Skip to main content

 

พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล

 

 

"ประกาศคณะราษฎร" ในตอนที่กล่าวว่า "มิหนำซ้ำกล่าวหมิ่นประมาทราษฎรผู้มีบุญคุณเสียภาษีอากรให้พวกเจ้าได้กินว่าราษฎรรู้เท่าไม่ถึงเจ้านั้นไม่ใช่เพราะโง่ เป็นเพราะขาดการศึกษาที่พวกเจ้าปกปิดไว้ไม่ให้เรียนเต็มที่เพราะเกรงว่าราษฎรได้มีการศึกษาก็จะรู้ความชั่วร้ายที่ทำไว้และคงจะไม่ยอมให้ทำนาบนหลังคน"

เรามักจะพบ "ข้อโต้แย้ง" ข้อความในประกาศคณะราษฎรในท่อนความดังกล่าวทำนองว่า "ถ้าเจ้ากีดกันสามัญชนในการเข้าถึงการศึกษาแล้ว จะมีคนจบนอก อย่างปรีดี พนมยงค์ พจน์ พหลโยธิน ฯลฯ ได้อย่างไร?"

ในชั้นต้นเราอาจพิเคราะห์ได้ว่า ผู้เป็นเสี้ยนหนามทางความคิดความรับรู้ เช่น บรรดากบฎผู้มีบุญในสมัย ร.๕ (กบฎผู้มีบุญ คือ ผู้ที่มีชาวบ้านยกย่องนับถือตามท้องถิ่นต่างๆ จนรัฐบาลกษัตริย์เกรงว่าจะกระทบต่อพระบรมเดชานุภาพของกษัตริย์ จึงต้องปราบปราม เช่น ครูบาศรีวิชัย เป็นต้น) ทั้งปรากฏในข้อโจมตีของรัชกาลที่ ๕ ว่า ประชาชนเป็นพวกไม่รู้จักคิด ("แต่ก่อนมาพระบรมราโชบายอันใดที่จะทำไปไม่ใคร่จะได้แสดงให้ราษฎรทราบเพราะเหตุว่าถึงทราบก็ปราศจากความคิด หรือกลับคิดเห็นการให้ผิดไปโดยมิได้แกล้ง") ฉะนั้น เพื่อ "ผนึกความรู้เข้าสู่ส่วนกลาง" จึงต้องให้การศึกษาแก่คนพวกนี้

 
ถ้าเราสำรวจพระราชดำรัส และแบบเรียนในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์จะพบข้อน่าสนใจดังนี้

๑.รัฐบาลกษัตริย์ชักจูงคนให้มาสนใจ "แบบเรียนที่รัฐกำหนดเนื้อหา (อุดมการณ์แห่งสยาม)" ด้วยแรงจูงใจบางประการ (คือ ถ้าไม่เรียนก็จะไม่ได้ "รับราชการ") :
"นักเรียนทั้งปวง...เราจะขอกล่าวซ้ำอีกว่าต่อไปภายหน้า คนที่ไม่รู้หนังสือแล้วจะไม่ได้รับราชการเป็นแน่แท้" (พระราชดำรัสพระราชทานรางวัลแก่นักเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบ พ.ศ.๒๔๒๙)

๒.เมื่อมีกระทรวงธรรมการแล้วก็ทำ "แบบเรียน" ปลูกฝังอุดมการณ์จงรักภักดีต่อกษัตริย์และชาติผ่าน "การศึกษา" :
"อย่าลืมว่าเราเป็นคนรักชาติของเราและรักพระเจ้าอยู่หัวของเรามากกว่าตัวของเราเอง" (แบบเรียนธรรมจรรยา เล่ม ๒, ๒๔๖๖)

๓.แม้ประชาชนจะมีการศึกษาแต่ความเจริญทั้งปวงต้องขึ้นต่อการนำของกษัตริย์ (ต้องรู้จักสำเหนียกตน "ข้าเจ้า") เพื่อความเป็นอิศรภาพจากต่างชาติ ดำรงความเป็นเอกราช (ราชา+คนเดียว) :
"ท่านทั้งหลายผู้เป็นประชาชนของเรา บัดนี้ควรที่เราทั้งหลายจะปณิธานอันดีและรักษาไว้ด้วย เราตั้งใจอธิษฐานว่าเราจะกระทำการจนเต็มกำลังอย่างดีที่สุดที่จะให้กรุงสยามเป็นประเทศอันหนึ่งซึ่งมีอิศรภาพและความเจริญ และส่วนท่านทั้งหลายทั้งปวงนั้น จะเป็นผู้มีความตรงและความจริงต่อพระเจ้าแผ่นดินของตน และช่วยกันกระทำการทุกสิ่งซึ่งพระเจ้าแผ่นดินจะทรงทำให้เป็นการดีแก่ท่านทั้งหลายด้วย"

จะเห็นได้ว่า การให้ "การศึกษา" นั้นเป็นทั้งการเข้าครอบงำสติปัญญา และ (ภายใต้การครอบงำนั้น - ความรู้เป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่มีพลังและบงการความคิดของคนได้) ให้ประชาชนที่อยู่ภายใต้การครอบงำนั้น "เชื่อฟังกษัตริย์-รับใช้เจ้า" เช่นนี้จะกล่าวว่า พวกเจ้าให้ประชาชนได้เรียนอย่างเต็มที่ ก็คงไม่ได้ เพราะการเรียนนั้นต้องอยู่บนฐานที่ว่า เรียนมาเพื่อรับใช้พวกเจ้า และทำตามคำสั่งของกษัตริย์เท่านั้น (กษัตริย์เป็นผู้นำชาติ และชาติจะอยู่ได้ก็ต่อเมื่อถูกนำโดยกษัตริย์) เขาปลูกฝังสำนึกกันแบบนี้ในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ จึงพิจารณาได้ว่า ประกาศคณะราษฎร กล่าวไม่ผิดแต่อย่างใด.


