Skip to main content

ขนิษฐา คันธะวิชัย

ข้าพเจ้าทราบข่าวว่าในวันที่ 2 พฤษภาคม 2551 ได้เกิดพายุไซโคลนนาร์กีส จากอ่าวเบ็งกอร์  อันที่ได้สร้างความเสียหายทางด้านชีวิต และทรัพย์สินแก่ประชาชนชาวพม่า ที่อาศัยอยู่ในเขตตอนล่างของประเทศจีน จนถึงกลุ่มชนมอญ กระเหรี่ยง เป็นจำนวนมาก

โดยเป็นตัวแทนรัฐบาล ประชาชน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจ และเห็นใจมายังท่าน และประชาชนชาวพม่า จะสามารถฟื้นฟูเขตที่เกิดความเสียหายจากภัยพิบัติในครั้งนี้

ด้วยความเคารพและนับถืออย่างสูง

นครหลวงเวียงจันทน์ วันที่ 5 พฤษภาคม 2551

 

ข้างต้นนี้เป็นสาส์นแสดงความเสียใจที่ฯพณฯท่านบัวสอน บุบผานุวง นายกรัฐมนตรีแห่ง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวส่งถึงนายพลเต็ง เส่ง นายกรัฐมนตรีแห่งสหภาพพม่า ซึ่งเป็นประเทศเดียวที่ผู้เขียนมีโอกาสอ่านข้อความในสาส์นแสดงความเสียใจ ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นสมาชิกชมรมเยาวชนมอญกรุงเทพ ก็รู้สึกซึ้งใจที่รัฐบาลลาวไม่ได้มองข้ามการมีอยู่ของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆในพื้นที่ที่ประสบภัย

จากการที่รายงานข่าวว่า “พายุไซโคลนถล่มพม่า” ทำให้คนทั่วไปมักจะนึกถึงชาวพม่าโดยรวมๆ แต่อันที่จริง ลึกลงไปในคำว่า “พม่า” ก็ยังมี มอญ กะเหรี่ยง และกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ อีกด้วย

ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวกับผู้เขียนว่า พื้นที่ที่ได้รับภัยพิบัติมากที่สุดคือบริเวณ Delta (ปากแม่น้ำ) ซึ่งเดิมเป็นที่อยู่ของชาวมอญ โดยมากหัวเมืองมอญจะอยู่ริมทะเล แต่ภายหลังพื้นที่ในบริเวณนั้นมีชาวกะเหรี่ยงเข้าไปอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก นั่นก็เป็นไปได้ว่า ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ก็จะมีทั้งพม่า มอญ กะเหรี่ยง ที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ใหญ่ในพื้นที่ นอกจากนี้ผู้เขียนได้ดูแผนที่ของบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากพายุ ก็พบว่าบริเวณตอนเหนือของรัฐมอญก็ได้รับผลกระทบด้วย ซึ่งนั่นก็ทำให้ผู้เขียนแทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้ คิดแต่ว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยเหลือชาวมอญในพม่าที่อาจจะโดนละเลยในการส่งความช่วยเหลือเพราะว่าเป็นคนของกลุ่มชาติพันธุ์ที่ต่อต้านรัฐบาล (อย่าหาว่าลำเอียงห่วงแต่มอญเลย ก็เพราะเราเป็นสมาชิกชมรมเยาวชนมอญกรุงเทพนี่นา)

ong_20080615-225654.jpg
แผนที่ประเทศพม่า แสดงพื้นที่บริเวณปากน้ำอิรวดี (Delta) ด้านซ้ายและรัญมอญด้านขวา

เรื่องนี้ อ.พรพิมล ตรีโชติ นักวิจัยที่เชี่ยวชาญเรื่องพม่าประจำสถาบันเอเชียศึกษาได้ให้ความเห็นกับผู้เขียนว่า ไม่ใช่เพียงชาวมอญหรือกะเหรี่ยงเท่านั้นที่จะไม่ได้รับความช่วยเหลือ ชาวพม่าก็ไม่น่าจะได้รับความช่วยเหลือด้วย เพราะทหารพม่าถูกฝึกให้ควบคุมประชาชน ไม่ได้ถูกฝึกให้มาบริการประชาชน โดยเฉพาะในระยะหลังพื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่ของกองกำลังกระเหรี่ยงเคเอ็นยู มีหรือที่รัฐบาลทหารพม่าจะรีบตัดสินใจเปิดรับการช่วยเหลือจากต่างชาติ หรือรีบส่งความช่วยเหลือไป

