prachataipoet's picture

<p><strong>กวีประชาไท</strong> </p><p>ใครบางคนเคยกล่าวเอาไว้ว่า...บทกวีตายแล้ว!! ทว่าอีกหลายคนกลับบอกว่า กวีไม่เคยแล้งแหล่งสยาม และยังคงเชื่อในพลังของกวี ที่หลั่งล้นพลังพุ่งพวยออกมาจากชีวิตและจิตวิญญาณข้างใน ก่อนกลั่นกลายเป็นถ้อยอักษรถ่ายทอดออกมาให้รับรู้ ทั้งความดีงาม ความเลวร้าย จริง ลวง ในความเป็นชีวิตและไร้ชีวิต ในความเคลื่อนไหวและความนิ่งงัน ในวิถีที่พบพาน ในสายธารของความรู้สึก...</p><p>และมีความเชื่อกันว่า ผู้ใดที่เขียนและอ่านกวี จะทำให้หัวใจของผู้นั้นอ่อนโยนและเข้าใจในชีวิต มนุษย์และสรรพสิ่งมากยิ่งขึ้น ยิ่งในห้วงยามนี้ หัวใจคนเราเริ่มแห้งแล้ง และโลกเริ่มแล้งน้ำใจ บทกวีบางบทตอน อาจทำให้หัวใจเราชุ่มชื้นได้บ้าง</p> <p>&quot;ชุมนุมกวีประชาไท&quot; จึงเปิดพื้นที่ให้ผู้หลงใหลในรสคำกวี ได้ส่งผลงานกันเข้ามา ไม่ว่าโคลง กาพย์ กลอน หรืองานไร้ฉันทลักษณ์ มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานกันได้ที่นี่ โดยสามารถส่งผลงานมา พร้อมแนบ ชื่อ นามสกุลจริง ที่อยู่ หรืออีเมล์ มาได้ที่ pu_prachatai@hotmail.com </p> <p>และขอเชิญชวนผู้อ่านเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นพูดคุยกัน เพื่อให้มีความรู้สึกสัมผัสได้ว่า&hellip; <br />เรา-ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของ &quot;ชุมนุมกวีประชาไท&quot; </p>

บล็อกของ prachataipoet

เกลื่อนอยู่ในดวงใจ

ฉัน...ถูกความฟุ้งซ่านเกาะกิน

สัมผัสแทบทุกสัมผัส แทบทุกวัน แทบทุกคืน

ห้วงคำนึงต่าง ๆ

ในหัวใจดวงนี้


โชย - ลอย - เลือน - เลื่อนมาโบยตี

ผุด,พลัด - ผลุบโผล่.. อยู่ภายในความสิ้นไร้

ดูว่า - แม้กระทั่งหัวใจดวงเดียวนี้...ทำไม

ถึงสัมผัสเกาะกินได้มากคณานับ..ห้วงอณูคำนึงสัมผัสเกลื่อนกล่น

สัมพันธภาพ

ไหลมาจากทั่วสารทิศ

จากขุนเขาสู่พื้นราบ

หญิงสาวและชายหนุ่มผู้เต็มเปี่ยมด้วยพลัง

สีขาวบริสุทธิ์งดงาม

ชายหนุ่มมาจากฝั่งซ้าย

หญิงสาวไซร้มาจากฝั่งขวา

นานเท่าใดแล้วที่ความรักเกิดขึ้นกับทั้งสอง

นานเท่าใดแล้วที่ทั้งสองต่างค่อยๆ เดินทางมาพบกัน

ในนามแห่งแม่น้ำสองสี

ความรักเกิดขึ้นที่นี้

ความรักสำหรับทั้งสองไม่มีพรมแดน

แล้วสัมพันธภาพแห่งความรักก็เกิดขึ้น

เมื่อทั้งสองเดินทางมาบรรจบกัน

งานแต่งงานของแม่น้ำถูกจัดขึ้นท่ามกลางหมู่ปลานับพัน นับหมื่น

                                                                      สุมาตร ภูลายยาว

 

