Skip to main content



ที่มาภาพ :http://www.cablephet.com/board/images/news/t__1110880701.jpg

 

ปู่เย็น

ปู่ผู้เป็นที่สดับและขับขาน

คือผู้เป็นลำนำแห่งตำนาน

อันล่องธารผ่านเข็ญอยู่เย็นใจ

 

ลงล่องลำนาวาพาชีวิต

ไปลิขิตคิดฝันรำพันใฝ่

จากหันหลังจากเมืองเรืองวิไล

โอ้,ไม่ไกลไปจากฝังฝากลา


ไปข้องเกี่ยวเดียวดายเวียนว่ายเกิด

โลกกำเนิดมนุษยชาติ และปรารถนา

ให้ลงเรือล่องเรือเพื่อหาปลา

เพื่อรู้ค่าชีวิตอันนิดน้อย

 

สะท้อนเงาเห็นเงาเราทั้งผอง

ผู้ลอยล่องธารามาเศร้าสร้อย

มือที่จ้วงพายที่จ้ำ หรอก,ย้ำรอย

ไปล่องลอยลับหายมลายเลือน


โลกนานาจิตตังที่ยังอยู่

ก็เหมือนปู่ห่างไกลไปจากเพื่อน

มารู้จักห้วงหาวและดาวเดือน

คอยส่องเตือนคืนค่ำย้ำ-รุ่งราง

 

เบ็ดกระตุกปลุกกระตักยักกระตุก

ปู่ก็ลุกตื่นมาแต่ฟ้าสาง

แขนที่เหวี่ยงเพียงเพื่อว่าจะวาดวาง

ทอดแหห่างทำทานให้ทานทน


ในค่ำคืนดึกสงัดเงียบสงบ

ปู่จะพบสิ่งใดในห้วงหน

โอ้,ยังล่องรินไหลสิสายชล

ชีวิตตนลอยคว้างกลางนาวา


หนาวลมหนาวกรีดกรายระบายโบก

เรือโยนโยกโคลงเคลงประเลงว่า

รอจักรอทอแสงแจ้งทิวา

อีกครั้งคราแจ่มใสในวารวัน

 

โอ..ปู่

ที่เป็นอยู่อาศัยใช่ไหมนั่น

คือคุณค่าใดอื่นที่ยืนยัน

คือเอื้อปันเผื่อแผ่และพอเพียง


เพียงหม้อชามรามไหไว้หาหุง

พออิ่มพุงอิ่มใจได้ฟังเสียง

จักจั่นเรไรร่ายจำเรียง

มีเสบียงเลี้ยงชีพไม่รีบรน


เพราะเลือกอยู่กับน้ำจึงฉ่ำชื่น

โลกกล้ำกลืนโอ่อ่าโกลาหล

แต่ดูสิดูยิ้มปริ่มกมล

หนังนาย่น, มีศักดิ์ศรี มีน้ำใจ

 

ปู่เล่าว่าลำน้ำเลอล้ำค่า

เป็นอาณาเคว้งคว้างและกว้างใหญ่

มีกุ้งหอยปูปลาคราคร่ำไป

พอจะได้ขายค้ามาแลกปัน


เกลือ,กะปิน้ำปลาอาหารแห้ง

ไม่ขันแข่งสู้รบให้ขบขัน

ในชีวิตที่อยู่ไปในวันวัน

เพียงเท่านั้นเรียบง่ายสบายเบา

 

ลงลอยลำนาวา ลาลับหาย

ศตวรรษวางวายมีเรื่องเล่า

มาวันนี้ วันหน้า มาเหลือเงา

โอ้,ผองเรา ดูสิดู สิ..ปู่เย็น.


จู พเนจร

ระลึกถึงวาระสุดท้ายของชีวิต"ปู่เย็น" เย็น แก้วมะณี ชายชรามุสลิมวัย 108 ปี  ผู้ล่องลำนาวาอาศัยอยู่ในลำน้ำเพชรบุรี..