เมื่อได้ยินดังนั้นผู้เขียนจึงกุมขมับอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะลงมือตรวจสอบข้อมูลความเสียหายในรัฐมอญตามศักยภาพอันน้อยนิดที่ผู้เขียนมี แต่ก็ไม่สามารถติดต่อคนเหล่านั้นได้ เนื่องจากช่วงนั้นใกล้วันลงประชามติในพม่า คนที่ผู้เขียนรู้จักก็คงจะเดินทางเข้าไปในพม่ากันหมดตั้งแต่ก่อนพายุแล้ว

ในช่วงที่พยายามติดตามข่าวเรื่องภัยพิบัติไซโคลนในพม่าอยู่นั้น ไม่มีสื่อใดให้รายงานความเสียหายที่กลุ่มชาติพันธุ์ได้รับ โดยมักจะรายงานถึง “พม่า” โดยรวม อาจมีการพูดถึงมอญและกะเหรี่ยง บ้าง แต่ก็น้อยมาก ซึ่งผู้เขียนเห็นว่านั่นไม่ใช่ความผิดของสื่อแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าการดูข่าวของสำนักข่าวต่างๆ นั้น ไม่สามารถตอบคำถามของคนมอญในไทยหรือคนที่สนใจกลุ่มชาติพันธุ์ในพม่าไม่ได้ ว่า
“แล้วสถานการณ์ของคนมอญคนกะเหรี่ยงที่ได้รับผลกระทบด้วยนั้นเป็นอย่างไร”

ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นสมาชิกชมรมเยาวชนมอญกรุงเทพ ก็มีหน้าที่เผยแพร่เรื่องราวของชาวมอญให้สังคมได้รับรู้ โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นเรื่องของมอญไทย หรือมอญในประเทศพม่า ซึ่งรัฐมอญก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แม้ใจจริงผู้เขียนก็อยากจะรู้ถึงสถานการณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ที่อยู่ในเขตเดลต้าเหลือเกิน แต่นั่นก็เกินศักยภาพของผู้เขียนที่จะหาข่าวได้ ดังนั้นสิ่งที่จะรายงานต่อไปนี้จะเป็นสถานการณ์ในรัฐมอญที่อยู่ห่างออกมาจากเดลต้า

ผู้เขียนติดตามข่าวจากหนังสือพิมพ์ Independent Mon News Agency ว่ารัฐมอญได้รับความเสียหายน้อย เมื่อเทียบกับความเสียหายในเขตเดลต้า โดยในรัฐมอญก็มีรายงานความเสียหายคือหมู่บ้านประมงหายไป คนจำนวนสิบกว่าคนไร้ที่อยู่ และมีต้นไม้ล้ม หลังคาปลิว นี่คือข้อมูลทั้งหมดที่ผู้เขียนได้รับ ซึ่งก็ไม่ได้บอกถึงสถานการณ์ของคนเหล่านั้นว่ามีสภาพความเป็นอยู่อย่างไร แต่ก็อนุมานเอาว่าคงจะได้รับความลำบากเช่นกัน

 

ong_20080615-225703.jpg
ภาพถ่ายทางอากาศบริเวญปากน้ำอิรวดีภายหลังพายุไซโคลนนาร์กีสกระหน่ำ

 

เมื่อรัฐมอญได้รับความเสียหายบ้างแต่น้อยกว่าทางเดลต้า ผู้ที่เสียหายน้อยกว่าก็ต้องช่วยเหลือผู้ที่เสียหายมากกว่า จนถึงวันนี้ เหตุการณ์ผ่านมา 1 เดือนแล้ว รัฐบาลพม่ายอมรับความช่วยเหลือจากนานาชาติมากขึ้น แต่ความเสียหายนั้นก็ยังคงส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องตามปกติของการเกิดภัยพิบัติ และผู้ที่มีชีวิตรอดก็ต้องลำบากและอยู่กับความเศร้าความน่าสะเทือนใจกันต่อไป ในกรณีของชาวมอญที่อยู่ในรัฐมอญนั้น ข่าวใน Independent  Mon News Agency รายงานว่าหมู่บ้านมอญที่อยู่ริมทะเลได้รับคำสั่งให้เผาหรือฝังศพที่ลอยน้ำมา โดยมีการเรียกเก็บเงินบ้านละ 1,000 จ๊าด เพื่อนำมาใช้จ่ายในการจัดการศพที่ลอยมาติดชายหาดในเมืองเยซึ่งมีมาทุกวัน