 

 

รำลึก + คารวาลัย... ท่าน "ป รี ดี พ น ม ย ง ค์"

 

@ เ ป็ น... ท่าน " ป รี ดี พ น ม ย ง ค์ "

ดำ ร ง คุ ณ ค่า ไ พ ศา ล

เป็นท่าน " ผู้ ป ระ ศา ส น์ กา ร "

" ม หา วิ ท ยา ลั ย ธ ร ร ม ศา ส ต ร์ และ กา ร เ มื อ ง "

 

เป็น นั ก อ ภิ วั ติ ปั ญ ญา ช น

รวมพล ป ฏิ วั ติ อันลือเลื่อง

สองพันสี่ร้อยเจ็ดสิบห้างามประเทือง

ป ล ด เ ป ลื้ อ ง ป ล ด ป ล่ อ ย วิ ญ ญา ณ ไ ท

คนกับปลา

 

ชีวิตคนเรามีอยู่ได้ล้วนอาศัยแม่....

เป็นสิ่งยุติธรรมเช่นกันที่ปลาจะแหวกว่ายในแม่น้ำเพื่อการมีชีวิต

การก้าวไปสู่ความยุติธรรมนั้นต่างก็เหมือนกัน

แต่ว่าคนกับปลาจะดำรงความยุติธรรมนั้นไว้นานเท่าใด

--โปรดจงเชื่อเถอะว่า--

ด้วยมือนี้แหละจะกระทำทุกอย่างให้มันหักงอ

แม้แต่ยามใดก็ตามที่คุณอยากจะเล่น

การวิ่งไล่จับจะเกิดขึ้น...

กระทั่งเรือที่คว่ำอยู่ก็ถูกพลิกขึ้นมา

บางทีเมื่อเราอยากปิดกั้นปลาไม่ให้ว่ายน้ำออกไปได้

ก็เพียงแต่เราตีน้ำให้ขุ่นด้วยสองมือ

เช่นกันในวิถีของปลา

การแหวกว่ายหนีบ่วงทุกข์ของมนุษย์คือการมีชีวิตรอด

คนกับปลาในชั่วขณะเวลาแห่งความหิว...เราต่างเป็นเหยื่อยของกนัและกัน

--โปรดจงเชื่อเถอะว่า--

ด้วยมือและครีบหาง--เราต่างหนีไปสู่ที่อันดีกว่า

คนกับปลา,เราต่างล้วนเป็นเหยื่อของกันและกัน

ในห้วงวินาทีแห่งการดำเนินชีวิต

ปลาดำผุดดำว่ายลงสู่ก้นบึ้งของหนองน้ำเพื่อรอดพ้นความตาย

คนดำผุดดำว่ายลงสู่ก้นบึ้งของความ เพื่อหนีพ้นความตาย

คนกับปลาอย่าได้กล่าวเลยว่า,นี่คือชะตากรรม


                                                                                     เชียงคาน,ฤดูร้อนปนสายฝน


                                                                                     ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๒

 

 

อาลัย พฤษภา

 

 

พฤษภาฯ พัดมาจะพ้นผ่าน               เหมือนวันวานวิบวับอยู่ไหวไหว

ผ่านมาเยือนและเหมือนจะผ่านไป     หรือเราหลงลืมอะไรในวันวาน?

สีเลือดสำลักเป็นระลอก                  ปลอกกระสุนหล่นร่วงรายรอบด้าน

หรือประชาธิปไตยต้องใช้ปริมาณ      ศพประชามาประจานเป็นประจำ

พฤษภาฯ พัดมาจะพ้นผ่าน               เหมือนว่าเราตายด้านอยู่ซ้ำซ้ำ

ปลุกผี, เสี้ยมสอนสร้างวาทกรรม       อ้างข้างตนเป็นธรรมแล้วแบ่งทาง

กติกาอยู่ ‘ระหว่างเขาควาย'              ขวิดขวาขวิดซ้ายทั้งสองข้าง

พื้นที่ประชาธิปไตยให้อับปาง            เราจึงทิ้งจึงขว้าง...เดือนพฤษภาฯ...