 

หมายเหตุ: บทกวีชิ้นนี้อยู่ในอัลบั้มรวมผลขับขานเพลง-กวี "ป่าแปลกเมืองเปลี่ยว" ของกลุ่มศิลปะวรรณกรรมควนป่านาเล//แต่งเมือปี 2548


บล็อกของ กวีประชาไท

กวีประชาไท
     เมื่อ ความมืด ปรากฏชัดสว่างจัดผลัดลับหายความหวังที่พร่างพรายก็หายวับไปกับตา
กวีประชาไท
                          ขอบคุณ สุเทพและทักษิณ                     ถึงเนวิน...ขอบคุณที่ซึ้ง                           ขอบคุณ จักรภพ..รำพึง                …
กวีประชาไท
  “พี่ ปุ๊ ... 'ร ง ค์  ว ง ษ์ ส ว ร ร ค์” ลือลั่นในทุกเรื่อง อารมณ์ขันอยู่ เนือง เนือง ปราชญ์เปลื่องในวิญญาณ์
กวีประชาไท
  0 คารวาอาลัยสวนผิรัญจวนแล้วจากร้างหนาวเนื้อแล้วเหลือลางไว้ลายสลักอักขรา ฯ
กวีประชาไท
“หรือโรฮิงยาไม่ใช่คน...” เป็นคำถามที่เจ็บปวดของชาวโรฮิงญาในไทยเอ่ยออกมาให้สื่อรับรู้ หลังจากพี่น้องของเขาต้องตากแดดลมฝนในเรือไม้ อาศัยลำเรือและคลื่นลมว่าจะพัดไปทางใด ชีวิตพวกเขาหนีมาจากรัฐอาระกันหนีจากความลำบาก อดอยากและถูกกลั่นแกล้งจากรัฐบาลทหารพม่ามาสารพัด ล่าสุด,กลสุลพม่าในฮ่องกง ได้แสดงความกักฬขะออกมาอย่างหน้าชื่นตาบานว่า“โรฮิงญาไม่ใช่คนพม่า คนเหล่านี้น่าเกลียดเหมือน ผีปอบ” ‘เรือไม้ ความจำนรรจ์ ดอกฝันโรฮิงยา’ ของ ‘วลัญชัย ทูนเปลว’ จึงถ่ายทอดออกมาเป็นบทกวีสะท้อนความรู้สึกเหล่านั้นออกมา ให้ชวนคิดต่อว่า ในท้ายสุด…
กวีประชาไท
 ฤดูกาลความรักหวนกลับมาอีกหน ทว่าหลายคนยังมีชีวิตจ่อมจมอยู่แล้งแห้ง ชีวิตไร้ชีวา หลายคนไขว่คว้าหาความสุข กลับค้นเจอกับทุกข์ หลายคนเสาะหารัก กลับพบเจอรักเสแสร้ง ลวงหลอก ล่องลอยมาแล้วพลัดหาย ‘กลับมาค้นหาความรักที่หล่นหาย' ของ ‘นาโก๊ะลี' พยายามบอกว่า ชีวิตจะงดงามได้ต้องมีความรักที่ต้องฟูมฟักทะนุถนอม  ภาพประกอบจาก graphicssoft.about.com/.../Red-Heart.htm
กวีประชาไท
   Photo by : phu_chiangdao  ลมโลมไล้เลื่อนร้าง            ยะเยือกหนาวล่วงระยิบเดือนดาว             จากฟ้าแดดเช้าส่องงามพราว         คายตื่นเหมือนหยดน้ำค้างหล้า        ร่วงไว้วันวัย ฯลฯเชิญหัวใจรับสัมผัส             จัดแย้มผลิละอองไหวเหมือนเผยดอกหมู่ไม้         ในเนื้อดินอันอาทร ฯเชิญโคลงกลอนร้อยรับ   …
กวีประชาไท