ผู้เขียนจำได้ว่าช่วงที่เกิดพายุเกย์ในชุมพร ปี 2532 นั้น ผู้คนไม่ยอมรับประทานกุ้ง เนื่องจากกุ้งมักเกาะตามซากศพของผู้ประสบภัย ซึ่งเหตุการณ์พายุนาร์กีซนี้ก็เช่นกัน ราคาปลาในประเทศพม่าตกลงถึงร้อยละ 40 ในขณะที่ราคาเนื้อหมูและไก่ก็สูงขึ้น ในข่าวยังรายงานด้วยว่า มีศพอย่างน้อย 300 ศพที่ลอยมาถึงรัฐมอญทางใต้และก็ได้รับการฝังหรือเผาไปแล้ว บางศพไร้ขา บางศพไร้มือ หลายศพติดมากับแหอวนของชาวประมงและนั่นก็ทำให้ผู้คนไม่กล้ารับประทานอาหารทะเล  นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามีการบังคับให้ชาวมอญในมะละแหม่งและเมืองอื่นๆ บริจาคให้ผู้ประสบภัยครอบครัวละ 3,000 จ๊าด หรือหากบ้านไหนที่มีมีมอร์เตอร์ไซค์ และเครื่องเล่นวีดีโอ ก็จะโดนให้บริจาคเพิ่มมากชึ้น

เมื่อพื้นที่อิระวดี ย่างกุ้ง ซึ่งเป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่สุดของประเทศ เป็นแหล่งปลูกข้าวส่งออกและเลี้ยงคนในประเทศได้รับความเสียหาย กลับกลายเป็นแหล่งโรคระบาด งูชุกชุม ไม่สามารถอาศัยอยู่หรือทำมาหากิน ผู้คนที่รอดชีวิตก็ต้องอพยพจากพื้นที่ด้วยถูกภัยธรรมชาติบังคับ ในตอนนี้ผู้คนในแถบปากแม่น้ำอิระวดีได้พากันลงมายังตอนใต้ ซึ่งก็คือเมืองเยในรัฐมอญซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบน้อย มีรายงานว่ามีผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ (IDP) เข้ามาในเมืองเยเป็นจำนวนถึง 400-500 คนต่อวันเลยทีเดียว

ในส่วนของการเตือนภัยหากจะมีพายุครั้งต่อไปนั้น ผู้คนในรัฐมอญบางส่วนก็ได้รับคำเตือนจากทหารพม่าว่าอาจมีพายุอีกลูกในกลางเดือนนี้ ขอให้ชาวบ้านย้ายไปอยู่ในที่สูงและสังเกตสัญญาณธงให้ดี หากเป็นธงแดงให้รีบหนีภัยโดยด่วน และเพื่อป้องกันภัยหากเกิดพายุขึ้นจริงๆ ชาวบ้านในรัฐมอญได้ตัดต้นไม้เก่าๆ ภายในบริเวณบ้านและตามท้องถนนออก มิให้ต้นไม้เก่าโค่นล้มทับตัวบ้านหรือกีดขวางถนนและเป็นอันตรายต่อผู้คน

และนี่ก็คือสถานการณ์คร่าวๆ ในรัฐมอญหลังพายุไซโคลนนาร์กีซ

ปล. หากผู้อ่านท่านใดสงสัยว่า แล้วทางการลาวได้ให้ความช่วยเหลือแก่พม่าอย่าใดบ้างหรือไม่ จากข่าวในหนังสือพิมพ์เวียงจันใหม่ วันที่ 4 มิถุนายน 2551 รายงานว่า ลาวได้ส่งทีมแพทย์ไปช่วยเหลือพม่าเป็นจำนวน 21 คน และได้มอบยาและอุปกรณ์การแพทย์ ไฟฟ้าสำรอง 2 เครื่อง และเครื่องอุปโภคให้แก่สาธารณสุขเมืองจาวตัน  รวมมูลค่ามูลค่า 69,992 ดอลลาร์สหรัฐ (อ้างอิงจากศูนย์ข้อมูลอินโดจีนศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพา http://www.isc-gspa.org/News_isc/view1.asp?id=432 )