 

                                                                                    'ไหมฟ้า

 

บนฝั่งฝันของชีวิต

 

ข้ามน้ำ..ข้ามขุนเขาครั้งแล้วครั้งเล่า

รอยย่ำของฝ่าเท้าทับรอยเท้า

บนหนทางของการย่างก้าวล้วนเจ็บปวด

มือแต่ละข้างหอบหิ้วครัวเรือนลูกหลาน, ร่อนเร่

การพลัดพรากที่มิได้เชื้อเชิญในห้วงแห่งการเดินทาง

เดินทาง ....เดินทาง

ยามแผ่นดินหม่นเศร้า

ยางแดง ... ยางขาว ... ยางพุทธ ...ยางคริสต์

อพยพ

หนีปืน ...ลูกปืน ...ลูกหาบ...ทั้งกับดักของระเบิดชั่วร้าย

ทุกข์หนักเกิดขึ้นบนแผ่นดินทุกข์

บ่าแบกของ ... แบกสัมภาระ

แบกทุกข์...ทุกข์หนักบนบ่า

บนฝั่งฝันของชีวิตล้วนคือชะตากรรมแห่งความหม่นเศร้า

ในรอยทางของการอพยพ

ค่ำคืนที่สายฝนพร่างพรม

ร่างกายไหวสะท้านหนาวเหน็บ, บางทีอาจไม่ใช่เรื่องสำคัญ

สายฝนบนใบหน้าแห่งความหวาดกลัวนั้นต่างหากสำคัญกว่า

เหนือแผ่นดินที่เสียงปืนไม่เคยสงบเงียบ

คนในป่า-เคลื่อนย้าย-โยกย้ายอีกครั้งและอีกครั้ง

เพื่อการแสวงหาแผ่นดินปลอดภัยไร้ภัย

บนแผ่นดินที่ไร้แผ่นดินให้ย่างเหยียบ

ชีวิตที่เหลืออยู่ล้วนเพื่อแผ่นดิน

บนฝั่งของชีวิตล้วนมีอยู่เพื่อแผ่นดิน


 

สุมาตร ภูลายยาว

เชียงใหม่, ๔๙

 

....แด่การเดินทางไกลอีกครั้งบนฟากฝั่งของแม่น้ำสาละวิน

 

 

นักออกแบบ

                          ขอบคุณ สุเทพและทักษิณ                     ถึงเนวิน...ขอบคุณที่ซึ้ง

                          ขอบคุณ จักรภพ..รำพึง                         ขอบคุณทั่ว..ผู้ซึ่งชม  ฯ 

                          ผู้รู้ขม รู้หวาน ด้านเฉย                           ผู้รู้ให้ ไหวเอ่ย ใครข่ม
                         
ผู้รู้สึก นึกหรือ สายลม                           ผู้อภิสิทธิ์สมชั่วคราว  ฯลฯ 

                          ใครหนอใคร ไหนใคร อุ้มสม                   ทาสขม ทานเฝื่อน เพื่อนบ่มร้าว
                         
ใครสละ สื่อหวัง ใคร่ป่าว                        ธารเรื่องราว รู้สึก ร่างรู้  ฯ 

                          เอ๊ะ!.. ใครเอ่ย กล้าว่ายทวนน้ำ                 เอ่ยล้ำ  ใครถลำ พลาดกู้
 
                         ทวนทาง สะท้อน อาจย้อนดู - -                เห็นผู้ งามกล้าด่าตัวเอง ฯ  

Pages

Subscribe to RSS - บล็อกของ prachataipoet