‘เรือไม้ ความจำนรรจ์ ดอกฝันโรฮิงยา’ ของ ‘วลัญชัย ทูนเปลว’ จึงถ่ายทอดออกมาเป็นบทกวีสะท้อนความรู้สึกเหล่านั้นออกมา ให้ชวนคิดต่อว่า ในท้ายสุด ชีวิตของโรฮิงญาจะล่องลอยไปสู่หนใด!? |
ภาพ : www.marine.police.go.th
1.
ลอยมากับคลื่นลมโถมถะถั่ง
มุ่งสู่ฝั่งศิวิไลซ์ในความฝัน
เรือไม้-ไร้เครื่องยนต์ บนอันดามัน
หลายสิบร้อยความจำนรรจ์อดกลั้นมา
ผ่านเปลวแดดไหวระยิบกระพริบน้ำ
แผดเผาตามแผ่นหลังแขนขา
เรือไม้-ไร้เครื่องยนต์ ไร้หลังคา
เปลวฟ้าก็ไหม้ให้ซ้ำเติม
ผ่านปรอยฝน ผ่านลมหนาว-
ฟ้าหว่านดาวทุ่งฟ้าก็ค่อยเพิ่ม
แสงขาวสกาวฝันมาพลันเติม
เรือไม้เริ่มผ่านพ้นอนธการ
ขอบฝั่งเรืองอยู่ทิศตะวันออก
ใต้กลีบดอก 'ตะวัน' ที่ผันผ่าน
ลมทะเลเห่เรือมาหลายกาล
ก็เกยด้านหาดทราย ณ สาย นั้น
กรูกันลงเรือไม้คล้ายเป็นไท
คุกเข่าให้แผ่นดินถิ่นความฝัน
เดินสู่ความแปลกใหม่-ปัจจุบัน
ก้าวห่างจากอันดามัน-ดอกฝันแย้ม...
ภาพ : กรพ.
2.
แย้มอยู่ตามไซด์งานก่อฉาบโบก
เหงื่อโชกโทรมกายคล้ายแต่งแต้ม
จึงเห็นเพ็ญจันทร์-นั่นจันทร์แรม
ดาวก็มิได้แซม-แต่แรมร้าง
บางคำถามมิอยากให้ใครมาถาม
เพราะไม่มีนิยามมาเอ่ยอ้าง
ไม่มีแม้นผืนดินเป็นถิ่นทาง
แผนที่กางก็ไร้ในโลกา
เป็นมนุษย์เสมือน-มิใช่มนุษย์
อยู่ในจุดด่างดำที่คร่ำคร่า
ในอกข้างซ้ายเสมอมา
หรือ 'โรฮิงยา' มิใช่คน
เป็นเพียงละอองลอยละล่อง
ที่มิอาจปกป้องตัว-จากฝน
กระทบมากเข้าก็จำนน
ลอยคออยู่บนทะเลใจ
ภาพ : AP Photo/Taufik Kurahman
3.
ความชั่วร้ายทั้งหมดนั้น...
ภาพคืนและวันที่โหยไห้
ข่าวการปล้นสะดมทุกที่ไป
เป็นความจริงแค่ไหน-ใครบ้างรู้?
ทุกวันนี้มีอะไรที่ใสชัด?
ไม่เติมปัดแต่งแต้มให้สวยหรู
ในเนื้อข่าวควรพิศพินิจดู
จากปากกาศัตรูหรืออื่นใด?
เพราะ 'โรฮิงยา' ไร้กระบอกเสียง
แม้เพียงสักหนึ่ง-พึ่งใครได้
ควรจะเป็น 'ผู้เสียหาย' หรืออื่นใด
แต่ก็ไม่น่าจะเป็นเช่น 'จำเลย'
4.
เรือฝัน 'โรฮิงยา' เกยท่าเก่า
อับเฉาเงาชื้นระเหิดระเหย
ไม้ผุแล้วหนอเจ้าเรือเอย
คงจะเกยมานานผ่านคืนวัน
ผ่านปรอยฝน ผ่านลมหนาว
ฟ้าหว่านดาว 'โรฮิงยา' โปรยหว่านฝัน
ว่าจะงอกเงยแล้ว-ปัจจุบัน
กลับจมใต้อันดามัน-ดอกฝันโรย...
แด่...ชาวโรฮิงยาทุกคน
วลัญชัย ทูนเปลว