บล็อกของ องค์ บรรจุน

องค์ บรรจุน
คนส่วนใหญ่รับรู้ว่าวัดชนะสงครามเป็นวัดมอญ ใช่ว่าคนสนใจประวัติศาสตร์จึงได้รู้ความเป็นมาของวัด แต่เป็นเพราะหน้าวัดมีป้ายโลหะสีน้ำตาลที่ทางการชอบปักไว้หน้าสถานที่ท่องเที่ยว ความระบุประวัติไว้ว่าวัดนี้เป็นวัดของพระสงฆ์ฝ่ายรามัญ (มอญ) แต่ก็ไม่แน่ใจนัก คนสมัยนี้อาจเข้าใจว่ามอญเป็นชื่อต้นไม้จำพวกเห็ดราปรสิตชนิดหนึ่งก็ได้
องค์ บรรจุน
องค์ บรรจุน   การสื่อสารระหว่างมนุษย์ด้วยวิธีต่างๆ เพื่อให้ฝ่ายหนึ่งรับรู้ความหมายจากอีกฝ่ายหนึ่ง และเกิดการตอบสนอง นับแต่โบราณกาลมีตั้งแต่การสุมไฟให้เกิดควัน นกพิราบสื่อสาร ปัจจุบันการสื่อสารมีหลายวิธีรวดเร็วทันใจมากขึ้น อาจเป็นวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ โทรศัพท์มือถือ ดาวเทียม ระบบโทรคมนาคม หรือการสื่อสารระบบเครือข่ายที่อาศัยดาวเทียมและสายเคเบิลใยแก้ว ที่เรียกว่า อินเตอร์เน็ต ก็ได้ ส่วนภาษาที่มาพร้อมกับวิธีการสื่อสารเหล่านั้น เป็นเครื่องมือที่สำคัญซึ่งมีพัฒนาการไม่หยุดนิ่ง มีการหยิบยืมคำในภาษาอื่น เปลี่ยนรูปแบบและความหมายตลอดเวลา…
องค์ บรรจุน
องค์ บรรจุน   พิพิธภัณฑ์ในประเทศไทยนั้นมีมาอย่างน้อยก็ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ ถึงแม้ว่าจะเริ่มต้นจากการหาที่เก็บของเก่าก็ตาม แต่จากประสบการณ์ที่ว่านี้ ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่กำลังคิดทำพิพิธภัณฑ์ว่าจะใช้เก็บของเก่าหรือใช้เป็นสถานที่เรียนรู้ โดยเฉพาะในยุคที่ผู้คนเริ่มเห็นคุณค่าท้องถิ่นของตน การตัดสินใจเกี่ยวกับท้องถิ่นจึงควรมาจากท้องถิ่นเพื่อประโยชน์ของท้องถิ่น
องค์ บรรจุน
องค์ บรรจุน     หญ้าขัดมอญ เป็นพืชล้มลุก ทรงพุ่มเตี้ย ตระกูลเดียวกับชบา ขึ้นเองตามธรรมชาติไม่ต้องปลูกและดูแลรักษา คนในสังคมเมืองคงไม่คุ้นชื่อคุ้นต้นไม้ชนิดนี้ หลายคนเห็นเป็นวัชพืชอย่างหนึ่งที่ต้องกำจัด นอกจากบางคนที่ช่างสังเกตธรรมชาติรอบตัวก็อาจจะพบว่า หญ้าขัดมอญ เป็นไม้พุ่มเตี้ยแตกกิ่งก้านหนาแน่น ใบเล็กเรียวเขียวเข้ม ยิ่งเวลาออกดอก สีเหลืองอ่อนหวานพราวพรายรายเรียงอยู่ทั่วทุกช่อใบ ชวนมองไม่น้อย แถมมีประโยชน์ในครัวเรือนหลายอย่าง ทั้งด้านการใช้สอยและสรรพคุณทางสมุนไพร
องค์ บรรจุน
องค์ บรรจุน บทสรุปย่อสำหรับผู้บริหาร (Executive Summary) ของศูนย์พม่าศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร ในการนำการเสนอโครงการวิจัย ชุด "โครงการประเทศพม่าศึกษา" ชื่อหัวข้อวิจัย คือ "มโนทัศน์ทางการเมืองของรัฐพม่าบนพื้นที่สื่อรัฐบาลทหาร" ที่ผ่านการอนุมัติจากสกว.
