบันดุง ในประเทศอินโดนีเซียอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูคนไทยเท่ากับเมืองหลวงอันแสนวุ่นวายอย่างจาการ์ตา, เมืองแห่งการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมฮินดูและธรรมชาติอย่างบาหลี หรือเมืองแห่งวัฒนธรรมชวาอย่างย็อกยาการ์ตา ทั้งๆ ที่บันดุงเป็นเมืองที่มีความสำคัญมากเมืองหนึ่ง และมีความเป็นมาน่าสนใจไม่แพ้เมืองอื่นๆ เชียวค่ะ
onanong
 ช่วงนี้เป็นช่วงแห่งเทศกาลเฉลิมฉลอง ทั้งวันคริสต์มาสและกำลังต่อด้วยปีใหม่ ดังนั้นดิฉันก็เลยถือโอกาสพูดถึงการอวยพรในภาษาอินโดนีเซียนะคะ 
onanong
 ในขณะที่ดิฉันกำลังคิดว่าจะเขียนเรื่องอะไรดีเพื่อคั่นการสอนภาษาอินโดนีเซีย คิดว่าถ้าสอนภาษาอินโดนีเซียทุกอาทิตย์มันจะน่าเบื่อเกินไป วันนี้ (19 ธันวาคม 2012) ก็ได้อ่านสเตตัสของเพื่อนชาวอาเจะห์ที่ใช้ชื่อว่า “Dody Maubelajar” ซึ่งน่าสนใจมาก ดิฉันจึงได้ขออนุญาตเขาแปลมาเผยแพร่ต่อสำหรับผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์บาดแผลของประเทศอินโดนีเซีย