Skip to main content

     มหาวิทยาลัยเกือบทุกแห่งที่ผมได้มีโอกาสผ่านไปมักมีเรื่องราวให้จดจำ ไม่ว่าจะเป็นความสวยงามของภูมิทัศน์ เอกลักษณ์ของตัวอาคาร พิพิธภัณฑ์ รวมไปถึงบุคคลากรและศิษย์เก่า 

     นอกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่ผมได้อาศัยร่มเงาทำงานวิจัยแล้ว ผมยังประทับใจสถาบันเพื่อนบ้านอย่าง Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT ในความมีชีวิตชีวาของ Media Lab หรือห้องทดลองสื่อ ที่เอาความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์มาทำงานร่วมกับสาขาวิชาอื่นๆ เพื่อสร้างสรรค์ความเป็นไปได้ในมิติต่างๆ ที่จะยังประโยชน์ให้มนุษยชาติ

 

    MIT ยังมีเรื่องแผลงๆ ก็คือ MIT Hacks ที่เกิดจากความคิดแผลงๆ ของเด็ก MIT ที่ต้องการแสดงออกถึงความฉลาด ช่างคิด และท้าทายตลอดจนบันทึกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจเอาไว้ผ่านการ Hack สถาบันตัวเอง

 

     การ Hack สถาบันตัวเองของนักศึกษา MIT มีตำนานมายาวนาน ตั้งแต่ปี 1930 ที่กลุ่มนักศึกษา (บางคนกลายเป็นคณบดีใน MIT) เล่นพิเรนทร์ด้วยการยึดล้อรถรางเข้ากับรางไม่ให้รถเขยื้อน ในปี 1958 เพื่อนๆ เอานายโอลิเวอร์ สมุท (Oliver R. Smoot) มาเป็นหน่วยวัดความยาวของสะพานฮาร์วาร์ดที่เชื่อมระหว่างฝั่งเคมบริดจ์กับฝั่งบอสตัน เพื่อนๆ ตัวแสบเอาตัวนายสมุทนอนแล้ววัดไปจนสุดสะพานได้ความยาว 364.4 สมุท ทุกวันนี้ยังปรากฏเป็นหลักฐานอยู่ 

ในปี 9 ธันวาคม ค.ศ. 1991 มีการเอาท่อเหล็กดับเพลิงไปเชื่อมกับตู้กดน้ำดื่มในมหาวิทยาลัยเพระมีคำกล่าวว่า “การได้เข้าเรียนใน MIT ก็เหมือนกับการดื่มน้ำจากสายยางเชื่อมจากท่อดับเพลิง” อุปมาอุปมัยว่าเหมือนการศึกษาที่ MIT มันล้นทะลักไปด้วยความรู้มากมายมหาศาล (Getting an Education from MIT is like taking a drink from a Fire Hose)

 

     ในวันที่  9 พฤษภาคม ค.ศ. 1994 ผู้คนพากันแตกตื่นที่เห็นรถตำรวจมหาวิทยาลัยถูกยกขึ้นไปไว้บนยอดโดมของ MIT (MIT Police, คือ มหาวิทยาลัยอย่าง MIT และ Harvard มีพื้นที่ครอบคลุมเมืองแทบทั้งเมือง จึงมีตำรวจรักษาความปลอดภัยในสังกัดของทั้งสองสถาบัน) ที่น่าทึ่งก็คือไม่มีใครรู้ว่านักศึกษา MIT ยกเอารถทั้งคันขึ้นไปไว้บนยอดโดมที่สูงมากๆ ได้อย่างไร เมื่อไหร่ จนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ

 

     ดูเหมือนว่า MIT Dome จะเป็นจุดสนใจของการแฮ็ค เช่น เดือนธันวาคม 2003 มีการจำลองเอาเครื่องร่อนที่พี่น้องตระกูลไรท์ (Wright Flyer) ไปไว้บนยอดโดม และในวันที่ 11 กันยายน 2006 มีการยกเอารถดับเพลิงไปไว้บนยอดโดมอีกครั้งเพื่อเป็นเกียรติและรำลึกถึงเหตุการณ์ 911 บางครั้งก็เปลี่ยนโดมให้เป็นหุ่นยนต์ R2D2 จากเรื่องสตาร์วอร์ก็มี 

 

      หนักกว่านั้นเห็นจะเป็นกรณี 6 เมษายน 2006 มีการส่งบริษัทขนส่งปลอมไปขนปืนใหญ่Flemming อายุ 130 ปี หนัก 1.67 ตัน สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย California Institute of Technology (หรือ Caltech คู่แข่งทั้งวิชาการและการเล่นพิเรนทร์) เอามาไว้ที่ MIT สี่วันถัดมามีนักศึกษาจาก Caltech มารับปืนใหญ่คืน ทิ้งปืนใหญ่พลาสติกของเล่นเอาไว้แทนพร้อมข้อความว่า “ขนาดนี้ค่อยเหมาะกับพวกนายหน่อย”

 