องค์ บรรจุน
  องค์ บรรจุน ๗ กรกฏาคม ที่ผ่านมาเป็นวันอาสาฬหบูชา รุ่งขึ้นก็เป็นวันเข้าพรรษา วันสำคัญของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก เมื่อมีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน ผู้คนจึงออกต่างจังหวัดกันมาก ถนนช่วงนั้นจึงโล่งอย่างเทศกาลใหญ่ๆ ทุกครั้ง เปิดทีวีมีแต่ข่าวขบวนแห่เทียนเข้าพรรษากันทัวประเทศ ยิ่งใหญ่เท่าไหร่ แปลกเท่าไหร่ยิ่งดี บางจังหวัดไม่เคยจัดก็สู้อุตส่าห์ซื้อช่างแกะเทียนค่าตัวแพงลิบมาจากอุบลราชธานี กลายเป็นว่าทุกวันนี้คนทำเทียนเข้าพรรษาเพื่อขายการท่องเที่ยว ไม่ได้ถวายให้พระใช้งานจริงขณะนั้นเวลา ๑๐.๓๐ น. ผมนั่งอยู่โคนต้นอโศกอินเดียภายในวัดชนะสงคราม ความคลุกคลีกับวัดวามานานจึงพาลห่างวัด…
องค์ บรรจุน
องค์ บรรจุนบทความชิ้นนี้ไม่มีเจตนาตั้งชื่อเลียน "ชัตเตอร์กดติดวิญญาณ" เพราะในภาพยนตร์นั้น เจ้าของกล้องกดชัตเตอร์ติดวิญญาณผีที่เขาขับรถชนและหนีไป ทว่าในที่สุดวิญญาณก็ตามทวงเอาชีวิต ซึ่งต่างจากบทความนี้อย่างสิ้นเชิง เนื่องจาก เจ้าของกล้องถ่ายภาพนับร้อยที่กดชัตเตอร์ใส่ผีตนหนึ่ง คล้ายมหรสพที่นักการเมืองจัดให้ชาวบ้านในฤดูหาเสียง แต่ที่ร้ายก็คือ อำนาจของชัตเตอร์กลับสะกดให้ผีตกอยู่ใต้อำนาจของมนุษย์อย่างที่ผีไม่สามารถเอาคืนได้
องค์ บรรจุน
องค์ บรรจุน แค่อ่านชื่อเรื่องหลายคนคงรู้จักคุ้นเคยกันดีว่านี่คือเนื้อเพลง “สยามเมืองยิ้ม” สำหรับคนที่เป็นคอลูกทุ่งยิ่งต้องรู้ว่า เพลงนี้ขับร้องโดยราชินีเพลงลูกทุ่งผู้ล่วงลับ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ส่วนผู้ประพันธ์เนื้อเพลงเป็นครูเพลงคู่บุญของเธอ ลพ บุรีรัตน์ 
ได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรกก็สัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ในความเป็นชาติ รู้สึกทันทีว่าไพเราะกินใจ ซาบซึ้งไปกับบทเพลง ยิ่งฟังยิ่งเพราะ ขนาดที่เมื่อสิบกว่าปีก่อนเคยส่งเทปจัดรายการเพลงไปประกวดดีเจทางคลื่น “สไมล์เรดิโอ” ใช้เพลง “สยามเมืองยิ้ม” เป็นเพลงปิดรายการ ได้เข้ารอบแรกเสียด้วยแต่ตกรอบ ๒๐ คนสุดท้าย เพื่อนๆ ที่รอฟังและตามลุ้นพูดเหมือนกันว่า “สมควรแล้ว…
องค์ บรรจุน