มาจากความปวดร้าวในคราวรัก เมื่อไหมถักป่านทอซอมซ่อค่า ขาดสะบั้นความหลังครั้งผ่านมา ทิ้งเพียงหยดน้ำตาพร่าเต็มเตียง   มาจากความอ่อนไหวในตัวตน ความสับสนโอบปีกเกินหลีกเลี่ยง ไร้แรงเรี่ยวกู่ก้องร้องสำเนียง หรุบปีกเอียงปรกหน้าอุราร้าว   มาจากความน้อยเนื้ออันเตี้ยต่ำ ที่จองจำจิตใจให้ย่นก้าว แหงนมองฟากฟ้านภาพราว ก็เจ็บปวดทุกคราวทุกดาวดวง   มาจากแพร่งชีวิตที่ผิดพลาด ลึกลงในรอยบาดที่ขาดห้วง ผสานแผลขื่นขมเล่ห์ลมลวง และจากความหนักหน่วงประดามี   มาจากความดีใจในชัยชนะ หรือความเสียสละในหน้าที่ ความภูมิใจ อิ่มเอม ความเปรมปรีดิ์ หยาดเพราะความยินดีที่เปี่ยมล้น  …
กวีประชาไท
ในนามของความดีและความจริงอย่าได้กริ่งเกรงการสัปประยุทธ์ใยลังเลจับอาวุธขึ้นมาเล่าสงครามเรียกร้องดวงใจเรามิรู้หน่ายจิตวิญญาณเราคือการโค่นล้มทำลาย!? ฟังสิเสียงแห่งมโธรรมสำนึกคำประกาศก้องแห่งยุคสมัยเราจงมาร่วมก่อสงครามกันเถิดสงคราม...เพื่อยุติ...สงคราม....ภราดรมีหรือสงครามครั้งสุดท้ายหรือมันมีแต่...สงครามครั้งนี้หรือมันเป็นแค่...สงครามครั้งก่อนหน้าหรือมันรอเพียง...สงครามครั้งต่อไปโอ้ชัยชนะของเราคือรอยยิ้มของสงครามเครือออน ฟ้อนฟ้า
กวีประชาไท
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยกลไม่ได้ด้วยประชาชน ก็ต้องเอาด้วยศาลทั้งยังมีม็อบเส้นดันอันธพาลหลายสิบนักวิชาการภิบาลพร้อม นักธุรกิจคิดกันลงขันด้วยประสานอวยช่วยให้ชื่อไทยหอมมารุมทุบ ยุบ ๓ พรรค หักจนยอมทุกอย่างพร้อมเพื่อสวนสนามดูงามดี ก้มไปเถอะ ก้มหน้าไป ไทยทั้งชาติเมืองประหลาดอนาถสิ้นวิ่นศักดิ์ศรีเหลืออะไรให้ภูมิใจว่าไทยดีสิทธิ์ เสรี ที่มีมา ถูกคร่าลง จากวันนี้ คงจะมีมาตรฐานใหม่ไม่ถูกใจรัฐบาลไหนก็ไล่ส่งคนเลือกตั้งฟังแล้วอึ้งตะลึงงงเดินดิ่งปลงลงเข้าคลอง ๒ ธันวา ต้นจั่น๒ ธ.ค. ๕๑หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรครัฐบาลและพรรคร่วมฯ 
กวีประชาไท
มีเสื้อเหลืองไม่อยากใส่เสื้อสีเหลืองกลัวย่างเยื้องไปไหนใครก็ถามพันธมิตรหรืออย่างไร ใครก็ตามแบ่งนิยามความหมายท้าทายกัน มีเสื้อแดงก็ไม่อยากใส่สีแดงเดี๋ยวว่าแฝงความหมายคล้ายเยาะหยันเป็นแนวร่วมนปก.ขอยืนยันโอ้แสบสันต์ลูกกะตาข้าเหลือทน
กวีประชาไท
ที่มาภาพ :http://www.cablephet.com/board/images/news/t__1110880701.jpg