     ปี ค.ศ. 2012 มีการเกาะกระแสกังนัมสไตล์ ที่ทำใน MIT version โดยมีศาสตราจารย์ชื่อดังของ MIT ร่วมปรากฏในวีดีโอด้วย ได้แก่ โนอัม ชอมสกี้ (Noam Chomsky) นักภาษาศาสตร์และปัญญาชนคนสำคัญ โดนัล ซาโดเวย์ (Donald Sadoway) ศาสตราจารย์ด้านเคมีวัสดุศาสตร์ เป็นหนึ่งในร้อยผู้ทรงอิทธิพลโลกของนิตยสารไทม์ ค.ศ. 2012 งานของเขาคือการสร้างแหล่งพลังงานที่ยั่งยืนซึ่งสำคัญต่อโลกอนาคตมากๆ และอีริค แลนเดอร์ (Eric Lander) ที่ศึกษาและหาทางใช้พันธุกรรมศาสตร์เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ และยังเป็นประธานบอร์ดร่วมกับบารัค โอบามา ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ดูวีดีโอได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=lJtHNEDnrnY)

 

     นาทีที่ 2:18 จะเห็น MIT Hacks นะครับ 

     ส่วนนาทีที่ 3:20 โอปป้าชอมสกี้สไตล์จะปรากฏตัวนะครับ

 

 

     ชีวิตของ MIT Hacks คงไม่จบแค่นี้ เพราะคงจะมีไปเรื่อยๆ และมีเกร็ดมากมายถึงกับมีพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมสิ่งของต่างๆ เอาไว้ 

     คราวหน้าจะมาเล่าเรื่อง Media Lab ต่อนะครับ

 

บล็อกของ บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ

บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ณ ประเทศแห่งหนึ่งที่เพิ่งจะพ้นจากยุคเผด็จการอันแสนเลวร้ายมา พวกเขาต้องการร่างรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อแก้ปัญหาที่สะสมหมักหมมนานนับหลายปี
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ผมมักเอ่ยถึงเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วอยู่หลายครั้ง ด้วยความรู้สึกสามัญธรรมดาเหมือนกับหลายๆ คนที่เชื่อว่า วันเวลาแห่งความสุขช่างผ่านไปรวดเร็ว แ
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
บทนำจากนิตยสารวิภาษา ฉบับที่ 61(ในการเผยแพร่ครั้งนี้ มีการแก้ไขการสะกดชื่อคุณจำกัด พลางกูร จากคำนำวิภาษาฉบับที่ 61 ที่ผมเขียนผิดเป็น "กำจัด" ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ)
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
  คืนนี้หิมะโปรยลงมาตั้งแต่เย็น เป็นการฉลองวันคล้ายวันเกิดที่ห่างบ้านไม่น้อยทีเดียว แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะที่ผ่านมาก็เป็นแบบนี้ในหลายโอกาสเพราะวันคล้ายวันเกิดไม่มีอะไรต้องฉลองนอกเสียจากทบทวนชีวิตตัวเองว่าผ่านอะไรมาบ้าง 
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
วันก่อนผมให้สัมภาษณ์กับรายการทีวีรายการหนึ่งซึ่งพาดหัวข่าวอาจจะแรงไปบ้างนะครับ ผมมีความเห็นต่อเรื่องการแต่งตั้งเครือญาติมานั่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้ช่วยปฏิบัติงานดังนี้นะครับ
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
จากลิงค์และพาดหัวข่าวต่อไปนี้
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
 ตารางกิจกรรมนะครับForum on Human Rights and Everyday Governance in Thailand: Past, Present and Future Friday, March 6, 2015; 9 a.m.-5 p.m.
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
เมื่อวานนี้ (21 กุมภาพันธ์) หิมะยังโปรยเป็นสายลงมาไม่หยุดตั้งแต่ยามบ่าย นี่เป็นพายุหิมะระลอกที่สี่ เพียงแต่คราวนี้ไม่ยาวนานเหมือนครั้งก่อนๆ ในยามที่หิมะตกมาเป็นละอองเย็นๆ ยิ่งต้องระวัง เพราะหากสูดเข้าไปมากๆ อาจมีอาการป่วยได้ พวกเราเอง รวมทั้งผมต่างก็มีอาการป่วยกันคนละเล็กคนละน้อย เพราะสภาพอากาศที
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ผมนั่งมองปุยหิมะที่พริ้วลงมาตามสายลมตาปริบๆ บางทีสายลมเกรี้ยวกราดพัดมันปลิวเป็นสาย เลื้อยไหลตามถนนและหลืบบ้าน บางทีมันอ้อยอิ่ง ค่อยๆ พริ้วลงมา แต่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุด 
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
เพื่อนฝูงหลายคนหัวเราะแกมสมเพชที่ผมอยู่บอสตันในยามหนาวเหน็บอย่างถึงที่สุด โดยเฉพาะพายุหิมะที่พัดผ่านมาให้เมืองทั้งเมืองจมอยู่ใต้กองหิมะนับเดือน
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ผมมาอยู่ที่นี่ได้สองเดือนกว่าแล้ว ขณะที่เพื่อนๆ มาอยู่ได้ราวครึ่งปี นาฬิกาและตารางชีวิตเราจึงต่างกันบ้างด้วยความผูกพัน ภาระที่แต่ละคนพึงมี