  องค์ บรรจุน คนทั่วไปสับสนเกี่ยวกับลักษณะสายพันธุ์และชื่อเรียกของ "กระเจี๊ยบ" ว่าเป็นอย่างไรและเรียกว่าอะไรกันแน่ จะมีสักกี่คนที่รู้ถึงที่มาและคุณค่ามากมายมหาศาลของกระเจี๊ยบบ้านมอญในชนบทหลายแห่งเคยมีต้นกระเจี๊ยบริมรั้ว ริมคลองหนองบึง สำรับกับข้าวเคยมีแกงกระเจี๊ยบไม่ขาด แต่ทุกวันนี้ "กระเจี๊ยบ" เริ่มเลือนหายไปจากชีวิต ชนิดที่ไม่มีใครอาลัยอาวรณ์นัก แม้แต่จะนึกถึงความหลังที่แกงกระเจี๊ยบเคยอยู่คู่ครัวมาแต่อ้อนแต่ออก
องค์ บรรจุน
องค์ บรรจุนหลายปีก่อนผู้เขียนเคยนั่งตากลม น้ำลายบูด หันซ้ายทีขวาที อยู่กลางวงสนทนาของผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการประวัติศาสตร์ สังคมศาสตร์ และมานุษยวิทยา ในวงนั้นมี รศ.ศรีศักร วัลลิโภดม อยู่ด้วย ท่านพูดถึงความหลากหลายทางชาติพันธุ์ในเมืองไทยไว้ประมาณว่า สังคมไทยหลอมรวมมาจากผู้คนและวัฒนธรรมของคนหลายกลุ่ม ความเป็นไทยแท้นั้นจึงเป็นเรื่องโกหก โดยเฉพาะคนไทยที่ไม่มีสายเลือดอื่นเจือปนนั้นไม่มีจริงในโลก ในวันนั้นผมได้ยินคำอาจารย์ศรีศักรชัดถ้อยชัดคำเต็มสองหูว่า "ที่ไหนมีคนไทยแท้ช่วยมาบอกที จะเหมารถไปถ่ายรูปคู่เก็บไว้เป็นที่ระลึก และจะกราบตีนงามๆ สักที อยากเห็นจริงๆ..."
องค์ บรรจุน
 องค์ บรรจุนธรรมเนียมไทยแท้แต่โบราณ "ใครถึงเรือนชานต้องต้อนรับ" หัวเรื่องที่จั่วไว้ด้านบนบทความนี้ ถือเป็นคุณสมบัติอันน่าภาคภูมิของคนไทยอย่างหนึ่ง คนไทยทั้งผองเชื่อกันว่าคนไทยมีข้อดีงามหลายอย่าง เป็นต้นว่า โอบอ้อมอารีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ กตัญญูรู้คุณ ซื่อสัตย์สุจริต ยิ้มสยาม หรือแม้แต่ "รักสามัคคี" และ "ไทยนี้รักสงบ..." ล้วนเป็นความดีเด่นประจำชนชาติไทยตามลัทธิอัตตานิยม "คนไทยดีที่สุดในโลก" ดังนั้นเมื่อหมอดูทำนายคนไทยหน้าไหนก็ตามว่าเป็นคนดีดังกล่าวข้างต้น จึงไม่มีใครปฏิเสธว่าหมอดูไม่แม่น
องค์ บรรจุน
ถุงผ้าไม่ได้ลดโลกร้อน เพราะการใช้ถุงผ้าตามกระแสโดยเข้าไม่ถึงหลักใหญ่ใจความ ขณะที่ปริมาณการใช้ถุงพลาสติกยังคงเดิม คงไม่ต้องไปดูไหนไกลอื่น แค่เพียงเราสำรวจดูที่บ้านว่าเรามีถุงผ้าอยู่ในครอบครองกี่ใบ แต่ละวันที่เราออกไปทำธุระนอกบ้าน หรือเวลาที่ตั้งใจไปจ่ายตลาด มีใครสักกี่คนที่เอาถุงผ้าหรือตะกร้าติดตัวไปด้วย และในบรรดาคนที่เอาถุงผ้าหรือตะกร้าติดตัวไปด้วยนั้น จะมีใครบ้างไหมที่ปฏิเสธแม่ค้าว่าไม่เอาถุงพลาสติก โดยเฉพาะแม่ค้าในตลาดสด "ไม่ต้องใส่ถุงพลาสติกชั่งน้ำหนักแล้วเทลงถุงผ้าเลย" อย่างน้อยการซื้อแกงถุงกลับบ้าน นอกจากถุงร้อนที่ใส่แกงแล้ว ยังมีถุงหูหิ้วสวมทับอีก ๑ ใบด้วยหรือไม่