________________________


เชิงอรรถ

อ่าน ประกาศคณะราษฎร ใน "เว็บไซต์นิติราษฎร์" : http://www.enlightened-jurists.com/directory/84/Statement-of-Thai-Revolutionary.html

ประยุทธ์ สิทธิพันธ์, "มหาราชกวี", กรุงเทพ : เสียงไทย, ๒๕๑๐, หน้า ๔๗๑.

จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระราชดำรัสตอบในการพระราชทานรางวัลนักเรียนที่โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ ใน "พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๑๗ ถึง พ.ศ.๒๔๕๓)", พระนคร, กรมศิลปากร, ๒๔๕๘. หน้า ๓๘.

หนังสือแบบเรียนธรรมจรรยา เล่ม ๒ พ.ศ.๒๔๖๖ ใน "วิทยาจารย์" เล่ม ๒, หน้า ๑๖๕.

จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, อ้างแล้ว, หน้า ๒๙-๓๐.

 

 

บล็อกของ พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล

พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล
เกร็ดความรู้ : เหตุใดคณะนิติราษฎร์เสนอให้นิรโทษกรรมนักโทษการเมือง ในรูป "รัฐธรรมนูญ" พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล
พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล
พระยาพหลฯมิได้อ่านประกาศคณะราษฎรฉบับที่ ๑ ในย่ำรุ่ง ๒๔ มิ.ย.๒๔๗๕ (เทียบเคียงบันทึกความทรงจำและบทความคุณปรามินทร์) พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล (เผยแพร่ครั้งแรกทางเฟซบุค ๒๕ มิ.ย.๒๕๕๕)
พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล
ปกิณกะว่าด้วยการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ : ปัญหาจากการเดินตามศาลรัฐธรรมนูญงดโหวตวาระสาม พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล
พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล
 ธรรมชาติของการใช้อำนาจรัฐโดยกษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย ว่าด้วยการอภิวัฒน์ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕* พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล ๑.มุมมองทางกฎหมายรัฐธรรมนูญว่าด้วยการอภิวัฒน์ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕
พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล
ข้อความคิดเรื่องหลัก The King can do no wrong ในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล, รวบรวม หมายเหตุ : ท่านที่จะนำไปใช้กรุณาให้เครดิตการค้นคว้าฐานข้อมูลดิบของผมด้วย  ๑.ขุนหลวงพระไกรสี (เทียม)
พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล
ส.ส.จังหวัดพิบูลสงครามต้องพ้นจากสมาชิกภาพเพราะเหตุไทยคืนดินแดนส่วนนั้นแก่รัฐอื่นรึไม่ พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล
พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล
"พระราชหัตถเลขาแสดงพระปีติโสมนัสภายหลังการรัฐประหารสำเร็จ ถึงจอมพล ป.พิบูลสงคราม" (ลงวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๔๙๐) พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล [ค้นคว้าเอกสารและเรียบเรียง] "...นอกจากจะปรากฏไว้ใน ประวัติศาสตร์แล้ว ก็ยังเป็นตัวอย่างอันดี งามแก่ข้าราชการและประชาชนทั่วไปอีก ด้วย...
พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล
พัฒนาการผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน, ผู้สำเร็จราชการรักษาพระนคร, ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ :ในระบบกฎหมายไทย [โดยสังเขป] พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล ในบทความนี้จำแนกการเข้าสู่ตำแหน่ง "องค์ที่ทำหน้าที่ดำเนินพระราชภาระแทนพระองค์" ออกเป็น ๓ ประเภท ๑.สมบูรณาญาสิทธิราชย์ ๒.สมัยเปลี่ยนระบอบการปกครอง ๓.สมัยนับแต่ปกครองโดยระบอบรัฐธรรมนูญ จะเผยข้อสังเกตในชั้นนี้เบื้องต้น เพื่อให้เห็นประเด็นในการอ่านของชั้นถัดไป
พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล
บทวิจารณ์คำแนะนำของศาลปกครอง : ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินฟ้องศาลปกครองเพื่อตรวจสอบ กสทช.? พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล ตามข่าวที่ระบุว่า ศาลปกครอง ให้คำแนะนำผู้ฟ้องคดีไปร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อให้ผู้ตรวจการแผ่นดินมาฟ้องศาลปกครองได้นั้น๑ คำแนะนำดังกล่าวเป็นคำแนะนำที่ไม่ได้พิจารณาอำนาจการฟ้องคดีของผู้ตรวจการแผ่นดินตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายแต่อย่างใด ผมจะอธิบายโดยสังเขปดังนี้
พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล
บทวิจารณ์หยุด แสงอุทัย เรื่อง "อำนาจที่เป็นกลาง" (Pouvoir neutre) ของกษัตริย์ในการยุบสภาฯ ได้ตามอำเภอใจ พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล
พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล
 เกร็ดบางตอน - วิกฤติตุลาการ ๓๔ กับ การวิจารณ์กษัตริย์ในวงตุลาการ